5
ความยินดีของสองตระกูลได้เริ่มต้นขึ้น...เมื่อ อภิสรรค์ยกผู้ใหญ่ไปสู่ขออย่างเป็นทางการ โดยอ้างว่าเขาพร้อมที่จะมีครอบครัวแล้ว...
ส่วนรีวารินผู้ไม่ทันได้เตรียมใจกลับทำอะไรได้ไม่ถนัดนัก...ส่วนหนึ่งลึกๆแม้เธอจะรู้ดีว่า ยังไงก็ต้องแต่งงานกับเขา...แต่มันต้องไม่เร็วขนาดนี้
เธอกับเขาหมั้นกันมาเพียง 1 ปีกว่า...ซึ่งถือว่าเป็น 1 ปี ที่แทบจะไม่ได้รู้จักอะไรกันเลย...เขาไม่เคยมาข้องแวะหรือยุ่งเกี่ยวเหมือนเช่นปัจจุบัน
“แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราไปเรียกร้องความสนใจจากเขาซะหน่อย” เธอบ่นอยู่หน้ากระจก...ขณะแต่งแต้มใบหน้าให้สวยด้วยเครื่องสำอาง ที่เธอใส่ใจกับมันมาสักพัก
เพราะเธอจะต้องสวย...และดิ้นได้ เธอจะไม่ยอมเป็นชายาบนหิ้งอย่างที่เขาต้องการหรอก!
“เลือกได้หรือยัง...ว่าจะเอาชุดไหน” เมื่อชุดเจ้าสาวที่เธอสั่งตัดด่วนถูกส่งแบบมาให้เลือก
เจ้าบ่าวสายฟ้าแลบก็ได้นำแบบนั้นมาให้เธอดูด้วยตัวเองถึงห้องทำงาน คนขี้เล่นอารมณ์ดีที่เคยเห็นมีความเข้มขึ้น...ไม่รู้ว่าเพราะเขามีความเครียดเรื่องอื่น หรือกำลังไม่พอใจเธอคนเดียวล้วนๆ
เพราะช่วงนี้...เขาแทบจะติดต่อเธอไม่ได้
“ฝากเอาเอกสารที่เซ็นต์แล้ว...ไปให้ฝ่ายตรวจสอบภายในหน่อยค่ะ” เธอต่อสายหาเลขาหน้าห้องทันที...แบบไม่ได้สนใจว่าใครบางคนยื่นอะไรมาให้
“เอาสิ...จะจูบโชว์เลขา”
“หลุดมาจากละครแนวตบจูบเหรอ...ขู่จริง” แล้วริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงเลือดนก...ก็เอ่ยสิ่งที่ไม่ได้เกรงกลัวต่อคำขู่นั้น
“ขู่ไม่จริงหรอก..เพราะไม่ได้ขู่”
“ว้าย!” เสียงเลขาวัยกลางคนตกใจเป็นอย่างมาก...เมื่อเจ้านายสาวกำลังถูกแขกคนพิเศษของเธอประชิดตัวอยู่ในสภาพล่อแหลม
“นี่ครับ” เขาผู้ไม่ยอมห่างจากกายผู้หญิงที่อยู่ในตำแหน่งระดับผู้บริหาร ยื่นเอกสารที่ว่าให้เลขารีบออกไปทันที
“เดี๋ยวค่ะ...” เธอเรียกเลขาสาวใหญ่เอาไว้...หากแต่คนปากไว ก็ฉกริมฝีปากเข้าประทับเธอทันที...
เลขาผู้รู้สึกใจจะวายตั้งแต่แรก...ทำตาโตก่อนรีบหมุนตัวออกจากห้องไป เธอรู้กิตติคุณของว่าที่เจ้าบ่าวของเจ้านายดี...และรู้ฤทธิ์ของผู้หญิงไม่ยอมใครคนนี้ด้วย
การแต่งงานครั้งนี้...สะเทือนแผ่นดินไม่น้อยเลยแหละ!
“อื้อ!” รีวารินผลักเขาออกไปได้สำเร็จ ลมหายใจหอบแรงบ่งบอกอารมณ์โกรธ
“เชื่อยัง...ว่าไม่ได้ขู่” เขาแสยะยิ้มเล็กน้อย...ก่อนเท้าแขนลงกับโต๊ะของเธออีกครั้ง ซึ่งคนเบือนหน้าหนี...ขยับกายอย่างอึดอัด
“กลับไปได้ละ” เธอไล่ทั้งๆที่ยังไม่ยอมมองหน้า แต่มีหรือที่คนอย่างอภิสรรค์จะยอมให้เป็นเช่นนั้นได้ง่ายๆ
ใบหน้าหวานละมุนรูปไข่ที่มีเครื่องหน้าครบองค์ประกอบนั้น...ถูกเชยโดยนิ้วแกร่งให้หันไปเผชิญหน้า
“เลือกชุดเดี๋ยวนี้”
“การที่ฉันยอมแต่งงานกับคุณ...ไม่ได้หมายความว่าฉันจะอยู่ใต้อำนาจของคุณซะหน่อย”
“ได้...งั้นผมจะเลือกให้ก็แล้วกันนะ” เขาว่าพร้อมกับหยิบแบบที่วางให้เธอนั้นขึ้นมา
“ไม่ต้อง!” เธอคว้าคืนมาจากเขาทันที...เธอรู้สิว่าเขาจะเลือกชุดที่ไม่ถูกใจเธอมาให้แน่ๆ
“ก็แค่นั้น” แล้วเขาก็เลือกที่จะเดินไปนั่งสบายๆรอที่โซฟา ซึ่งเธอมองว่าเขาไม่ควรที่จะลงทุนเอามาให้เธอด้วยตัวเองเลยสักนิด...
“นี่แสดงว่าพี่ซันเนี่ย...เขาเล่นตามเกมส์ของเธอแล้ว ว่าอย่างนั้นเถอะ?” ไอยาผู้รู้ทุกเรื่องรับฟังพร้อมให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมา
“ก็ไม่เชิงหรอก...แต่ตอนนี้ฉันจะทำเหมือนเขาถือไพ่เหนือกว่าไปก่อน”
“ฟังไปมา...ก็เหมือนแกกำลังเร่งรัดพี่ซันซะมากกว่านะ” คนแอบรู้ใจในแววตาเพื่อน...เอ่ยแซวพร้อมสังเกต
“หยุดเพ้อเจ้อได้ละ...ฉันจะไปเร่งรัดเขาทำไม ฉันอยากให้เขาถอนหมั้นจะตาย”
“แต่แกพูดเองไม่ใช่เหรอ...ว่ารู้แก่ใจว่ายังไงพี่ซันก็ไม่ยอมถอนหมั้น และแทนที่แกจะปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป...แกกลับทำให้เขาอยากแต่งงานกับแกเร็วขึ้น” รีวารินอมยิ้มเล็กน้อย...
“ที่แกพูดมามันก็ไม่ผิดเสียทั้งหมดหรอก...เพราะว่าเกมส์ของฉัน คือการยิงปืนนัดเดียวแต่หวังจะให้โดนนกสักตัว ไม่ว่าตัวใดตัวหนึ่งก็ได้” ไอยาขมวดคิ้วหนักเมื่อเริ่มตามเกมส์ของเพื่อนรักไม่ทัน
“ยังไง?”
“สิ่งที่ฉันทำอยู่...ถ้ามันฟลุ๊คทำให้เขาถอนหมั้นได้ก็หมายความว่าลูกปืนของฉันได้โดนนกตัวที่หนึ่ง แต่การที่เขาไม่ยอมถอน...และเร่งรัดการแต่งงานนั่นคือนกตัวที่สองได้ถูกยิงแล้ว”
“โอ้โห...อย่าบอกนะว่าแกมีแผนซ่อนอยู่อีกอ่ะ”
“แน่นอน...ฉันทำอะไรฉันไม่ใช้ทฤษฎีมีด้วยเหรอ” เธอว่าพร้อมหยิบที่ปัดขนตาขึ้นมาแต่งแต้ม...เกมส์นี้เดิมพันด้วยชีวิต มีหรือที่เธอจะไม่ทุ่มสุดตัว!
“เป็นยังไงบ้างคะคุณซัน...เจ้าสาวสวยไหมคะ?” ร่างสมส่วนลงตัวถูกบรรจุอยู่ในชุดสีขาวสะอาดตา...ที่มีลูกเล่นระบายระย้าไปตามเกาะอกงามเด่น รายละเอียดเล็กๆประดับตามเนื้อผ้าที่ยาวเฟื้อยนั่น ทำให้ว่าที่เจ้าสาวของหนุ่มใหญ่ที่เป็นที่หมายตาของสาวทั้งประเทศ ดูโดดเด่นราวกับเจ้าหญิง
“ครับ...” แววตานิ่งที่ประกายหวาน...ค่อยๆมองเรือนร่างของเธอผ่านเนื้อผ้า หมู่นี้เขารู้สึกว่าผู้หญิงจอมดื้อคนนี้สวยงามผุดผาดขึ้นทุกวัน
ไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณที่ขาวดุจน้ำนมหากแต่มีเลือดฝาดระบายเป็นสีชมพูอ่อน...โดยเฉพาะแก้มแดงปลั่งตามธรรมชาติ ที่น่าสัมผัสจนเขาแทบจะอดใจไม่ไหว...
ความอวบอิ่มนูนเด่นที่ชัดเจนมากขึ้นเมื่อเธอเลือกใส่เสื้อผ้าที่เน้นส่วนนั้น...ไม่เหมือนตอนที่เธอปล่อยเนื้อปล่อยตัว เป็นยายป้าใส่แว่นทำแต่งานคนนั้น
“จะให้ปรับแก้ตรงไหนมั้ยคะคุณริน” เสียงสนทนามากมายที่เกิดขึ้นไม่ได้เข้าสมองคนช่างพินิจ...แถมสายตาของเขายังทำให้คนใส่ชุดเจ้าสาวรู้สึกอึดอัด
ดูเขาเถิด...เขามองราวกับกำลังเปลื้องผ้าเธอออกทีละชิ้น ทีละชิ้น...
