บท
ตั้งค่า

ตอนที่4. เป็นอะไร

“เป็นอะไร” ภูผาแกล้งถามเสียงเข้ม ทั้งที่รู้คำตอบดี เขาเก็บรอยยิ้มที่มุมปากเมื่อครู่ ตีหน้าเคร่งขรึม

“คือ คือ...” เธอเสียงสั่น อย่างคนที่ประหม่าจริงๆหาได้เสแสร้งไม่ “คุณน่าจะใส่เสื้อกับกางเกงที่มันโอเคกว่านี้ก่อน ดีไหมคะ”

โดยเฉพาะท่อนล่าง!

มันบางมากจนเห็นอะไรต่อมิอะไรที่เป็นส่วนตัวของเขามากเกินไป ....สาบานได้ ต่อให้ความจำเสื่อม แต่เธอก็แน่ใจว่า ไม่เคยเห็นใคร

ทำอะไรแบบนี้มาก่อน เผลอๆ เธออาจไม่เคยอยู่ใกล้ชิดผู้ชายคนไหนเลยด้วยซ้ำ

“ทำไม มันน่าเกลียดตรงไหน เราก็ใส่กางเกงนอนแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร เสื้อไม่ชอบใส่ มันอึดอัด”

“แต่ว่า...” เธอนึกหาคำแก้ตัวที่เหมาะสม ใครจะกล้าบอกเล่า รู้สึกอาย แทนที่จะเป็นชายหนุ่มที่น่าจะรู้สึกอะไรแบบนี้

“เอาเถอะๆ” เขาตัดบท “เราจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วออกมากินอาหารฝีมือเธอ นี่เห็นว่าหิวหรอกนะ ถึงยอมๆ”

เธอยิ้มออกมาได้ เหลียวมองชายหนุ่มที่เดินดุ่มๆกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องของเขา

ภูผากลับออกมาอีกครั้ง เขาใส่กางเกงเลกับเสื้อยืด รวบผมยาวๆมุ่นเป็นมวย เผยใบหน้าคมเข้ม จมูกโด่งเป็นสันราวรูปปั้นกรีก

“พอใจหรือยัง” เขาถาม

เธอเงยหน้าขึ้นมองยิ้มๆ “ค่ะ” ก่อนจัดเตรียมอาหารวางบนโต๊ะ

“ฉันทำข้าวต้มทะเลไว้ให้คุณค่ะ เห็นว่าคุณซื้อพวกกุ้งปลาหมึกสดไว้ให้ ทำน้ำซุปแยกต่างหาก ตั้งใจว่าคุณตื่นมาค่อยอุ่นร้อนๆ พอดีคุณตื่นตอนฉันกำลังทำพอดี ก็เลยทำเป็นข้าวต้มสำเร็จให้คุณได้เลยค่ะ”

ภูผายื่นหน้ามองข้าวต้มควันโชยกรุ่นต้นเหตุกลิ่นหอมๆที่ทำให้เขาตื่นคงมาจากกลิ่นน้ำซุปฝีมือเธอ เขาพอจะดูออกว่า หน้าตาอาหารบนโต๊ะเกิดจากที่เธอเคี่ยวน้ำซุปเอง

เขานั่งลง พร้อมกับที่เธอช่วยขยับชามข้าวต้มมาตรงหน้า

“ทีแรก ก็คิดตั้งนานว่าจะทำอะไรให้คุณทานดี ยังนึกว่าทำข้าวต้มให้คุณทานเป็นมื้อกลางวัน คุณจะชอบหรือเปล่า ชอบไหมคะ ข้าวต้มกลางวัน”

ภูผาสำลักข้าวที่กำลังตักเข้าปากตัวเองทันที

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” เธอทำหน้าตกใจ รีบรินน้ำใส่แก้วยื่นให้ชายหนุ่ม

“ทีหลัง อย่าถามผู้ชายด้วยคำถามแบบนี้อีก เข้าใจไหม ไอ้ประโยคหลังน่ะ ข้าวต้มกลางวัน”

