ep 8
“เจ้านาง เวทนาแม่หญิงผู้นี้ บ่รู้จักชีวิต บ่รู้จักผู้ชาย”
“นางยังต้องผจญกรรมอีกมาก ด้วยความบ่รู้ของนาง แต่วันหนึ่งนางจะต้องนำพาข้าไปสู่การหลุดพ้น”
“เจ้านางจะลี้ไปจากที่นี่ได้เยี่ยงใด เราถูกจองจำอยู่ที่นี่”
“เอ็งอย่าได้สู่รู้ มากไปกว่าข้า ข้ารอสายใยของข้ามากี่ชาติ กี่ภพ ครั้งนี้ข้าบ่ยอมให้พลาดอีก”
ผู้เป็นบริวารค้อมตัวลงต่ำ สีหน้าหนักใจ คิดไม่ตกว่า ต้องทำอย่างใด เจ้านางของนางจะออกไปจากบริเวณที่ถูกจองจำนี้ได้
“ทองพระบาทของข้า จะถูกนำมาเร่ขายวันพรุ่ง หากมันผู้นี้ได้ทองพระบาทของข้า ยามนั้นข้าจักมีหนทาง”
“เจ้านางน้อย ดลใจให้นางบ่ได้ฤๅ”
“ทองพระบาทของข้า มีอำนาจของข้าแฝงไว้ หากบ่มีสายใยแห่งกรรมร่วมกัน ข้าก็บ่อาจดลใจให้ผู้ใดได้ดอก เอ็งบ่รู้หรือว่า ข้ามันก็แค่สัมภเวสี บ่ต่างจากคนทั่วเวียงนี้ที่รอไปเกิด”
เสียงนั้นขมขื่น คนทั่วเวียงรอเกิด แต่นางกรรมหนักนัก บ่เคยได้เห็นแสงสว่างที่จะหลุดพ้นไปจากการจองจำนี้เลย
“เจ้านาง ท่านเห็นสายใยในตัวแม่หญิงผู้นี้ แม่หญิงผู้นี้ย่อมได้ทองพระบาทของเจ้านางน้อย”
“สายใยบางเบา ข้าก็หวังมาหลายชาติ หลายภพ ครานี้ ข้าจักอธิษฐานต่อพระธาตุพูสี จักขอให้สายใยบางเบานั้น ได้ทำข้าพ้นจากการจองจำนี้เสียที”
บุญของนาง เมื่อครั้ง พระเจ้าอนุรุท เจ้าเวียงรุ่นหลังได้ก่อสร้างพระธาตุขึ้นบนภูสรวง นางได้ร่วมอนุโมทนา แม้มิมีกายสังขาร ทำให้นางได้กินผลบุญแห่งการอนุโมทนานั้น นางจึงเห็นสายใยเชื้อสายของนาง บางเบา นางพยายามจับเกาะไปกับสายใยนั้น แต่ครั้งแล้วครั้งเล่า นางก็มิเคยทำสำเร็จ นางถูกจองจำอยู่ที่นี่ เวียงเชียงทอง
................................
“คุณคะ คุณคะ” ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงปลุกอย่างเกรงใจนั้น ปฏิบัติตามหน้าที่ จากที่คนเข้าพักของโรงแรม ระบุว่า ให้ขึ้นมาปลุกเพื่อตักบาตรเช้า พร้อมทั้งมาส่งชุดที่ส่งซักรีด เป็นชุดใหม่เอี่ยมจากร้านที่อยู่บนถนนสายเดียวกันนี้
เกศมณี สะลึมสะลือเดินมาเปิดประตูห้อง แม้จะเหนื่อยเพลีย แต่เธอก็ไม่เคยเอาอารมณ์นั้นมาเหวี่ยงกับคนอื่น เธอยิ้มรับกับหญิงสาวหน้ากลมแป้น ที่สวยสะอาดในแบบของคนหลวงพระบาง ร่างเล็กๆ นั้นดูคล่องแคล่วกับงานที่ทำ ชุดสวยถูกรีดเรียบพร้อมใส่ และเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งที่ใส่มากับไม้แขวน ก็ทำให้อดคิดถึงคนตัวโตไม่ได้
“พระบิณฑบาตกี่โมงจ๊ะ”
“รีบหน่อยนะเจ้า อีกประเดี๋ยวก็จะมาแล้ว ข้าเจ้าเตรียมชุดตักบาตรไว้ให้แล้วด้านล่าง”
“ขอบใจจ้ะ”
เกศมณีรีบทำธุระของตัวเองอย่างรวดเร็ว แล้วสวมชุดที่ซื้อใหม่ ผมยาวปล่อยทิ้งตรงลงมา ดูไม่เหมาะกับชุดซิ่น เธอจึงม้วนตลบไปเกล้ามวยให้ปิ่นที่ซื้อมาพร้อมกับชุดเสียบรัดไว้ เท่านี้ เกศมณีก็กลายเป็นสาวหลวงพระบางที่สวยสง่าได้อย่างน่าอัศจรรย์
“ส้มโอ พระละจ๊ะ “เกศมณีลงมาที่ลานฟุตบาตรหน้าร้าน
“ไปแล้วจ๊ะ ข้าเจ้านึกว่าคุณเปลี่ยนใจเห็นบ่ลงมาจักเตื้อ”
“ฉันก็รีบที่สุดแล้ว”
เกศมณีบ่นกับตัวเอง ครั้งนี้เธอรีบที่สุดแล้วจริง ๆ ใบหน้างามไม่ได้ตกแต่งอะไรเลย นอกจากแป้งฝุ่น เพราะถ้าเธอบรรจงแต่งหน้า ป่านนี้ก็ยังไม่ต้องลงมาหรอก
“ข้าเจ้า บอกคุณไปเมื่อสักเกือบชั่วโมงที่แล้ว ข้าเจ้าขอโทษที่บ่ได้ไปเอิ้นคุณอีก”
เกศมณีชะงัก เวลาที่เธอคิดว่ารีบที่สุดนั้น ใช้เวลาถึงเกือบชั่วโมง ถ้าเช่นนั้น เธอก็ยังรีบไม่พอ
“ช่างเถอะจ๊ะ ขอบใจหลาย พรุ่งนี้ก็ได้ ฉันจะรีบกว่านี้”
“เจ้า”
เกศมณี ยิ้มปลงกับตัวเองว่า เห็นที่จะต้องปรับตัวให้ตื่นเช้ากว่านี้ อยากตักบาตรเหมือนอย่างในรูป รอยยิ้มใสนั้นเกลื่อนไปบนใบหน้างาม เมื่อมองดูผู้คนที่ทยอยเดินกลับที่พัก หลังเสร็จสิ้นการตักบาตรข้าวเหนียว ที่ถือเป็นกิจกรรมของนักท่องเที่ยวที่จะขาดเสียมิได้ ในขณะที่สายตามองผ่านนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตา เกศมณีก็สะดุดอยู่กับร่างผู้ชายสูงใหญ่คนเดิม ที่ยืนยิ้มอยู่ฝั่งตรงข้าม
วัชรกร ลอบสังเกตเธอมาตั้งแต่ เธอวิ่งลงมาจากถามเด็กในร้าน ขณะที่เขาตักบาตรอยู่ตรงนี้ ก็เฝ้ามองหาเธออยู่ เขาเชื่อว่าเธอน่าจะพลาดกับการตักบาตรเช้า เพราะไม่เห็นวี่แววของเธอปรากฏ จนกระทั่งพระเดินกลับเข้าวัดหมดนั่นแหละ จึงเห็นเธอปรากฏกาย ใบหน้าใสที่ปราศจากเครื่องสำอางนั้น งดงามหมดจด ริมฝีปากชมพูระเรื่อนั้นชวนมองจนไม่อยากละสายตา ยามเธอยิ้ม ก็เหมือนทำใจเขาให้ละลายไปกับเสน่ห์อันเย้ายวนอย่างใสซื่อนั้น
ไม่ทันที่วัชรกรจะทันได้ตั้งตัว เจ้าของรอยยิ้มนั้นก็ยืนอยู่ตรงหน้า
“คุณพล”
“เอ่อ ครับ คุณเกศ ตื่นไม่ทันพระ หรือครับ”
“เกศก็รีบที่สุดแล้วค่ะ เกศพักอยู่ฝั่งตรงข้ามนี่เองค่ะ”
“ครับ” วัชรกรตอบคำอย่างไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี
“เชิญคุณพล ทานอาหารเช้ากับเกศก่อนซิคะ ด้านล่างโรงแรมนี่ล่ะค่ะ เดี๋ยวเกศขี้นไปเอาเสื้อมาคืนให้คุณ”
“เรื่องเสื้อ เอาไว้ก่อนก็ได้นะครับ ถ้าคุณไม่รังเกียจ ผมจะพาคุณไปทานอาหารเช้าสุดฮิตของหลวงพระบาง”
“ยินดีเลยค่ะ คุณพล นำไปเลยค่ะ” เสียงร่าเริงเหมือนเด็กได้ของเล่นถูกใจนั้น ทำให้วัชรกรอารมณ์ดีขึ้นมาทันที ร่างสูงโปร่งกับชุดซิ่นแบบหลวงพระบาง ทำให้เขาที่ใส่เสื้อพื้นเมืองของคนที่นี่เข้ากันได้ดี เหมือนเจ้าหญิงกับข้ารับใช้ เจ้าหญิงผู้เก็บงำเรื่องเจ็บปวดในใจไว้อย่างมิดชิด และข้ารับใช้ที่กำลังฝังอดีตเพื่อต้อนรับใครสักคนเข้ามาลบเลือนรอยแผลฝังใจ