“พอดีแล้วค่ะ” เธอว่าพร้อมหมุนตัวออกจากสายตาของเขาไป เพื่อที่จะเปลี่ยนชุดถัดไป...
“ขยับตรงนี้นิดหนึ่งนะคะ...โอเคเรียบร้อยค่ะ” เมื่อการใส่ชุดไทยมาถึง และทางร้านขอให้เขาและเธอถ่ายรูปคู่เป็นที่ระลึก
“นี่คุณ...” เธอว่าเสียงเขียวเมื่อเขาโอบเธอจนชิดชนิดลมหายใจรดต้นคอ...แถมมือจอมซนของเขานั้นก็ถือวิสาสะ วางลงบนหน้าท้องแบนราบของเธออย่างถือสิทธิ์
นอกจากจะไม่ฟังเสียงเขียวจากเธอแล้ว...เขายังถือโอกาสสูดแก้มแดงปลั่งเป็นธรรมชาตินั้น ที่มีการแต้ม บรัชออนแม้เพียงเล็กน้อย ซึ่งทำเอาเธอตัวแข็งเกร็งขึ้นแต่ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากฉีกยิ้ม
เธอหมายจะเล่นงานเขา...แต่ก็ถูกเขาเก็บเบี้ยรายทางไปด้วย...หึ เธอจะไม่ยอมตกเป็นรองแบบนี้บ่อยๆหรอก
“สวยมากเลยค่ะ...น่าเสียดายจังเลยนะคะที่ทางร้านเราไม่ได้ถ่ายพรีเวดดิ้งให้ ไม่อย่างนั้นคงจะมีภาพสวยๆเก็บไว้ดูเต็มเลยค่ะ” คนที่ไม่ยอมปล่อยมือออกจากเอวบาง...ชะงักเล็กน้อย
“ไง...อยากถ่ายไหม?” เสียงทุ้มว่าชิดข้างแก้มเธอเชิงปรึกษา
“ไม่!” เธอตอบเสียงเข้ม...พร้อมสะบัดเขาออกห่างจากตัว
“ตกลงครับ...มีโปรโมชั่นแบบไหนบ้าง” เขาปล่อยให้เธอเป็นอิสระ...และเลือกที่จะผูกมัดเธอด้วยสิ่งที่เธอปฏิเสธแทน
ตั้งแต่ตัดสินใจที่จะแต่งงาน...อภิสรรค์ไม่ค่อยได้เข้าบริษัท และเอาเวลามาดูแลเรื่องเตรียมงานแต่งมากขึ้น...และตามติดเธอแจ
เธอต้องการให้เขาเป็นฝ่ายมาตามก็จริง...หากแต่ก็ไม่ได้ต้องการให้มาตามติดชนิดเจอหน้ากันทุกวันแบบนี้ นี่เขายังจะมาถ่ายรูปพรีเวดดิ้งอีก เห็นว่าเธอจะต้องหาแผนรับมือกับเรื่องนี้ให้รัดกุมเสียแล้ว
“สรุปเลือกเป็น...บรรยากาศทะเลและภูเขานะคะ ทะเลเราจะไปถ่ายกันที่เกาะสมุยค่ะ ส่วนภูเขาจะเป็นเชียงใหม่ค่ะ” หลังจากที่เขาเลือกโปรโมชั่นเองเสร็จสรรพแบบไม่ได้ขอคำปรึกษาจากเธอแม้สักข้อ พนักงานร้านก็สรุปให้เขาฟังในรายละเอียดคร่าวๆทันที
“ผมอยากได้บรรยากาศที่มีหมอกสวยๆอ่ะครับ ต้องไปที่ไหน”
“ช่วงนี้เป็นฤดูฝน...หมอกฝนก็ต้องภูทับเบิกหรือเขาค้อ ถ่ายรูปจะสวย” เขาพยักหน้าอย่างเข้าใจ..ก่อนเหลือบไปมองหน้าคนที่นั่งตึงอยู่ แต่ไม่ได้จะปรึกษา
“งั้นเอาเป็นภูทับเบิกและเขาค้อเลยก็ได้ครับ เอาแบบสำรองไว้ก่อน...แต่ผมจะดูคิวอีกที ถ้าไม่ได้จริงๆก็เอาแค่สมุยอย่างเดียวก่อน กับหมอกเอาไว้หลังแต่งงานก็ได้” เขาตกลงทุกอย่างเสร็จสรรพแบบไม่ยอมขอคำปรึกษา
เธอมีประสบการณ์มาแล้วว่า...การอ้าปากอะไรออกไป ก็จะยิ่งย้ำให้เขาทำในสิ่งที่เธอไม่ต้องการทั้งสิ้น...เธอก็เลยเลือกที่จะเงียบ แบบมีแผนการในใจเรียบร้อย
