ตอนที่ 12 โอบกอดตัวเอง
บงกชกับน้ำหวานเดินดูรอบ ๆ ในร้านห้องกระจกและนอกร้านที่เป็นสวนข้างทุ่งนามีคูน้ำไหลรอบพื้นที่
“เห็นไหมแม่หนูบอกแล้วอีพลอยมันยังมีเหลือไม่ได้หมดตัวไม่งั้นจะสร้างร้านใหญ่โตได้ยังไง” น้ำหวานยืนอุ้ยอ้ายมองร้านคาเฟ่ต์ตกแต่งสวยกว้างใหญ่
“อีขี้งกไม่รู้จะหวงเงินไปเงิน” บงกชเบะปากเหยียดเกลียดลูกสาวเมียเก่าสามีที่เป็นคู่แค้นกันมาเกือบยี่สิบปี
ด้านพลอยลดาใบหน้าสวยสดใสหลังจากล้างหน้าลบคราบน้ำตาแล้วแต่งหน้าใหม่กลบเกลื่อนความเศร้าไม่ให้ใครเห็นว่าเธออ่อนแอ
“มากันทำไม!” หน้าสวยขึงขังตาขวางใส่ทั้งสามคนที่แสนจะรังเกียจ
“แหม ก็อยากมาเยี่ยมตัวเงินตัวทองสักหน่อย” บงกชหัวเราะร่วนกับลูกสาวข้างกาย พลอยลดาสูดหายใจเข้าลึกพยายามมีสติอดกลั้นความโมโห
“ฉันไม่มีเงินให้พวกแกไถ ไปซะ”
“ตอแหล ถ้าไม่มีเงินมึงจะมีร้านสวย ๆ แบบนี้ได้ไง!” น้ำหวานกวาดตามองหมั่นไส้พี่สาวต่างแม่ที่โชคดีกว่าทุกอย่างไม่ว่าจะฐานะความสวยแม้กระทั่งผิวยังขาวเนียนใสกว่า ยิ่งทำให้ความอิจฉามันจุกอกอยากให้สามีตัวจับพี่สาวทำเมียจะได้มาเป็นน้อยให้เธอกดขี่แทน
“จะมีไม่มีมันก็ของของ ฉันอย่ามาเรียกร้อง” เสียงหวานกดต่ำแววตาแข็งกร้าวบีบกำมือที่ไขว้ไว้ข้างหลังแน่นเพื่อคลายความกังวล
“พวกกูลำบากพ่อมึงก็ลำบากด้วย!”
“ช่างเขาสิ”
“อีเนรคุณ!” บงกชชี้หน้าตะคอกใส่ลูกติดสามี
“กลับไปซะอย่ามาก่อกวนไม่งั้นฉันจะเรียกตำรวจ”
“จะเรียกตำรวจมาทำไม พวกเราแค่มาเที่ยว ไม่ได้มาก่อความวุ่นวาย” เข้มลากเสียงยียวนก้าวเดินเข้ามาใกล้ทำให้พลอยลดาผวาเพราะภาพจำตอนเกือบถูกข่มขืนมันฝังใจ
“อย่าเข้ามา!” เสียงหวานสั่นเครือเผลอน้ำตารื้นหวาดกลัวให้ฝ่ายตรงข้ามเห็น
“มันกลัวเป็นด้วยวะ ฮ่า ๆ ๆ” เข้มหัวเราะสะใจงอตัวขำท้องแข็งกับแม่และเมีย
“ฉันไม่แจ้งความจับที่แกพยายามจะข่มขืนฉันก็บุญแล้วยังไม่สำนึกอีก!” พลอยลดาเชิดหน้าสู้ทั้งที่รู้สึกแย่อารมณ์ดิ่งขั้นสุด
“ก็แกชอบไง อยากรื้อฟื้นหน่อยไหมล่ะ หื้ม คราวนี้กูได้มึงเป็นเมียแน่” เข้มมองกะลิ้มกะเหลี่ยย่างเท้าเข้ามาใกล้แล้วยื่นมือจะจับหน้าสวยถูกฝ่ามือใหญ่ปัดออกก่อนถึงหน้าพลอยลดา
“จะเอาเมียกู ถามผัวเขายัง” เจตภพเสียงเข้มจ้องตาเขม็งหายใจหอบรีบมาตามที่ปรางส่งข้อความไปบอกว่าพลอยลดากำลังมีปัญหา
“ผัวใหม่หล่อรวยอีกล่ะ” น้ำหวานแค่นหัวเราะกลอกตามองบนพี่สาวต่างแม่โชคดีมีผัวหล่อรวยกว่าเธอเป็นไหน ๆ
“ไสหัวไป อย่าให้ต้องโมโห!”
“แน่นักเหรอวะ!” เข้มฉุนเฉียวถูกตัดหน้าแย่งสาวง้างหมัดพุ่งเข้าไปจะชกหน้าไอ้รูปหล่อ เจตภพคว้าข้อมือเข้มแล้วบิดหักจนเข้มเจ็บปวดร้องโวยวาย
“โอ๊ย โอ๊ย ช่วยกูสิวะอีหวาน!” เข้มเรียกเมียให้ช่วยแล้วง้างหมัดอีกข้างหวังต่อยให้เจตภพเจ็บแต่ไม่ทันจะถึงเข้มก็โดนหมัดของเจตภพซัดเข้าหน้าอย่างแรงเจ็บสะเทือนจนขาทรุดแล้วโดนชกซ้ำเน้นหนักไปอีกสองหมัด
“หยุดนะ หยุด ผัวกูเจ็บ!” น้ำหวานปรี่มาห้ามท้องโตอุ้ยอ้าย เจตภพจึงเกรงว่าจะโดนคนท้องเลยเหวี่ยงเข้มลงสนามหญ้า
“กูจะแจ้งตำรวจจับมึงข้อหาทำร้ายร่างกาย” บงกชตวาดเสียงสั่นมองคนต่อยอย่างหวาด ๆ
“ก็ไปสิ บอกด้วยว่าคนทำชื่อเจตภพลูกชายพ่อเลี้ยงจิรภาส” เท้าหนักก้าวเข้ามาใกล้แววตาแข็งกร้าว แม่ลูกและลูกเขยถึงกับถดตัวหนีรีบพยุงตัวกันขึ้นมาอย่างลนลาน
“กูแจ้งความแน่ มึงรอเลย” บงกชหวาดกลัวช่วยกันประคองลูกเขยหนีทันที เจตภพมองตามแสยะยิ้มเหยียดแล้วนึกถึงพลอยลดา
“ไม่เป็นไรใช่ไหม?” กายหนาปรี่เข้ามาใกล้พลอยลดายืนหน้าซีดตัวแข็งน้ำตารื้นขอบตาแดงผ่าว ทำคนตัวโตใจแป้วยกฝ่ามือหนาประคองหน้าสวยไม่เคยเห็นเธออ่อนไหวมาก่อน
“นายกลับก่อนไปได้ไหม” เธอเบือนหน้าหนีหลบตาลงซ่อนความอ่อนแอ
“เกิดเรื่องแล้วยังจะไล่อีก คิดว่าตัวเองสตรองแก้ไขปัญหาด้วยตัวคนเดียวได้หรือไง”
“ฉันไม่มีอารมณ์ลับฝีปากกับนาย กลับไปก่อน”
“เออ กลับก็ได้อุตส่าห์รีบมาหาเพราะเป็นห่วงยังไม่ดีอีก” เจตภพโวยวายโมโหที่ถูกผลักไสเธอไม่แม้แต่จะแยแสความห่วงใยที่เขามี พลอยลดาใจหวิวน้ำตาร่วงมองเขาเดินไปอย่างสับสน
“แม่งเอ๊ย!” เจตภพฉุนเฉียวพาลเตะใบไม้ที่ขวางทางหงุดหงิดขวางหูขวางตาไปหมด
ภายในห้องครัว
พลอยลดานั่งซุกตัวใต้โต๊ะรู้สึกว่าปลอดภัย คางมนวางซบเข่าโอบกอดตัวเองน้ำตาไหลฝืนทำเข้มแข็งแค่ไหนก็น้ำตาแตกเพราะเรื่องราวเก่า ๆ ที่กัดกินแผลในใจไม่ให้เธอพบเจอกับความสุขเลยสักครั้ง
ย้อนกลับไปในวัยเด็ก
เสียงพ่อแม่ทะเลาะตบตีขว้างปาข้าวของกันในห้องนอน พลอยลดาวัยแปดขวบนั่งร้องไห้มองไข่เจียวและจานข้าวบนโต๊ะแล้วเขยิบตัวมุดใต้โต๊ะอาหารหลังพิงขาโต๊ะชันเข่าแขนเล็ก ๆ โอบกอดร่างกายตัวเองซุกหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นเพียงลำพัง……..
