บท
ตั้งค่า

บทที่ 22 อำพราง

พินัยกรรมฉบับที่ 2

ข้อที่หนึ่ง หากอลิซ อองเตส เซซิล เสียชีวิต ทรัพย์สินทั้งหมดที่ได้รับจากพินัยกรรมฉบับที่ 1มอบให้กับคู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายเป็นผู้ดูแลทั้งนี้ คู่สมรสจะต้องเป็นผู้ที่มาร์ควิสเซซิล อองเตส เซซซิล รับรอง และมีเชื้อสายของตระกูลอองเตส เซซซิลเท่านั้น

ข้อที่สอง อลิซ อองเตส เซซิล จะจดทะเบียนสมรสได้ก็ต่อเมื่ออายุ 20ปีบริบูรณ์ หากจดทะเบียนสมรสก่อนวันที่กำหนด พินัยกรรมฉบับที่ 1 ข้อที่ 1, 3 และ 4 จะต้องถูกนำเข้ามูลนิธิการกุศลทั้งหมด

ข้อที่สาม หากการเสียชีวิตของอลิซ อองเตส เซซิล มีสาเหตุมาจากการถูกฆาตกรรม พินัยกรรมฉบับที่ 1 ข้อที่ 1, 3 และ 4 จะต้องถูกนำเข้ามูลนิธิการกุศลทั้งหมด

ข้อที่สี่ อลิซ อองเตส เซซิล จะต้องมีทายาท ไม่จำกัดเพศหญิงหรือชาย อย่างน้อย 3 คนกับคู่สมรส หากไม่สามารถทำได้ พินัยกรรมฉบับที่ 1 ข้อที่ 1, 3 และ 4 จะต้องถูกนำเข้ามูลนิธิการกุศลทั้งหมด

อนึ่ง หากเจ้าของพินัยกรรมจดทะเบียนสมรสกับคู่สมรส พินัยกรรมทั้งสองฉบับข้างต้นให้ถือเป็นโมฆะ จนกว่าจะมีการเขียนพินัยกรรมขึ้นใหม่ หากเจ้าของพินัยกรรมถึงแก่กรรมก่อนที่จะมีพินัยกรรมฉบับใหม่ ให้ทรัพย์สินฉบับที่ 1 ข้อที่ 1 เป็นของคู่สมรส ส่วนข้อที่เหลือให้ยึดตามพินัยกรรมฉบับที่ 1 และฉบับที่ 2

ลงชื่อมาร์ควิสเซซิล อองเตส เซซิล ที่ 3”

“ถึงกับอึ้งไปเลยอย่างนั้นสิ”มาร์ควิสเซซิลหัวเราะหึๆ ดีดนิ้วเปาะชื่นชมความคิดอันแยบยลของตัวเอง

คีนอซอ่านทวนเนื้อความรอบที่สองแล้วถอนหายใจพรืด พินัยกรรมที่เขียนด้วยสำนวนวกวนน่าปวดหัวฉบับนี้ สรุปแล้วนายท่านก็เขียนขึ้นมาเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดกับตัวเองทั้งสิ้น แถมยังลากเจ้าเด็กทึ่มนั่นเข้ามาติดร่างแหเป็นตัวแปรสำคัญในการสร้างความวุ่นวายขึ้นภายในตระกูลเสียด้วย

กว่าเด็กนั่นจะมีอายุ 20ปี ไม่ต้องพูดถึงการให้กำเนิดทายาท 3 คน ตามเงื่อนไข ใคร...ใครจะมาชอบพอเจ้าเด็กที่ดูเหมือนผู้หญิงก็ไม่ใช่ จะเป็นผู้ชายก็ไม่เชิง ทั้งทื่อทั้งบื้ออย่างหาใครเทียม เฮ้อ...สุดท้ายแล้วนายท่านก็ต้องเขียนพินัยกรรมฉบับใหม่อยู่ดี เพราะกลับไปถึงแคปตอลทาวน์เมื่อไหร่ บรรดาเลดี้ทั้งหลายก็จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเยี่ยมเยียนเหมือนเดิม

นายท่านอาจจะเขียนเล่นสนุกๆ แต่เขาสิ ปวดหัวจนจะระเบิดอยู่แล้ว

“เป็นการเลือกเฟ้นคนดีที่เหมาะสมจะเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของท่านจริงๆ ครับ ลำพังคู่สมรสของท่าน กระผมยังวางใจได้ว่าท่านจะเลือกเฟ้นผู้หญิงที่ดีที่สุดมาเป็นคู่ชีวิต แต่ท่านไม่หนักใจหรือครับ ว่าคนที่เข้าทางอลิซจะเป็นคนประเภทไหน เรื่องการนำลูกบุญธรรมมาเป็นข้อต่อรองเป็นสิ่งที่ดี แต่กระผมว่าท่านควรเลือกเด็กที่ฉลาดทันคนจะดีกว่า”เขาบ่นหากแต่ก็จรดปากกาเซ็นชื่อลงไปแต่โดยดี

“นี่นายอยู่กับอลิซมาร่วมสองสัปดาห์แล้วยังยอมรับเธอไม่ได้อีกหรือ?” มาร์ควิสหนุ่มย้อนถามด้วยดวงตาเป็นประกายประหลาดดึงสมุดบันทึกกลับมาคืนอย่างรวดเร็วเพราะกลัวเจ้าลูกน้องจอมซื่อตรงจะฉีกทิ้ง

“บอกตรงๆ นะครับ กระผมเหนื่อยและรำคาญจนแทบจะร้องไห้อยู่แล้ว แถมยังมีชื่อกระผมอยู่ในพินัยกรรมของท่านอีก ใจคอจะให้กระผมรับศึกสองด้านเลยหรือครับ ได้โปรดให้คนอื่นดูแลอลิซแทนเถอะ”

“ฮ่าๆๆๆ เห็นไหมๆ ขนาดคนที่มีความอดทนสูงอย่างนายยังแทบจะทนไม่ได้ แล้วพวกญาติๆ ของฉันจะทนได้เรอะ! นี่เป็นวิธีการที่ฉันจะได้เห็นธาตุแท้ของทุกคนอย่างแท้จริง ฉันมีหลานชายหลายคน ดีบ้างเลวบ้าง แต่พวกเขาต้องได้รับการพิสูจน์ว่าจะสามารถรักษาความรุ่งเรืองของตระกูลเราไว้ได้ ที่สำคัญ พินัยกรรมฉบับนี้คงทำให้สถิติการถูกลอบสังหารของฉันลดลงได้บ้าง จะได้มีเวลาช่วยงานคิงอย่างเต็มที่”

“เหตุใดพระเจ้าเฮนรี่จึงทรงเชื่อว่าเจ้าชายอเล็กซานเดอร์ยังมีชีวิตอยู่ล่ะครับ ในเมื่อพิธีฝังพระศพวันนั้น พวกเราเห็นมากับตาว่าเจ้าชายสิ้นพระชนม์ไปแล้วจริงๆ” เมื่อเจ้านายเปลี่ยนเรื่อง คีนอซก็คร้านจะใส่ใจปัญหาภายในครอบครัวของมาร์ควิสหนุ่มอีก

“ท่านพี่...ทรงรักเจ้าชายมาก อายุยี่สิบก็ได้รับการสถาปนาเป็นรัชทายาทแล้ว ฉันมีโอกาสได้เข้าเฝ้าเจ้าชายอยู่สองครั้ง ทรงเป็นบุคคลที่เฉลียวฉลาดและรักประเทศของเรามากทีเดียว ท่านพี่...ได้มอบตราประทับสำหรับผู้ที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ต่อไปให้กับเจ้าชาย ตราประทับนั้นมีศักดิ์และสิทธิ์เหนือน่านน้ำทั้งหมดและสำคัญมากต่อธุรกิจการค้าของประเทศ ดังนั้น...ผู้ที่ลอบปลงประชนม์เจ้าชาย ควรจะได้ตราประทับนั้นไปแล้ว แต่หน่วยข่าวกรองของเรายืนยันว่ายังไม่มีฝ่ายใดเคลื่อนไหว แสดงว่าตราประทับนั้นยังอยู่กับเจ้าชาย และพระองค์ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ที่ไหนสักแห่ง”

“แต่เราไปสืบดูที่คฤหาสน์ท่านดยุคแล้วไม่พบนี่ครับ หากท่านดยุคซ่อนพระองค์ไว้ก็น่าจะมีพิรุธบ้าง”

“โอกาสที่จะหาตัวพระองค์พบมีน้อยมาก อย่าลืมว่าเวลามันผ่านมานานพอสมควร แม้แต่ฉันเองก็ยังไม่เชื่อว่าเจ้าชายจะยังพระชนม์ชีพอยู่ หากมีจริงพระองค์ก็คงไม่ไว้ใจใครอีกแล้ว และถ้าหากท่านดยุคอยู่เบื้องหลังการลอบปลงพระชนม์ พระองค์จะต้องสงสัยเราเช่นกัน ขั้นแรก จึงต้องสืบให้ได้ว่าท่านดยุคข้องเกี่ยวกับแผนการร้ายนั่นหรือไม่ ถ้าเราพิสูจน์ความจริงได้ หากเจ้าชายยังพระชนม์ชีพอยู่ก็จะปรากฏพระองค์ออกมาเอง แต่หากพระศพในหลุมนั้นเป็นพระองค์จริงๆ อย่างน้อยก็ถือว่าเราได้กระชากหน้ากากขบวนการบ่อนทำลายชาติ เฮ้อ! ตั้งใจจะไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาแท้ๆ กลับเจอเรื่องยุ่งๆ เสียได้”

“หากท่านคิดเรื่องอลิซให้จริงจังเช่นนี้ก็คงดี” คีนอซไม่วายวกเข้ามาแขวะเจ้านายในเรื่องเดิมเขามองนาฬิกาข้อมือแล้วขยับตัว ใกล้จะได้เวลาอาหารเย็นแล้ว เขาต้องไปรบราฆ่าฟันกับเด็กนั่นต่อ

“อีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเคิร์ซ รถไฟจะจอดพักที่นั่นหนึ่งชั่วโมง เดี๋ยวพวกเราลงไปหาอะไรกินกัน” มาร์ควิสหนุ่มกำชับ

คีนอซเดินกลับไปยังตู้นอนของตัวเอง ทว่ายังไม่ทันจะเคาะประตูเป็นรหัสลับ จมูกที่ไวต่อสัมผัสก็ได้กลิ่นอะไรบางอย่าง

กลิ่นสาบ?

เขาหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาต้นตอของกลิ่น เขาแน่ใจว่าเป็นกลิ่นสาบของสัตว์ กลิ่นจางๆ ที่ไม่รู้ว่าอยู่ใกล้หรือไกลกันแน่

กฎของรถไฟห้ามมิให้นำสัตว์เลี้ยงขึ้นมา เป็นไปได้ว่ากลิ่นอาจจะติดมากับเสื้อผ้าของเจ้าของ และลางสังหรณ์กลับทำให้เขานึกถึงสุนัขป่าสีขาวปลอดตัวนั้น

ภาพศพจากหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นมีบางอย่างผิดปกติ ศพถูกพบบริเวณชะง่อนผาที่ยื่นออกมาคล้ายถูกยิงและนำไปทิ้งไว้มากกว่าจะถูกยิงตกลงไปเองเพราะไม่มีรายงานเรื่องกระดูกหัก สองคนนั้นวิ่งตามสุนัขป่าตัวนั้นเข้าไปในป่าที่ลึกมากๆ เพื่ออะไร หากไม่ใช่เพราะถูกล่อไปยิงทิ้ง

เหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้น ตั้งแต่ได้เจออลิซ ถึงมันจะไม่มีเจตนามุ่งร้ายต่อชีวิตของพวกเขา แต่ผู้ที่อยู่ในที่สว่างก็มักจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเสมอ

เขากวาดสายตามองรอบๆ อีกครั้ง เมื่อไม่เห็นสิ่งผิดปกติอันใด นอกจากผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่เดินออกจากตู้นอนไปเข้าห้องน้ำบ้าง ไปที่ตู้อาหารของรถไฟบ้าง เขาก็ไขกุญแจเข้าไปแล้วงับประตูลงอย่างเงียบเชียบโดยไม่กด ล็อกลูกบิด

ชายหนุ่มหยุดฝีเท้าอยู่ที่หัวเตียงของเธอ มองอลิซที่นอนเหยียดอยู่ใต้ผ้าห่มแล้วค่อยๆ หยิบหมอนหนุนของตัวเองขึ้นมา

ก่อนจะลดระดับลงอย่างช้าๆ แล้วกดมันลงกับใบหน้าของเธอจากนั้นก็ออกแรงกดลงไปเพื่อหยุดลมหายใจของเธอเสีย!

“อี๊!” ไม่นานนักร่างของเด็กสาวกระตุกเฮือก สองมือไขว่คว้าหาที่ยึดเหนี่ยวเพราะขาดอากาศหายใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel