ตอนที่ 7 อยากจะบ้าตาย
ลานจอดรถบนตึกโรงพยาบาล
พลอยลดายืนกอดอกอยู่ข้างรถบิ๊กไบร์ทที่จอดอยู่ข้าง ๆ รถสปอร์ตสีดำ เจตภพเหล่มองเหวี่ยงแล้วสะบัดหน้างอนเดินขึ้นรถสปอร์ตของตัวเองเมื่อสตาร์ทรถพลอยลดาก็เปิดประตูรถมานั่งข้าง ๆ
“เปลี่ยนใจไปกรุงเทพเหรอ” เขามองหางตาอารมณ์ยังขุ่นมัว
“รถคุณติดฟิล์มทึบมาก มองจากข้างนอกไม่เห็นข้างในเลย” พลอยลดามองกระจกหน้ารถซึ่งเมื่อครู่เธอเดินสำรวจกระจกรอบคันไม่สามารถมองไม่เห็นภายในรถได้เลย
“ก็แน่ละ พ่อให้ทำกันไว้เผื่อมีใครดักยิงจะได้ไม่เห็นว่าผมอยู่นั่งอยู่ตรงจุดไหนของเบาะ”
“งั้นก็ดี” พูดจบพลอยลดาลุกพรวดข้ามมาคร่อมบนกายที่ฝั่งคนขับทันที
“เฮ้ย! อะไร! ยังไง!” หน้าคมเหลอหลาทำตัวไม่ถูกทั้งที่อยากได้เธอแทบแย่แต่พอถูกจู่โจมไม่ทันตั้งตัวก็ประหม่าเอนหลังหนีตัวชิดเบาะ
“อ้าปากหน่อย” กายบางนั่งบนตักแกร่งจ้องมองหน้าเขาขึงขัง
“อย่าบอกนะว่าอยากขี่ผมแทนบิ๊กไบร์ท” คิ้วเข้มเลิกขึ้นเอ่ยถามหยั่งเชิง
“อ้าปาก!” เสียงหวานกระแทกย้ำบ่งบอกถึงความหงุดหงิด คนตัวโตรีบอ้าปากกว้างตามคำสั่งไม่อยากขัดใจกลัวเธอจะลุกออกไปจากตัว พลอยลดาสวมถุงมือยางแตะปลายนิ้วเชยคางเขาขึ้นแล้วส่องดูรอบปากก่อนจะแหวกกระพุ้งแก้มซ้ายขวาเพดานลิ้นเหงือกเขาอย่างถี่ถ้วน เจตภพนิ้วหน้าอ้าปากให้เธอกระทำโดยที่ไม่รู้ว่าเธอทำเพื่ออะไร
“ไม่มีแผลที่ปาก” หน้าสวยผละห่างถอดถุงมือยางใส่ถุงพลาสติกแล้วสวมถุงมือยางคู่ใหม่
“คุณทำอะไรเนี่ย?”
“เช็กแผลในปากจากซิฟิลลิส”
“ฮะ!”
“เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่งฉันแค่ขอดูเบื้องต้น” หน้าสวยนิ่งเฉยพูดเสียงเนิบนาบคล้ายไม่มีอะไรแต่การกระทำสร้างความตกใจให้เจตภพหน้าเหวอพยายามกระเถิบตัวหนีตกใจเพราะเธอกำลังรูดซิปกางเกงของเขาลงแล้วล้วงมือยัดแก่นกายกำยำออกมานอกกางเกงชั้นใน
“เชี้ยอะไรวะเนี่ย!” กายหนาหอบหายใจแรงหน้าแดงก่ำแทบซุกหน้าหนีอายเพราะเธอเล่นหยิบของลับของเขาตอนเป็นหนอนน้อยออกมาแล้วจับกุมเขี่ยลูบไปมาแถมยังจ้องมองไม่ละสายตา
“ไม่ต้องเขินหรอกฉันเคยเห็นมาเยอะแล้ว”
“ต้องจ้องขนาดนั้นเลยเหรอ อยากจะบ้าตาย” แขนแกร่งก่ายหน้าผากหายใจติดขัดไม่กล้ามองหน้าสวยอยู่ใกล้ชิดกับของลับของเขา
“ก็หาแผลอยู่” เสียงหวานเอ่ยอย่างราบเรียบลูบคลำจับเขี่ยจนอาวุธลับของเขาเริ่มผงาดขึ้นต่อหน้าต่อตาหญิงสาว
“พอแล้วมั้ง ของมันสู้มือปึ๋งปั๋งแล้วจะยุ่ง คุณก็ไม่ให้เอาผมต้องลำบากไปหาที่ลงอีก” เสียงทุ้มกระเส่าพยายามข่มอารมณ์ไม่ให้พลุ่งพล่านแม้กำลังเลือดในกายสูบฉีดอยากกดเธอแทบขาดใจ
“ไปโรงแรมกัน”
“ฮะ!”
“ไม่ต้องไปลงที่ไหน ลงที่ฉันนี่แหละ” คิ้วเรียวยักขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหยิบกล่องถุงยางอนามัยที่เธอไปซื้อมาตอนเขาเข้าห้องตรวจเชื้อชูขึ้นมาเขย่าต่อหน้าเจตภพที่ยังคงงุนงงสับสนกับเหตุการณ์ที่เหมือนฝันไป
“เดี๋ยวนะคือคุณจะมีอะไรกับผมทั้งที่ยังไม่ได้ผลตรวจใช่ไหม?”
“ใช่”
“แล้วจะมาตรวจทำไมในเมื่อคุณดูเบื้องต้นแล้วเอากันได้!”
“ก็ฉันลืมไปว่าที่ต่างจังหวัดผลตรวจจะช้า” กายบางเขยิบข้ามมานั่งเบาะข้าง ๆ เขาอมยิ้มโน้มเข้ามาใกล้เธอแล้วส่งสายกะลิ้มกะเหลี่ย
“แหม....ทนไม่ไหวอยากโดนปล้ำแล้วอ่ะดิ”
“มัวแต่แพล่ม จะเอาไม่เอา” หน้าสวยหันมามองสบตาไม่หลบเลี่ยงเขินอาย
“เชี้ย...คุณแม่งสุด พ่อจะจัดให้ถุงยางหมดกล่องเลยวุ้ย” เจตภพยิ้มแก้มปริกระดี๊กระด๊าเก็บอาการตื่นเต้นดีใจไม่อยู่ก่อนจะรีบขับรถสปอร์ตคันหรูออกจากลานจอดรถทันที
พื้นที่โล่งกว้างมีทุ่งนาห่างออกมาจากตัวเมือง
เจตภพบังคับพวงมาลัยมือเดียวส่วนมืออีกข้างวางบนหน้าขาลูบไปมาผ่านกางเกงยีนของสาวเบาะข้าง ๆ
“เอามือไปจับพวงมาลัยรถดีกว่ามั้ย”
“ออเดิฟน่ะ ถึงปุ๊บจะได้ใส่กันปั๊บไม่เสียเวลาบิ้ว”
“รีบร้อนเกิน”
“คุณรีบกว่าผมอีก แอบไปซื้อถุงยางมาเตรียมไว้ก่อนด้วย” เขายิ้มกริ่มเม้มปากขยี้อดใจรอให้ถึงบ้านพักตากอากาศไม่ไหว พลอยลดากระตุกมุมปากยิ้มเพียงเสี้ยววินาทีแล้วมองไปยังรั้วบ้านปูนสูงบนพื้นที่กว้างใหญ่ จนเมื่อมาถึงรปภ.เปิดประตูรั้วต้อนรับ ภายในมีสนามหญ้ากว้างก่อนถึงบ้านสไตล์ลอฟปูนเปลือยผสมโมเดิร์น
“โห บ้านกลางทุ่งสวยจัง ถึงขนาดสร้างบ้านเชือดสาว หื่นใช่ย่อยเลยนะคุณ”
“ใช่ซะที่ไหนล่ะ นี่เป็นบ้านพักตากอากาศลับส่วนตัวคนนอกไม่ได้เข้ามาที่นี่ง่ายๆ ”
“งั้นฉันก็เป็นคนในล่ะสิ”
“ในใจผมไง”
“แหวะ” พลอยลดาทำท่าจะขย้อนความเลี่ยน เจตภพยักคิ้วอมยิ้มชอบใจแล้วแล่นรถเข้าจอดหน้าบ้านซึ่งมีชายฉกรรจ์สองคนนั่งอยู่ เขาลงจากรถบอกให้ชายฉกรรจ์สองคนเดินไปที่อื่นเพราะไม่อยากให้ลูกน้องเห็นว่าเขาพาใครมาก่อนจะเปิดประตูฝั่งคนนั่งแล้วโน้มลงเชื้อเชิญอ่อนน้อม
“เชิญครับคุณผู้หญิง”
“ลีลาเยอะกับผู้หญิงไปทั่ว”
“ผมทำแค่กับคุณ” สายตาคมวิ้งวับเปี่ยมสุข พลอยลดารีบเบือนหน้าหนีไม่อยากเห็นเสน่ห์ของเขาที่อาจทำให้หลงหัวปักหัวปำเข้าสักวัน
“เร็ว ๆ เหอะ”
“ใครกันแน่ที่ใจร้อน” เจตภพยิ้มร่ารีบเปิดบ้านต้อนรับหญิงสาวที่หมายปองกว่าจะได้แสนยากเย็นจนมาถึงวันนี้ วันที่จะได้แอ้มเธอทั้งตัว
