4
ภีมถามด้วยท่าทางสบายๆแบบเดียวกับน้ำเสียงของเขา “พักเที่ยงกันแล้วเหรอ”
พี่วิผู้กล้าตอบรับท่านผู้อำนวยการเสียงสุภาพท่าทีเรียบร้อยผิดวิสัยทันที “ค่ะ”
ภีมยิ้มถามต่อ “แล้ว...จะไปกินร้านไหน ผมไปด้วยได้ไหม”
พี่วิยังคงตำแหน่งผู้กล้าตอบกลับเขาไป “เอ่อ ว่าจะไปร้านส้มตำของป้าดำตรงหน้าโรง’บาลนี่เองค่ะ”
ภีมสรุปให้ทันที แม้ท่าทีจะสุภาพแต่ก็ยังมีรังสีของผู้บริหารอัดแน่นทั่วลิฟต์จนสาวๆต้องกลั้นหายใจขณะคุยด้วย
“ผมไปด้วยนะ เลี้ยงน้องใหม่ใช่ไหม ผมเลี้ยงเอง”
ประตูลิฟต์เปิดออกพอดีที่ภีมพูดจบ เขาผายมือออกด้วยท่าทีสุภาพดังเดิม
บรรดาสุภาพสตรีจึงค่อยๆเดินตัวลีบออกมาทีละคนและมีภีมเดินตามไปจนถึงร้านอาหารอีสานที่ด้านหน้าโรงพยาบาลในที่สุด
ดีที่ว่าพี่วิโทรลงมาสั่งไว้แล้วจึงรอไม่นานแบบโต๊ะอื่น
พี่วิผู้กล้า ถามผู้บริหารเมื่อนั่งลงที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว
“ผอ.จะสั่งอะไรเพิ่มไหมคะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
คนถามหน้าเจื่อน เพราะกลัวว่าเมนูที่สั่งเอาไว้ ชายหนุ่มคนเดียวในโต๊ะจะกินไม่ได้ เลยถามหน้าแหยๆ
“หมอกินเผ็ดได้เหรอคะ”
“ผมกินได้หมดครับ”
รอครู่เดียวอาหารก็พร้อมเสิร์ฟเต็มโต๊ะ
ภีมเลื่อนจานให้สาวๆก่อน เขาพูดคุยถามตอบด้วยอย่างไม่ถือตัว จนคนที่รู้ตัวในนาทีนั้นว่าหลงใหลในตัวคุณหมอหนุ่มนักธุรกิจอย่างพิมนาราทวีความปลาบปลื้มมากยิ่งขึ้นไปอีก
และรู้สึกแปลกๆชั่วขณะกับสายตาของเขาที่มองสบมา บางคราวตาคมคู่นั้นดู เย็นชาไม่สบอารมณ์ ทั้งยังลึกลับเหมือนบ่อน้ำยามค่ำคืน แต่แล้วพอมองสบอีกคราก็แปรเปลี่ยนเป็นเอื้ออาทรแบบผู้ใหญ่ใจดี หรือเธออาจคิดมากเกินไป อีกฝ่ายจะโกรธเกลียดเธอด้วยเรื่องอะไร ถึงมองมาด้วยแววตาแบบนั้น
ภีมตักอาหารให้เธอบ้างให้คนอื่นบ้างตามมารยาท แต่ทุกคนต่างพุ่งสายตามาที่น้องใหม่อย่างพิมนารา แบบมีเลศนัยเสียด้วย เมื่อกินไปหน้าแดงไปเวลาที่คุยกับคุณหมอผู้บริหารหนุ่มหล่อดีกรีนายแพทย์ชื่อดัง
จนจัดการอาหารเรียบร้อย ภีมควักธนบัตรออกมาชำระค่าอาหารให้อย่างที่บอกและทั้งหมดก็ยกมือไหว้ขอบคุณแทบจะพร้อมๆกัน ขณะออกจากร้าน หญิงสาวสวยเฉี่ยวคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้านพอดี
“ภีมคะ”
เจ้าของชื่อแวะคุยกับสาวสวยคนนั้นที่เธอมารู้ในลิฟต์ว่านั่นคือแฟนสาวที่มีดีกรีเป็นแพทย์เฉกเช่นเดียวกันกับภีม
“นั่นใช่หมอพา แฟนผอ.หรือเปล่า...น่าเสียดายเนอะ มีแฟนแล้วอ่ะ” ใครคนหนึ่งพูดขึ้น และทำให้พิมนารารู้สึกผิดหวังอยู่ลึกๆ
“พูดอย่างกับว่าไม่มีแฟน หมอจะมองแกอย่างงั้นแหละ”
“ไม่มองฉันหรอก ฉันรู้ตัวดี แต่บางคนแถวนี้ ไม่แน่นะยะ”
คนพูดเหลือบตามาที่เธอ พิมนาราเลยหน้าแดงขึ้นมาอีกครั้งกระอักกระอ่วนใจกับคำสัพยอกเช่นนั้น อย่างหมอภีมนั่นหรือจะมามองผู้หญิงแบบเธอในเมื่อเขามีแฟนเป็นถึงคุณหมอเหมือนกันแถมยังสวยและคงเก่งมากอีกด้วย
เธอนั้นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น เรียนไม่จบปริญญาสักใบ สวยหรือก็ไม่ เป็นไปไม่ได้เลยสักนิดเดียวที่ผู้ชายเพียบพร้อมขนาดนั้นจะมาสนใจเธอ
ตกเย็นวันนั้น พิมนาราจึงจัดการกับห่ออาหารที่ตั้งใจเอาไว้กินเป็นมื้อเที่ยงเก็บกลับบ้าน ขณะออกมายืนรอที่ป้ายรถประจำทาง รถยนต์คันหนึ่งจอดขนาบทางเท้า เปิดกระจกลงแล้วส่งเสียงตามมา
“พิมนาราขึ้นรถสิ ผมจะไปส่ง”
พอเห็นว่าเป็นใคร พิมนาราหัวใจแทบวาย ตะกุกตะกักบอก “มะ...ไม่เป็นไรค่ะ...”
