บท
ตั้งค่า

04 | กลืนน้ำลายตัวเอง

เสียงกรีดร้องจากสมาร์ทโฟนเครื่องหรูดังขึ้นเมื่อกมลเนตรย่างก้าวมายังเตียงนอนขนาดคิงส์ไซด์ ‘คุณลุงสิงห์เดช’ ชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ทำให้นิ้วเรียวยาวกดรับสายทันที

“สวัสดีค่ะคุณลุงเดช”เสียงใสเจื้อยแจ้วกรอกน้ำคำไปตามสาย

“ถึงบ้านพักแล้วสินะหนูกมลเนตร”ปลายสายถามกลับมาด้วยความเป็นห่วง ไอ้เจ้าลูกชายตัวดีมันทิ้งท้ายกับเขาจนเป็นสิงห์เดชเองที่เริ่มไม่แน่ใจแล้วละสิว่าน้ำมนต์จะโดนสิงห์ราชแกล้งอะไรหรือเปล่า

“ถึงแล้วค่ะบ้านสวยมากเป็นเรือนไม้สักทองทั้งหลังเลย คุณลุงกับคุณพ่อไม่ต้องห่วงนะคะ”เธอตอบตามความเป็นจริงไม่มีอะไรเลวร้ายเกินไปหรอกแค่ขนกระเป๋าเองเท่านั้น อาจจะเคืองเขาอยู่นิดๆ ที่ไม่ช่วยเธอเลยสักนิดแต่พอมาเห็นที่พักที่ชายหนุ่มจัดเตรียมเอาไว้ให้ราวกับรู้ยังไงยังงั้นว่าเธอชอบสีอะไรหรือชอบกลิ่นอะไรมันคงไม่บังเอิญเกินไปใช่ไหม

“เอ่อ…..ดีแล้วลูกพักผ่อนซะนะ”จริงๆ แล้วบ้านหลังนั้นคือเรือนหอของสิงห์ราชกับฟ้าใสแต่เขาไม่อยากพูดอะไรไปมากกว่านี้

“งั้นมนต์ขอตัวนะคะต้องตื่นแต่เช้า”กมลเนตรทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเป็นลุงสิงห์เดชที่วางสายเอง มือบางลื้อกระเป๋าเดินทางของตนเตรียมชุดคลุมอาบน้ำเสื้อผ้าจัดแจงข้าวของก่อนจะชำระร่างกายและเข้านอน

รุ่งเช้าของอีกวัน

แสงแดดยามสายสาดส่องเข้ามากระทบร่างบางให้บิดตัวไปมาอย่างขี้เกียจ อากาศที่เย็นสบายของเดือนธันวาคมหน้าหวานทำให้กมลเนตรไม่อยากยันกายลุกจากที่นอนแม้แต่น้อย

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

“ยัยหนูฉันมารอเธอครึ่งชั่วโมงแล้วนะ”เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงเข้มขุ่นจนคนที่เคลิบเคลิ้มในนิทรารมย์ต้องปรือตาขึ้น ฝ่ามือบางขยี้ตาตัวเองเบาๆ มือปิดปากหาวสางผมที่ยุ่งเหยิงให้เข้าที่ก่อนจะลุกไปเปิดประตู

“รอทำไมคะ มนต์ยังนอนไม่เต็มอิ่มเลย”กมลเนตรสะลึมสะลือพูดอย่างลืมคิดข้อตกลงที่เจ้าหล่อนพูดกับเขาไว้เมื่อคืนนี้ สีหน้าหล่อของสิงห์ราชแลดูไม่บอกบุญเอาเสียเลยคิ้วหนาขมวดเข้าหากันเป็นปมก่อนจะลั่นวาจาออกมา

“เธอนี่มันปลาทองหรือยังไงห๊ะ! เมื่อคืนฉันบอกว่าจะมารับตอนเจ็ดโมงแต่นี่มันเจ็ดโมงครึ่งแล้วยัยหนู แล้วถ้าจะอยู่ที่นี่เธอต้องทำงานแลกเงินแลกข้าว ท่านไมตรีพ่อของเธอโทรมากำชับว่าไม่ต้องให้เงินเธอสักบาทถ้าฉันไม่เห็นเหงื่อเธอยัยหนู”สิงห์ราชอธิบายอย่างยาวเหยียดสังเกตสีหน้าของร่างเล็กที่ยืนพิงขอบประตูไม้ฟังอย่างเบื่อหน่าย แขนทั้งสองข้างกอดอกปากบางเบ้ไปมาอย่างยียวน

“เข้าใจแล้วนะฉันจะรอเธออีกสิบนาที!”

“แหม! พี่สิงห์ก็จะใจร้ายใจดำให้น้ำมนต์ตากแดดตากลมหรอคะ เราลองคุยและตกลงกันดีๆ ไหมคะ”

กมลเนตรขยับเข้าไปใกล้ร่างสูงมือบางลูบไล้ไปบนแผงอกกำยำที่โผล่พ้นเสื้อกล้ามสีดำและทาบทับด้วยเสื้อเชิร์ตแขนยาว สิงห์ราชมองดูการกระทำของเธอสักพักก่อนจะรวบแขนเรียวทั้งสองข้างเข้าหากันผลักหญิงสาวให้ออกห่าง

“อย่าคิดอะไรใฝ่ต่ำหน่อยเลย รู้ไว้ซะทำแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับอีตัวหรอก แล้วไม่ต้องเสียเวลาอ่อยให้ยากเพราะคนอย่างฉันไม่อยากแม้แต่จะแตะต้องเธอด้วยซ้ำ จำเอาไว้!”คำพูดที่แสนเจ็บปวดบาดลึกเข้าไปในหัวใจดวงน้อยจนร่างบางสะอึกจุกจนทำอะไรไม่ถูก เขาเอาลูกท่านรัฐมนตรีกระทรวงการคลังไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงขายตัว ทำไมเขาไม่คิดบ้างล่ะที่เธอทำไปเพราะอยากให้เขากลับมายิ้มได้และมีความรักอีกครั้ง

“อย่ากลืนน้ำลายตัวเองนะคะพี่สิงห์”น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นของเธอพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะปิดประตูบานใหญ่ลงอย่างเสียมารยาท ทั้งที่ไม่ให้เขาเดินผละออกจากประตูก่อน

“หึ! คนอย่างสิงห์ราชคำไหนคำนั้นจำไว้ยัยหนู!”สิงห์ราชกระตุกยิ้มมุมปาก เขาจะไม่มีวันหลงไหลในเรือนร่างอันแสนเย้ายวนนั้นเด็ดขาดถึงแม้เจ้าหล่อนจะน่าฟัดมากก็ตาม ขาแข็งแกร่งก้าวเดินมานั่งที่โต๊ะไม้หน้าห้องนอนของร่างบางเพื่อรอให้เธอได้จัดการธุระส่วนตัวให้เสร็จ

10 นาทีต่อมา

ประตูห้องนอนมีแม่ตัวดีโผล่พ้นออกมา สิงห์ราชจ้องมองตั้งแต่ปลายเท้าเล็กขึ้นไปจนศีรษะของสาวน้อยที่แต่งกายสะเหมือนจะไปเดินห้างพารากอนอย่างไรอย่างนั้น เสื้อสายเดี่ยวเพลิงแดงกางเกงขาสั้นที่สั้นถึงสั้นมากขาดลิ่วตามสไตล์แฟชั่นขับกับผิวขาวนวลเนียน เนินอกสล้างที่โผล่พ้นออกมาประกาศขนาดของมันว่าใหญ่โตแค่ไหน น้ำลายเหนียวๆ ถูกกลืนลงลำคอแกร่งทันที

“อะแฮ่ม! มัวแต่มองจะลองดูหน่อยไหมคะพี่สิงห์”ปากบางที่เคลือบด้วยลิปกลอสสีชมพูสวยหวานตัดกับชุดที่เปรี้ยวเด็ดเข็ดฟันพูดขึ้น มือบางดึงเสื้อของตนให้สูงขึ้นปกปิดความอวบอิ่มเอาไว้เมื่อเขาเอาแต่จ้องมองอยู่อย่างนั้น

“เราจะเอายังไงดีคะพี่สิงห์ จะอยู่กับมนต์หรือจะให้มนต์ไปด้วย”

“ไปเปลี่ยนชุดยัยหนูเก็จบี้!”สิงห์ราชเบือนหน้าไปทางอื่นกัดฟันอย่างฝืนทนเมื่อแม่สาวจอมแสบปั่นโสตประสาทและปลุกกำหนัดอันดิบ ห่ามให้ขึ้นมา เขานับเพียงหนึ่งถึงล้านในใจถึงเวลาจะเอาคืนให้สาสมเลยยัยหนู

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel