บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 วาสนาในคราเคราะห์

ราดิชเดินทางไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพอเริ่มพ้นเขตทุ่งหญ้า ก็เจอเข้ากับป่าโปร่งป่าหนึ่ง เดินเข้าไปอีกไม่ไกลมากนักก็พบที่ราบกว้างพอสมควร มองไปอีกก็พบกับบึงขนาดใหญ่ ที่ในตอนนี้ระดับน้ำลดลงไปมากพอสมควร เผยให้เห็นดินโคลนตามริมขอบบึง ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงกว่าๆ แล้ว เขาจึงตัดสินใจที่หยุดพักเพื่อกินข้าวเที่ยงก่อน

เขาหาที่นั่งบริเวณนั้นได้ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นต้นหนึ่ง และเปิดกล่องเก็บอาหารเอาซาลาเปาไส้หมูออกมากินถึง 5 ลูกรวด ราดิชคิดว่าเขาคงต้องไปซื้ออาหารมาตุนไว้บ้างแล้ว แต่ก็คิดที่จะทำอาหารจากเนื้อสัตว์อสูรที่เขาเก็บไว้ในกล่องเก็บอาหารเหมือนกัน หลังจากกินเสร็จเขาก็เริ่มออกสำรวจพื้นที่โดยรอบบึง

หลังจากที่เดินสำรวจบึงจนครบรอบก็ทำให้รู้ว่าบึงนี้ใหญ่พอสมควร เพราะกว่าจะเดินครบรอบนั้นใช้เวลากว่าชั่วโมง ระหว่างทางราดิชก็เจอสัตว์อสูรกบเขียวระดับ 8 รูปร่างมันเหมือนกบทั่วไปมีผิวสีเขียวใส แต่ขนาดของมันนี่สิ ใหญ่พอๆ กับโอ่งมังกรเลยทีเดียว พวกมันไม่ได้โจมตีก่อนเขาจึงเดินผ่านพวกมันไปอย่างสบายๆ แต่ที่สังเกตมาเขาไม่พบผู้เล่นแถวนี้เลยแม้แต่คนเดียว เขากลับมานั่งพักที่เดิมเพื่อวางแผนการในการทำภารกิจก่อน จากนั้นก็เริ่มดำเนินการตามแผนที่วางไว้ทันที

ราดิชออกหากบเขียวที่อยู่ห่างจากตัวอื่นก่อน เพราะไม่มั่นใจว่ามันจะสามารถเรียกพวกมาช่วยได้เหมือนพวกหมาป่าหรือเปล่า พอเจอเป้าหมายแล้วเขาก็ลองฟันใส่มันก่อนที่ด้านหลังอย่างเต็มแรง แต่ว่าดาบของเขากกลับแฉลบออกไป ไม่ได้ทำให้ตัวมันบาดเจ็บแต่อย่างใด

-สัตว์อสูรกบเขียวระดับ 8 เตรียมโจมตี

สิ้นเสียงประกาศ เจ้ากบเขียวก็หันกลับมาโจมตีเขา และที่น่าตกใจคือมันพ่นกระสุนน้ำใส่เขาด้วย แต่ราดิชที่ระวังตัวอยู่ก่อนชิงกระโดดหลบไปทางซ้าย และตวัดดาบฟันใส่มันอีกทีหนึ่ง

แต่ผลก็เหมือนเดิม ดาบเขาแฉลบออกไปด้านข้าง หลังจากที่ลองโจมตีใส่มันเรื่อยๆ ก็พบว่าที่ผิวของมันมีเมือกชนิดหนึ่งเคลือบอยู่ ทำให้ดาบนั้นไม่สามารถฟันเข้าไปถึงตัวมันได้ เขาจึงลองวิธีใหม่ เขายิงศรลมออกไปโจมตีมันอย่างรวดเร็ว

ศรลมพุ่งเข้าปะทะตัวมันอย่างจัง และผลก็เป็นไปตามคาด เจ้ากบตัวนั้นกระเด็นไปตามแรงปะทะ นอนอ้าปากพะงาบๆ กับพื้น เขาไม่รอช้าใช้ศรลมซัดใส่มันอีกที จนมันกลายเป็นแสงหายไป เหลือแต่ของที่ตกไว้