‘ปรี้น!’
แต่เสียงแตรดังลั่นทางด้านหลังก็คล้ายจะเร่งให้เธอไปกับเขาแต่โดยดี พิมนาราจึงเอื้อมมือไปเปิดประตูรถหรูแล้วขึ้นนั่งในที่สุด ออกไปได้สักพัก เจ้าของรถส่งเสียงทุ้มนุ่มถามเธอว่า
“บ้านอยู่ที่ไหน”
เธอบอกเขาไปแล้วก็ค่อยๆคลายอาการเกร็งลง อดไม่ได้ที่จะลอบมองเสี้ยวหน้าคนขับแต่ก็ยังเป็นไปด้วยความประหม่าอยู่ดี
แค่ด้านข้างของเขายังหล่อเหลาขนาดนี้ แถมยังทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอสั่นไหวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆได้ไม่ยากเลยสักนิด
พิมนาราลอบถอนหายใจ หันกลับไปที่ถนนตรงหน้าตามเดิม เม้มปากที่เอาแต่จะยิ้มอยู่เรื่อยนั่นไว้แน่น จะมีบ้างไหมผู้หญิงที่อยู่ใกล้เขาแล้วไม่รู้สึกแบบเธอ
พิมนาราบอกตนเองว่าแค่ได้มองใบหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบเช่นนี้ หัวใจของเธอก็เต็มตื้น ตื้อตันไปหมดแล้ว ไม่ต้องได้ครอบครองเป็นเจ้าของเขาแบบที่ได้ยินพวกพี่พี่ในแผนกพูดมาหรอก
จนภีมเลี้ยวรถเข้าไปในซอยบ้าน พิมนาราก็งึมงำขึ้นมาเมื่อเห็นรถคันหนึ่งขับสวนออกไป
“รถพี่โตนี่นา”
ภีมเผลอบีบมือกับพวงมาลัยรถจนข้อนิ้วขาวซีด บดกรามจนเป็นสันนูน พร้อมทั้งนึกหมิ่นหญิงสาวคนข้างๆที่รับขึ้นมาบนรถ
‘ไม่มียางอาย’
ไม่รู้ว่าหน้าบางๆนั่นหลอกตาหรืออย่างไร ถึงได้กล้าแย่งสามีคนอื่นมาเป็นของตัวเอง ผู้ชายก็เลว ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี จนน้องสาวของเขาเกือบไม่เป็นผู้เป็นคนเพราะชายชั่วหญิงโฉดคู่นี้
ก่อนจะสูดลมหายใจเข้ายาวๆ ถามเสียงห้วน “แฟนหรือ”
พิมนารากำลังจะอ้าปากตอบ แต่เสียงโทรศัพท์ของภีมดังขึ้นมาขัดก่อน เธอจึงบอกเขาเมื่อถึงจุดหมายแล้ว
“จอดตรงนี้ก็ได้ค่ะ บ้านพิมอยู่หลังสุดท้ายนี่เองค่ะ”
ภีมมองบ้านที่พิมนาราบอก ถามย้ำอีกที เผื่อคราวหน้านึกเล่นงานหญิงไร้ยางอายคนนี้จะได้ถูกที่ถูกตัว “ตรงนี้เหรอ”
พิมนารายิ้มพยักหน้ารับ
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่มาส่งพิม”
บอกจบเอียงอายเมื่อสบสายตาคมของเขาเข้าพอดี
