บท
ตั้งค่า

ep 13

เช้านี้ เกศมณีตื่นเช้าโดยที่หมากเกี้ยง หรือส้มโอ ไม่ได้มาปลุก จะว่าไปเธอนอนไม่หลับมาตั้งแต่เมื่อคืน ใคร่คิดถึงแต่สิ่งที่ชายหนุ่มเมื่อคืนพูด น่าอายตัวเองที่พูดเรื่องส่วนตัวให้กับคนไม่รู้จักฟัง เพราะวัชรกรอยู่ด้วยเธอจึงกล้าเล่าเรื่องราวอั้นอัดในใจของเธอ แต่เธอลืมไปว่า มาร์ค...เธอเพิ่งพบเขา

เกศมณี ไม่รับโทรศัพท์อีกเลย นับจากคืนที่รู้ว่าสมศักดิ์ ไม่ซื่อสัตย์กับเธอ อันที่จริงเธอก็ไม่ได้โง่นักหรอก เงินก้อนนั้น มันแลกมากับหุ้นในบริษัทของสมศักดิ์ เธอเคยทุ่มเทเงินให้กับชายหนุ่มที่เข้ามาใกล้ชิดกับเธอ จนเรียนรู้ว่า ไม่มีประโยชน์อะไรกับลมปากของคนที่บอกว่ารักเธอ แต่สมศักดิ์ เธอยอมเสี่ยงกับเขาเพราะเขาช่วยชีวิตเธอไว้ และเขายื่นโอกาสให้เธอเป็นหุ้นส่วนในงานที่เขาทำ

เกศมณีเฝ้าถามตัวเองว่า เธอรักสมศักดิ์หรือไม่ เธอก็ตอบตัวเองไม่ได้ เพียงแค่เธอรู้สึกว่า เขาเป็นคนดี และเธออยากจะมีใครสักคนที่ดูแลเธอ ในยามที่เธอไม่เหลือใครอีกแล้ว เธอไม่เชื่อในความรัก เพราะรักทำให้เธอเจ็บมามาก รักทำให้เธอเกือบเอาชีวิตไม่รอด ถ้าไม่ใช่สมศักดิ์ยื่นมือมาช่วยเหลือ หนึ่งในผู้ชายกลุ่มนั้น เป็นอดีตคนรักของเธอ ที่เธอจับได้ว่า เขายืมเงินเธอไปเล่นการพนัน จนเป็นหนี้สินนับล้านบาท และพยายามที่จะปลอมลายเซ็นของเธอเพื่อนำไปเบิกกับธนาคาร ไม่นับกับการขโมยเครื่องประดับมีค่าของเธออีกมาก เธอไว้ใจเขาเกินไป

วันเกิดเหตุ เขามาหาเธอด้วยท่าทีสำนึกผิด พาเธอออกไปเลี้ยงอาหารที่ห้างดัง เกลี้ยกล่อมให้เธอกลับมาคบกับเขาอีกครั้ง แต่ไม่มีโอกาสสำหรับผู้ชายที่ไม่ซื่อสัตย์ ดูเหมือนว่า เขาจะวางแผนไว้ก่อนแล้ว เมื่อเธอมีท่าทีแข็งขืน เธอจึงถูกล้อมกรอบด้วยชายฉกรรจ์อีกสองคนแล้วบังคับให้กลับมาขึ้นรถที่ลานจอดรถที่ไกลสายตาผู้คน โชคเธอยังดี ที่เจอสมศักดิ์ เขาอุทิศทั้งชีวิตมาช่วยเธอไว้

“แม่คะ ไม่รู้ว่าเกศทำกรรมอะไรไว้ จึงไม่เจอผู้ชายที่ไว้ใจได้เลยสักคน”

เกศมณี ก้มลงมองรูปถ่ายพ่อและแม่ที่พักติดตัวมาตลอด นิ้วเรียวยาวลูปไล้ภาพที่ถ่ายภาพนั้นด้วยรักใคร่

“แม่คะ พ่อคะ ทำไมถึงด่วนจากเกศไป ทำไมถึงปล่อยให้เกศเผชิญโลกที่โหดร้ายนี้อย่างลำพังล่ะคะ”

“คุณเกศเจ้า “เสียงเคาะประตูเบา ๆ ทำให้เกศมณี ละความสนใจจากภาพครอบครัวของเธอ

“จ๊ะ ฉันเรียบร้อยแล้ว” เกศมณีเปิดประตูออกมารับ พร้อมรับชุดที่ซักรีดไว้อีกชุด ที่เธอส่งซักไว้เมื่อเย็น

