บท
ตั้งค่า

ep 6

เกศมณี เข้าพักที่โรงแรมใกล้กับพูสี ตามคำแนะนำของชาวบ้านแถวนั้น อยู่ติดริมถนน และด้านล่างขายอาหาร ห้องที่พักสะดวกสบายดีทีเดียว เสียแต่ว่ามาคนเดียว ทำให้เธอเหงาไปบ้าง แต่อัธยาศัยของผู้คนที่นี่ทำให้เกศมณีปลอดโปร่งใจ และพร้อมที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้า

“ชุดนี้ ส่งซักนะจ๊ะ เพิ่งซื้อมาเมื่อสักครู่ ทันพรุ่งนี้ไหมจ๊ะ”

“จะรีบให้ทันเจ้า”

“ฉันชื่อเกศ เธอล่ะชื่ออะไร ฉันจะได้เรียกถูก”

“หมากเกี้ยง เจ้า”

“ชื่อแปลกจริง”

“คนไทยเรียกส้มโอเจ้า”

“อ้อ งั้นฉันเรียกเธอว่าส้มโอแล้วกันนะคะ พรุ่งนี้อย่าลืมมาปลุกฉันด้วยล่ะ”

“เจ้า”

เกศมณีรื้อข้าวของออกมาจากกระเป๋าใบย่อม มีชุดชั้นในแยกไว้ เสื้อผ้าสองชุด เป็นชุดนอนบางเบา เครื่องสำอาง และเครื่องอาบน้ำ เท่านี้เองที่เธอเอามา ก็เธอกะจะมาซื้อชุดที่นี่ใส่ จะขนมาทำไมให้หนัก ประเดี๋ยวเธอจะซื้อกระเป๋าลากสักใบ เวลากลับก็ขึ้นเครื่องกลับ ไม่ลำบากอะไรเลย

เครื่องโทรศัพท์วางนิ่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เธอวางไว้เมื่อตอนรื้อกระเป๋าออกมาจัดเก็บข้าวของเข้าตู้ และไม่ได้ใส่ใจที่จะเหลือบมองมันเลย ถึงหลวงพระบางแล้วเขาคงไม่โทร.หาเธอหรอก แม้ว่าจะสามารถโทร.ได้ ช่างมันเถอะ เธอจะปล่อยมันทิ้งไว้

เกศมณีทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม ตาจับจ้องเพดาน ค่ำคืนนี้ที่หลวงพระบางไม่เลวนักหรอก ร้านค้าเรียงรายอยู่เป็นแนวตามถนนดูแปลกตาดี ราคาไม่แพงเกินไป เธอได้ชุดสวยมาใส่สองชุด พรุ่งนี้จะนุ่งซิ่น ใส่เสื้อแขนกระบอกไปตักบาตรข้าวเหนียว ถ้าโชคดีกว่านั้น อาจจะได้เจอพล เขาบอกว่า พักอยู่แถวๆ นี้เหมือนกัน

......................................

วัชรกรเดินขึ้นเรือนพักเกสเฮาท์อย่างคุ้นเคย คนดูแลเรือนพักจัดเตรียมห้องหับเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ทุกครั้งที่มาที่นี่ เขาจะพักเกสเฮาท์หลังเล็กๆ นี้ มันค่อนข้างน่ากลัวสักหน่อย แต่ก็ได้บรรยากาศเก่า ๆ ของหลวงพระบางมากกว่าอาคารปูนที่สร้างเลียนแบบของเก่าที่ผุดขึ้นมารองรับนักท่องเที่ยว บ้านไม้ อย่างไรมันก็มีเสน่ห์

“กาแฟครับ คุณพล” เสียงเด็กเรียกอยู่หน้าประตู พลเปิดออกไปรับถาดกาแฟและขนมปังกรอบชิ้นเล็ก ๆ

“ช่วงนี้คุณพล ดูสดใสดีนะครับ ไม่คร่ำเครียดเหมือนเมื่อก่อน”

“อย่างนั้นหรือ” พลรับคำด้วยอาการพูดน้อยเหมือนเคย หน้าที่ในอดีตทำให้เขาพูดน้อยกับคนที่ควรพูดน้อย

“คุณมาร์ค มาถึงแล้วนะครับ บอกผมว่าถ้าคุณพลมาถึง หากไม่เหนื่อยอยู่ที่ร้านริมโขง แต่ถ้าเหนื่อยก็พักผ่อนได้ครับ”

พลพยักหน้ารับ มาร์คก็เป็นแบบนี้ ขนาดเมืองหลวงพระบาง เขาก็ยังคงเที่ยวราตรีอยู่ปกติ นักท่องเที่ยวทางยุโรปมีมาก แต่ละนางคงทำให้มาร์คอยู่ได้ทั้งคืน

