บทที่ 5 คู่แฝด

“ว่าไงน้องชาย จะยอมส่งดาบกับชุดเกราะมาโดยดีหรือไม่ ดูซะก่อน คราวนี้แกไม่รอดแน่” ผู้พูดก็คือชายหน้าเหี้ยมจนจังแก ที่เคยดักปล้นราดิชที่นอกเมืองนั่นเอง วันนี้มันพาลูกน้องมาเพิ่มอีกแปดคน เพราะมันยังขยาดกับราดิชเมื่อวานอยู่ เลยคิดจะใช้พวกมากเข้าข่ม ซึ่งราดิชที่กำลังหาที่ระบายอยู่ถึงกับแสยะยิ้มทันที

“คงไม่ได้หรอกพี่ชาย ว่าแต่พี่ชายยังไม่เลิกทำตัวเป็นโจรอีกเหรอไง บอกไว้ก่อนนะตอนนี้ผมกำลังอารมณ์ไม่ดีสุดๆ เลยด้วย” ราดิชบอกพวกมัน และเริ่มแผ่จิตสังหารใส่พวกมันทันที จิตสังหารที่แผ่ออกมานั้นไปกดดันพวกมันจนไม่กล้าขยับตัวแม้แต่นิดเดียว ราวกับว่าถ้ามันขยับตัวคงได้ตายในทันทีเป็นแน่

ชายหัวหน้ากลุ่มเห็นท่าไม่ดี แต่ถึงจะกลัวแต่ยังไงคนของตนก็มากกว่า จึงตะโกนสั่งว่า

“พวกเราอย่าไปกลัวมัน มันมีแค่คนเดียว รุมเข้าไปฆ่ามันเลย เร็วๆ เข้า” มันว่าพร้อมกับถีบคนที่อยู่ตรงหน้าให้ถลาเข้าหาราดิชทันที เขาชักดาบโฟเทียออกมาแทงสวนใส่เข้าที่คอหอยของเจ้าคนที่กำลังถลาเข้ามาถึงตายในดาบเดียว หลังจากที่เขาชักดาบกลับออกมาก็ตวัดดาบฟันไปทางขวาเข้าหาเจ้าคนหนึ่งที่กำลังพุ่งมา ดาบกรีดเข้าที่หน้าอกมันจนเลือดพุ่งกระฉูด ตัวมันก็กระเด็นไปชนคนที่กำลังเข้ามาช่วย หลังจากนั้นราดิชก็กระโดดถอยออกมาแล้วประกาศว่า

“เสียเวลาชะมัด เข้ามาพร้อมกันหมดเลยนั่นแหละ จะได้จัดการทีเดียวกันเลย” ราดิชบอก พร้อมกับสร้างเปลวไฟอันร้อนแรงขึ้นมาที่ตัวดาบ ความร้อนที่แผ่ออกมานั้นถึงกับเผาไหม้ได้แม้แต่อากาศ ซึ่งราดิชเองก็ตกใจเหมือนกัน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาลองเรียกใช้ทักษะนี้

หัวหน้ากลุ่มคิดในใจ ‘บ้าจริง! ไม่นึกว่าดาบมันจะทำแบบนี้ได้ด้วย เอาไงดีวะ’ แต่ยังไม่ได้ทันทำอะไร ราดิชก็พุ่งเข้าใส่ลูกน้องของมันอย่างรวดเร็ว เขาฟาดฟันดาบออกไปรวดเร็วราวจักรผัน โดยที่ลูกน้องของมันที่โดนฟันเข้าไปนั้นจะเกิดบาดแผลไฟไหม้ฉกรรจ์ขึ้นมา และไฟนั้นก็ติดตามร่างกาย และไม่ยอมดับง่ายๆ อีกด้วย บางคนพยายามกลิ้งตัวกับพื้นเพื่อดับไฟแต่ก็ไม่สำเร็จ จนในที่สุดพวกมันก็โดนไฟคลอกตกตายกลายเป็นแสงไปทั้งหมด เหลือแต่ตัวหัวหน้าโจรที่ได้แต่นั่งลงกับพื้นมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตกตะลึง

“เหลือแต่พี่ชายแล้วล่ะนะ ไปสำนึกผิดตอนรอเกิดใหม่เถอะ” ราดิชบอกกับมัน ทันใดนั้นดาบโฟเทียก็พุ่งเสียบทะลุหัวใจของมันเสียแล้ว เปลวเพลิงค่อยๆ ลามเลียลุกไหม้ร่างกายของมันอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนของชายหน้าเหี้ยม ไม่นานมันก็ถูกไฟคลอกจนสลายกลายเป็นแสงหายไป จากนั้นราดิชก็ยกเลิกทักษะและเก็บดาบเข้าฝักไป แล้วเริ่มลงมือเก็บของที่ตกอยู่ พอราดิชลงมือเก็บของที่ตกอยู่จนหมด จึงเปิดหน้าต่างข้อมูลขึ้นมาดูค่าประสบการณ์ที่ได้จากการจัดการพวกมันกว่า 10 คน

-ท่านสังหารผู้เล่น จนจังแก อ้วนซ่าท้าต่อย ผอมซ่าท้าตี ... ได้ค่าประสบการณ์รวม 11,000

“ฆ่าไปตั้งเยอะได้ค่าประสบการณ์นิดเดียวเอง” เขาบ่นเล็กน้อยพลางปิดหน้าต่างข้อมูลและออกเดินไปที่อาคารภารกิจต่อ โดยไม่สนใจสิ่งอื่นแต่อย่างใด ทว่า ในขณะที่ราดิชต่อสู้กับพวกโจร ก็มีคนสองคนแอบมองอยู่

“แกว่าดาบนั่นมันดาบอะไรวะ ถึงได้มีเปลวไฟออกมาได้ขนาดนั้น” คนแรกพูด

“ไม่รู้ว่ะ แต่น่าจะเป็นดาบระดับสูง ข้าว่าไม่ระดับ A ก็ S แหละ” คนที่สองว่าบ้าง

“แล้วพวกเราจะเอาไงต่อ เรื่องที่เราซื้อเกราะเหล็กน้ำเงินนั้นไม่ได้น่ะ” ชายคนแรกพูด เขาคือผู้เล่นที่เข้าไปทักราดิชเมื่อวาน ชายร่างใหญ่นั่นเอง

“คงต้องปล่อยไปก่อน แต่ข้าว่ารีบหาข้อมูลเจ้านี่กับดาบที่มันใช้ก่อนดีกว่า ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นยอดฝีมือคนใหม่ที่จะปรากฏตัวขึ้นมาก็ได้” ชายคนที่สองหรือเกิดมารวยบอก หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เดินทางไปที่โรงแรม และเปิดห้องเพื่อทำงานที่วางแผนกันต่อไป

ทางราดิชเอง พอไปถึงอาคารภารกิจที่ตอนนี้ยังเช้าอยู่ ก็เลยไม่มีผู้เล่นมาใช้บริการ เขาจึงเข้าไปที่เคาน์เตอร์ที่มีเจ้าหน้าที่อยู่ทันที

“ผมมาสอบถามเรื่องภารกิจการเปลี่ยนอาชีพนักดาบครับ” ราดิชบอกความประสงค์ของเขา

“เงื่อนไขในการรับภารกิจเปลี่ยนอาชีพนักดาบคือมีระดับ 20 ขึ้นไป มีทักษะชำนาญดาบระดับ 20 ขึ้นไปจึงสามารถรับภารกิจได้ ถ้าอยากจะรับภารกิจก็ขอนาฬิการะบบด้วยค่ะ ดิฉันจะได้ตรวจสอบว่าคุณมีคุณสมบัติหรือเปล่า” เจ้าหน้าที่ชี้แจง ราดิชเลยยื่นมือซ้ายที่สวมนาฬิกาไปให้อีกฝ่ายสแกนข้อมูล หลังจากสแกนไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย

“ตรวจสอบเรียบร้อยค่ะ คุณมีคุณสมบัติครบ สามารถรับภารกิจเปลี่ยนอาชีพนักดาบได้ จะรับเลยหรือเปล่าคะ” เจ้าหน้าที่สาวถามราดิช

“รับครับ” ราดิชตอบในสิ่งที่เขารอคอยอยู่

-ท่านได้รับภารกิจเปลี่ยนอาชีพนักดาบ

ภารกิจ : เปลี่ยนอาชีพนักดาบ

สถานที่รับภารกิจ : อาคารภารกิจ

รายละเอียด : จัดการพวกสเกลเลตันโซลเยอร์ สเกลเลตันอาเชอร์ ที่สุสานผีดิบ แล้วหากระดูกสีเลือดของสเกลเลตันจำนวน 200 ท่อน

สถานที่ส่งภารกิจ : อาคารภารกิจ

หลังจากได้รับภารกิจ ราดิชก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่และออกจากอาคารภารกิจไป พอออกมาจากอาคารภารกิจ เขาก็เปิดแผนที่ขึ้นมาดูว่าสุสานผีดิบอยู่ที่ไหน เขาพบว่ามันตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองเริ่มต้น มีลักษณะเป็นถ้ำใต้ดินมีหลายชั้น เป็นที่อยู่อาศัยของพวกสัตว์อสูรประเภทโครงกระดูกและวิญญาณ

พอราดิชรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน เขาก็เตรียมตัวออกเดินทางโดยแวะไปที่ร้านอุปกรณ์ของเถ้าแก่อ้วนก่อนเป็นอย่างแรก

ราดิชตะโกนหน้าร้าน “เถ้าแก่อ้วนตื่นรึยัง ผมมาซื้อของหน่อย” พร้อมกดกริ่งเรียก พอกดมากๆ เข้าก็มีเสียงดังจากในร้าน พร้อมประตูที่เปิดออกมาเผยให้เห็นสภาพเถ้าแก่อ้วนในชุดนอน

“แหกปากโวยวายแต่เช้ามีอะไร คนจะหลับจะนอน” เถ้าแก่อ้วนบอกพลางหาววอดๆ

“ผมมาซื้อของหน่อย ขอระเบิดแบบที่เถ้าแก่บอกเพิ่มด้วยนะ สุดยอดจริงๆ ระเบิดของเถ้าแก่เนี่ย” ว่าแล้วราดิชที่เข้ามาในร้านก็เล่าให้เถ้าแก่อ้วนฟัง เรื่องที่เขาเอาระเบิดยัดปากราชากบเขียว

“ฮ่าๆ ลื้อนี่เข้าใจคิดนะ ฟันไม่เข้าเอาระเบิดยัดปากมันซะเลย บอกแล้วสินค้าของอั๊วะรับประกันคุณภาพ ว่าแต่รอบนี้เอาเท่าไรล่ะ” เถ้าแก่อ้วนบอกพร้อมเดินไปหยิบเอาลังใส่ระเบิดออกมาให้ราดิช

“เอาระเบิดสังหาร 50 ระเบิดเพลิง 30 ระเบิดแสง 30 ระเบิดควัน 30 ละกันเถ้าแก่” ราดิชตอบยิ้มๆ

“ลื้อจะเอาไปทำสงครามกับใครหว่านั่น เอาเยอะจริง” เถ้าแก่อ้วนบ่น แต่ก็หยิบของออกมาตามที่ราดิชต้องการ

“ทั้งหมดก็ 50,000 G อั๊วะลดให้เรียบร้อยแล้ว” เถ้าแก่อ้วนบอก ทางราดิชก็จัดการจ่ายเงินแล้วรับเอาระเบิดทั้งหมดมาใส่หน้าต่างไอเทม

“ผมมีของมาขายเถ้าแก่ด้วย” ว่าแล้วเขาก็เอาบรรดาไอเทมที่ไม่คิดว่าจะได้ใช้ออกมาให้เถ้าแก่ดู

“ไอ้นี่ ไอ้นี่ อันนี้ อั๊วะรับซื้อของพวกนี้ละกัน ที่เหลือลองไปถามที่ร้านขายอาวุธกับขายยาดู” เถ้าแก่อ้วนเอาของที่ราดิชขายไปเก็บ พร้อมกับจ่ายค่าของให้ราดิชมา 30,000 G

“ผมไปก่อนนะเถ้าแก่อ้วน” ราดิชบอกลาเถ้าแก่ เถ้าแก่ก็โบกมือลา และปิดร้านเพื่อไปนอนต่ออีกหน่อย

พอออกจากร้านขายอุปกรณ์ เขาที่เดินไปที่ร้านขายยาต่อก็พบป้าไวท์ที่เปิดร้านเรียบร้อยกำลังจัดของอยู่

“สวัสดีครับป้าไวท์ ผมเอาของมาขาย และซื้อน้ำยาฟื้นพลังหน่อยน่ะครับ” ราดิชกล่าวพลางยกมือไหว้หญิงชรา หลังจากทักทายเสร็จก็เดินเข้ามาในร้าน

“ไหว้พระเถอะพ่อหนุ่ม ว่าแต่เอาอะไรมาขาย และซื้ออะไรบ้าง” ป้าไวท์ถาม พร้อมหยิบลังใส่น้ำยาออกมาเพื่อที่จะขายของให้ราดิช

“ขอเป็นเรดโพชั่นขวดเล็ก 200 บลูโพชั่นขวดเล็ก 500 ละกันครับ แล้วก็นี่ของที่จะเอามาขาย” ราดิชว่า แล้วเอาของที่จะขายออกมาให้ป้าไวท์ดู

“อันนี้ขายได้ อันนี้ด้วย ป้ารับพวกนี้ไว้หมดละกัน ทั้งหมดก็ 10,000 G ส่วนยาเพิ่มพลังนั่นรวมกันก็ 70,000 G หักลบกันก็ 60,000 G นะพ่อหนุ่ม” ราดิชรับยามาแล้วจ่ายเงินให้ป้าไวท์ไป พอเสร็จเรียบร้อยเขาก็ลาป้าไวท์เพื่อไปร้านอาวุธ

พอมาถึงหน้าร้านอาวุธ ราดิชเปิดประตูเข้าไป ก็พบลุงแบล็คกำลั่งนั่งหาวอยู่ที่เคาน์เตอร์

“สวัสดีครับลุง ผมมีของมาขายน่ะ” ราดิชบอก และก็หยิบเอาพวกของระดับ D ที่ไม่ได้ใช้งานขึ้นมาให้ชายชราดู

“มีดกับดาบระดับ D ข้ารับไว้หมดนี่แหละ ทั้งหมดก็ 35,000 G นะ” ว่าแล้วลุงแบล็คก็จ่ายเงินมาให้ราดิช เขาก็เก็บไว้และกล่าวลาลุงแบล๊คเพื่อที่จะเดินทางไปทำภารกิจต่อ

พอออกมานอกร้าน ราดิชก็เดินดูผู้เล่นที่เริ่มนำสินค้ามาวางขาย จึงพบว่ายาฟื้นพลังที่วางขายนั้นถูกกว่าในร้านนิดหน่อย แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเท่าไรนัก เพราะเขาคิดว่าซื้อที่ไหนก็คงเหมือนกัน จนเขาเดินออกมาจนถึงประตูเมืองด้านเหนือ และกำลังจะออกนอกเมือง ก็มีผู้เล่นสองคนเดินตรงเข้ามาหาเขา

“สวัสดีค่ะพี่ชาย” หนึ่งในนั้นพูดทักทายราดิช เธอเป็นผู้หญิงที่มีใบหน้างดงามรูปไข่ ผมสีทองที่ยาวถึงกลางหลัง ดวงตากลมโต คิ้วเรียวบาง จมูกโด่ง ริมฝีปากจิ้มลิ้มสีชมพู ผิวขาว หน้าตาสวยน่ารักเป็นอย่างมาก แค่มองดูเธอก็คงทำให้ใครหลายๆ คนคงต้องตาค้างเป็นแน่แท้ คาดว่าอายุน่าจะราว 19 - 20 ปีได้

“สวัสดีครับ เอ่อ...คือ” ราดิชทักทายกลับด้วยความงุนงง เขากำลังคิดว่ารู้จักคนตรงหน้านี้ตอนไหนหว่า แต่คนที่อยู่ตรงหน้านี้ก็หาทำให้ราดิชหวั่นไหวแต่อย่างใด เขายังคงมีสติและนึกถึงความทรงจำที่ผ่านมาอยู่ตลอดเวลา เพราะเขาจำคำสอนของพี่ชายได้ว่า ถ้าจะมองคนอย่ามองที่รูปกายภายนอก ให้มองที่จิตใจของคนคนนั้น ตัวเขาก็จำมันขึ้นใจตลอดเวลา

“ถึงพี่ชายอาจจะจำเราไม่ได้ แต่พอดีหนูเห็นพี่ชายที่อาคารภารกิจน่ะค่ะ พอไปถามดูก็เลย

รู้ว่าพี่ชายกำลังจะไปทำภารกิจเปลี่ยนอาชีพ ก็เลยอยากจะขอร่วมปาร์ตี้ไปด้วยน่ะค่ะ” เธอบอกราดิช

“แล้วพี่จะช่วยพวกน้องยังไงล่ะ” ราดิชเองก็ยังงงไม่น้อยอยู่เหมือนกัน

“คือว่าเราสองคนก็จะไปทำภารกิจเปลี่ยนอาชีพด้วยเหมือนกัน แต่ว่าหาคนไปทำด้วยไม่ได้ พอเห็นพี่ชายใส่ชุดเกราะที่ดูมีระดับสูงก็เลยว่าจะขอไปด้วยน่ะค่ะ อ่อ เกือบลืมแนะนำตัว หนูชื่อเมย์ค่ะ นี่เรย์น้องสาวหนู” เธอกล่าวแนะนำตัวเอง แล้วดันผู้หญิงอีกคนที่แอบอยู่ข้างหลังตลอดออกมาข้างหน้า ทำให้ราดิชได้เห็นผู้หญิงอีกคนชัดๆ ซึ่งเขาก็เข้าใจทันทีว่าสองคนนี้เป็นฝาแฝดกันแน่นอนเพราะหน้าตาเหมือนกันยังกับแกะ เพียงแต่ว่าเรย์นั้นทำผมให้มีสีเขียวเพื่อให้ดูต่างจากพี่สาวของเธอ

“สวัสดีครับ พี่ชื่อราดิช ว่าแต่ปาร์ตี้นี่มันต้องทำยังไงล่ะ พี่ไม่เคยปาร์ตี้กับคนอื่นมาก่อนน่ะ” ราดิชว่า เพราะเขาตะลุยเก็บระดับคนเดียวโดยไม่สนใจใครนั่นเอง

“อ๋อ ทำแบบนี้ค่ะ เปิดหน้าต่างระบบตรงหน้าปาร์ตี้ แบบนี้แล้วก็แบบนี้” เมย์เปิดหน้าต่างให้ราดิชดู ทันใดนั้นก็มีเสียงเตือนราดิชว่ามีคนส่งข้อความเชิญเข้าปาร์ตี้ เขาจึงกดตกลง และได้เข้าร่วมปาร์ตี้กับสองพี่น้องทันที

“ว่าแต่พวกเธอก็จะเปลี่ยนอาชีพเป็นนักดาบหรือ” ราดิชถาม เพราะดูจากที่สองคนนี้แต่งตัว เมย์นั้นแต่งตัวแบบเขาคือใส่ชุดเกราะเหมือนกันแต่เป็นระดับ C ส่วนเรย์แต่งชุดคลุมที่ดูเหมือนพวกนักบวช

“หนูจะเปลี่ยนอาชีพเป็นนักดาบค่ะ ส่วนเรย์จะเปลี่ยนอาชีพเป็นนักบวช สองอาชีพนี้ให้ไปหากระดูกสีเลือดเหมือนกัน แต่นักบวชหาแค่ 100 อัน นอกจากนี้ยังมีนักเวทที่ทำภารกิจแบบเราแต่ใช้ 150 อันน่ะค่ะ ส่วนอาชีพอื่นก็ไปหาของอย่างอื่นน่ะค่ะ” เมย์ตอบให้ราดิชหายสงสัย

“ถ้าอยากนั้นเราออกเดินทางไปสุสานผีดิบกันเลย เดี๋ยวพี่จะดูแลน้องๆ เอง” ราดิชหัวเราะ และออกเดินนำสองพี่น้องออกนอกเมืองไป ระหว่างทางก็พบผู้เล่นหลายคนเก็บระดับกับพวกสไลม์อยู่เป็นจำนวนมาก ต่างกับอีกสองทิศที่ราดิชเคยผ่านที่แทบจะไม่มีคนเลย

จากการที่เขาชวนสองสาวคุยจึงทำให้รู้ว่าสไลม์นั้นพลังโจมตีต่ำมาก แถมวิ่งช้าหลบไม่เก่ง เหมาะกับพวกที่ใช้เวทหรือธนูเป็นอย่างมาก ทำให้ที่นี่เป็นที่นิยมของพวกที่จะเลือกเล่นอาชีพเหล่านั้น

หลังจากเดินผ่านเขตทุ่งหญ้ามาได้สักพักก็พบเจอกับป่าโปร่งที่ไม่มีอันตรายเท่าไร ซึ่งมันมีแค่สัตว์อสูรประเภทงูเขียวหางไหม้ และกระรอกอยู่ประปราย ซึ่งพวกมันก็ไม่ได้เข้ามาโจมตีเพราะราดิชแอบปล่อยจิตสังหารใส่พวกมันจนพวกมันเตลิดหนีไปหมด

เดินมาจนพ้นชายป่าก็พบเข้ากับถ้ำหนึ่ง มีลักษณะเป็นถ้ำที่ลึกลงไปในพื้นดิน ปากถ้ำมีขนาดกว้างกว่า 20 เมตร และสูงกว่า 10 เมตร ลาดลงไปใต้พื้นดิน ที่บริเวณปากถ้ำมีผู้เล่นอยู่เป็นจำนวนมากพอสมควร ทั้งพวกพ่อค้าแม่ค้าที่มาขายของ หรือพวกที่หาปาร์ตี้เพื่อลงไปเก็บระดับราดิชก็เพิ่งจะเคยเจอคนเยอะแบบนี้ เลยหันไปถามสองสาวดู

“อ๋อ คือสุสานผีดิบนี่เป็นที่เก็บระดับของพวกระดับ 15 ขึ้นไป จนถึงพวกที่เพิ่งเปลี่ยนอาชีพใหม่ๆ น่ะค่ะ แล้วก็พวกที่จะเล่นอาชีพนักบวชมาใช้สกิลฮีลเพื่อเพิ่มระดับ” เมย์ตอบ

“หือ สกิลฮีลใช้โจมตีได้ด้วยหรือ” ราดิชถามความสนใจ

“ใช้ได้กับพวกที่เป็นอันเดธหรือพวกผีดิบน่ะค่ะ ถ้าฮีลใส่พวกมันจะเป็นการลดพลังชีวิตแทน” เรย์ตอบกลับมาด้วยท่าทีอายๆ

“ก็อย่างที่เรย์บอกน่ะค่ะ ว่ามันใช้โจมตีได้ แต่สำหรับพวกเราที่เป็นนักดาบนี่แทบไม่ได้ใช้เลยมั้งนั่น ว่าไหมคะพี่ราดิช” เธอบอกเขา ราดิชเองก็ได้แต่ทำหน้าแหยๆ เขาก็ใช้ทักษะนี้อยู่หลายครั้งเหมือนกัน เพราะประหยัดยาฟื้นพลังได้พอสมควร

“ว่าแต่เราต้องเข้าไปลึกไหม ถึงจะเจอสัตว์อสูรที่ต้องการน่ะ” ราดิชถาม และเซตน้ำยาพื้นพลังต่างๆ ให้เตรียมพร้อม

“ที่นี่มันมีทั้งหมด 5 ชั้นน่ะค่ะ ชั้นแรกกับชั้นสองจะเป็นพวกสเกลเลตันธรรมดา กับพวกค้างคาวเทาที่เป็นสัตว์อสูรระดับ 15 ซึ่งคนทั่วไปนิยมมาเก็บระดับกัน ส่วนชั้นสามกับสี่จะเป็นที่อยู่ของพวกสเกลเลตันโซลเยอร์กับอาเชอร์ที่มีระดับอยู่ที่ 20 ที่เป็นเป้าหมายของเราวันนี้น่ะค่ะ ส่วนชั้น 5 เป็นที่อยู่ของพวกสเกลเลตันโซลเยอร์ อาเชอร์ สเกลเลตันไนท์ที่มีระดับถึง 23 พวกวิญญาณแล้วก็ราชาของที่นี่ค่ะ” เมย์บอกราดิช และเรียกดาบของเธอออกมาดู ส่วนเรย์ก็หยิบคทาเวทออกมา ราดิชก็เพิ่งสังเกตเห็นคทาที่เธอใช้จึงมองด้วยความสนใจ

“นั่นมันคทาอะไรเหรอ สวยจัง” ราดิชถาม พร้อมจ้องมองมันจนเรย์ต้องเอาไปซ่อนข้างหลัง

“คทาอาคแวนด์ ไอเทมระดับ B น่ะค่ะ เปิดได้จากกล่องภารกิจสำรวจเมืองน่ะ” เมย์ตอบแทน

“ก็เหมือนกับชุดเกราะของพี่น่ะสิ พี่ก็ได้จากภารกิจนี้เหมือนกัน” ราดิชพยักหน้าให้อย่างรู้กัน

“ทั้งพี่ราดิชทั้งเรย์ได้แต่ของดีๆ กัน ดูหนูสิได้แต่เกราะระดับ C เอง ฮือๆ” เธอว่า พลางทำท่าจะร้องไห้

“โอ๋ๆ อย่าเพิ่งร้อง เอาแบบนี้ไหม เดี๋ยวถ้าลงไปทำภารกิจแล้วได้ของดีๆ พี่จะยกให้เรานะ” ราดิชพูด และพยายามปลอบเด็กสาว

“จริงนะคะพี่ หนูรักพี่ที่สุดเลย” เธอบอกพร้อมทั้งกระโดดโถมเข้ามากอดเขาทั้งตัว จนราดิชหงายท้องก้นจ้ำเบ้ากับพื้น

“อูย จริงจ้า เธอลุกออกจากตัวพี่ก่อนได้ไหมเนี่ย คนอื่นเขามองกันหมดแล้ว” ราดิชพยุงเด็กสาวขึ้นไป พร้อมกับหันไปปล่อยจิตสังหารออกไปให้กับผู้เล่นที่มองมาที่เขา จนพวกนั้นตัวสั่นรีบหันไปมองทางอื่นทันที

“พี่ทำได้ไงน่ะ ตอนเดินผ่านป่าก็ทีล่ะ หนูสังเกตอยู่แค่พี่หันไปมองเท่านั้น พวกสัตว์อสูรก็เผ่นหมด แล้วหนูก็รู้สึกกดดันจนหายใจไม่ออกด้วย” เมย์ถาม พร้อมจ้องหน้าราดิชเพื่อจับผิดทันที

“ไม่มีไรหรอก แค่ทักษะเล็กๆ น้อยๆ เดี๋ยวไว้ว่างๆ พี่สอนให้ละกันนะ” ราดิชบอกให้เธอสบายใจ

จากนั้นปาร์ตี้ของพวกเขาก็เตรียมความพร้อมเสร็จ ทั้งน้ำยาเพิ่มพลัง อาวุธ จึงได้เวลาเข้าไปในถ้ำเพื่อทำภารกิจเปลี่ยนอาชีพกัน