บทที่ 10 ทานอาหารร่วมโต๊ะกับคนรับใช้
เวลา 18.00 น.
เย็นนี้ญาณินต้องนั่งทานอาหารคนเดียวที่โต๊ะอาหาร เธออยากเอ่ยถามคนรับใช้มากว่าคเชนทร์อยู่ไหน เขาไม่กินอาหารกับเธอเหรอ แต่เธอก็ไม่กล้าถาม
“พี่รัญดา” ญาณินเรียก
“ค่ะ ต้องการอะไรหรือเปล่าคะ?” รัญดาตอบรับ
“เย็นนี้ฉันกินอาหารคนเดียวใช่มั้ยคะ?”
“ใช่ค่ะ น้องยาหยีมีอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไรค่ะ แค่จะชวนพี่มานั่งทานอาหารด้วยกันเท่านั้น” ในเมื่อคเชนทร์ไม่อยู่ เธอก็จะชวนพี่เลี้ยงและคนรับใช้มานั่งทานอาหารด้วยกันเสียเลย
“ไม่! ไม่ได้เด็ดขาดค่ะ” รัญดากับคนรับใช้รีบปฏิเสธพร้อมกัน
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ หากพวกพี่ๆ ไม่นั่งทานด้วยกัน งั้นอาหารเย็นนี้ฉันก็ไม่กินแล้ว” ญาณินนั่งกอดอกเหมือนเด็กเอาแต่ใจ
คนรับใช้หันไปมองหน้ารัญดาอย่างพร้อมเพรียง รัญดาคิดอยู่สักพักจึงเอ่ยขึ้น “น้องยาหยีอย่าทำให้พวกพี่ต้องลำบากใจเลยนะคะ” น้ำเสียงของรัญดาอ้อนวอน
“งั้นพี่ก็เก็บอาหารไปเถอะค่ะ ฉันไม่กินแล้ว” ญาณินทำหน้าเศร้าก่อนจะเอ่ยขึ้นอีก “ก่อนหน้านี้ฉันก็นั่งกินข้าวคนเดียว ไม่เคยมีเพื่อน ไม่เคยได้กินไปคุยไป ฉันรู้สึกโดดเดี่ยวมาตลอด ก่อนหน้านี้อยู่กับป้าเพียงสองคน ก็ยังพอเข้าใจ ตอนนี้บ้านหลังนี้ก็อยู่ด้วยกันหลายคน ฉันก็ยังรู้สึกโดดเดี่ยวอยู่เหมือนเดิม พวกพี่รังเกียจฉันที่ฉันตาบอดใช่มั้ยคะ” น้ำเสียงของเธอเศร้าและน้อยใจ
“เปล่านะคะ ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ พี่ไม่ไม่ได้รังเกียจน้องยาหยีเลยนะคะ” รัญดารีบเอ่ย รู้สึกสงสารและเห็นใจนายหญิงคนนี้จริงๆ
“แล้วทำไมพวกพี่ไม่ยอมมานั่งทานอาหารด้วยกันล่ะ?”
“หากคุณผู้ชายกลับมาเห็นเข้า พวกเราคงถูกไล่ออกกันหมดแน่เลยค่ะ” คนรับใช้คนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“หากเป็นแบบนั้น ฉันจะรับผิดชอบเองค่ะ” ญาณินยืนยัน
สุดท้าย รัญดาและคนรับใช้ก็ไม่อาจต้านทานข้อเรียกร้องของญาณินได้ แลกกับการถูกคเชนทร์ลงโทษ พวกเธอต้องทำให้ญาณินทานอาหารให้ได้ ไม่งั้นพวกเธอคงต้องเก็บข้าวของแล้วออกจากบ้านหลังนี้ไปแทนแล้ว
บนโต๊ะอาหารมีแต่เสียงหัวเราะ และดูเหมือนว่าญาณินจะมีความสุขมาก เธอพูดคุยและหยอกล้อกับคนรับใช้ไปมา ทำให้ทุกคนมีความสุขและเพลิดเพลินไปกับอาหารมื้อนี้
เมื่อคเชนทร์กลับมาบ้านและเห็นเหตุการณ์นี้ มันทำให้เขาหงุดหงิดและรู้สึกไม่พอใจ ในห้องอาหารตอนนี้เหมือนกำลังจัดงานปาร์ตี้ขนาดย่อม ทุกคนต่างก็กำลังหัวเราะอย่างสนุกสนาน อีกอย่าง เขาไม่เคยเห็นญาณินหัวเราะอย่างมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลย
แทนที่เขาจะเดินเข้าไปที่โต๊ะอาหารและด่าว่าคนรับใช้ เขากลับเดินขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง และปล่อยให้ห้องอาหารมีแต่เสียงหัวเราะต่อไป ขอเพียงให้ญาณินมีความสุขก็พอแล้ว
“คุณยาหยีคะ ดูเหมือนว่าคุณผู้ชายจะกลับมาแล้วนะคะ พี่เห็นเดินขึ้นไปที่ชั้นบนแล้ว” คนรับใช้คนหนึ่งพูด
“คุณผู้ชายจะไล่พวกเราออกมั้ยล่ะ พี่รัญดา” คนรับใช้อีกคนเอ่ยอย่างตื่นตระหนก
“คงไม่หรอก เพราะหากเป็นแบบนั้นจริง คงเดินเข้ามาต่อว่าพวกเราตั้งแต่แรกแล้ว และคงบอกให้ไปเก็บของแล้วออกไปจากที่นี่แล้ว” รัญดาบอก “ดูเหมือนว่า น้องยาหยีจะทำให้คุณผู้ชายของพวกเราละเว้นกฎของตัวเองไปแล้วนะ”
“ปกติเขาร้ายมากเลยเหรอคะ” ญาณินอยากรู้
“คุณผู้ชายเป็นคนที่เข้มงวดมากค่ะ ไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น เช่นการทานอาหารร่วมโต๊ะกับเจ้านาย พวกเราไม่มีสิทธิ์เลยด้วยซ้ำค่ะ” คนรับใช้คนหนึ่งเอ่ย
ผ่านไป 30 นาที คเชนทร์อาบน้ำเสร็จก็กลับลงมาข้างล่าง ภายในห้องอาหารไม่มีเสียงหัวเราะอีกต่อไปแล้ว มีเพียงคนรับใช้ไม่กี่คนที่ช่วยกันเก็บโต๊ะอาหารอยู่
“ยาหยีล่ะ?” คเชนทร์เอ่ยถามคนรับใช้
“คุณผู้หญิงออกไปนั่งเล่นที่สวนหน้าบ้านค่ะ”
คเชนทร์เดินตามไปหาญาณินที่สวนหน้าบ้านทันที แต่เขากลับได้ยินเสียงคนสองคนกำลังคุยกันอยู่ ญาณินไม่ได้อยู่คนเดียว มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังพูดคุยอยู่กับเธอ คเชนทร์รู้ทันทีว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร เขารีบเดินเข้าไปแล้วต่อยหน้าผู้ชายคนนั้นทันที
“แกมาทำอะไรที่นี่?” เขาต่อยผู้ชายคนนั้นแล้วลากผู้ชายคนนั้นออกไปจากจุดนั้น
ญาณินตกใจกับการมาของคเชนทร์ “คุณคเชนทร์!” เธอเอ่ยเรียกเขา แต่ปรากฏว่าผู้ชายทั้งสองคนนั้นออกไปไกลแล้ว
คเชนทร์โยนผู้ชายคนนั้นลงพื้นอย่างแรง “ใครอนุญาตให้แกเข้ามาบ้านฉัน!” เขาดูเกรี้ยวกราดมาก
“พี่ ยังโกรธผมอยู่เหรอ?” ชายคนนั้นเอ่ย
“ออกไปซะ! อย่าให้ฉันได้เห็นแกเข้ามาในบ้านหลังนี้อีก!” เขาคว้าคอเสื้อของชายคนนั้นแล้วผลักออกไป
“พี่ครับ ผมรู้ว่าผมผิด แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ พี่จะยกโทษให้ผมไม่ได้จริงๆ เหรอ?” ชายหนุ่มที่หน้าตาเหมือนเขาเอ่ยอย่างเสียใจ
“ไอ้วินท์ แกอย่ามาอ้อนวอนขอให้ฉันยกโทษให้แกอีก และไสหัวออกไปจากบ้านของฉันเดี่ยวนี้ ไม่งั้นแกจะไม่มีโอกาสได้ขอให้ฉันยกโทษให้แกอีกแน่” คเชนทร์ตะคอก
ชวินทร์ทำตาละห้อยอย่างเสียใจ “ได้ ผมออกไปก็ได้” เขาเอ่ยแล้วจากไป
คเชนทร์เดินกลับไปหาญาณินที่ยืนอยู่ในสวนหน้าบ้านอย่างไม่พอใจ เขาจับแขนเธอแล้วลากเข้าไปในบ้าน เขาโมโหจนอยากฆ่าคนเมื่อเห็นว่าชวินทร์ฝาแฝดของตัวเองมาอยู่ที่นี่ แถมยังยืนคุยกับผู้หญิงของเขาอีก ไม่รู้ว่าชวินทร์มาที่นี่ด้วยจุดประสงค์อะไร แต่เขาจะไม่มีวันยอมให้ใครมายุ่งกับญาณินของเขาแน่นอน
“คุณเชนทร์ ปล่อย! ฉันเจ็บนะ!” ญาณินเอ่ยขณะที่ถูกเขาฉุดลากเข้าไปในบ้าน
“คุณต้องกลับห้องเดี่ยวนี้!” เขาตะคอกเสียงและยังคงลากเธอเดินขึ้นบันไดต่อไป
“แต่ฉัน..อ่ะ-” ญาณินอุทานออกมาอย่างเจ็บปวด
คเชนทร์ได้ยินเสียงร้องก็หยุดเดินและหันมาดู พบว่าญาณินนั้นนั่งอยู่บนพื้นบันไดแล้ว เธอสะดุดบันไดขั้นที่สามแล้วข้อเท้าก็พลิก เธอรู้สึกเจ็บปวดมาก
“เจ็บมากไหม? ยาหยี ผมขอโทษ” เขารีบนั่งลงแล้วดูข้อเท้าให้เธอ “ผมขอโทษนะ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
คเชนทร์พึ่งรู้ตัวว่าตัวเองนั้นหุนหันพลันแล่นเกินไป เขาลืมไปได้ยังไงว่าญาณินนั้นมองไม่เห็น แล้วยังลากเธอให้เดินเร็วอีก ไม่สะดุดล้มน่ะสิถึงจะแปลก ตอนนี้เขารู้สึกผิดอีกครั้งแล้ว และยังด่าตัวเองในใจอีก
“ผมขอโทษ ผมควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ผมจะไม่เป็นแบบนี้อีก” เขาบอก ต่อไปนี้หากเขาจะโมโหมากขนาดไหน เขาก็จะไม่ทำให้เธอต้องเจ็บแบบนี้อีก
“คุณใช้อารมณ์เป็นใหญ่เกินไปจริงๆ นั่นแหละ สักวันฉันคงตายในน้ำมือของคุณ”
“จะไม่มีวันนั้นแน่นอน” เขาให้สัญญา “ให้ผมอุ้มคุณนะ”
“อืม” ญาณินพยักหน้า จะฝืนเดินให้ตัวเองเจ็บตัวไปทำไมล่ะ
