มายามหาเทวี

66.0K · จบแล้ว
จุติศร
46
บท
1.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

นางเก็บสมบัติของแม่ไว้ที่ข้อเท้า จึงย่างก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ แต่ทองพระบาทคู่นี้ ก็คือห่วงคล้องกรรม ที่ทำให้นางมิอาจหลุดพ้นในอำนาจ ------------- เมื่อกรรมที่เคยก่อร่วมกันนั้นนำพาให้ "เกศมณี" และ "พล" ได้ร่วมทางในครั้งไปหลวงพระบาง เหตุการณ์ควรสิ้นสุด ณ จุดที่แยกย้าย แต่สองคนที่ไม่เคยรู้จักกันกลับต้องวิบากร่วมกันอีกครั้ง ด้วยสายใยที่เชื่อมโยงจาก "พระนางแก้วเกดสี" มหาเทวีผู้ยิ่งใหญ่แห่งเวียงเชียงทอง พระนางใช้ทองพระบาทเป็นสื่อ เพื่อให้เกศมณีนำดวงจิตพระนางไปพบกับ "แสน" หรือเจ้าพระยาสามแสนไทไตรภูวนาถฯ เจ้าหลวงแห่ง เวียงเชียงทองในอดีต เพื่อขออโหสิกรรมในสิ่งที่เคยล่วงเกิน มหาเทวีเคยใช้อำนาจสร้างกรรมกับบุคคลมากมาย ด้วยความเข้าใจว่าพระนางได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุด ให้กับเวียงเชียงทอง ด้วยสายเลือดขัตติยะแห่งพระบิดา "เจ้าฟ้างุ่ม" กษัตริย์ผู้มิเคยพ่ายศึกใดในการสงคราม รบชนะทั่วทุกเขตคาม เพื่อขยายอาณาจักรให้กว้างใหญ่ไพศาลกำนัลแด่ "พระนางแก้วเก็งยา" พระราชมารดาแห่งมหาเทวี เหตุนี้พระนางจึงมีใจฝักใฝ่อำนาจอยากทำให้เวียงเชียงทองยิ่งใหญ่ไม่ต่างกับตอนที่พระราชบิดายังครองบัลลังก์เวียงเชียงทอง ความรักความแค้นที่ก่อเกิดขึ้น ในวังวนนี้ยังมีอีกมากมาย มายาต่างๆ ที่เหล่ามนุษย์ทั้งหลายต่างหลงใหลนั้นก็อีกมากมี ท้ายที่สุดแล้วเรื่องราว จะลงเลยอย่างไรติดตามกันต่อได้ใน "มายามหาเทวี"

นางเอกเก่งดราม่าข้ามมิตินิยายย้อนยุคนิยายประวัติศาสตร์

ep 1

หญิงสาวร่างสูงโปร่ง ก้าวลงจากรถแท็กซี่ที่แล่นเข้ามายังลานจอดส่งผู้โดยสารสายเหนือ เธอวางกระเป๋าเป้ใบใหญ่ไว้ที่พื้นพลางขยับแว่นตากรอบโตที่บังใบหน้าเรียวงามไว้ครึ่งหน้า ผมยาวตรงหนาถูกรวบเป็นหางม้าไว้ที่กลางกระหม่อม ยามที่เธอสะบัดหน้าหันไปทางซ้ายที ขวาที ปลายผมจะสะบัดไปมา ทำให้หนุ่มบ้างแก่บ้างที่ยืนเชียร์ขายตั๋วรถโดยสาร กวักมือเรียกเธอให้เข้าไปหาอย่างจ้าละหวั่น บางคนทำตามหน้าที่ ที่เรียกลูกค้าให้ซื้อตั๋วตามปกติ แต่บางคนก็ซ่อนความคึกคะนองไว้ ยามที่เจอสาวร่างปราดเปรียวเช่นนี้ยืนคว้างอยู่กลางลาน

“อยู่ไหน” เสียงพูดที่กรอกลงไปในโทรศัพท์บ่งบอกถึงความไม่พอใจชัด

“เกศ รอสักครู่ผมกำลังจะไปถึงแล้ว” เสียงปลายสายทอดเสียงอย่างไม่รู้สึกอะไรมากมาย กับการรอคอยของคน คนหนึ่ง

หญิงสาวตัดสินใจยกเป้ขึ้นสะพายบ่า อย่างนักท่องเที่ยวแบคแพคที่ทำกันปกติ เธอเดินฉับ ๆ ไปที่ช่องขายตั๋ว

“เชียงของ ๑ ที่ค่ะ”

“ทันเที่ยวสุดท้ายพอดีเลยค่ะคุณ เดินทางปลอดภัยนะคะ”

ใบหน้างามหยักยิ้มที่มุมปาก นึกสมเพชตัวเอง เดินทางคนเดียวจะเป็นไรไปเล่า ไอ้ที่คาดหวังจะล่องน้ำโขงแบบสบาย ๆ กับคนรู้ใจ ที่เคยวาดหวังกันก่อนหน้านี้ เมื่อไม่ได้เป็นไปดังแผนที่วางไว้ เธอก็ไม่แคร์

เธอบอกตัวเองว่า ตัดสินใจถูกแล้วที่ซื้อตั๋วใบเดียว นั่งคนเดียว บนรถเที่ยวสุดท้ายที่จะไปเชียงของ แม้ว่ารถจะเสียเวลาเล็กน้อยเมื่อต้องรอใครบางคนที่จองตั๋วแล้วมาล่าช้าไปเกือบสิบนาที ซึ่งเธอคาดหวังว่าจะเป็นเขา แต่ไม่ใช่ เป็นชายหนุ่ม แต่ไม่ใช่เขา

ไม่มีเสียงโทรศัพท์กลับมาหาเธอ หลังจากที่เธอโทรศัพท์หาเขาก่อนที่จะซื้อตั๋ว และจนกระทั่งบัดนี้ ก็ยังไม่มีเสียงโทรศัพท์ดังเข้ามารถบัสโดยสารเคลื่อนออกจากชานชาลา หญิงสาวเอนหลังลงพนักพิงหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน บริเวณด้านข้าง เป็นหญิงสาววัยรุ่นนั่งอยู่ด้วย ก็ยังดีที่ไม่ใช่ ชายขี้เมาสักคน รถทางไกลเปิดวิดีโอหนังไทยเรื่องหนึ่ง หลังจากเปิดรายงานแสดงตลกที่ไม่ตลกจบไปแล้วตั้งแต่เธอนั่งอยู่บนรถ เพื่อ รอ.... เธอเหลือบตามองดูว่า น่าสนใจพอที่จะดูหรือไม่

“ชั่วฟ้าดินสลาย” เฮ่อ! หนังเรื่องโปรดที่เธอขอให้เขาพาไปดูในโรงเมื่อไม่นานมานี้ วันนี้เป็นหนังแผ่นให้ดูฟรีๆ ในรถเสียแล้ว

“เกศก็ดูเอาเถอะ มันไม่มีหรอก ใครที่รักกันชั่วฟ้าดินสลาย เอาเข้าจริงๆ มันก็รักแต่ตัวเอง”

“คุณศักดิ์ คิดอย่างนั้นหรือคะ”

“หนังเขาก็บอกอยู่แล้วชัดเจน ไม่เห็นต้องคิดอะไรมากนี่ครับ”

“ใช่ค่ะ หนังมันก็บอกอยู่แล้ว อย่างชัดเจน ว่าผู้ชายยังไงมันก็เห็นแก่ตัว”

“อ้าว อย่าพาลซิจ๊ะ คนดี มันก็แค่ในหนัง”

ฮึ! หนังมันก็จำลองมาจากเรื่องจริงนั่นแหละ

สองเดือนก่อน เธอบอกกับเขาว่า เธอมีแผนจะไปหลวงพระบาง เขารับคำมั่นเหมาะว่า เขาจะไปด้วย เขาจะไม่มีวันปล่อยเธอไปคนเดียวอย่างเด็ดขาด เธอวางแผนจะล่องโขงจากห้วยทราย พักค้างที่ปากแบ่งสักคืน แล้วล่องต่อไปจนถึงหลวงพระบาง เป็นโปรแกรมที่เธอวางแผนไว้ว่า เธอกับเขาจะได้ปรับความเข้าใจกัน เพราะต้องอยู่บนเรือด้วยกันถึงสองวันเต็ม เมื่อเธอบอกเขา เขากลับทำท่าทีตกใจ ราวกับว่า เธอทำอะไรผิดไปอย่างนั้น

“คุณจะต้องไปเสียเวลานั่งเรือไปทำไม เราก็แค่นั่งเครื่องไป ทำไมต้องทำเรื่องง่ายๆ ให้เป็นเรื่องยากละครับที่รัก”

แม้เขาจะทำน้ำเสียงออดอ้อน แต่เธอตีความว่า เขากำลังด่าเธอว่า โง่!

“ก็เกศอยากไปนี่คะ หรือคุณจะไม่ตามใจเกศ”

ชายหนุ่มนิ่งไปเล็กน้อย แล้วถามเธออย่างเป็นการเป็นงานด้วยน้ำเสียงเข้มลึก หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ใช้เงินหนุนกิจการเขาอยู่ในวันที่กิจการของเขากำลังขาดสภาพคล่อง บางทีเขาก็เบื่อเธอ แต่ก็สำนึกอยู่ว่า เธอได้ช่วยเขา

“ไหน เกศลองบอกแผนของคุณมาซิ แผนที่คุณอยากจะล่องเรือน่ะ”

“ก็หมู่นี้ คุณไม่มีเวลาให้เกศเลย เกศอยากให้เราอยู่ด้วยกัน”

“คุณก็เลยจัดการให้ผมกับคุณไปอยู่บนเรือด้วยสองวัน มองเห็นแต่น้ำกับฟ้าอย่างนั้น”

“คุณศักดิ์ คุณไม่เคยได้ยินหรือคะว่า จุดหมายของการเดินทางไม่เท่ากับเรื่องราวระหว่างการเดินทาง”

“แต่ผมต้องทำงานนะครับเกศ บริษัทผมกำลังอยู่ในช่วงประคับประคองตัว”

“ด้วยเงินของเกศ”

สมศักดิ์ สรายุทธ นิ่งเงียบ เก็บความไม่พอใจไว้ในส่วนลึก ก้มหัวยอมรับในคำพูดนั้น

“ไม่เอาล่ะ เกศอยากให้คุณไปกับเกศ ช่วงนี้ คุณกับเกศพูดจากันเหมือนต้องทะเลาะกันอยู่บ่อยๆ เราไปเที่ยวด้วยกัน อาจทำให้ความสัมพันธ์เราดีขึ้น นะคะ คุณศักดิ์”

“จะเอาอย่างนั้นก็ได้ ขอเวลาผมเคลียร์งานก่อนนะครับคนดี”

สมศักดิ์ พูดอย่างเอาใจ ไม่อยากให้คนตรงหน้าเง้างอนอะไรมากนัก ยิ่งเธองอน เขาก็ยิ่งรำคาญ ไม่มีหัวคิดจะคิดงานคิดการอะไรแล้ว ผู้หญิงก็แบบนี้ เวลาอารมณ์ดี เราก็สบายใจ เวลาอารมณ์ร้ายคนมา เหตุผลก็ไม่เคยมี

“แล้วเมื่อไหร่ละคะ”

“เอาเป็นว่า ผมจะพยายามเคลียร์ให้เร็วที่สุดก็แล้วกันนะครับ”

หญิงสาวยิ้มอย่างยินดี เมื่อเขารับปาก เขาต้องทำตามคำพูด คนผิดคำพูด ถือเป็นคนไม่มีสัตย์ วันนี้ ผู้ชายคนนั้น ไม่มีสัตย์

.....................................