เขาทำหน้าดุ บอกเธอ หลังดื่มน้ำแล้ว

“ทำไมคะ” เธอทำหน้างง ไม่เข้าใจว่า ตัวเองพูดอะไรผิดไป

“นั่นล่ะ บอกว่าไม่ต้องถามก็ไม่ต้องสิ ความหมายมันไม่ดี”

เธอทำท่าจะอ้าปากถามเขาอีก แต่คราวนี้ ชายหนุ่มถลึงตาใส่ เธอจึงรีบหุบปากลงทันที

“แล้วไม่มากินด้วยกัน” เขานึกขึ้นมาได้ เห็นเธอยังยืนอยู่ไม่ห่างจากเขา ไม่ได้นั่งลงกินข้ามด้วยกัน

“ไม่ค่ะ ยังอิ่มอยู่เลย” หญิงสาวบอกเขา “เมื่อเช้า ตื่นมาทำแซนวิชค่ะ อันใหญ่ เพราะหิวมาก เมื่อคืนเผลอหลับไม่ได้ทานข้าว ตอนนี้ก็เลยยังอิ่มอยู่”

“งั้นหรอกหรือ” เขาพยักหน้ารับ “เธอนี่ ทำได้หลายอย่างเหมือนกันนะ เก่งนี่ ท่าทางเหมือนคนทำอะไรไม่เป็น”

ภูผาเอ่ยชม เธอยิ้มออกมาเต็มหน้าด้วยความพอใจ เคยเห็นเขาชมเธอเสียที่ไหน มีแต่ทำเสียงดุเหมือนเธอเป็นเด็กเล็กๆ

เมื่อเขาชม เธอก็นึกได้ใจ เผลออวด

“ค่ะ เมื่อเช้าฉันเข้าไปช่วยเอาเสื้อผ้าคุณมาซักให้ด้วย เก็บกวาดห้องให้นิดหน่อยค่ะ ของเยอะก็เลยไม่กล้าทำอะไรมาก”

“อะไรนะ!”

คราวนี้ ชายหนุ่มวางช้อนลงทันที เขาตะคอกถามจนเธอสะดุ้งด้วยความตกใจ หน้าซีดเผื่อน

“เธอเข้าไปในห้องนั้น ไปยุ่มย่ามกับของของเรา งั้นหรือ”

“ปละเปล่านะคะ ไม่ได้แตะต้องอะไร ปัดกวาดเฉยๆ เสื้อผ้าก็ซักแต่ในตะกร้าที่คุณใส่แล้ว ฉันเห็นวางอยู่ข้างประตูห้องน้ำ

“ทีหลังไม่ต้องยุ่ง!”

ชายหนุ่มยังอยู่ในอาการฉุนเฉียว “บอกแล้วไง ฉันเรียกแม่บ้านขึ้นมาทำเรื่องพวกนี้ได้ เธอจัดการตัวเองก็พอ”

“ฉัน ฉัน...” หญิงสาวตะกุกตะกัก น้ำเสียงสั่นพร่า ยิ่งเห็นเขาหุนหันผละเดินออกไปจากโต๊ะอาหารทันที เธอยิ่งรู้สึกกลัว

“ขอโทษค่ะ ขอโทษ” เธอน้ำตาร่วง เกรงเขาจะโกรธจนไล่เธอออกไปจากที่นี่ แล้วเธอจะไปอยู่ที่ไหนหรือทำอย่างไรดี

เสียงเขาเปิดประตูห้องนอนตัวเอง

เธอยังยืนอยู่ที่เดิม ไม่กล้าแม้แต่เงยหน้าขึ้นมองเขา ภูผาชะงักฝีเท้าอยู่กับที่เหมือนถูกตรึงที่เห็นเธอทำท่าขลาดกลัวเขา

“ช่างเถอะ” เขาตัดบทเสียงห้วน “ทีหลังอย่ายุ่งก็แล้วกัน”

ภูผาพูดจบ เขาก็เดินเข้าห้อง

ปิดประตู โครม!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel