บทย่อ
ผู้ชายที่จมปักอยู่แต่กับอดีตจากความรักที่หวานกลับกลายเป็นเหมือนดังยาพิษจน ทำให้เกือบตายทั้งเป็น แล้วอยู่ๆ ก็มีเด็กกะโปโลหุ่นเซี๊ยะน่าเจี๊ยะหมวยอึ๋ม เข้ามาในไร่ซึ่งเป็นคนของคุณพ่อที่ส่งมามัจจุราชที่โหยหาอ้อมกอดของใครสักคนจนได้เจอเธอและรัก เจ้าหล่อนจนหมดหัวใจ แต่แล้วเมื่อเขารู้ความจริงบ้างอย่างเธอก็พยายามออกห่างเขาไปเรื่อยๆ จนเธอหายไปเมื่อความรักหวนคืน ก็พร้อมจะเริ่มต้นใหม่แต่ในเมื่อรักแล้ว เจ้าหล่อนกลับทิ้งกันไปพร้อมกับทายาทของเขาที่อยู่ในท้องของเธอ มัจจุราชร้ายที่หลงรักแม่กวางน้อยเข้าเต็มประดาจะทำอย่างไรในเมื่อเมียหอบลูกหนีไป “อุ้ย!”เธออุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อฝ่ามือน้อยถูกนำพาจากมือหนาสิงห์ราชให้จับต้องของร้อนราวกับแท่นเหล็กที่รนไฟ มันทั้งใหญ่และยาวสู้มือน้อยของเธออย่างดี “มนต์จ๋าช่วยพี่หน่อย”ชายหนุ่มอ้อนวอนเธออีกครั้งด้วยน้ำเสียงกระเส่าความอัดแน่นจนแทบรวดร้าวทรมานเจียนขาดใจ เขาอยากจะให้มือนุ่มนิ่มของเธอสัมผัสมันและทำให้มันสงบลง “จะให้มนต์ช่วยยังไงคะ”กมลเนตรถามเมื่อเขาจับมือเธอกำรอบและรูดขึ้นลงอย่างเบาๆ “รูดขึ้นลงเบาตามจังหวะ อ่า...อย่างนั้นแหละเด็กดี”สิงห์ราชจับมือน้อยชี้ทางให้เธอสัมผัสแผ่วเบาแต่หนักแน่นทุกจังหวะการขยับ จนชายหนุ่มต้องสูดปากครางด้วยความซ่านสยิว
01 | คุณหนูกมลเนตร
ไร่เดชาบดินทร์
จากกรุงเทพถึงเชียงใหม่ใช้เวลาเดินทางไม่น้อยเลยต้นไม้ต้นใหญ่เป็นที่หลบกำบังแดดในช่วงบ่ายไม่ให้ผิวขาวใสราวน้ำนมนั้นมีริ้วรอยหรือหมองคล้ำได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยังดีกว่ายืนอยู่ในที่โล่งแจ้ง ‘กมลเนตร อักษรราตรี’ กระดกน้ำเปล่าในขวดเข้าปากเพื่อดับความกระหายพร้อมกับปาดเหงื่อที่ผุดออกมาบนหน้าผากกลมมน
เพราะรักหรอกคุณหนูน้ำมนต์คนสวยถึงมา!
เสียงกรีดร้องจากสมาร์ทโฟนเครื่องหรูที่อยู่ในกระเป๋าสะพายข้าง แบรนด์เนมของเธอดังขึ้น หญิงสาวลนลานหาและคว้าเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาดูเบอร์โทรศัพท์ที่โชว์อยู่หน้าจอก่อนจะกดรับสาย
‘น้ำมนต์ถึงเชียงใหม่หรือยังลูก’น้ำเสียงที่ฟังดูห่วงใยของผู้เป็นพ่อถามขึ้น เมื่อเขาได้ให้คนขับรถและแม่บ้านวัยกลางคนไปส่งเธอที่ไร่ของลูกชายเพื่อนสนิท เพราะลูกสาวของตนรู้ว่าผู้ชายที่เธอเฝ้าแอบรักมาตลอดกำลังปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอก
“ถึงแล้วค่ะคุณพ่อไม่ต้องห่วงนะคะ”เสียงหวานเอ่ยตอบดังแจ้วดูไม่ค่อยน่าเป็นห่วง แต่ในใจของเธอกลับคิดไปอีกอย่างแดดร้อนมากอยากอาบน้ำคิดถึงบ้าน แต่เพื่อพี่สิงห์สุดหล่อเธอก็สู้ไม่ถอย
“คุณพ่อกับคุณลุงไม่ต้องเป็นห่วงนะคะมนต์อยู่ได้”
‘ไม่ไหวโทรบอกพ่อนะน้ำมนต์’จะไม่ให้เป็นห่วงได้อย่างไรเมื่อลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนที่เขาฟูมฟักเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีได้ผลัดจากอกไปแล้ว น้ำมนต์ไม่เคยต้องลำบากตากแดดตากลมแล้วนางฟ้าตัวน้อยของเขาจะทนได้หรอกับงานในไร่ชา กาแฟ และอะไรอีกหลายอย่างที่เธอต้องเจอ
“มนต์รักพี่สิงห์และมนต์ต้องทำให้พี่สิงห์รักมนต์ให้ได้”ปากบางขยับไหวร่ายยาวเพื่อให้ผู้เป็นพ่อสบายใจ เพราะเธอเป็นคนขอร้องให้คุณลุงสิงห์เดชให้ช่วยพูดกับผู้เป็นพ่อให้เธอหลังจากรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับสิงห์ราช
“พ่อคะบอกคุณลุงเดชโทรบอกพี่สิงห์ด้วยนะคะว่ามนต์ถึงแล้ว”เธอพูดเสร็จก่อนจะได้ยินคำตอบบิดาของตน จึงตัดสินใจวางสายทันที
“สิงห์เดชฉันเป็นห่วงน้ำมนต์”ไมตรีเอ่ยเอือนความอึดอัดที่กักเก็บในใจอยู่สักพักออกมาให้เพื่อนสนิทฟังหลังจากวางสายจากลูกสาวของตน ตอนนี้ลูกสาวสุดที่รักอยู่ภาคเหนือซึ่งหัวอกคนเป็นพ่อก็ยังวางใจไม่ได้
“แกไม่ไว้ใจฉันหรอไมตรี สิงห์ราชไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น”ถึงจะประหม่าลูกชายของตนไม่ต่างกันแต่เพื่อความสบายใจของเพื่อนก็ต้องพูดคำนั้นออกไป
“แต่น้ำมนต์ไม่เคยทำงานหนักมาก่อนเลยนะเว้ย!”
“แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง ในเมื่อหนูกมลเนตรขอร้องฉันเอง”มันเป็นความต้องการของเธอเองที่จะไปอยู่กับสิงห์ราช อันที่จริงเขาไม่เห็นด้วยเลยสักเท่าไหร่เหมือนส่งเนื้อไปให้ราชสีห์อย่างไรอย่างนั้น
“เออ! ฉันเป็นคนอนุญาตเองแหละจะโทษใครไม่ได้หรอก”แม่ตัวดีขอร้องอ้อนวอนเขาไปเองแหละ จะขัดใจก็ไม่ได้กรีดกราดโวยวายเขาเป็นคนแพ้ลูกอ้อนของลูกเสียด้วย เหมือนเกสรนภาแม่ของเธอไม่มีผิด
“บอกลูกแกไปรับน้ำมนต์ได้แล้วฉันสงสารลูกยืนตากแดด”
ชายหนุ่มที่สาละวนอยู่กับบัญชีตรงหน้าทำให้ใบหน้าหล่อคมระบายยิ้มออกมากับตัวเลขแปดหลักในสมุดบันทึกการส่งออก เมื่อผลผลิตชาและกาแฟเดือนนี้เป็นที่น่าพอใจอย่างมาก‘สิงห์ราช เดชาบดินทร์’ ผันตัวเองออกจากวงการมืดที่ตนเคยร่วมหุ้นกับเพื่อนสนิททั้งสองคนตั้งแต่เรียนอยู่ฝรั่งเศสเพื่อทำไร่ทำสวน นับตั้งแต่หัวใจแตกสลายจากรักครั้งเก่า จากหนุ่มเจ้าสำราญกลับกลายเป็นคนเย็นชา นิ่งขรึม ไร้หัวใจเห็นผู้หญิงเป็นเพียงเครื่องระบายเซ็กส์เท่านั้น
พ่อเลี้ยงหนุ่มวางด้ามปากกาลงเมื่อแรงสั่นของโทรศัพท์เครื่องหรูที่มีสายโทรเข้ามา คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเป็นปมเมื่อชื่อที่ติดต่อโชว์ขึ้นว่า ‘พ่อสิงห์เดช’ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่คงจะไม่ใช่เรื่องที่คุยเมื่ออาทิตย์ก่อนหรอกนะ
“ครับพ่อ”สิงห์ราชตัดสินใจรับสาย
“สิงห์แกออกไปรับน้องได้แล้ว”
“ห๊ะ! ไปรับใครครับ”ให้ตายเถอะว่าสิ่งที่เขากำลังไม่อยากให้เกิดขึ้นมันกลับกลายเป็นว่า เด็กสาวที่พ่อส่งมาถึงที่ไร่แล้วซึ่งเขาก็ไม่ได้บอกให้มาและแถมไม่เคยชอบเจ้าหล่อนสักเท่าไหร่
“น้องน้ำมนต์ลูกสาวไมตรีไงจำได้ใช่ไหม ที่เราคุยกันเมื่ออาทิตย์ก่อนว่าน้องจะไปช่วยงานแก!”ปลายสายตอกกลับมาทำให้สิงห์ราชส่ายหน้าไปมาด้วยความเบื่อหน่าย
“ยัยคุณขี้วีนคนนั้นหรอ หึ ผมไม่ต้องการ!”
