บทที่ 8 เจอคนรักเก่า
ญาณินเดินเข้าไปในงานพร้อมกับคเชนทร์ด้วยร่างกายที่แข็งเกร็ง เธอรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงผู้คนมากมาย คเชนทร์ก็รับรู้ได้ว่าหญิงสาวข้างกายนั้นมีความตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด
คเชนทร์จับมือญาณินและลูบเบาๆ “ไม่ต้องกลัว ผมจะปกป้องคุณเอง เพียงแค่คุณอยู่ข้างกายผม” เขาใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนเพื่อปลอบขวัญคนข้างกาย
ญาณินรู้สึกหงุดหงิดในใจ แต่เมื่อมีเขาอยู่ข้างกายแบบนี้ก็รู้สึกปลอดภัยจริงๆ
“คุณเชนทร์ ยินดีที่ได้พบค่ะ” ผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยทักทาย ซึ่งเธอเดินเข้ามาพร้อมกับสาวสวยคนหนึ่งที่แต่งตัวเช็กซี่มาก
“คุณภูพิงค์” คเชนทร์ดูแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้เห็นผู้หญิงที่เดินมาพร้อมกับภูพิงค์ แต่ก็ตอบรับการทักทายไปตามมารยาท “ยินดีที่ได้พบกันครับ”
“คุณสบายดีใช่ไหม?” สาวสวยชื่อปูเป้เอ่ยถาม
“ครับ” คเชนทร์ตอบพร้อมกับโอบเอวญาณินเข้ามาแนบกายมากขึ้น
ปูเป้ชี้ไปทางญาณิน “ผู้หญิงคนนี้คือ?” เธอถามพร้อมกับรู้สึกไม่ดี
คเชนทร์ยิ้มแล้วมองใบหน้าของญาณิน “เธอชื่อยาหยี และจะเป็นภรรยาในอนาคตของผม” เขาตอบ
ปูเป้หน้าเสียเล็กน้อย แต่ก็ฝืนยิ้มต่อไป “ช่างเป็นข่าวดีจริงๆ ยังไงฉันก็ขอแสดงความยินดีกับคุณด้วยนะ เชนทร์” เธอกำหมัดแน่น
“ขอบคุณครับ”
ภูพิงค์ยิ้ม “ฉันไม่คิดเลยว่าจะได้เจอคุณในงานเลี้ยงนี้ หลายปีแล้วนะคะที่คุณไม่เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงปาร์ตี้แบบนี้เลย”
“นั่นเป็นเพราะว่าผมยุ่งมาก”
ปูเป้ยิ้มแล้วหันไปทักทายญาณิน “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ คุณยาหยี”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” ญาณินตอบ แต่สายตาของเธอนั้นไม่ได้มองไปยังปูเป้เลย
ปูเป้โบกมือไปมาผ่านหน้าของญาณิน “คุณยาหยีมองไม่เห็นเหรอคะ?”
“ใช่ครับ เธอมองไม่เห็น” คเชนทร์เป็นคนตอบแทน เขากระชับอ้อมกอดของญาณินมากขึ้น
“คุณจะแต่งงานกับคนตาบอดเหรอ?” ภูพิงค์เอ่ยเสียงดัง
“ตาบอดแล้วยังไงครับ หัวใจของเธอไม่ได้บอดนิ” คเชนทร์จ้องมองหญิงสาวชื่อภูพิงค์อย่างไม่พอใจ
ภูพิงค์ยิ้มอย่างเสแสร้ง “คุณเชนทร์คะ ฉันไม่ได้ตั้งใจดูถูกคุณนะคะ ฉันก็แค่ถามไปเฉยๆ เท่านั้นเอง” เธอไม่อยากทำให้ชายตรงหน้าไม่พอใจไปมากกว่านี้ ไม่งั้นงานเลี้ยงวันนี้คงจะไม่สนุกแล้ว
ภูพิงค์เป็นเพื่อนของปูเป้ ซึ่งชอบออกหน้าแทนปูเป้อยู่ตลอด
“ผมขอตัวนะครับ” คเชนทร์เอ่ยแล้วจับมือญาณินเดินไปทางอื่น โดยไม่สนใจสองสาวนั้นเลยแม้แต่น้อย
ภูพิงค์และปูเป้มีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะปูเป้ที่แสดงออกทางสีหน้าว่าไม่พอใจอย่างชัดเจน
“ลืมเขาเถอะปูเป้ เขาไม่ใช่ของเธออีกต่อไปแล้ว” ภูพิงค์บอก
“มันก็ไม่แน่หรอก ตราบใดที่เขายังไม่ได้แต่งงาน ฉันก็ยังมีสิทธิ์ในตัวเขา” ปูเป้มีสีหน้าที่ชั่วร้าย
หลังจากที่คเชนทร์พาญาณินเดินออกมาจากสองสาวนั้น ก็มีพนักงานหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหา และพาทั้งสองคนไปนั่งที่โต๊ะด้านหน้าของเวที ซึ่งเป็นโต๊ะสำหรับแขก VIP เท่านั้น บนโต๊ะปูด้วยผ้าคลุมสีแดง และสามารถนั่งได้เพียง 6 คนเท่านั้น
