บทย่อ
กลางดึกบนถนนสายเปลี่ยว ระหว่างทางที่ภูผา นักดนตรีหนุ่มขับมอเตอร์ไซค์ผ่านมาพบหญิงสาวคนหนึ่งเข้า เธอประสบอุบัติเหตุ เขาจำเป็นต้องช่วยเหลือ เมื่อถึงโรงพยาบาล และหญิงสาวได้สติ กลับพบว่าเธอจำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่ชื่อของตนเอง ด้วยความสงสาร เขาจึงให้เธอมาอยู่กับเขาเป็นการชั่วคราว ทว่า... ความอ่อนหวานและรอยยิ้มที่มีให้เสมอทุกครั้งที่เขามองไปที่เธอ สั่นคลอนหัวใจที่ปิดตายของชายหนุ่ม เขาไม่อยากจะรักใครอีก แต่หัวใจกลับเรียกร้องให้ 'รัก' เธอ .... ชายหนุ่มเองก็ใช่จะทานทนไหว เขาไม่เคยมีอารมณ์รุนแรงมากมายขนาดนี้มาก่อนกับผู้หญิงคนไหน ไม่นึกว่าภายนอกที่ดูบอบบางไร้เดียงสา หากพอเสื้อผ้าหลุดจากเรือนกาย เธอก็เหมือนเชื้อเพลิงชั้นดีที่จุดไฟอารมณ์ของเขาให้คุโชน “ให้เราเถอะนะ” เขาเอ่ยของ่ายดาย และไม่ทันฟังคำอนุญาตของอีกฝ่าย ร่างที่หนาแข็งแรงกว่าก็ทาบทับลงบนกายของหญิงสาว....
บทนำ
“แล้วเจอกัน”
ชายหนุ่มโบกมือให้เพื่อนร่วมวง ก่อนเดินไปที่บิ๊กไบค์ มอเตอร์ไซค์คู่ใจที่จอดอยู่หลังร้าน เขากับเพื่อนร่วมวงเล่นดนตรีที่ร้านอาหารกึ่งผับย่านใจกลางเมือง ร้านเลิกตีหนึ่ง แต่กว่าเขากับเพื่อนจะทยอยออกจากร้านก็ล่วงเขาตีสองกว่า
ภูผาพักอยู่ที่คอนโดมิเนียมแถวนอกเมือง เขาจะขี่มอเตอร์ไซค์กลับที่พักทุกคืน
บนถนนสายเปลี่ยวที่เริ่มไร้ร้างผู้คน ยวดยานที่เคยแออัดในยามกลางวัน บัดนี้ว่างเปล่า มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของชายหนุ่มบึ่งทะยานไปข้างหน้า
ขณะที่เขาขี่รถขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำ ดวงตาภายใต้หมวกกันน็อคก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนทำท่าเก้ๆกังๆอยู่อีกฝั่งถนน
จู่ๆจังหวะที่เธอก้าวเท้าลงบนถนนเพื่อข้ามมาฝั่งนี้ รถยนต์คันหนึ่งแล่นผ่านด้วยความเร็วสูง เฉี่ยวร่างหญิงสาวล้มลงทันที เธอหมุนคว้างอยู่ริมฟุตบาทก่อนล้มลงอย่างแรงบนพื้นถนน
ไวเท่าความคิด! ภูผาตัดสินใจเลี้ยวรถหลบข้างทางอย่างรวดเร็ว เขาวิ่งข้ามถนนไปที่ตัวหญิงสาว หลังแน่ใจว่า บนถนนสายเปลี่ยวตรงนั้น ยังไม่มีรถผ่านมาสักคัน นอกจากมอเตอร์ไซค์ของชายหนุ่มที่บังเอิญผ่าน...