เด็กหนุ่มเห็นแขกนิ่งเงียบ ไม่กล่าวคำต่อ จึงล่าถอยออกไปตามมารยาท แม้เวลานี้เพียงแค่สามทุ่ม ไม่ดึกสำหรับคนเมือง แต่สำหรับหลวงพระบาง ตลาดก็เริ่มวายแล้ว มีเพียงร้านค้าที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ยังเปิดบริการกันอยู่บริเวณถนนสายหลัก และริมน้ำคาน และน้ำโขง

พลยืนอิงหน้าต่างมองไปด้านนอก ไม่เห็นอะไรที่น่าชมนัก เพราะมีแต่พุ่มไม้มืดครึ้ม แต่เขาก็เคยชินกับมัน เขายิ้มกับตัวเอง เมื่อนึกถึงใบหน้าของหญิงสาวที่ร่วมเดินทางมาตลอดทั้งวัน

เธอมีท่าทีตื่นกลัว เมื่อมองหาเขาไม่เจอ ดูเหมือนเธอจะถามหาที่พักจากคนขาย แล้วเดินดุ่มไปตามทางที่แม่ค้าบอก แรกนั้นเขาคิดจะโผล่หน้าออกไปดักเธอให้มาทานอาหารร่วมกัน แต่คิดอีกที เธอรีบร้อนขนาดนั้น อาจมีคนรออยู่ หากความคิดของเขาก็ผิดหมด เพราะเมื่อเขาเดินตามหลังเธอไปยังโรงแรมที่พักของเธอ เขาเห็นเธอนั่งทานอาหารคนเดียว หน้าตาผ่องใสขึ้น คงล้างหน้าล้างตาแล้วลงมารับประทานอาหาร ก็ดี ที่ไม่ต้องไปนั่งทานที่ร้านข้างกำแพงวัดกับเขา วัชรกรบอกกับตัวเองว่า พรุ่งนี้ จะไปเตร็ดเตร่ อยู่บริเวณหน้าโรงแรม ถ้าเธอลงมาเพียงลำพัง เขาอาจจะมีเธอร่วมเป็นเพื่อนเที่ยวหลวงพระบางด้วยกัน

ความคิดที่ล่องลอยนั้น สะดุดลงเล็กน้อย เหมือนคนที่คิดได้... ทำไมต้องสนใจผู้หญิงคนนั้น ก็แค่ผู้หญิงสวยคนหนึ่งที่บังเอิญมาเจอกัน แล้วถ้าเราจะสร้างสัมพันธ์ต่อไปล่ะ... วัชรกร] ถอนใจกับตัวเอง เขามีอดีตที่ลืมไม่ลง แต่ก็ควรจบอดีตเหล่านั้นเสียที เขาชั่งใจกับตัวเองว่า จะยอมให้ผู้หญิงคนนี้ เป็นคนที่ทำให้เขาลืมอดีตได้หรือไม่ ก็น่าลองดู โชคชะตานำพามาขนาดนี้แล้วนี่นะ

....................................................

“เจ้านาง ดูท่านสนใจแม่หญิงผู้นั้นนักหนา”

“มันเป็นผู้ที่จะทำให้ข้า ไปหาเจ้าพี่ของข้าได้”

“เจ้านาง จะทำเช่นใดเล่า เราวนเวียนอยู่ที่แห่งนี้บ่ได้ไปไหนนานนักแล้ว”

“ข้าจักตามมันไป บ่ต้องเกรงว่า ข้าจักตามมันไปบ่ได้ มันมีสายใยของเจ้าพี่ ข้าต้องหาเจ้าพี่ของข้า ให้ปลดปล่อยข้าเสียที”

น้ำเสียงอันแห้งโหย หยาบกร้านของเจ้านางสั่นเครือ กี่ภพ กี่ชาติของผู้คนผลัดเปลี่ยนกันไป แต่นางก็ยังอยู่ที่นี่ มิได้ไปไหน ชีวิตที่เคยรุ่งโรจน์ของเจ้านาง ความอยากได้ อยากมีของเจ้านาง จองจำเจ้านางไว้ที่นี่

ร่างสูงสง่า เดินอย่างนางหงส์ เนิบช้าไปตามถนนที่ผู้คนพลุกพล่าน บริวารของนางตามหลังด้วยท่าทีนอบน้อมอย่างที่สุด นางเคยเป็นถึงมหาเทวี บัดนี้ นางก็ยังเชื่อว่านางเป็นอยู่ ขุนศึกคนสนิทปรากฏร่างขึ้นเมื่อนางต้องการไตร่ถาม

“แม่หญิงผู้นั้น พักอยู่ที่นี่ดอกรึ”

“พระเจ้าข้า”

“เวียงเชียงทอง บัดนี้ มากมายด้วยผู้คน ข้ารอมานาน บ่ได้เคยเจอสายใยของข้าเลย เจ้าบอกผีเฒ่าของเจ้า ข้าจะเข้าไปหามัน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel