ตอนที่6. อยากเที่ยว
“ฉันอาจจะไม่มีเงินคืนคุณก็ได้นะคะ บางทีฉันอาจจะจนมาก ที่บ้านอาจจะไม่มีอะไรเลย”
“หรือบางทีก็อาจรวยจนเราไม่กล้าคบเธอก็ได้ รวยกว่าเราหลาย
เท่า คนละชั้นกันไปเลย”
“ไม่หรอกค่ะ” หญิงสาวส่ายหน้าแรงๆ เธอรับปากแข็งขัน “ฉันไม่มีทางทำแบบนั้น ถ้าบังเอิญฉันรวยอย่างที่คุณบอก ไม่มีทางทำแบบนั้นกับคนที่ช่วยฉัน”
“เอาเถอะๆ” ชายหนุ่มตัดบท จับตัวเธอแล้วดันหลังกลับเข้าไปในห้องนอน “ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ ใส่ชุดนั้นไปก่อน มีชุดเดียวนี่นะที่เข้ากับตัวเธอ จะได้ออกไปข้างนอกกัน”
“เอ แล้วคุณจะกลับมาทำงานทันหรือคะ นี่ก็บ่ายแล้ว ฉันจำได้ คุณต้องออกไปตอนเย็น”
หญิงสาวยังไม่วายสงสัย ถึงจะยอมกลับเข้าไปในห้องแล้วก็ตาม เธอหันหน้ามาถาม
ภูผาส่ายหน้าแทนคำตอบ
“ขี้เกียจ อยากเที่ยว”
เขาบอกเท่านั้น แล้วก็หันหลังเดินออกไปหน้าตาเฉย หญิงสาวหัวเราะเบาๆ จะว่าไป ผู้ชายหน้าตาดุๆที่ชอบเก๊กขรึมกับเธอตลอดเวลา เอาเข้าจริงก็ใจดีไม่น้อย
หญิงสาวรีบอาบน้ำแต่งตัวใหม่ กลับออกมาอีกครั้งผู้ชายใจดี (ตอนนี้) นั่งรอเธออยู่ที่โซฟา เอกเขนกอ่านอะไรไม่รู้บนโทรศัพท์มือถือท่าทางอารมณ์ดี เหมือนไม่ใช่ภูผาคนเดิม
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
ชายหนุ่มเหลือบมอง เขาชะงักไปนิดหนึ่ง หญิงสาวกลับมาอยู่ในชุดเสื้อผ้าฝ้ายกับกระโปรงลายดอกไม้ สวยไปทั้งตัว เขารีบกลบเกลื่อนความรู้สึกบางอย่างของตัวเองแล้วขยับตัวลุกขึ้น
“อืม ไปสิ”
ภูผาเดินผ่านหญิงสาวนำเธอออกไปข้างนอก อีกฝ่ายรีบเดินตามหลัง ก้าวยาวๆของชายหนุ่มที่ไม่เร่งร้อนแต่สำหรับหญิงสาวที่ตัวเล็กสูงเพียงอกกว้างของเขาแทบเดินกึ่งวิ่งตามหลังชายหนุ่ม เข้ามาอยู่ในลิฟต์ เขาก็ยังไม่หันมองเธอ ถึงยืนคู่กัน ไม่ห่าง แต่ภูผาเอาแต่มองตรงไปข้างหน้า ภาพสะท้อนจากผนังลิฟต์ หญิงสาวกุมมือยืนนิ่ง ถึงจะเหลือบมองเขาเป็นระยะแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร เขากำลังอารมณ์ดีหากพูดอะไรผิดหู ความสุขที่กำลังลอยอยู่รอบตัวอาจหายไปในทันที
หญิงสาวจึงเลือกที่จะยืนเงียบๆ อย่างมากเธอก็แอบอมยิ้มอยู่คนเดียวด้วยกำลังสุขใจ หารู้ไม่ กิริยาเหล่านั้นตกอยู่ในสายตาของชายหนุ่มโดยตลอด
ที่ไม่พูด เพราะพูดไม่เก่ง จะเอ่ยชมเธอ ก็ไม่กล้าชม กลัวอีกฝ่ายจะล่วงรู้ความรู้สึกในใจ เขาน่ะหรือจะกล้าชอบใครได้อีกเล่า...ภูผาครุ่นคิดอยู่เงียบๆ
ถึงโรงจอดรถของคอนโด ดูคาติสีแดงเพลิงของชายหนุ่มจอดสงบอยู่ เขาทิ้งให้หญิงสาวรออยู่หน้าคอนโด ครู่เดียวบิ๊กไบค์คันนั้นก็เคลื่อนเข้ามาจอดตรงหน้าหญิงสาว
ชายหนุ่มสวมหมวกกันน็อค เห็นชัดแต่ดวงตาคมเข้มที่มองมา เขาเคลื่อนท้ายรถให้พอดีตัวเธอเพื่ออีกฝ่ายจะได้ขึ้นซ้อนท้าย
เขาเหลือบมองหญิงสาวที่ทำท่าเก้กัง เพราะสวมกระโปรง ทำท่าจะหันข้างขึ้นนั่งท้าย ขืนทำแบบนั้นมีหวังความเร็วของรถทำเธอหล่นแน่นอน แค่ภูผาออกตัว เธอก็มีสิทธิ์หงายหลังเพราะความแรงของเจ้าแดงเพลิง
“รวบกระโปรงแล้วนั่งแบบเรา!”
เสียงชายหนุ่มลอดหมวกกันน็อคที่เขาเผยอขึ้นเล็กน้อย
“อะไรนะคะ” เธอทำหน้าตกใจ จะให้นั่งแบบนั้นได้อย่างไรกันเล่า ก็....
“เร็วสิ ไม่เห็นหรือไง รถหลังตามมาแล้ว”
หญิงสาวเหลียวไปมอง จริงอย่างภูผาบอก ขืนเธอช้ามีหวังทำรถติดหน้าคอนโดแน่นอน ไม่แคล้วรปภ.เดินมาไล่ให้ได้อายอีก หญิงสาวถอนหายใจแรงๆก่อนรวบกระโปรงขึ้นคร่อมซ้อนท้ายอย่างรวดเร็ว เขาออกรถทันที เธอแทบหงายหลัง โชคดีคว้าเสื้อภูผาไว้ได้ทัน ตัดสินใจกอดเอวเขาไว้อย่างกล้าๆกลัวๆ
ชายหนุ่มเคลื่อนรถผ่านตู้รปภ.ตรงประตูใหญ่ของคอนโด เขาหันไปเปิดหมวกพูดอะไรบางอย่างกับรปภ.ที่ท่าทางสนิมสนมกันดี ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะรีบเดินไปหยิบหมวกกันน็อคส่งให้หญิงสาวด้วยสีหน้ายิ้มๆ คราวนี้หญิงสาวรับมาสวม ไม่มีอิดออด กลัวเขาจะดุเธออีก สวมหมวกกันน็อคเสร็จก็รอให้ชายหนุ่มเคลื่อนรถออก
