บทที่ 20 กลลวง
“รู้ไหม..ว่าทำไมฉันถึงเลือกเขา” ดยุคดาร์มินผู้เป็นบิดามองบุตรชายด้วยสายตาหยามเหยียดชัดแจ้ง “มาร์ควิสเซซิลเป็นผู้ที่มีความมั่งคั่ง ทรัพย์สินของเขามีมากกว่าเราไม่รู้กี่เท่า ฉากหน้าเขาคือนักรัก เพลย์บอย หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป็นภาพลักษณ์ทางลบ น้อยคนนักที่จะรู้ว่า เขาเป็นเจ้าของสถานสงเคราะห์และมูลนิธิการกุศลหลายแห่ง อยู่เบื้องหลังการเลือกตั้งผู้แทนในสภา เป็นที่ปรึกษาทางการทูตของราชวงศ์ เป็นที่ปรึกษาทางทหารของกองทัพ นี่เป็นอำนาจและขุมพลังที่คริสไม่มี และทั้งๆ อย่างนี้ เขายังพอใจที่จะไปนอนกลางดินกินกลางทรายอยู่แถวชายแดนกับฉัน แกคิดว่าฉันควรจะปล่อยให้คนอย่างนี้หลุดมืออยู่หรือ?”
“ลูกจะพยายามอีกครั้ง” เคาท์ดาโก้กำหมัดแน่น หากจับมาร์ควิสหนุ่มไม่สำเร็จ มาร์กาเร็ตภรรยาของเขาอาจตกอยู่ในอันตราย ถึงบิดาจะให้แต่งกับหล่อนเพื่อผลประโยชน์ แต่เขาก็รักหล่อนจริงๆ
“แกตามสืบเรื่องมือปืนลึกลับนั่นให้สำเร็จก่อนเถอะ ฉันกลัวจริงๆ ว่าไอ้มือที่สามนี้จะเป็นศัตรูเก่าของเรา”
“ครับท่านพ่อ!”เคาท์ดาโก้รับคำหนักแน่น รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมปรากฏขึ้นและจางหายอย่างรวดเร็ว
“ผมต้องขอโทษที่กลับแคปตอลทาวน์โดยไม่ทันล่ำลาเพราะมีเรื่องด่วนต้องจัดการ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวแล้ว จึงอยากเชิญคุณมาพักผ่อนที่คฤหาสน์ หวังว่าคุณคงจะไม่ปฏิเสธ และกรุณาแจ้งให้ผมทราบถึงวันเดินทางของคุณ
มาร์ควิสเซซิล”
เกว็น ซิมมอนส์ คลี่จดหมายออกอ่านด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แววตาที่ทอประกายเย่อหยิ่งอยู่เสมอฉายฉัดถึงความภาคภูมิใจ
ในที่สุด เขาก็เป็นฝ่ายติดต่อมาก่อน ดีเหลือเกินที่เธอไม่วิ่งตามเขาตามคำสั่งของท่านพ่อ ไม่อย่างนั้นศักดิ์ศรีของสตรีอันดับหนึ่งคงจะถูกทำลายไปแล้ว
เธอฮัมเพลงเบาๆ อยู่ในลำคอ ใส่กระดาษเปล่าลงบนเครื่องพิมพ์ดีด แล้วเริ่มพิมพ์ข้อความตอบกลับอย่างคนที่มีศักดิ์เท่าเทียมกัน
หากมิใช่บุคคลในครอบครัว จดหมายจะถูกพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีดซึ่งถือเป็นการให้เกียรติผู้รับ หน้าซองที่ประทับตราแบบด่วนพิเศษส่งมาจากแคปตอลทาวน์แสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจและร้อนใจเพียงใด
“ตารางงานของฉันค่อนข้างจะยุ่งเหยิงทีเดียว แต่คงไม่ดีแน่หากต้องปฏิเสธคำชวนของคุณ ฉันจะออกเดินทางในสัปดาห์หน้าหวังว่ามันจะเป็นช่วงเวลาที่ดี
เกว็น ซิมมอนส์”
เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ไม่มากไม่น้อยจนเกินงาม ทั้งเธอและเขาต่างก็ไม่เคยต้องไล่ตามใครมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกและเธอต้องเป็นฝ่ายชนะเท่านั้น
“เอาไปส่งที่ไปรษณีย์ อย่าเพิ่งให้ท่านพ่อเห็นนะ” เธอพับจอหมายแล้วยื่นให้คนสนิท
“ด่วนไหมคะ?”
“ลงทะเบียนก็พอ อ้อ! ชุดที่จะใส่ไปงานเลี้ยงคืนนี้เรียบร้อยดีไหม?”
“เรียบร้อยดีค่ะ”
“อืม” เธอรับคำอย่างพอใจ แล้วพาร่างระหงออกจากห้องนอนอย่างร่าเริง
ที่จริงแล้วเธอไม่จำเป็นต้องมางานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของเพื่อนสมัยเรียนไฮสกูลรุ่นเดียวกันก็ได้ เพราะอีกฝ่ายเป็นเพียงลูกสาวของคหบดีฐานะค่อนข้างดีคนหนึ่ง หาได้มีเชื้อสายของเชื้อพระวงศ์แม้เพียงกระผีก แต่การจะกลบข่าวลือเรื่องที่เธอถูกมาร์ควิสเซซิลเมิน จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีข่าวลือใหม่เข้าไปแทนที่ และเธอก็จะต้องทำให้ผู้หญิงขี้นินทาทั้งหลายกระอักเลือดด้วยความอิจฉา
ยามเมื่อสตรีผู้งดงามเป็นที่หนึ่งปรากฏตัว ความโดดเด่นนั้นย่อมตกเป็นเป้าสายตาทุกคู่ที่มีทั้งชื่นชม หมั่นไส้ เกลียดชัง และริษยา ทว่ายังมีสายตาเฉยชาอีกคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเธอเช่นกัน
เธอยืนอยู่ในสนามท่ามกลางหิมะโปรยปรายใต้ร่มสีขาวที่กางไว้สำหรับแขกเหรื่อ ส่วนเขานั่งอยู่ใต้เงามืดของต้นไม้ที่ๆ ถูกจัดไว้เฉพาะ บนโต๊ะมีเพียงแชมเปญที่พร่องไปแล้วแก้วหนึ่ง
เมื่อไม่เห็นว่ามีอะไรน่าสนใจแล้ว เขาก็ลุกขึ้น จากนั้นชายร่างหนาก็เดินเข้ามาประกบ
“อีกสามวันเราจะไปเมวิล”
“ไม่ขึ้นรถไฟไปพร้อมกับเธอหรือพะยะค่ะ” ลอร์ดคาวารอนยื่นไม้เท้าให้พร้อมกระซิบถาม เขาเองก็เดินปะปนอยู่ในงานและได้ยินพวกสาวๆ พูดคุยเรื่องของเกว็นและมาร์ควิสเซซิลอย่างสนุกปาก
“ไม่มีความบังเอิญในครั้งที่สอง เมวิลเป็นเมืองเล็กๆ เหมาะกับการลงมือ เราอยากจะดูปฏิกิริยาของท่านอาสักหน่อย”น้ำสียงนั้นยังคงราบเรียบไร้ระลอกคลื่น เช่นเดียวกับจังหวะการก้าวเดินที่ไปอย่างช้าๆ แต่มั่นคง
“นึกว่ากระหม่อมคิดไปเองคนเดียวเสียอีกว่าเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากล”ลอร์ดผู้ภักดียิ้มอย่างปลื้มปริ่ม
มาร์ควิสเซซิลไม่ได้ขึ้นรถไฟ หรือต่อให้ใช้เส้นทางลัดเพื่อไปขึ้นที่สถานีเมวิล ก็ไม่มีทางไปถึงแคปตอลทาวน์ภายในหนึ่งสัปดาห์แน่นอน มีแนวโน้มว่าจดหมายฉบับนั้นจะถูกจัดฉากขึ้นมา
แต่จะมาจากฝ่ายไหน?
ดยุคดาร์มินที่ต้องการขายลูกสาวตัวเองหรือมือที่สามที่ต้องการสร้างสถานการณ์?
จะอย่างไรก็ตาม โชคได้เข้าข้างพวกเขาแล้ว ดยุคดาร์มินที่บังอาจลอบปลงพระชนม์รัชทายาทอันดับหนึ่งและอยู่เบื้องหลังการโค่นล้มราชวงศ์ จะต้องถูกแก้แค้นอย่างสาสม
เจ้าชายอเล็กซานเดอร์ไม่ได้ตอบคำใดๆ กลับมาอีก เขาเชื่อมั่นในตัวมาร์ควิสเซซิลผู้มีศักดิ์เป็นอามาโดยตลอด ทว่าความเชื่อมั่นอย่างเดียวมันยังไม่พอ เขาจะต้องทำให้มาร์ควิสหนุ่มเลือกข้างให้ได้
ในสนามรบ คนอย่างท่านอาไม่ควรวางตัวเป็นกลาง หากเลดี้เกว็นไม่มีค่าควรแก่ตระกูลเซซิล เช่นนั้นเธอก็เหมาะกับการเป็นชนวนของความแตกร้าว
กึง! กึง! กึง!
หวูดดดดดด
รถไฟไอน้ำโยกคลอนไปมาขณะออกจากชานชลาที่เมวิล พวกเขาจองตู้นอนสองตู้ในขากลับเพื่อไม่ให้คนอื่นผิดสังเกต ทั้งยังจะได้ตบตาคนที่แอบตามพวกเขามาตลอดทางด้วย
แม้ว่ากลิ่นของสุนัขป่าจะหายไปแล้ว แต่การสับขาหลอกจะต้องดำเนินต่อไปจนกว่าจะถึงแคปตอลทาวน์ ดังนั้นในห้วงหนึ่งสัปดาห์ที่อยู่บนรถไฟ ถึงอีกฝ่ายจะไม่ได้หมายเอาชีวิตของพวกเขา แต่ก็ไม่อาจวางใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าพวกเขาจะปลอดภัย
“ทำไมท่านต้องให้อลิซไปนอนอยู่ตู้เดียวกับกระผมด้วย กระผมมีหน้าที่ต้องอารักขาดูแลความปลอดภัยของท่าน หากเกิดอะไรขึ้น...”
“พอๆๆๆ” มาร์ควิสเซซิลโบกมือส่งสัญญาณให้คีนอซเลิกบ่น ซ้ำยังทำน้ำเสียงจริงจังผิดกับสีหน้าที่แทบจะปิดบังความโล่งใจไว้ไม่มิด
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันดูแลตัวเองได้ นายเองก็ควรจะได้นอนพักผ่อนเต็มที่ ดีกว่านั่งสัปหงกทรมานตัวเอง อีกอย่างตู้ของฉันกับตู้ของนายก็อยู่ห่างกันแค่แปดก้าว นายอย่าห่วงไปเลยน่า”
“กระผมยอมนั่งหลับอยู่หน้าประตู ดีกว่าต้องอยู่ตามลำพังกับเด็กนี่” คีนอซพูดอย่างไม่ถนอมน้ำใจคนฟังเลยสักนิด ยิ่งหัวเสียขึ้นไปอีกที่เธอเอาแต่จ้องมองพวกเขาตาแป๋วคล้ายไม่รู้ว่าตัวเองคือตัวปัญหาและไม่ถือสาถ้อยคำแสดงความรำคาญของพวกเขา
อย่างน้อย...เธอก็ควรจะทำหน้าสลดให้เขารู้สึกผิดในใจบ้าง อย่างน้อย...ก็ให้เขาได้เห็นถึงพัฒนาการด้านการตอบสนองของเธอ ไม่ใช่ยืนทื่อเป็นตุ๊กตา มีคนถือมีดมาฆ่าก็ยังไม่รู้สึกตัวแบบนี้
“ทำไม...อลิซว่าง่ายออกจะตาย นายก็บอกให้เธอนอนอย่างเดียวก็สิ้นเรื่อง”
“กระผมไม่เคยอยู่ตามลำพังกับผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่พิสซิลล่า” เขายกชื่อคนรักขึ้นมาอ้าง
“หา! คนรักของนายที่เคยเดทกันเพียงครั้งเดียว แล้วก็มีโอกาสได้เจอกันเพียงปีละครั้งนั่นน่ะหรือ?” มาร์
ควิสหนุ่มทำหน้าไขสือ ที่จริงนั่นไม่อาจเรียกว่าคนรักหรือคู่ควงได้เลยด้วยซ้ำ
“แต่กระผมจริงจัง”
“นายไม่รู้จักความรักด้วยซ้ำ ในขณะที่ฉันต้องการแสดงความรักทุกวัน นายคงไม่อยากให้อลิซเห็นตอนที่ฉันกำลังฟิทเจอริ่งกับสาวๆ หรอกใช่ไหม?”