“ส้มโอจ๊ะ ฉันฝากจองตั๋วเครื่องบินเมือง กรุงเทพฯ ให้หนึ่งที่นั่งซิจ๊ะ”

“เจ้า คุณจะกลับจักโมง”

“ก็เร็วที่สุดจ๊ะ ภายในวันนี้ ขอรถที่จะพาไปส่งที่สนามบินด้วยนะจ๊ะ”

“เจ้า”

“ขอบใจหลายนะส้มโอ ไปเถอะ ฉันก็จะลงไปรอตักบาตรด้วยเหมือนกัน”

วัชรกร เตร็ดเตร่รอเกศมณี อยู่ที่ฟุตบาทหน้าโรงแรมที่พักอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นเกศมณีเดินลงมา จึงยิ้มอย่างเอาใจ

“สวัสดีครับคุณเกศ ผมเตรียมข้าวเหนียวไว้แล้วนะครับ เดี๋ยวเราเดินเลยไปทางด้านบน พระจากวัดเชียงทอง จะเดินลงมาเป็นทิว หรือว่าถ้าไม่สะดวก จะรอแถวนี้ก็ได้นะครับ แถวหน้าวัดใหม่ พระก็มาบิณฑบาตมากเหมือนกัน”

“ตรงไหนก็ได้ค่ะ คุณพล” เกศมณีตอบเสียงเรียบ ความสดใสหายไปเล็กน้อย สิ่งที่ขุ่นข้องในใจยังมีอยู่

“ยังพอมีเวลา งั้นเราเดินไปทางวัดเชียงทองกันดีกว่านะครับ”

“ค่ะ”

เกศมณีรับคำ แล้วเอื้อมคว้ากระติบข้าวเหนียวมาถือไว้เสียเอง

อากาศยามเช้าสดชื่น เกินกว่าจะคิดเรื่องเศร้าหมองใจ เกศมณีเดินเอื่อยราวกับเดินอยู่เพียงลำพัง ทั้งที่วัชรกรเดินอยู่ข้าง ไม่ได้ห่างแม้เพียงก้าว

“วันนี้ ผมจะพาคุณชมพระราชวังเก่าของหลวงพระบางนะครับ ตอนนี้เขาตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ ถ้าไม่ได้เข้าชมเสียดายแย่ โชคเรายังดีที่วันนี้เขาเปิดให้ชม”

เกศมณี เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของวัชรกร เขาไม่ใช่คนที่ทำให้เธอขุ่นข้องหมองใจหรอก แต่เธอรู้สึกไม่ค่อยอยากจะเสวนาพาทีกับใครในตอนนี้ มันนึกเบื่อไปหมด

“ไว้ตักบาตรก่อนแล้วค่อยคุยกันนะคะ”

เกศมณีตัดบท เพราะไม่อยากเอื้อนเอ่ยคำใด ๆ

ทิวแถวยาวเหยียดของพระภิกษุ ที่เดินทางสงบผ่านนักท่องเที่ยวไปอย่างรวดเร็ว ไม่ต่างอะไรกับมหกรรมการตักบาตร เมื่อหลายปีก่อน วัชรกรได้ตักบาตรข้าวเหนียวด้วยความศรัทธาในวัฒนธรรม มีเพียงข้าวเหนียวที่ปั้นก้อนลงบาตรที่รอรับ ชาวบ้านจะเป็นคนนำอาหารไปถวายเองที่วัด การตักบาตรจึงเป็นการตักบาตรข้าวเหนียวล้วน ๆ ต่างกับในปัจจุบันนี้ ที่เห็นนักท่องเที่ยว ใส่ข้าวของลงไปในบาตรมากกว่าข้าวเหนียว อาทินมกล่อง ขนม นึกไปนึกมา ก็นึกถึงการตักบาตรของคนไทย ต่างกันแต่เพียงข้าวเหนียวกับข้าวเจ้า วัฒนธรรมมันคงถ่ายเทมากับนักท่องเที่ยวกระมัง

“คุณพลคะ” เสียงเกศมณีทำให้เขาหันกลับมา และพบว่าเธอตักบาตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“เกศเห็นคุณมองคนตักบาตรอยู่นานแล้ว”

“อ้อ ครับ คุณเกศ อยากไปไหนต่อครับเช้านี้”

“เกศให้ส้มโอ จองตั๋วเครื่องบินแล้วค่ะ วันนี้ ว่าจะกลับเสียที”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel