03 | ไม่ไหวบอก
“พี่สิงห์กลับมาอยู่เมืองไทยนานรึยังคะ”น้ำเสียงหวานถามชายหนุ่มพูดคุยฆ่าเวลาการเดินทาง เพราะปกติแล้วเวลาไปไหนมาไหนกับผู้เป็นพ่อหรือใครก็มักจะพูดคุยเสมอจนทำให้สาวน้อยติดและพอมาอยู่กับคนเย็นชาอย่างเขามันทำให้เธออึดอัด
“อยากจะรู้ไปทำไม!”สิงห์ราชถามกลับไปโดยไม่ละสายตาออกจากเส้นทางตรงหน้า น้ำเสียงที่ฟังกระด้างทำให้กมลเนตรใจเสียขึ้นมาทันควัน
“คือมนต์แค่อยากรู้น่ะค่ะ”ถึงแม้จะไม่ได้คำตอบมิหนำซ้ำเขาจะตอกกลับเธอก็ยังยิ้มรับมันเอาไว้และตอบออกไป
“เรื่องของฉันยัยหนู เธอไม่จำเป็นต้องรู้!”สุรเสียงแข็งกร้าวดังกังวานจนกมลเนตรสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนที่เจ้าหล่อนจะเงียบไปโดยไม่ปริปากเอ่ยถามอะไรชายหนุ่มอีก
ในรถเต็มไปด้วยความเงียบสงัดได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของคนทั้งคู่เท่านั้น นิ้วเรียวสวยสไลด์สมาร์ทโฟนเครื่องบางไปมาโซเซียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ในโลกออนไลน์เป็นจุดสนใจอย่างดี แต่ส่วนมากกมลเนตรจะติดตามข่าวแฟชั่นแวดวงสังคมดารานางแบบมากกว่า
‘น้ำมนต์อยู่ไหนย่ะ’
‘เชียงใหม่ค่ะพี่ลิซซี่’
‘ได้ไงกัน! อีก2วันมนต์ต้องถ่ายแบบชุดว่ายน้ำนะ’
‘คือมนต์ต้องมาทำอะไรบางอย่างไว้ค่อยคุยกันนะคะ’
สิงห์ราชปรายตาเมียงมองคนที่นั่งข้างๆ โดยที่ร่างบางไม่รู้ตัวนิ้วเรียวสวยของเจ้าหล่อนกดสมาร์ทโฟนเล่นโดยไม่สนใจเขาเลย
หึคงจะคุยกับผู้ชายอยู่ล่ะสิ!
รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเสียดื้อๆ แต่ก็ดีเหมือนกันสบายหูดี ตลอดการขับรถเข้ามาในตัวไร่จนถึงเป้าหมาย พาหนะขับเคลื่อนที่วิ่งมานับครึ่งชั่วโมงจอดและดับเครื่องลงหน้าบ้านเรือนไทยหลังงามที่เป็นอาณาเขตของสิงห์ราช
“ถึงแล้วที่พักของเธอเก็บกวาดทำความสะอาดเอาเองนะ ที่นี่ไม่มีคนใช้”ชายหนุ่มเอ่ยบอกเธอด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่แสดงอาการใดๆ ออกมาแต่ดูร่างบางกำลังอ้าปากหวออย่างตกใจก่อนจะรวบรวมสติพูดออกมา
“พี่สิงห์ล้อมนต์เล่นใช่ไหมคะ ไม่มีคนใช้”ไม่จริงใช่ไหมที่เธอจะต้องทำทุกอย่างที่ไม่เคยทำเองเลย ไม่ว่าจะล้างจาน ซักผ้า กวาดบ้านถูบ้าน มันไม่จริงใช่ไหม
“ฉันโตพอที่จะไม่ล้อใครเล่น ลงไปขนกระเป๋าลงได้แล้วฉันจะกลับไปนอน”คำพูดจากปากหยักสวยของสิงห์ราชดูเด็ดเดี่ยวจริงจังว่านี่คือเรื่องจริงที่เขาพูด ฝ่ามือหนายกขึ้นมาปิดปากตัวเองและหาวนอนแสดงให้เห็นว่าเขาง่วงแล้ว
กรี๊ด!!!
มือเล็กกำเข้าหากันแน่นเม้มปากเป็นเส้นตรงจะมากไปแล้วนะพ่อคุณ ไม่คิดว่าเฉยชาแล้วยังไม่รู้สึกรู้สาอะไรอีกเขาก็รู้ว่าเธอเป็นลูกคุณไมตรี อักษรราตรี ท่านรัฐมนตรีกระทรวงการคลังเลยนะ
“อยู่ไม่ได้เดี๋ยวฉันโทรบอกพ่อเธอให้ก็ได้”
“ไม่กลับค่ะ ชัดนะคะ”
เธอต้องอยู่ที่นี่ให้ได้!
“งั้นพรุ่งนี้เจ็ดโมงเช้าเตรียมตัวให้พร้อมลงมารอฉันหน้าบ้าน เธอจะต้องไปเรียนรู้งานในไร่ เธอต้องทำทุกอย่างที่ฉันสั่งเพื่อแลกเงินเดือน”น้ำเสียงอันแข็งแกร่งกล่าวอย่างเด็ดขาดไม่อิดออดหรือกังวลใดๆ ทั้งสิ้นอยู่กับสิงห์ราชจะมาทำตัวสวยวันหนึ่งๆ ไม่ได้
“ไม่ได้นะคะ! พี่สิงห์งานถ่ายแบบยังรอมนต์อยู่มนต์ต้องดูแลตัวเอง”ไม่จริงใช่ไหมที่จะต้องตากแดดตากลมให้ผิวอันขาวเนียนลออเป็นยองใยมีจุดด่างดำหรือริ้วรอยไม่มีวันเสียหรอก
“หึ! ยัยหนูอย่างเธอนะหรอจะถ่ายแบบ ตัวก็เล็กหน้าก็อย่างกับหนูเก็ทบี้”
“พี่สิงห์ยังรู้จักมนต์ไม่ดีพอหรอกคะ”ร่างบางบอกไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะปิดประตูรถให้เขาและยกกระเป๋าทั้งสองใบใหญ่เข้าบ้านเรือนไทยที่สวยเรียบไม่เริดหรูเกินไป
“หึ! เธอตั้งหากที่ยังไม่รู้จักฉันดีสาวน้อย”
ดวงตากลมโตคู่สวยกวาดมองรอบๆ ตัวบ้านที่สว่างไสวเหมือนมีคนเข้ามาที่นี่ก่อนเธอแล้ว ภายในตัวบ้านสะอาดเอี่ยมเงาวับเหมือนมีคนมาเก็บกวาดเช็ดถู ขัดเงาโต๊ะไม้สักราคาแพงรอการมาของเธอ แล้วไหนจะเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครันล้วนแต่ทันสมัยทั้งนั้น
กมลเนตรวางกระเป๋าลงขาเรียวเสลาก้าวเดินตรงไปยังช่องว่างที่อยู่ถัดออกมาจากโต๊ะรับประทานอาหารเป็นห้องครัวขนาดเล็ก ก่อนจะเดินไปรอบๆ ตัวบ้านสายตาหวานไปสะดุดกับโน้ตเล็กๆ ที่ติดอยู่หน้าประตู ก่อนจะดึงมันออกมาอ่าน ‘นี่ห้องของเธอดูแลรักษาทำความสะอาดให้ดีล่ะอย่าให้อะไรเสียหาย’
“แหม! ปากไม่ตรงกับใจเลยนะคะพี่สิงห์”ปากบางกระจับยิ้มร่าเขาขู่เธอไว้เสียน่ากลัวเลย แล้วนี่ที่เห็นเหมือนการจัดการต้อนรับเสียอย่างดีดูก็รู้ว่ามีคนเข้ามาทำความสะอาดให้เจ้าหล่อนแล้ว กมลเนตรจับลูกบิดประตูที่เป็นห้องนอนของตนที่สิงห์ราชบอกไว้ในกระดาษใบเล็ก
ห้องนอนขนาดกว้างมีโซฟาตั้งอยู่ปลายเตียงสีชมพูในห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นดอกลิลลี่ที่เธอชอบมาก โทรทัศน์จอแบนติดผนังไม้สักเงา มีโต๊ะเครื่องแป้งตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำในตัวครบถ้วน
ไหนว่าไม่มีใครมาทำความสะอาดไง!