“ตอนนี้เรานั่งอยู่โต๊ะด้านหน้าสุด ซึ่งมีไว้สำหรับแขก VIP เท่านั้น” คเชนทร์บอกญาณิน โดยที่ไม่รอให้เธอได้ถาม
“เขาเห็นแก่หน้าคุณ จึงเคารพคุณ ให้คุณเป็นแขก VIP ของพวกเขา แต่นั่นมันไม่ใช่ฉัน” ญาณินตอบ ที่จริงแล้วเธออยากจะนั่งในที่ที่ไม่มีใครสนใจมากกว่า พอรู้ว่าได้มานั่งอยู่ตรงจุดนี้ ก็รู้สึกว่าเป็นจุดสนใจของคนอื่นมากเกินไป
“แล้วคุณกับผมไม่เหมือนกันเหรอ? พวกเขาให้เกียรติผม ก็ต้องให้เกียรติคุณด้วย”
ญาณินไม่อยากเถียงกับเขาแล้ว เธอจึงเอ่ยถามในเรื่องที่อยากรู้ “แล้วนี่งานเลี้ยงอะไรคะ”
“งานวันเกิดของลูกชายคุณเพทาย เจ้าของบริษัทรับเหมาก่อนสร้างแห่งหนึ่ง”
“อื่ม” ญาณินรู้คำตอบแล้วก็ไม่ถามอะไรอีก
ระหว่างรองานเลี้ยงเริ่ม คเชนทร์ได้ตักอาหารหลายอย่างมาใส่จานให้ญาณินได้กินรองท้อง ปูเป้และภูพิงค์ที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ก็มองเห็นการกระทำที่เอาอกเอาใจของคเชนทร์ที่มีต่อญาณินทุกอย่าง มันทำให้ปูเป้รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“ความสัมพันธ์ของเธอกับเชนทร์มันจบไปแล้วนะปูเป้ ไม่ต้องมองพวกเขาแล้ว” ภูพิงค์เอ่ยแล้วจับใบหน้าของปูเป้ให้หันกลับมา
เจ้าของงานเดินเข้ามาทักทายคเชนทร์ “เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณคเชนทร์ให้เกียรติมาร่วมงานวันเกิดลูกชายของผมนะครับ” เพทายพูดอย่างนอบน้อม
คเชนทร์มีใบหน้าที่เรียบเฉยแล้วยิ้มให้เจ้าของงานเพียงเล็กน้อยตามมารยาท
“นานมากแล้วนะครับที่ไม่เห็นคุณคเชนทร์มาร่วมงานเลี้ยงแบบนี้ อีกอย่าง วันนี้ยังมีสาวสวยมาด้วย ดูเหมือนว่าจะพามาเปิดตัวหรือเปล่าครับ” ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเอ่ยถาม
“เธอเป็นว่าที่ภรรยาของผมครับ” คเชนทร์ตอบกลับ
“ว้าว! น่ายินดี น่ายินดีมากครับ” แขกที่นั่งร่วมโต๊ะเดียวกันกับคเชนทร์เอ่ยยินดี
“หากถึงวันนั้นก็อย่าลืมคำเชิญให้กับผมด้วยนะครับ” เพทายเอ่ย
เจ้าของงานได้จัดงานเฉลิมฉลองวันเกิดครบ 25 ปีให้แก่ลูกชายคนเดียว ทุกคนในงานต่างดื่มด่ำกับอาหารและเครื่องดื่มที่จัดเตรียมไว้อย่างหรูหรา นักธุรกิจหลายคนก็อาศัยงานนี้เพื่อหานักลงทุนเพิ่มให้กับธุรกิจของตัวเอง โดยเฉพาะคเชนทร์ที่มีแต่นักธุรกิจหลายคนเข้าหา
คเชนทร์รู้สึกเบื่อกับงานแบบนี้อยู่บ้าง นักธุรกิจหน้าใหม่หลายคนเข้าหาเขาเพื่ออยากให้ช่วยโอบอุ้มธุรกิจของตนให้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่มองถึงความสามารถของตัวเองบ้างเลย เขาอยากปฏิเสธต่อหน้าแต่ก็ยังอยากไว้หน้าให้กับพวกเขาบ้าง ทำได้เพียงแต่ยิ้มให้แล้วขอตัวเท่านั้น
คเชนทร์เดินกลับมาหาญาณินที่โต๊ะ “คุณต้องการอะไรเพิ่มไหม? อาหารหรือเครื่องดื่มดี?” เขาเอาใจใส่เธอมาก
“ขอน้ำเปล่าแล้วกันค่ะ”
“แค่นี้เหรอ? ไม่เอาอย่างอื่นเหรอ?”
เธอส่ายหัว “ไม่ แค่น้ำก็พอแล้ว”
คเชนทร์พยักหน้าแล้วดีดนิ้วให้บริกรไปเอาน้ำเปล่ามาให้ “เดี๋ยวบริกรจะเอาน้ำเปล่ามาให้คุณ อยู่ตรงนี้อย่าไปไหน ผมขอไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะ เข้าใจไหม”
“อื่ม อย่านานเกินไปนะ” เธอรู้สึกไม่สบายใจและรู้สึกไม่ปลอดภัยเมื่อไม่มีเขาอยู่ใกล้ๆ
“ไม่นานหรอกที่รัก” คเชนทร์ลูบผมเธอเบาๆ ก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำ
