บทที่ 6 สุสานผีดิบ
ก้าวแรกที่พวกราดิชย่างเข้ามานั้น เขารู้สึกว่าถ้ำนี้มีความชื้นอยู่พอสมควร มีคบไฟตั้งอยู่ที่ผนังถ้ำทั้งสองข้างตลอดทางเดิน หลังจากที่เดินลงมาตามทางลาดนั้น ราดิชก็พบเจอห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีกำแพงดินโผล่ขึ้นมาเป็นระยะๆ ที่นี่มีผู้เล่นเป็นจำนวนมากกำลังเก็บระดับอยู่
สัตว์อสูรที่พบเห็นโดยทั่วไปคือสเกลเลตัน ตัวมันเป็นโครงกระดูกเดินได้ถือมีด แต่ด้วยความที่มันมีพลังชีวิตที่ไม่สูงมากและไม่โจมตีก่อน จึงทำให้พวกมันเป็นแหล่งเก็บระดับชั้นดี และยังมีค้างคาวเทาที่เป็นค้างคาวตัวขนาดแม่ไก่อ้วนๆ พวกนี้โจมตีก่อนโดยพุ่งเข้ามาชนแต่ก็ไม่มีปัญหากับเหล่าผู้เล่น เพราะมันไม่ได้มีพลังชีวิตเยอะ แค่โจมตีสวนใส่ก็ตายแล้ว
หลังจากที่เดินผ่านผู้เล่นหลายกลุ่มมาได้ พวกราดิชก็มาถึงทางลงชั้นสองที่เป็นทางลาดเหมือนกับตอนเข้ามา พอเดินลงไปตามทางจนสุดก็พบโถงถ้ำอีกแห่งหนึ่ง ที่นี่มีลักษณะไม่ต่างจากชั้นแรก แต่มีพวกสเกลเลตันอยู่ชุกชุมกว่า จึงไม่ค่อยเห็นผู้เล่นมาเดี่ยวๆ กัน ส่วนใหญ่มีแต่พวกที่มาเป็นปาร์ตี้ทั้งนั้น ซึ่งราดิชก็ไม่ได้สนใจรีบเดินต่อไปจนถึงทางลงชั้นที่ 3
ชั้นที่สามนี้แตกต่างจากชั้นที่ผ่านมาคือมันเป็นทุ่งโล่งกว้าง แต่บนทุ่งโล่งนั้นกลับไปเต็มไปด้วยป้ายหลุมศพจำนวนนับไม่ถ้วน ทำให้บรรยากาศดูวังเวงเป็นอย่างมาก พอเดินไปตามทางก็พบผู้เล่นหลายกลุ่มกำลังต่อสู้กับพวกสเกลเลตันอยู่ พวกราดิชเดินไปได้สักพักก็ไม่สามารถหาที่ว่างที่จะฆ่าสัตว์อสูรได้
“เอาไงกันดีสาวๆ ชั้นนี้คนก็เต็มเหมือนกัน อย่างว่าแหละ ที่นี่ได้รับความนิยมสูงล่ะนะ” ราดิชถามสองพี่น้องดู
“พี่ราดิชว่าพวกเราแค่สามคนลงไปชั้น 4 จะไหวไหมคะ” เรย์สาวน้อยขี้อายถามราดิชขึ้นมา
“พี่ว่าน่าจะไหวอยู่นะ ว่าไงเมย์เราลองลงไปที่ชั้น 4 กันดูก่อนไหม” ราดิชถามความความเห็นของเมย์
“ลองดูก่อนก็ได้ค่ะ ชั้น 4 อาจคนน้อยกว่านี้ก็ได้” เมย์พูดพลางออกเดินต่อ ซึ่งพวกเขาก็เดินทางกันต่อไป โดยที่ไม่มีสัตว์อสูรตัวไหนเข้ามาจู่โจมพวกราดิช จนกระทั่งพวกเขาถึงทางลงชั้น 4 เมย์ก็หันมาพยักหน้าให้กับพวกเขา และเริ่มเดินนำลงไปทันที
ซึ่งในชั้นที่ 4 นั้นก็ไม่ต่างจากชั้น 3 เลย แต่ดูจากขนาดแล้วชั้นนี้น่าจะกว้างกว่าชั้น 3 พอสมควร หลังจากที่ลงมาแล้วทุกคนก็ช่วยกันมองหาที่ว่าง ชั้นนี้สัตว์อสูรมีจำนวนเยอะกว่าชั้น 3 และคนที่ลงมาที่นี่ก็มีไม่มาก พวกราดิชจึงหาที่ว่างที่จะออกล่าพสกสเกเลตันได้ในที่สุด
“เอาตรงนี้แหละ เรย์ถอยไปอยู่ตรงมุมนั้นนะ ส่วนเมย์อย่าอยู่ห่างเรย์นะ เดี๋ยวพี่ไปล่อพวกมันมา พอมาถึงตรงนี้เดี๋ยวพี่ชนเอง แล้วพวกเราก็คอยรุมนะ” ราดิชบอกแผนการ และจัดตำแหน่งเรียบร้อย
เขาก็เรียกดาบเหล็กกล้าระดับ C ออกมาถือและมองหาเหยื่อทันที เขาจัดการยิงศรไฟใส่สเกลเลตันโซลเยอร์ตัวหนึ่งทันที และก็ได้ผล มันหลังแอ่นหน้าคะมำเพราะโดนศรไฟอัดเข้าเต็มเปา พอมันลุกขึ้นได้ก็หันมามองราดิชและเริ่มเดินเข้ามาหา แต่มันไมได้เดินเข้ามาตัวเดียวนี่สิ กลุ่มของมันอีก 3 ตัวก็เดินตามมาด้วย
-สัตว์อสูร สเกลเลตันโซลเยอร์ ระดับ 18 เตรียมโจมตี
ระหว่างที่มันเดินเข้าหากลุ่มของราดิช ราดิชก็ยังระดมยิงเวทใส่กลุ่มพวกมันอีกคนละทีสองที พอตัวแรกเข้ามาใกล้และเงื้อดาบในมือฟันใส่ราดิช เขาก็เอาดาบของตัวเองกันไว้พร้อมถีบมันออกไป มันถลาตามแรงถีบ เขาไม่ปล่อยโอกาสทอง รีบพุ่งตามเข้าไปและใช้ทักษะพาวเวอร์สไตร์คฟันใส่มันทันที ดาบนี้ฟันเข้าเต็มอกมันจนผงะไป เขาระดมฟันอย่างต่อเนื่องจนมันล้มลง และค่อยๆ กลายเป็นแสงหายไปในที่สุด
“เมย์ เดี๋ยวช่วยเก็บของด้วยนะ พี่จะไปจัดการตัวอื่นต่อ” ราดิชตะโกนบอกแล้วพุ่งทะยานไปหาสเกลเลตันตัวที่สองที่เดินมาถึงต่อไป
“โห ทำไมฝีมือพี่แกโหดจัง สงสัยเราไม่ต้องทำอะไรเลย อิอิ” เมย์ว่าพลางวิ่งไปเก็บของต่างๆ ที่หล่นอยู่ ก่อนจะวิ่งตามราดิชไปด้วย
หลังจากพุ่งตัวมาเจอเจ้าตัวที่สอง ราดิชก็แทงดาบออกในระดับคอของมันด้วยความรวดเร็ว แต่มันก็ยกดาบขึ้นกันทำให้ดาบของราดิชเบี่ยงออก เขารีบเปลี่ยนทางดาบตวัดดาบเข้าใส่มันทันทีที่ซอกคอจนขาดสะพายแล่ง แต่มันก็ยังไม่ตาย มันก้าวเท้าเข้าหาราดิชพร้อมกับเงื้อดาบขึ้นฟันอีกครั้ง คราวนี้ราดิชพุ่งสวนมันและตวัดฟันจากล่างขึ้นบน ปลายดาบปะทะกับคางของมันเสียงดังถนัดถนี่
หน้าของมันหงายเริดไปด้านหลังอย่างแรง ราดิชพลิกดาบและฟันใส่จนผ่ามันเป็นสองซีกจนได้ในที่สุด แต่ทันใดนั้นเองก็มีเสียงลูกธนูแหวกอากาศตรงมาที่เขา ราดิชรีบพลิกตัวหลบและฟันสวนใส่ลูกธนูจนมันหักเป็นสองท่อนทันที
“มีคนลอบโจมตีเรา!!” ราดิชตะโกนบอกเมย์อย่างตกใจ เขาพยายามมองหาคนที่ยิงธนูและคอยหลบพวกสเกลเลตันที่เข้าจู่โจมไปด้วย
“คงเป็นสเกลเลตันอาเชอร์น่ะพี่ สงสัยคงแอบซุ่มอยู่น่ะ” เมย์บอกแล้วยกดาบขึ้นกันเจ้าตัวหนึ่งที่ง้างดาบฟันใส่เธอ จากนั้นเธอก็ออกแรงผลักมันออกไป วาดดาบฟันใส่มันและไล่โจมตีอย่างต่อเนื่อง
“สงสัยต้องรีบจัดการเจ้ากลุ่มนี้แล้วไปจัดการนักธนูนั่น แต่ไหนต้องระวังลูกธนูอีก เหนื่อยจริงแฮะงานนี้” ถึงจะบ่น แต่ราดิชก็ยังร่ายรำดาบสังหารพวกสเกลเลตันที่ดาหน้ากันเข้ามา และคอยร่ายเวทยิงศรไฟไปทางทิศที่มีลูกธนูมาเป็นพักๆ โดยที่ไม่ได้ดูผล จนเขาจัดการสเกลเลตันกลุ่มนี้หมดก็พุ่งตัวไปทางทิศที่ลูกธนูพุ่งมาทันที แต่ก็ได้รับการตอบรับเป็นลูกธนูหลายดอกกลับมา
‘เฮ้ย!! สงสัยพวกมันไม่ได้มีตัวเดียวซะแล้วสิเนี่ย’ ราดิชคิดในใจ พร้อมกับฟันใส่ลูกธนูที่หลบไม่พ้นและสะกิดเท้าพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ที่เขาไม่ใช้ก้าวพริบตาเพราะเขายังไม่ได้สนิทกับสองคนนี้นัก จึงไม่อยากเปิดเผยความลับของตัวเอง พอเขาวิ่งไปถึงก็พบสเกลเลตันอาเชอร์ 5 ตัวกำลังง้างธนูยิงใส่เขาอยู่
“เมย์ คุ้มกันเรย์ด้วย ระวังลูกธนูพวกนี้ด้วยแรงไม่ใช่เล่นๆ เลย” ราดิชบอก ลูกธนูพวกนี้พลังโจมตีไม่ใช่น้อยๆ เลย เขารู้ได้ในตอนที่ใช้ดาบฟันลูกธนูพวกนี้ ถึงตัวเขาจะไม่เป็นไร แต่กับพวกเมย์นั้นไม่ใช่ ถ้าพวกนี้โดนเข้าไปนี่มีหวังเจ็บหนักอยู่เหมือนกัน
พอเข้าถึงตัวเจ้าตัวแรก มันก็เลิกยิงและเอาคันธนูฟาดใส่เขาเพื่อรักษาระยะห่าง ราดิชเห็นดังนั้นก็เลยพุ่งออกขวาแล้วยิงศรไฟใส่ไปโดนตัวมันจนเซไป พอเท้าเขาแตะพื้นก็พุ่งตัวต่อไปและฟันใส่มันอย่างต่อเนื่อง
สเกลเลตันอาร์เชอร์เอาคันธนูมากัน แต่พอกระทบกับดาบของราดิช ธนูของมันก็โดนฟันจนหักเป็นสองท่อนทันที แต่ดาบนี้ของราดิชฟันแรงมาก ดาบเลยไปต่อจนปะทะกับหน้าอกมัน เขาไม่รอช้าตวัดดาบขึ้นเหนือหัวฟันใส่เข้าเต็มอกของมันอย่างจังจนมันผงะ ราดิชระดมฟันอีกหลายดาบจนมันล้มไปกองกับพื้น จากนั้นเขาพุ่งไปทางอื่นต่อโดยไม่รอดูผลงาน
เขาทะยานตัวไปทางขวาเพื่อฟันใส่อีกตัวทันที แต่เขาก็ต้องหยุดการเคลื่อนที่อย่างกะทันหันเมื่อตัวที่สามยิงลูกธนูมาจากด้านข้าง เขาได้แต่ตวัดดาบขึ้นมากันไว้เท่านั้น การที่ราดิชชะงักไปทำให้มันมีโอกาสยิงใส่เขาในระยะเผาขน ราดิชหงายหลังลงกับพื้นหลบไปได้ แต่ว่าลูกธนูที่ผ่านเขาไปกลับพุ่งเข้าหาเมย์ที่วิ่งตามเขามาโดยที่เธอไม่สามารถป้องกันได้
“โอ๊ย!!”
เสียงร้องของเธอดังขึ้น เมย์กระเด็นไปตามแรงยิงก่อนจะถลาไปกับพื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด และพยายามดึงลูกธนูที่ปักท้องออกอย่างยากลำบาก
“เมย์!!” ราดิชตะโกนลั่น ก่อนที่เขาจะกลิ้งตัวหลบรอดจากลูกธนูที่เจ้าตัวที่สามและสี่ยิงใส่ เขากลิ้งไปแล้วพลิกตัวขึ้นมาอีกด้าน และปล่อยจิตสังหารรุนแรงออกมาทันที
“พวกแกจงตายซะให้หมด!!” ราดิชตะโกนและพุ่งเข้าใส่เจ้าสเกลเลตันอาร์เชอร์ด้วยความเร็วสูงสุดทันที แต่พวกมันอีกสามตัวที่อยู่ด้านหลังก็ระดมยิงใส่ราดิชอย่างรวดเร็ว
ราดิชหลบได้อย่างง่ายดาย พอเขามาถึงด้านหน้าของสเกลเลตันอาร์เชอร์ มันก็ง้างคันธนูฟาดใส่เขาทันที ราดิชไม่หลบแต่กลับใช้มือซ้ายที่ไม่ได้จับดาบต่อยสวนใส่คันธนูกลับไป ทำให้คันธนูของมันเบี่ยงออกไป เขาไม่รอช้าตวัดดาบจากล่างขึ้นบนตัดตัวมันเป็นสองซีกอย่างรวดเร็ว แล้วรีบดีดตัวออกไปทางซ้ายและยิงเวทศรไฟใส่สเกลเลตันอาร์เชอร์อีกตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้มันต้องยกธนูขึ้นมากันการโจมตีของราดิชอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ขณะที่ราดิชกำลังจะพุ่งไปจัดการมันก็มีลูกธนูอีกสองลูกพุ่งมาหาเขาจากทางด้านขวา เขาหันกลับไปฟันใส่ลูกธนูพวกนั้นก่อน และอาศัยแรงเหวี่ยงจากการฟันหมุนตัวพุ่งทะยานเข้าหาสเกลเลตันอาร์เชอร์ตัวที่สาม ซึ่งมันก็กำลังง้างธนูเพื่อจะยิงราดิชแต่ก็ไม่ทัน ราดิชเข้าถึงตัวมันก่อน เขาฟันมันที่ซอกคอจนตัวมันขาดสะพายแล่ง และกลายเป็นแสงตามเพื่อนของมันไปอีกตัว
“เหลืออีกสองตัวสินะ” ราดิชว่าและพุ่งเข้าหาอีกสองตัวที่เหลือทันที ซึ่งพวกมันก็ระดมยิงใส่เขาและถอยหลังไปเรื่อย แต่ก็ไม่ทันการณ์ ราดิชเขาประชิดตัวที่สี่ได้และฟันใส่มันอย่างรุนแรง จากนั้นก็พุ่งใส่ตัวสุดท้าย และฟันใส่มันถี่ยิบจนมันเปลี่ยนสภาพเป็นกองกระดูกในที่สุด หลังจากจัดการเสร็จเขาก็รีบเข้าไปหาเมย์ทันที ซึ่งเขาก็พบเรย์กำลังร่ายเวทรักษาเมย์อยู่
“เป็นไงมั่งเรย์ พี่ขอโทษที่ทำให้น้องบาดเจ็บนะ” เขารีบถามอาการของเมย์ และใช้เวทรักษาให้เมย์ด้วย การที่ราดิชจะโกรธก็ไม่แปลกหรอก เพราะสมัยเด็กๆ เขาเป็นคนที่ไม่สู้คนจึงโดนแกล้งบ่อยๆ แต่พี่ชายเขาจะเป็นคนมาช่วยและจัดการกับพวกเด็กเกเรที่แกล้งเขาจนเรียบร้อย ทำให้ราดิชฝังใจมาก ซึ่งเวลานี้เขาที่ต้องดูแลสองคนนี้ที่อายุน้อยกว่าเขา ทำให้เขาเริ่มเข้าใจความรู้สึกของพี่ชายเขาเวลาที่เขาโดนแกล้งจนบาดเจ็บแล้วว่าเป็นยังไง
“ไม่เป็นไรแล้วละค่ะพี่ พี่ไม่ต้องโมโหขนาดนั้นก็ได้ แผลแค่นี้ให้เรย์รักษาให้ไม่นานเดี๋ยวก็หาย ไม่ถึงตายหรอก” เมย์บอกให้ราดิชใจเย็น
“อ...อะ อืม ว่าแต่แล้วเราจะเอายังไงต่อ สงสัยต้องพยายามหาตัวที่อยู่เดี๋ยวๆ แล้วค่อยจัดการจะดีกว่า เมื่อกี้พี่ไม่รู้ว่าพวกมันจะเข้ามาช่วยเพื่อนของมันด้วยสิ” ราดิชว่า และเริ่มพาสองสาวหาทำเลใหม่ พอได้ทำเลใหม่พวกเขาก็ใช้วิธีการที่รอบคอบขึ้น จนในที่สุดพวกเขาก็รวบรวมกระดูกสีเลือดจนครบ ราดิชเองก็ดีใจที่จะได้เปลี่ยนอาชีพเสียที เขาเปิดดูหน้าต่างข้อมูลว่าเขาได้ค่าประสบการณ์มาเท่าไร และทักษะของเขาเลื่อนไปถึงระดับไหนแล้ว
-ท่านสังหารสเกลเลตันโซลเยอร์ และสเกลเลตันอาเชอร์ ระดับ 18 ไป 213 ตัวได้รับค่าประสบการณ์จากปาร์ตี้ 73,840
-ระดับของท่านเพิ่มเป็น 22
-ทักษะหลบหลีกเพิ่มเป็นระดับ 43 -ทักษะชำนาญดาบเพิ่มเป็นระดับ 35
-ทักษะต่อสู้ด้วยมือเปล่าเพิ่มเป็นระดับ 20 -ทักษะชำนาญเวทเพิ่มเป็นระดับ 23
-ท่านได้รับเงินจำนวน 42,250 G
“แล้วนี่เก็บของอะไรได้มั่งน่ะ พี่ไม่ได้สนใจเลย มัวแต่จัดการกับสัตว์อสูรอย่างเดียว” ราดิชเห็นกองไอเทมที่ทั้งสองคนกำลังนำมากองอยู่เลยถามขึ้นมา
“นอกจากเงินที่มันแบ่งอัตโนมัติแล้ว เรายังได้แร่ทับทิมเม็ดเล็ก น้ำยาเรดโพชั่นกับบลูโพชั่นขวดเล็กอีกเพียบ ยังมีธนู ดาบ แล้วก็ชุดเกราะระดับ D อีกหลายอันอยู่ แต่ไม่มีของถึงระดับ C เลยสักชิ้น อย่างว่าที่นี่ให้เงินกับค่าประสบการณ์เยอะ แต่ของไม่ค่อยดีเท่าไรน่ะ” เมย์บอก พลางหยิบของพวกนี้มาเพื่อจัดการแบ่งเป็นสามส่วนเท่าๆ กัน เมื่อราดิชเห็นดังนั้นจึงรีบบอกขึ้นมา
“พี่ขอพวกบลูโพชั่นกับแร่ทับทิมละกัน ที่เหลือพี่ให้เราหมดเลย” ราดิชพูด และกวาดของพวกนั้นมาเตรียมเก็บลงหน้าต่างไอเทมทันที
“จะดีหรือพี่ ของที่พี่ขอแบ่งไปมันแค่นิดเดียวเองนะ” เมย์บอกด้วยความเกรงใจ
“อือ ไม่เป็นไรหรอก พี่เอาแค่นี้แหละที่เหลือเราเอาไปขายหรือใช้ก็ได้นะ พี่ต้องการแค่นี้จริงๆ” ราดิชทำหน้าจริงจังจนสองสาวต้องยอมแพ้
“แล้วนี่เราจะทำอะไรกันต่อดีล่ะ ภารกิจก็เสร็จแล้ว หรือจะกลับไปส่งภารกิจกันเลยดี” ราดิชถามทั้งสองสาวเพื่อขอความคิดเห็น
“ไปจัดการเจ้าราชาของที่นี่กันดีไหมพี่ เห็นว่ามันตกของดีด้วยนะ ชดเชยกับของที่ตกมานี่ไง ที่ไม่ได้อะไรดีๆ เลย” เมย์เสนอความคิดเห็น
“จะดีหรือเมย์ มันระดับตั้ง 30 เลยนะ เรากลัวว่า...” เรย์บอก และพยายามกระตุกชายเสื้อเมย์
เมย์หันมาถามเขา “ไม่เป็นไรหรอก มีพี่เขาไปด้วยทั้งคน จริงไหมพี่ราดิช” พร้อมทำหน้าเจ้าเล่ห์
“แล้วราชาที่ว่านี่มันตัวอะไร และมันทำอะไรได้บ้างล่ะ” ราดิชถาม ถึงแม้เขาจะไม่อยากไป แต่ดูจากสายของเมย์แล้วก็คิดว่าถ้าเขาไม่ไป สองคนนี้อาจลงไปกันเองก็ได้
“มันเป็นสัตว์อสูร ราชาสเกลเลตันคิงระดับ 30 สเกลเลตันตัวใหญ่ ถือดาบเล่มโตกับโล่ขนาดใหญ่ ลูกน้องมันเป็นสเกลเลตันไนท์จำนวนหนึ่ง เจ้านี่ไม่ค่อยเร็วเท่าไร แต่พลังโจมตีรุนแรงพอสมควรเลย มันจะอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของชั้น 5 ลองไปดูหน่อยนะพี่ ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวเราค่อยวาร์ปกลับเมืองกัน” เมย์เข้ามากอดแขนราดิช พร้อมทำสายตาออดอ้อนจนเขาใจอ่อน ลงถ้าโดนสาวสวยขนาดนี้เกาะแขนก็ต้องมีหวั่นไหวกันบ้างล่ะ
“ก็ได้นะ แต่ถ้าลงไปชั้น 5 แล้วยังไม่เจอตัวมัน หรือถ้าเจอแล้วสู้ไม่ไหวต้องทำตามที่พี่บอกทุกอย่างเข้าใจไหม” ราดิชบอกเด็กสาวให้สบายใจ ถึงแม้ตัวราดิชเองจะไม่ได้รู้อะไรมากแต่ก็ต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่ต่อหน้าเด็กพวกนี้ไว้ก่อน
“เย้ๆ พี่ชายใจดีที่สุดเลย” เมย์ว่าและหอมแก้มราดิชฟอดใหญ่ แล้วก็รีบวิ่งนำหน้าไปทันที ปล่อยให้ราดิชยืนตัวแข็งกับการกระทำนั้น
“อ...เอ่อ คือเมย์เขาเป็นแบบนี้ล่ะค่ะ อย่าไปถือสาเลย” เรย์บอกพร้อมทั้งสะกิดราดิชจนหายตะลึง และทั้งสองก็เดินตามเมย์ไปเพื่อที่จะลงไปที่ชั้น 5 ซึ่งทางลงอยู่อีกด้านหนึ่งของสุสานนั่นเอง หลังจากที่เดินลงไปตามทางลาดจนสุดก็พบกับภาพที่ทำให้ราดิชตกตะลึง
ภาพที่ราดิชเห็นตอนนี้คือชั้น 5 นั้นไม่ได้เป็นสุสานอย่างที่คิด แต่เป็นเหมือนหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขาเห็นบ้านที่ทำจากไม้มุงหลังคาด้วยฟางหลายหลังตั้งอยู่เต็มไปหมด แต่สิ่งที่ทำให้ที่นี่ดูน่ากลัวคือ สัตว์อสูรลูกไฟวิญญาณระดับ 20 ที่ลอยไปลอยมา ถึงเขาจะตรวจสอบดูแล้วพบว่าพลังชีวิตของมันไม่เยอะ แต่หลังจากที่คุยกับเมย์ก็ทราบว่าการโจมตีทางกายภาพแทบไม่มีผลต่อมันเลย ยังดีที่มันไม่โจมตีก่อนและไม่รุม
พวกเขาเข้าสู่ถนนสายหลักของหมู่บ้าน และเริ่มเห็นพวกสเกลเลตันอยู่ประปราย พวกเขาที่ตอนนี้มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมก็ลุยเข้าไปทันที เจ้าพวกสัตว์อสูรพวกนี้ไม่ตึงมือราดิชแม้แต่น้อย เพราะเขามีทักษะติดตัวที่ถือว่าสูงพอสมควร และชั้นนี้นั้นสัตว์อสูรก็มีไม่เยอะเท่าไร พวกเขาเจอผู้เล่นที่ลงมาที่นี่บ้างแค่สองสามกลุ่มระหว่างทาง หลังจากที่เดินลึกเข้ามาได้สักพัก เมย์ก็สะกิดเขา
“พี่ราดิช สเกลเลตันคิงมันจะเกิดตรงบริเวณบ้านที่ใหญ่ที่สุดตรงลึกสุดของหมู่บ้านน่ะ นี่เราก็ใกล้จะถึงแล้ว เดินไปอีกหน่อยเอง” เมย์บอก พร้อมชี้มือชี้ไม้ไปทางที่เขากำลังจะเดินไปนั่นเอง แต่พอไปถึงก็ต้องผิดหวังเพราะมีผู้เล่นมารอก่อนอยู่กลุ่มหนึ่งแล้ว
“เอาไงดีเมย์ มีคนมาตัดหน้าซะแล้วน่ะ” ราดิชถาม เขารู้ว่ามันเป็นมารยาทที่ถ้าใครมาก่อนยังไงก็มีสิทธ์ที่จะสู้กับราชาก่อน
“ก็รอสิพี่ ถ้าเกิดกลุ่มนั้นเอาไม่อยู่ตายหมดก็ถึงทีเราเข้าไปสู้มั่ง หนูว่าเรามาหาที่นั่งดูพวกเขาอยู่แถวนี้ดีกว่า” เมย์บอกพร้อมยิ้มน้อยๆ จากนั้นก็ลากราดิชไปที่บ้านหลังหนึ่งที่มีโต๊ะ พากันนั่งรอเพื่อดูเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนสถานการณ์จะไม่เป็นใจสักเท่าไร เพราะมีผู้เล่นคนหนึ่งในกลุ่มนั้นเดินมาหาพวกราดิชและพูดว่า
“พวกเรากำลังรอสเกลเลตันคิงเกิดอยู่ รบกวนพวกคุณวาร์ปกลับเมืองไปได้ไหม” ชายคนนั้นพูด แต่ดูท่าทางแล้วจะมาหาเรื่องมากกว่า
“อ๋อค่ะ แต่พอดีหนูเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรกก็เลยอยากเห็นสเกลเลตันคิงน่ะค่ะ” เมย์ตอบ พลางหัวเราะคิกคัก
“เห็นทีคงจะไม่ได้หรอก พวกคุณกะจะฉวยโอกาสเข้าไปแจมบอสล่ะสิ” ชายคนนั้นชักดาบออกมา และหันไปเรียกเพื่อนอีกสี่คนที่ยืนรอสเกลเลตันคิงมาสมทบทันที
‘เมย์ เรย์เตรียมตัวไว้ พี่ว่าไม่ดีละ สงสัยพวกมันจะฆ่าพวกเราแน่ เมย์คอยอยู่ข้างๆ เรย์ไว้นะเดี๋ยวพี่จัดการเอง’ ราดิชสั่งการผ่านหน้าปาร์ตี้ทำให้ไม่มีเสียงออกมาให้กลุ่มคนดังกล่าวได้ยิน
“ถ้าบอกแล้วไม่ฟังพวกเราคงต้องใช้กำลังกันแล้วล่ะ” สิ้นเสียงชายคนนั้น พวกที่เหลือก็เริ่มกระจายตัวออกขวางหน้าพวกราดิชไว้
“สเกลเลตันคิงไม่ใช่ของใครคนเดียวนี่ อีกอย่างเราก็บอกแล้วแค่มาดูบอสเพราะไม่เคยเห็นเท่านั้นเอง ไม่ได้มีเจตนาจะเข้าไปยุ่มย่ามกับพวกคุณสักหน่อย” ราดิชพยายามใจเย็นที่จะตอบ
“ถ้าอย่างนั้นพวกแกก็ตายซะ พวกเราจัดการ!!” มันสั่งพร้อมถอยไปด้านหลัง แล้วให้พรรคพวกเข้ามาโจมตีใส่ราดิช
ผู้เล่นคนแรกกระโจนมาด้านหน้าเงื้อดาบขึ้นจะฟัน ราดิชเห็นแบบนั้นก็ก้าวเท้าถอยหลังพร้อมชักดาบโฟเทียขึ้นมาทันที ซึ่งมันก็ฟันพลาด ราดิชได้ทีเตะเสยเข้าที่ปลายคาง แต่ผู้เล่นคนนั้นก็ไวไม่เบา พลิกตัวหลบไปด้านข้างได้อย่างหวุดหวิด
ในตอนนั้นเองผู้เล่นคนที่สองก็ใช้ดาบพุ่งเข้าแทงราดิชจากด้านข้าง ทำให้เขาต้องหยุดไล่ตามเจ้าคนแรกแล้วหันไปปัดดาบของมันก่อน เขาอาศัยจังหวะนั้นเสยหมัดเข้าที่หน้ามันจนหน้าหงายไปข้างหลัง ราดิชไม่ปล่อยโอกาสทองตวัดดาบตัวหัวมันจนกลายเป็นแสงหายไปเป็นคนแรก
ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นรวดเร็วมาก แค่เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นเอง ขณะที่พวกมันอึ้งอยู่ ราดิชก็พุ่งไปหาผู้เล่นคนที่สามที่ตะลึงอยู่ พอรู้ว่าราดิชเข้าถึงตัวมันก็รีบถอยหลังพร้อมฟันสวน ราดิชไม่หลบแต่กลับใช้ดาบสกัดไว้จนดาบของมันหักเป็นสองท่อน แต่ยังไม่พอเท่านั้น ราดิชก็รีบใช้ทักษะพาวเวอร์สไตร์คฟันใส่อีกฝ่ายอย่างรุนแรง ดาบนั้นฟันเข้าเต็มอกผู้เล่นคนนั้นจนปลิวไปตามแรงปะทะ และไปชนบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนจะกลายเป็นแสงหายไปในเวลาไม่นาน
ราดิชไม่รอดูผลงานแต่กลับตัวพุ่งไปหาผู้เล่นคนแรกต่อ พอกลับตัวไปเขาก็พบว่ามันกำลังพุ่งเข้ามาพร้อมเงื้อดาบขึ้นฟัน ราดิชจึงฉีกตัวไปด้านข้างแทนที่จะพุ่งไปด้านหน้าและฟันใส่ แต่มันก็หลบรอดจากคมดาบไปได้ หลังจากนั้นมันถอยไปตั้งตัวพร้อมจ้องราดิชอย่างเครียดแค้น ทางราดิชก็ไม่ประมาท พอสบจังหวะเขาก็ร่ายเวทใส่มันทันที
ศรลมถูกยิงออกมาอย่างรวดเร็ว ผู้เล่นคนนั้นก็ตกใจไม่น้อยที่เจอคนร่ายเวทใส่ขณะดวลดาบ มันโดนศรลมเข้าเต็มเปาจนกระเด็นถอยหลังไป ราดิชก็ไม่รอช้าพุ่งตามไปใช้ดาบแทงเข้าที่คอหอยของมันทันทีจนล้มลงและกลายเป็นแสงหายไป จากนั้นราดิชก็หันกลับไปมองหาคนที่เหลือ ทว่า กลับมีเสียงตะโกนขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน
“เฮ้ย!!! หยุดนะ!! จงวางอาวุธซะไม่อย่างนั้นนังนี่ตาย!!”
ผู้เล่นคนที่เข้ามาพูดกับราดิชนั่นเอง ตอนนี้มันเอาดาบจ่อคอเรย์ไว้ ส่วนเมย์นั้นนอนจมกองเลือดอยู่ ไม่รู้ว่าบาดเจ็บแค่ไหนแต่คิดว่าคงยังไม่ตาย เพราะถ้าตายคงกลายเป็นแสงหายไปแล้ว
“แกนี่มันไม่มีศักดิ์ศรีเหลืออยู่เลยหรือไง ถึงทำเรื่องแบบนี้ได้” ราดิชบอกมันด้วยความโกรธ จิตสังหารของเขาปะทุออกมาแบบควบคุมไม่ได้เข้าหาชายคนดังกล่าว เขาเริ่มเดินเข้าไปหามันอย่างช้าๆ ทำให้ชายคนนั้นขาสั่นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
มันคิดในใจอย่างตื่นตระหนก ‘บ...บ้าไปแล้ว!! มันไม่ใช่คนแล้ว แรงกดดันอะไรแบบนี้ ยิ่งกว่าสเกลเลตันคิงที่เราจะสู้ด้วยมากนัก’ และพยายามกระเถิบตัวเองถอยห่างราดิช
“ถ้าแกเข้ามาอีกนังนี่ตายจริงๆ นะ” มันดิ้นรนครั้งสุดท้ายอย่างน่าสมเพช
“แกนั่นแหละที่ต้องตาย ฉันไม่ยอมอ่อนข้อให้สวะอย่างแกหรอก” ราดิชว่า พร้อมเรียกเปลวเพลิงออกมาจากดาบจนลุกโชนไปหมด ไอร้อนที่แผ่ออกมาทำให้บ้านหลายหลังเริ่มลุกไหม้ ทันใดนั้นเองราดิชก็ใช้ก้าวพริบตาไปโผล่ที่ข้างตัวมัน เขายกขาถีบมันจนมันต้องปล่อยเรย์ กระเด็นหน้าไถพื้น
ราดิชพูดเสียงเหี้ยม “ว่าไง ยังมีอะไรที่จะพูดไหม” และก้าวเข้าหาอย่างช้าๆ เหมือนพญามัจจุราชที่กำลังมาเอาชีวิตมัน
“หึ ถ้าแกฆ่าฉันแกอยู่ไม่สุขแน่ ฉันจะตามฆ่าแกไปตลอดเลย” ผู้เล่นคนนั้นว่า แต่น้ำเสียงของมันแสดงความหวาดกลัวต่อคนตรงหน้าอย่างเห็นได้ชัด
“อย่างนั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นชั้นขอทรมานแกก่อนที่แกจะตายซักหน่อยล่ะกัน เพื่อแกจะเปลี่ยนใจ” ราดิชบอกเสียงเหี้ยมไร้ซึ่งความปรานี พร้อมเรียกใช้ทักษะทันที
ปราการอัคคี!!!
ราดิชโบกดาบไปด้านหน้า บังเกิดกำแพงไฟขึ้นมา ซึ่งกำแพงไฟนั้นได้ปิดล้อมชายคนดังกล่าวอย่างรวดเร็ว เปรียบเสมือนคุกที่ไร้ทางออก
“แกอย่าทำอะไรฉันเลย ปล่อยฉันไปเถอะ ในนี้ร้อนจะตายอยู่แล้ว ปล่อยฉันไปที!!!!!”
เสียงร้องโหยหวนของมันดังออกมาเป็นระยะ ผ่านไปสักพักกำแพงไฟก็ได้หายไป ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเป้าหมายได้ดับสูญไปแล้วนั่นเอง ราดิชรีบกลับไปดูเรย์กับเมย์ทันที
“เรย์เป็นไงบ้าง” ราดิชกลับไปที่เรย์อยู่ ก็เห็นเรย์กำลังพยายามรักษาบาดแผลของเมย์อยู่
“หนูไม่เป็นไรค่ะ แต่เมย์ทำท่าจะแย่แล้ว หนูฮีลให้เท่าไรเลือดก็ไม่หยุด สงสัยติดสถานะเลือดออกไม่หยุดแน่เลย พี่คะ หนูจะทำไงดี ฮือๆ” เรย์บอก พร้อมร้องไห้สะอึกสะอื้นที่ไม่สามารถช่วยพี่สาวตัวเองได้
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่จัดการเอง” ราดิชบอก และเปิดหน้าต่างไอเทม เขาหยิบเอาน้ำสีรุ้งออกมา มันคืออีลิกเซอร์นั่นเอง เรย์เห็นดังนั้นก็ตกใจมาก
“นั่นมันยาวิเศษอีลิกเซอร์นี่ แต่ว่ามันแพงมากเลยนะคะ จะเอามันมาใช้กับพวกเราเหรอคะ” เรย์ถามด้วยความกังวล
“เรื่องแพงหรือไม่แพงไม่สำคัญหรอก ชีวิตของเมย์สำคัญกว่า ถึงนี่จะเป็นแค่เกม แต่การตายครั้งหนึ่งก็แทบจะหมดตัว และยังเจ็บปวดมากๆ อีกด้วย พี่ไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นหรอก” ว่าแล้วราดิชก็เปิดฝาขวดอีลิกเซอร์ออก จากนั้นก็บีบปากเมย์และกรอกน้ำยาใส่ทันที ทันใดนั้นเองที่ตัวของเมย์ก็ส่องแสงสว่างออกมาวาบหนึ่ง แผลที่มีและอาการเลือดไหลไม่หยุดก็หายเป็นปลิดทิ้ง เธอค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงงๆ
“ฉันตายแล้วเหรอเนี่ย” เมย์ร้องถามออกมาด้วยความฉงน
“พี่ยังไม่ตายหรอก พี่ราดิชเขาใช้อีลิกเซอร์รักษาพี่น่ะ” เรย์บอกเมย์ด้วยน้ำเสียงตื้นตัน
“อีลิกเซอร์!! ของแพงระดับนั้นน่ะนะ...โอย! แล้วฉันจะมีปัญญาใช้คืนพี่เขาไหมเนี่ย” เมย์บอกด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความตกใจ
“ไม่ต้องชดใช้หรอก ชีวิตของเมย์มันมีค่ามากกว่าน้ำยาแค่ขวดเดียวมากนัก” ราดิชบอกเธอพร้อมด้วยรอยยิ้ม
“ว่าแต่เจ้าคนกลุ่มเมื้อกี้มันเป็นใครกัน แค่เรามาดูราชาเกิดถึงกับต้องจะฆ่าแกงกันด้วย” ราดิชถามขึ้นพลางเปิดดูค่าประสบการณ์ที่ได้รับ และเริ่มออกเดินไปเก็บของที่ตกอยู่
“หนูว่าคนพวกนี้คงเป็นพวกที่คิดว่าสัตว์อสูรระดับราชาเป็นของตัวเองคนเดียวน่ะ” เมย์บอกกับราดิชด้วยน้ำเสียงไม่ชอบใจ
“แต่เมื่อกี้พี่เขาสุดยอดมากเลยแหละ” เรย์บอกเมย์ เธอจึงรบเร้าให้เรย์เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง เพราะตั้งแต่ราดิชเริ่มปะทะกับพวกนั้น ชายคนที่มาพูดกับพวกเธอคนแรกก็เข้ามาจะจัดการกับเธอและเรย์ เธอเลยต้องสู้กับมันทำให้ไม่ได้สนใจรอบด้าน ต่างกับเรย์ที่อยู่ข้างหลังซึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด พอเล่าจบเมย์ก็ส่งเสียงอุทานออกมา
“พี่ราดิชเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ ไหนจะดาบที่พ่นไฟได้อีก อยากได้มั่งจัง” เมย์บอกพร้อมทำตาวิบวับส่งให้ราดิช
“เหอะๆ คงไม่ได้หรอก มันเป็นไอเทมผูกมัดตัวละครน่ะ” ราดิชตอบพลางเกาหัวอย่างอายๆ
“ผูกมัดตัวละคร ไอเทมระดับ S หรือนั่น โอ้ว หนูจะเป็นลม” เมย์ทำหน้าจะเป็นลมไปจริงๆ เมื่อเจอเรื่องนี้เข้าไปอีก
“เอาน่าๆ อย่าเพิ่งเป็นลมไป ว่าแต่เราจะเอาไงกันต่อดี จะรอให้สเกลเลตันคิงเกิด หรือจะกลับเมืองก่อนดี” ราดิชถามสองสาว แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรก็เกิดเหตุการณ์พลิกผันขึ้นเสียก่อน