“อย่าไปว่าน้องแบบนั้นสิ เอาเป็นว่าไหนๆ น้องก็ไปแล้วให้น้องดูแลบัญชีให้แกไงจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”
“ผมรู้ว่าพ่อกำลังทำอะไร แล้วทำไมไม่ปรึกษาผมก่อน แต่ผมจะไม่เปิดใจรับใครใหม่อีกแล้ว!”ความคิดรู้ทันผู้เป็นพ่อเพราะเจ้าตัวบอกอยากอุ้มหลาน แต่เมื่อเขาจะไม่ผูกมัดกับใครอีกแล้วเจ็บมามากเกินพอผู้หญิงก็เหมือนกันหมดสำส่อน เอาแต่แต่งตัวไปยั่วคนนั้นคนนี้ไม่แม้แต่คนงานในไร่เขาเอง
“ไปรับน้องได้แล้วแดดร้อนจะเป็นลมเป็นแล้งเอาได้”
“ถ้าพ่ออยากเล่นเกมกับผมงั้นก็ได้ เรามาดูกันว่ายัยคุณหนูน้ำมนต์จะทนตากแดดทำงานได้รึป่าว”สิงห์ราชยกยิ้มที่มุมปากเขาจำยัยเด็กคนนี้ได้ดี คุณหนูน้ำมนต์ลูกของไมตรีที่ขี้เหวี่ยง ขี้วีน เอาแต่ใจที่สุด วันนั้นก่อนที่เขาจะไปฝรั่งเศสเขาได้พาฟ้าใสไปไหว้พ่อและพบกับเด็กสาวอายุแค่ 18 วีนแตกในบ้านของเขา เพียงแค่น้ำเปล่าในแก้วที่สาวใช้ทำหกใส่ใจหล่อนก็กรีดกราดอย่างเอาเป็นเอาตาย
“แกอย่าทำแบบนั้นกับน้องเด็ดขาดนะสิงห์ ให้น้องทำบัญชีหรือตรวจดูงานก็พอ”ตอนนี้เป็นเขาเสียเองที่หวั่นไม่ต่างจากไมตรีเพื่อนสนิทของตนที่กลับไปแล้ว หวังเพียงว่าลูกชายของตนคงไม่ใจร้ายกับกมลเนตรผู้หญิงที่แสนจะน่ารักได้ลงคอ
“ผมไม่ได้ต้องการให้เธอมาที่นี่ พ่อเป็นคนส่งยัยคุณหนูนั้นมาหาผมเอง!”สิงห์ราชพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ในเมื่อพ่อเขาอยากจะให้เจ้าหล่อนมาเป็นที่ลองมือลองเท้าเขางั้นก็ได้
“แต่ฉัน...”ไม่ทันที่จะให้บิดาของตนพูดอะไรอีกต่อไป สิงห์ราชก็กดตัดสายทิ้งอย่างเสียมารยาท มุมปากสวยกระตุกขึ้นอย่างมีแผนก่อนจะเลียมุมปากของตน
“หึ! จะทำให้ร้องไห้ขี้มูกโป่งกลับกรุงเทพเลยคอยดู”สิงห์ราชคว้ากุญแจรถก่อนจะเดินตรงไปยังยานพาหนะขับเคลื่อนออกไปทางเข้าไร่ทันที แต่ขณะที่มือแกร่งบังคับทิศทางพวงมาลัยรถเขานึกอยากจะแกล้งเธอให้ยืนตากแดดสักพัก จึงเบรกและเลี้ยวรถไปทางท้ายไร่ที่ใช้เวลาขับรถเกือบสองชั่วโมงกว่าจะเห็นประตูรั้ว....