ดวงตาชายหนุ่มเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนก ไม่รู้ว่าร่างตรงหน้าจะยังหายใจอยู่หรือไม่ เขาย่อตัวลงกับพื้น โล่งใจที่ยังเห็นร่างของหญิงสาวกระเพื่อมขึ้นลงด้วยลมหายใจ เพียงแต่เจ้าของร่างนอนสลบไม่ได้สติ ภูผาแตะมือลงบนร่างของเธอ สำรวจทั่วร่างหญิงสาวไม่มีบาดแผลหรือหยดเลือด เขาไม่กล้าตัดสินว่า เธอปลอดภัย อาจช้ำในหรือสมองฟาดพื้นจนบาดเจ็บ ชายหนุ่มหันมองหารถที่จะใช้พาร่างของเธอส่งโรงพยาบาล ยังไงก็ต้องผ่านการรักษาจากหมอให้เร็วที่สุด
ภูผาตัดสินใจดึงผ้าโพกผมยาวๆของเขา ก้าวไปโบกมันที่กลางถนน เพื่อให้รถที่กำลังแล่นมาชะลอความเร็วให้การช่วยเหลือ ไม่นาน รถยนต์คันหนึ่งก็แล่นมาด้วยความเร็วสูง แสงไฟส่องจ้าเข้ากับร่างของชายหนุ่มที่ยืนโบกผ้า รถยนต์ชะลอความเร็วลง ชายหนุ่มรีบเดินเข้าไปก้มตัว
ลงคุยกับคนที่นั่งอยู่ในรถ คนขับเป็นสามีที่กำลังจะพาภรรยากลับบ้าน
ทั้งคู่รีบกุลีกุจอลงมาช่วยพาร่างไร้สติของหญิงสาวขึ้นมาบนรถ ชายหนุ่มวิ่งกลับไปคร่อมมอเตอร์ไซค์ของตัวเองก่อนเคลื่อนรถขี่ตามรถยนต์คันนั้นที่พาหญิงสาวไปส่งโรงพยาบาล หมอพาร่างของหญิงสาวเข้าห้องฉุกเฉินทันที ชายหนุ่มรับเป็นเจ้าของไข้เพราะในตัวหญิงสาวไม่มีเอกสารอะไรเลยสักอย่าง
เขาเพิ่งสังเกตเสื้อผ้าที่ผู้หญิงคนนี้สวมใส่ เมื่อแรกที่พบมัวแต่ตกใจจนไม่ทันใส่ใจ หญิงสาวรูปร่างบอบบางสวมกี่เพ้าสีแดงเลือดนก ก่อนถูกเปลี่ยนเป็นชุดคนไข้ ในเวลาต่อมา หลังออกจากห้องฉุกเฉิน หญิงสาวถูกพาตัวมาพักฟื้นที่ห้องคนไข้ ภูผาเฝ้าหญิงสาวอยู่จนรุ่งสาง เขาเผลอหลับไปที่โซฟาภายในห้องคนไข้พิเศษ ไม่ห่างจากเตียงคนไข้ที่มีร่างของหญิงสาวแปลกหน้าหลับอยู่
เธอผ่านพ้นการรักษา หมอบอกว่า ไม่มีส่วนไหนของร่างกายที่บาดเจ็บ รวมทั้งระบบภายในของร่างกาย นอกเสียจาก....
“น้ำ ..” เสียงร้องขอเล็ดลอดจากริมฝีปากคนที่นอนอยู่บนเตียง
ภูผาขยับตัวแว่วเสียงหญิงสาว เขาลืมตาขึ้น เงยหน้ามองเห็นร่างบนเตียงขยับตัว ชายหนุ่มลุกเดินเข้าไปใกล้ๆ ดวงตากลมโตของหญิงสาวค่อยๆเปิดขึ้น ภูผาเพิ่งเห็นใบหน้าเธอกระจ่างชัดตอนเช้านี้เอง ดวงหน้าขาวเผือดซีดเซียวเหมือนคนป่วย แต่กระนั้นก็ยังมีเค้าของความสวยอย่างไม่น่าเชื่อ ชายหนุ่มที่ยืนมองอยู่เผลอตัวชะงักงันไปครู่
“ฉัน... ขอ ...ขอน้ำค่ะ”
ได้ยินเสียงร้องขออีกครั้ง ภูผาถึงรู้สึกตัว เขาหันไปรินน้ำจากเหยือกเทใส่แก้วก้มตัวจ่อปากแก้วที่ริมฝีปากเธอ อีกฝ่ายค่อยๆจิบน้ำด้วยความกระหาย แต่ดื่มไปได้ไม่มาก เธอก็ถอยกลับไปนอนดังเดิม
“ฉัน... ฉันอยู่ที่ไหน”
ภูผารู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เธอไม่มีท่าทีเกรงกลัวหรือตกใจที่เห็นชายหนุ่มแปลกหน้าอยู่ลำพังกับเธอในห้อง
“เธอถูกรถชน เราช่วยพามาส่งโรงพยาบาล”
ชายหนุ่มตอบ พลางมองหญิงสาวที่กำลังหันไปมารอบๆ ก่อนก้มลงดูตัวเองในชุดคนไข้
“อืม เราจะช่วยติดต่อญาติเธอให้ ป่านนี้ทางบ้านเธอคงเป็นห่วง เธอหายมาทั้งคืน แล้วยังมาประสบอุบัติเหตุ แต่โชคดีเธอไม่เป็นอะไร”
หญิงสาวทำหน้างงๆ เหมือนไม่เข้าใจคำพูดของเขา ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังเอ่ยขอบคุณเขา “คุณช่วยพาฉันส่งโรงพยาบาลหรือคะ ขอบคุณค่ะ เอ่อ ฉันจำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ”
เธอยกมือขึ้นกุมศีรษะตัวเอง
“คงตกใจจนวูบหมดสติไปน่ะ ตอนรถเฉี่ยว” ภูผาปลอบโยน ตอนนั้นเขาไม่รู้เลยว่า ไม่ใช่แค่เธอจำเหตุการณ์ตอนรถชนไม่ได้
ทว่า...เธอจำอะไรก่อนหน้านั้นไม่ได้เลย แม้แต่ชื่อตัวเอง
“แล้ว แล้ว ฉันต้องทำอะไรนะคะ ที่คุณพูดเมื่อกี้”
“ติดต่อญาติ”
“ญาติหรือคะ เอ่อ ฉันไม่รู้จักใครเลย ฉันจำไม่ได้ จำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่ชื่อของฉัน”
“เธอว่าอะไรนะ” ภูผาขมวดคิ้วอย่างงๆ เขาหูเฝื่อนหรือผู้หญิงคนนี้ยังไม่ฟื้นจากอาการบาดเจ็บ หรือหมอตรวจไม่ละเอียด
แล้วจู่ๆหญิงสาวก็ทำหน้าเหยเกก่อนร้องโอดโอยกุมมือปวดศีรษะ ภูผารีบกดกริ่งเรียกหมอมาดูอาการ เขามองหมอที่เดินเข้าไปคุยกับเธอ เช็คอาการคนไข้สาวอยู่ครู่ หมอก็ขอคุยกับภูผาเป็นการส่วนตัว
“ดูเหมือนระบบความจำของคนไข้จะมีปัญหา เธอจะจำเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่ได้เลย”
“หมายความว่ายังไง หมอ”
“อาจต้องรักษาสักระยะ หมายถึง คุณพาเธอกลับบ้านได้ ร่างกายเธอเป็นปกติ ส่วนเรื่องความจำคงต้องพามารักษาเรื่อยๆ หรือบางที เธออาจจะค่อยๆดีขึ้นเอง”
ภูผาหันมองหญิงสาวที่เอนตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงคนไข้ เธอกำลังมองมาที่เขาพลางยิ้มให้ เหมือนเขาเป็นคนเดียวที่อยู่ในโลกของเธอตอนนี้ แต่สำหรับชายหนุ่มมันเป็นโชคร้ายของเขาที่จู่ๆต้องมาดูแลผู้หญิงที่เขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
“พากลับไปด้วยงั้นหรือ”
ชายหนุ่มเปรยเสียงแผ่ว หญิงสาวยังยิ้มกระจ่างตอนสบตาเขา รอยยิ้มใสซื่อไร้เดียงสา เหมือนไม่รู้อะไรเลยจริงๆ
“หมายความว่า จะต้องพาผู้หญิงคนนี้กลับไปด้วย อย่างงั้นน่ะหรือ”
เขาพร่ำถามตัวเองซ้ำๆราวกับอยากให้ทุกอย่างเป็นแค่ความฝัน แต่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย
ชีวิตของชายหนุ่มนับจากนี้ต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเพราะผู้หญิงแปลกหน้าที่เขาได้พบกับเธอในคืนดึก บนถนนสายเปลี่ยว