พอราดิชเห็นดังนั้นก็เริ่มมหกรรมยิงศรลมใส่เหล่ากบเขียวทันที เขาใช้เวทโจมตีนำไปก่อนแล้วพุ่งตามไปใช้ดาบแทงเข้าไปในปากของมันในตอนที่กบเขียวโดนเวทแล้วหงายท้องลงไปคลุกดิน ถ้ามันไม่ตายในการโจมตีครั้งแรกของเขา

ตัวเขาเองก็ต้องยอมรับว่าเจ้าพวกนี้มีพลังชีวิตและพลังป้องกันเวทที่ถือว่าสูงเลยทีเดียว พลังโจมตีเวทของเขานั้นก็ถือว่าไม่น้อยเหมือนกัน แต่ก็ไม่สามารถฆ่ามันได้ในการโจมตีครั้งเดียวทุกตัว ซึ่งราดิชไม่รู้ว่าถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ได้มีดาบแบบเขาละก็ คงต้องยิงเวทไม่ต่ำกว่า 5 ทีเป็นแน่ถึงจะล้มเจ้ากบแสนอึดเหล่านี้ได้

หลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน เขาก็จัดการส่งกบเขียวไปจนครบจำนวนตามภารกิจ เขาจึงหยุดตีเจ้ากบเขียวต่อ ไอเทมที่ตกส่วนใหญ่เป็นหนังกบ น้ำมันกบ เศษอความารีนสีฟ้าใสก้อนเล็กที่ตกมาเยอะพอสมควร ขณะเก็บของจนเกือบหมด เขาก็ได้ยินเสียงบุ๋งๆ มาจากบึงน้ำด้านหลังเขา

ราดิชรีบเก็บของที่เหลือจนหมด และหันกลับไปมองยังที่มาของเสียงก็พบว่ามีฟองอากาศผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ทันใดนั้นเองก็มีสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งโผล่พรวดออกมาจากบึง และกระโดดขึ้นมาตรงพื้นดินเลนนั้น รูปร่างของมันเหมือนกบเขียวที่ราดิชเพิ่งจะสังหารไปไม่มีผิด ต่างกันที่ขนาดของมันใหญ่เกือบเท่ารถยนต์ มันจ้องมองราดิชด้วยตาอันปูดโปนของมันที่มีความอาฆาตแค้นอยู่เต็มเปี่ยม พร้อมเสียงประกาศจากระบบที่เขาไม่อยากจะได้ยินในตอนนี้เลย

-ท่านพบสัตว์อสูรระดับราชา ราชากบเขียว ระดับ 13 ผู้ที่ถูกสังหารระดับจะลดลง 3 ระยะเวลารอเกิดใหม่เพิ่มเป็น 3 ชั่วโมง

-สัตว์อสูรราชากบเขียว ระดับ 13 เตรียมโจมตี

“ซวยแล้ว!! สงสัยพ่อมันมาแก้แค้นให้ลูกๆ มันแน่เลย ทำไงดีเนี่ย” ราดิชร้องลั่น เนื่องจากยาฟื้นพลังแทบจะไม่มีเหลือแล้ว “อยู่ในสภาพแบบนี้ไม่ดีแน่ๆ ต้องรีบหนีกลับเมืองก่อน” เขาหยิบม้วนคาถากลับเมืองออกมาเพื่อจะใช้งาน แต่ปรากฏว่า

-ท่านไม่สามารถใช้ม้วนคาถากลับเมืองได้ในเขตพื้นที่พิเศษค่ะ

ในเกมนี้นั้นถ้ามีการปรากฏตัวของสัตว์อสูรระดับราชา จักรพรรดิ เทพเจ้า จะเกิดพื้นที่พิเศษขึ้น ทำให้ไม่สามารถใช้ม้วนคาถาพากลับได้นั่นเอง แต่ทว่าราดิชเองยังไม่ทราบเรื่องนี้

‘สงสัยต้องลองลุยกับมันสักตั้งแล้ว’ เขาคิดในใจอย่างมาดมั่น พร้อมใช้ทักษะจิตสังหารใส่มันดู แต่ดูท่ามันจะไม่ได้กลัวเขาแม้แต่นิดเดียว เขาจึงลองใช้ทักษะตรวจสอบกับราชากบเขียว

-ราชากบเขียว ระดับ 13 พลังชีวิต 20,000/20,000

“พลังชีวิตอะไรนั่น เยอะจริงๆ” ราดิชว่าพลางยิงศรลมใส่มันทันที ศรลมวิ่งฝ่าอากาศเข้าปะทะกับราชากบอย่างจัง ถึงกับทำให้มันเซไปเล็กน้อย แต่นั่นกับทำให้มันยิ่งโมโหขึ้นไปอีก

“แทบไม่สะกิด สงสัยต้องยิงไป และหาทางเข้าไปแทงปากมันซะแล้ว” ราดิชว่า และเริ่มยิงศรลมใส่มันอีกครั้ง แต่มันก็ไม่อยู่เฉยๆ ให้ราดิชยิงฝ่ายเดียว ราชากบเขียวอ้าปากยิงกระสุนน้ำสวนกลับใส่ทันที และกระสุนที่มันยิงออกมานั้นมีขนาดใหญ่กว่าสองเมตรเสียอีก

ราดิชพุ่งตัวหลบกระสุนน้ำที่ยิงมาได้อย่างหวุดหวิด พอหันกลับไปสิ่งที่เขาเห็นคือต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านหลังเขา โดนกระสุนน้ำลูกนั้นหักโค่นลงอย่างง่ายดาย

ราดิชกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆ เพราะคู่ต่อสู้เขาคราวนี้ไม่เหมือนราชาหมาป่าที่ถนัดด้านความเร็ว แต่เจ้าราชากบนี่มันสายเวทชัดๆ เขาร่ายเวทสู้มันไม่ได้ แถมเข้าประชิดตัวไปก็ฟันติดเมือกของมันอีก

ระหว่างคิดเขาก็ร่ายเวทยิงศรลมใส่มันไปเรื่อย และเคลื่อนที่เพื่อล่อมันออกมาจากบึง ทางราชากบเขียวก็ตามไปยิงกระสุนน้ำใส่เขาราวกับปืนกล และเขาก็ลองตรวจสอบพลังชีวิตของมันเป็นระยะๆ อยู่ตลอด ก็พบว่าเขาตอดพลังชีวิตมันได้มากกว่า 1 ใน 4 แล้ว แต่บลูโพชั่นของเขาก็ใกล้จะหมดแล้วเช่นกัน

“ทำไงดี ทำไงดี จริงด้วย...ยังมีวิธีนี่นา” ราดิชที่คิดวิธีออกแล้ว ก็วิ่งตรงเข้าหาราชาชากบเขียวทันที โดยใช้ก้าวพริบตาแบบสั้นๆ ย้ายไปซ้ายทีขวาทีเพื่อให้มันสับสน ซึ่งก็ได้ผล มันโยกหัวไปมาเพื่อยิงกระสุนน้ำใส่เขา พอเข้าไปในระยะใกล้ เขาก็เตรียมแทงสวนในขณะที่ราชากบเขียวกำลังจะปล่อยกระสุน

ราดิชกระโดดขึ้นเตรียมแทงเข้าไปในปากราชากบเขียว พร้อมร่ายเวทศรลมเป็นของแถมไปด้วย แต่ราชากบเขียวร้ายกว่านั้นแทนทีมันจะยิงกระสุนน้ำ มันกลับกระโดดเอาหัวพุ่งชนใส่ท้องของราดิชจนกระเด็นไปชนต้นไม้ที่อยู่แถวนั้นจนหักกลางต้น บ่งบอกได้ถึงพลังโจมตีอันมหาศาลของมันได้เป็นอย่างดี

“อั้ก!!!!”

ราดิชกระอักเลือดออกมา พร้อมกับแสงของน้ำยาฟื้นพลังที่กะพริบขึ้น แสดงว่าความเสียหายที่ได้รับนั้นเกินกว่าพลังชีวิตครึ่งหนึ่งที่เขามี แต่ราชากบเขียวก็ไม่รอช้า มันยิงกระสุนน้ำเข้าใส่ราดิชที่เพิ่งตั้งตัวได้อย่างรวดเร็ว พื้นที่ตรงที่ราดิชเคยอยู่โดนกระสุนน้ำระเบิดใส่จนกลายเป็นหลุมขนาดย่อมๆ เขากลิ้งหลบไปด้านข้างได้ทันอย่างหวุดหวิด

“คิดสิคิด ถ้าเข้าไปใกล้มันก็โดดชนเราได้ แต่มันอาจมีการโจมตีอื่นอยู่อีกก็เป็นได้ หรือว่าใช้ไอ้นั่นลองดูดีกว่า ฮ่าๆ” ราดิชหัวเราะอย่างน่ากลัว เมื่อนึกถึงบทสนทนาบทหนึ่งเมื่อเช้าที่ร้านขายอุปกรณ์...

“นี่เลย อั๊วะแนะนำสิ่งที่จะเก็บระดับด้วยความรวดเร็ว” มันคือระเบิดนั่นเอง ในตอนแรกเขาไม่ได้สนใจมันมากนัก แต่ตอนนี้เขาเริ่มสนใจมันขึ้นมาบ้างแล้ว จึงเปิดหน้าต่างไอเทมมาดูก็พบว่ามี ระเบิดเพลิง 10 ลูก ระเบิดสังหาร 10 ลูก ระเบิดควัน 5 ลูก ระเบิดแสง 5 ลูก ซึ่งมันเป็นเซตที่เถ้าแก่อ้วนจัดมาให้ เขาเริ่มนึกแผนการใช้ของพวกนี้ในระหว่างหลบการโจมตีของมันไปด้วย จนกระทั่งเขาคิดแผนการจัดการราชากบเขียวได้ในที่สุด

ราดิชเริ่มใช้วิธีวิ่งวนรอบตัวราชากบเขียว แต่ระหว่างทางเขาก็ปาระเบิดควันออกด้านข้างเพื่อให้เกิดควันขึ้นมา พอเข้าใกล้อีกหน่อยเขาก็ปาระเบิดเพลิงออกไปเพื่อสร้างทะเลเพลิงล้อมรอบราชากบเขียวทันที ซึ่งมันก็พยายามใช้กระสุนน้ำยิงใส่เพื่อดับไฟ

“ไม่ยอมให้แกดับหรอก” ราดิชตะโกนลั่น ก่อนจะขว้างระเบิดแสงออกไปตรงหน้าราชากบเขียว แล้วตัวเองก็หลับตาพร้อมกระโดดหมอบ พอระเบิดทำงานขึ้นก็มีแสงวูบขึ้นมา พอแสงหายไปเขาก็ลืมตาและรีบลุกขึ้นยืน ตอนนี้ราชากบเขียวกำลังตาพร่า และยิงกระสุนน้ำมั่วไปหมด เห็นดังนั้นราดิชจึงรีบเข้าไปเผด็จศึก เขาใช้ก้าวพริบเข้าไปหามันที่ด้านหน้าทันที

“ลาขาดละพวก!!” ราดิชตะโกน ก่อนที่เขาจะจัดการถอดสลักระเบิดสังหารทั้งหมด รวมทั้งระเบิดเพลิงที่เหลือโยนใส่ปากมันทันที แล้วจึงรีบวิ่งให้ห่างจากมันโดยพลัน เพิ่งหันหลังได้ไม่นานก็เกิดเสียงระเบิดดังทึบๆ ขึ้น

บึม!

แรงระเบิดทำให้ราชากบถูกแยกชิ้นส่วนในทันที แรงกระแทกทำให้ราดิชกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตร เขานอนกลิ้งกับพื้นพร้อมหัวเราะอย่างเหนื่อยล้า “ฮ่าๆ ในที่สุดก็ทำได้ ล้มมันได้ซะที” พอฝุ่นที่เกิดจากการระเบิดจางลง ราดิชก็ลุกขึ้นเดินฝ่าเปลวเพลิงไปเก็บของอันประกอบด้วย อีลิกเซอร์ 3 ขวด อความารีน 1 เม็ด น้ำมันกบ หนังกบ ดาบเหล็กกล้าระดับ C 1 เล่ม และกล่องปริศนาสีขาว 1 กล่อง

“ตกของมาไม่คุ้มเลยนะแก งกจริงๆ เลย” หลังจากด่าเจ้าราชากบเสร็จ ก็เตรียมที่จะใช้ม้วนคาถากลับเมือง เพื่อกลับไปส่งภารกิจต่อ ทันใดนั้นก็มีเสียงแซกๆ ดังมาจากป่าอีกด้านหนึ่ง

“เสียงอะไรหว่านั่น?” ราดิชรีบเดินไปดูที่มาของเสียงนั้นทันที ทันใดนั้นเองก็มีงูตัวหนึ่งเลื้อยออกมาจากป่า ลำตัวมันใหญ่พอๆ กับต้นไม้แถวนั้น มันเลื้อยตรงมาที่ราดิชอยู่ พร้อมฝูงงูอีกนับร้อยที่ตามมันมา พร้อมมีเสียงประกาศของระบบดังขึ้น

-ท่านพบสัตว์อสูรระดับราชา ราชางูเขียวหางไหม้ ระดับ 15 ผู้ที่ถูกสังหารระดับจะลดลง 3 ระยะเวลารอเกิดใหม่เพิ่มเป็น 3 ชั่วโมง

“อะไรกันอีกละนั่น” ราดิชบ่นเล็กน้อย แต่ก็เตรียมดาบขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับศัตรูตัวใหม่ ทางราชางูเขียวหันมาทางราดิชและขู่ฟ่อๆ จากนั้นบรรดาลูกน้องของมันก็เลื้อยเข้าหาเขาและพุ่งเข้าโจมตีทันที

-สัตว์อสูรงูเขียวหางไหม้ ระดับ 10 จำนวน 130 ตัว เตรียมโจมตี

“เฮ้ย!!!” ราดิชร้องลั่น แต่ว่าเขาก็ไม่ได้ลนลาน เขาจัดการส่งศรลมออกไปใส่งูตัวแรกที่พุ่งมาใกล้ที่สุดทันที จนมันกลายเป็นแสงหายไป จากนั้นก็เหวี่ยงดาบไปด้านหน้า ฟันใส่พวกที่บุกมาถึงตัวจนปลิวไปคนละทิศละทาง หลังจากนั้นฉากการตะลุมบอนระหว่างคนกับงูก็เริ่มขึ้น โดยที่เจ้าตัวราชายังไม่ได้ลงมาสู้แต่อย่างใด และด้วยจำนวนงูที่มากมายขนาดนี้ มันมั่นใจว่าเจ้าคนนี้ไม่รอดแน่

แต่การณ์กลับไม่เป็นไปตามที่มันคิด เพราะงูเขียวพวกนี้ถึงจะว่องไว แต่ก็มีพลังชีวิตที่น้อยมาก ดาบโฟเทียของราดิชนั้นฟันใส่ทีเดียวก็สามารถจัดการพวกมันได้แล้ว หลังจากที่ราดิชสังหารงูเขียวหางไหม้ธรรมดาจนหมด ก็หันมาเผชิญหน้ากับราชางูเขียว ซึ่งมันก็ขู่ฟ่อๆ เหมือนไม่พอใจเขา แล้วพุ่งฉกใส่ราดิชทันที

เฟี้ยว!!!

นั่นคือเสียงที่มันฉกโดนแต่อากาศ ราดิชที่กระโดดถอยหลังหลบจากระยะโจมตีของมันได้ทัน เขายิงศรไฟใส่มันโดยเล็งไปที่หัว แต่มันก็โยกหัวหลบได้ เขาจึงใช้ก้าวพริบตาเพื่อประชิดตัวเจ้าราชางู พร้อมง้างดาบหมายฟันใส่หัวมันด้วยทักษะพาวเวอร์สไตร์คอย่างรวดเร็ว

ราชางูเขียวตกใจไม่น้อยที่เหยื่อของมันมาโผล่ตรงหน้า มันพยายามโยกหัวหลบ ดาบของราดิชจึงฟันเข้าที่ข้างลำตัวของมันอย่างจังจนเลือดกระฉูดออกมา

กีซ!!

มันร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวด และตวัดหางโจมตีใส่ราดิช แต่ว่าเขากลับใช้ก้าวพริบตาหลบออกมาและกระโดดขึ้นไปบนฟ้า ก่อนจะยิงศรไฟเข้าใส่มันอีกหนึ่งดอก ศรเพลิงเข้าปะทะกับหัวของมันจนเซไป มันพยายามที่จะชูหัวขึ้นมาเพื่อจะโจมตีราดิชอีกครั้ง แต่เขาก็ใช้ก้าวพริบตาเข้าประชิดที่ด้านหลังของมันอีกครั้งหนึ่ง และเงื้อดาบขึ้นฟันลงมาที่หัวของมันอย่างรุนแรงด้วยทักษะพาวเวอร์สไตร์ค

หัวของมันหลุดกระเด็นไปตามแรงฟันทันที จากนั้นลำตัวของมันก็บิดไปมาอย่างน่ากลัว ราดิชคิดว่ามันเป็นงูจึงน่าจะตายยาก เขาจึงลงมือฟันลำตัวงูเพื่อแยกชิ้นส่วนมันอย่างรวดเร็ว จนมันสลายกลายเป็นแสงหายไปในที่สุด

จากนั้นเขาก็เดินไปเก็บของที่ได้จากราชางูเขียวหางไหม้ อันประกอบไปด้วย อีลิกเซอร์ 4 ขวด มรกต 1 เม็ด ธนูเหล็กกล้าระดับ C 1 ด้าม เสื้อหนังระดับ C 1 ตัว กล่องปริศนาสีขาว 1 กล่อง พอเก็บของพวกนี้หมดเขาก็เริ่มทำใจกับเกมนี้แล้ว

“มิน่าเจ้าพวกโจรสามตัวนั่นถึงมาดักปล้นเรา เพราะของมันหายากจริงๆ ขนาดพวกมันยังใส่แค่ของที่มีขายในร้านเลย” เขาบ่นอุบ ก่อนจะเปิดดูข้อมูลค่าประสบการณ์ที่ได้รับจากพวกกบและงูที่ต่อสู้มาอย่างดุเดือด

-ท่านสังหารสัตว์อสูร กบเขียวระดับ 8 จำนวน 52 ตัว ได้รับค่าประสบการณ์รวม 5,200

-ท่านสังหารสัตว์อสูรระดับราชา ราชากบเขียว ระดับ 13 ได้รับค่าประสบการณ์ 13,000

-ท่านสังหารสัตว์อสูร งูเขียวหางไหม้ระดับ 10 จำนวน 130 ตัวได้ค่าประสบการณ์รวม 26,000

-ท่านสังหารสัตว์อสูรระดับราชา ราชางูเขียวหางไหม้ระดับ 15 ได้รับค่าประสบการณ์ 15,000

-ท่านได้รับค่าประสบการณ์รวม 59,200

-ระดับของท่านเพิ่มเป็น 19

-ทักษะชำนาญดาบเพิ่มเป็นระดับ 30 -ทักษะหลบหลีกเพิ่มเป็นระดับ 41

-ทักษะชำนาญเวทเพิ่มเป็นระดับ 21

-ท่านได้รับเงิน 57,800 G

“ระดับ 19 แล้ว ถ้า 20 เมื่อไรเราก็จะเปลี่ยนอาชีพได้แล้ว ดีใจจริงๆเลย” ราดิชกล่าวอย่างดีใจ พร้อมล้มตัวลงนอนให้หายเหนื่อยหลังจากที่กรำศึกหนักมาตลอดทั้งวัน เรียกได้ว่าแทบจะหลับทันทีที่ล้มตัวลงนอน มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ตะวันกำลังจะลับขอบฟ้าไปแล้วนั่นเอง ราดิชจึงใช้ม้วนคาถากลับเมืองไป

ที่ลานกว้างหน้าอาคารเริ่มต้นมีแสงสว่างวาบขึ้นมา ทุกคนหันไปมองก็เห็นร่างของราดิชออกมาในสภาพมอมแมมทั้งตัว พอเห็นดังนั้นทุกคนก็ไม่ได้สนใจอะไรเขาอีก ยกเว้นบางคนที่เห็นชุดเกราะของราดิชก็มองเขาด้วยความสงสัย

เขารีบก็เดินตรงไปที่อาคารภารกิจที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อไปส่งภารกิจ ได้รับเงินรางวัล 50,000 G และค่าประสบการณ์ 20,000 จุด ทำให้ระดับของเขาเพิ่มขึ้นเป็น 20 อีกด้วย จากนั้นก็ออกจากอาคารภารกิจเพื่อไปที่โรงแรมทันที

พอไปโรงแรมถึงเขาก็เช็กอินห้องพิเศษเหมือนคืนก่อน แล้วรีบขึ้นไปทันที พอไปถึงเขาก็สั่งอาหารและอาบน้ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จก็รับประทานอาหารที่สั่งไว้จนอิ่มสบายดีแล้ว ก็ลองเปิดหาข้อมูลเกมเพิ่มเติมเรื่องเกี่ยวกับอาชีพและทักษะ

ในเกมนี้นั้นทักษะพื้นฐานหรือทักษะอาชีพนั้นมีได้เหมือนกันทุกคน โดยทักษะอาชีพนั้นจะได้มาตามระดับที่กำหนด แต่ที่ทำให้ผู้เล่นบางคนแตกต่างจากผู้อื่นก็คือทักษะพิเศษนั่นเอง โดยส่วนใหญ่ได้จากการทำภารกิจ หรือตกจากสัตว์อสูรระดับราชาขึ้นไป ซึ่งตำราที่ได้จากสัตว์อสูรนั้นค่อนข้างจะตกยากทีเดียว

เมื่อเขาลองหาข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพนักดาบ ก็พบว่าเมื่อเปลี่ยนอาชีพเป็นนักดาบแล้วจะได้ทักษะโจมตีที่รุนแรงมากขึ้น ส่วนเรื่องกล่องปริศนานั้นจะตกจากสัตว์อสูรระดับราชาทุกตัวอยู่แล้ว เขาจึงคิดว่าเก็บเอาไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยเปิดก็ได้ เมื่อดูข้อมูลต่างๆเสร็จแล้ว เขาก็ล้มตัวลงนอนอย่างเหนื่อยอ่อนและหลับไปในที่สุด

เมื่อแสงของวันใหม่มาถึงราดิชก็ตื่นแต่เช้ามืดตามความปกติ เขาลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว เสร็จแล้วก็เช็กเอาท์โรงแรม พอออกจากโรงแรมเขาก็ตรงไปที่ภัตตาคารทันที พอมาถึงเขาก็ได้ที่นั่งชั้นแรกที่ติดกับหน้าต่าง หลังจากที่สั่งอาหารเสร็จเรียบร้อยเขาก็นั่งรอเหมือนเคย

‘เฮ้อ วันนี้แล้วสินะที่จะไปทำภารกิจเปลี่ยนอาชีพ หวังคงได้ทักษะที่สุดยอดนะเจ้าอาชีพนักดาบเนี่ย’ ราดิชคิดในใจ จากการเดินทางเมื่อวาน ทำให้เขาทราบว่าตัวเขาไม่มีท่าโจมตีหมู่หรือท่าที่ใช้โจมตีเป็นบริเวณกว้างเลย ทำให้เสียเวลาในการจัดการกับสัตว์อสูรที่เข้ามารุมมากทีเดียว ถึงเขาจะมีทักษะหลบหลีกที่สูง แต่ยังไงคนเราก็เหนื่อยเป็นและพลาดกันได้

ระหว่างคิดอะไรเพลินๆ อาหารก็ยกออกมาพอดี เขาจึงเริ่มลงมือจัดการอาหารที่อยู่ตรงหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้สนใจรอบด้านเลย ในระหว่างนั้นก็มีผู้เล่นชายสองคนเดินเข้ามาหาเขา และกล่าวทักทายราดิช

“อรุณสวัสดิ์น้องชาย จำพี่ได้หรือเปล่า” ชายคนแรกพูดขึ้น

ราดิชเงยหน้าขึ้นมามองและตอบกลับ “อ๋อ พี่ชายคนเมื่อวานนั่นเอง” ชายคนแรกได้ยินดังนั้นก็ดีใจที่ราดิชยังจำตนได้ จึงรีบแนะนำชายอีกคนให้ราดิชรู้จักทันที

“นี่เพื่อนพี่เอง ชื่อ เกิดมารวย เขาเป็นพ่อค้าน่ะ” เขาว่าพลาง ยกมือแนะนำชายคนที่สองที่ยืนอยู่ข้างๆ ชายคนที่สองนี้มีรูปร่างอ้วน ใบหน้าใหญ่ ดวงตาหยี แก้มป่องมีสีเลือด บ่งบอกว่าเป็นคนดูมีฐานะแต่งตัวด้วยชุดผ้าอย่างดี ราดิชก็พอดูออกว่ามันน่าจะเป็นชุดที่มีราคาพอสมควร

“ครับผม ยินดีที่ได้รู้จักครับ ว่าแต่มีอะไรหรือครับ” ราดิชถามออกมา เพราะยังไม่รู้จุดประสงค์ของทั้งสองคนที่มาทักทายเขาแต่เช้าในวันนี้

“พอดีเราอยากมาคุยเรื่องชุดเกราะที่น้องใส่อยู่น่ะ” เกิดมารวยบอกจุดประสงค์

“เรื่องเกราะที่ผมใส่มันมีอะไรหรือครับ” ราดิชถามอย่างสงสัย แต่เท่าที่ฟังมา เขาก็พอจะเดาจุดประสงค์ได้อยู่แต่ต้องการฟังคำตอบที่ชัดเจนอีกที

“คือชุดเกราะของน้องน่ะ รู้ใช่ไหมว่ามันเป็นของระดับบี และมันเป็นที่ต้องการของตลาดมากในช่วงนี้ พี่ก็เลยจะมาขอซื้อต่อน่ะ รับรองพี่ให้ราคางามแน่นอน” เกิดมารวยบอกจุดประสงค์ที่แท้จริง

“เอ่อ ผมก็บอกกับเพื่อนพี่ชายไปแล้วนี่ ว่าผมจำเป็นที่จะต้องใช้ในตอนนี้น่ะครับ ยังไม่มีความคิดที่จะขายต่อหรอก แล้วผมก็ยังหาของที่มันดีกว่านี้มาใส่ไม่ได้ด้วย” เขาตอบกลับอย่างสุภาพ แต่ในใจเริ่มคิดหาทางออกจากการเจรจาที่น่าอึดอัดครั้งนี้

“แสดงว่าน้องชายยังไม่รู้ราคาของมันละสิถึงได้พูดแบบนี้ น้องชายที่ยังเป็นผู้เล่นใหม่ได้ของแบบนี้มาแต่แรกน่ะ อาจจะมีคนที่คิดอยากได้และมาแย่งน้องชายไปก็ได้นะ น้องชายสู้กับคนแบบนั้นไหวเหรอ” เกิดมารวยพยายามพูดเกลี้ยกล่อมราดิช แต่มันเหมือนเป็นการราดน้ำมันลงบนกองเพลิงซะมากกว่า

“ผมคิดว่าผมดูแลตัวเองได้นะครับ อีกอย่างมันก็เป็นของที่ผมได้มาอย่างถูกต้อง ถ้าใครคิดจะแย่งมันไปคงต้องข้ามศพผมไปก่อนนั่นแหละ หรือไม่ก็ต้องหาของที่มีค่าเท่าเทียมกับมันมาแลกเปลี่ยน” ราดิชโต้กลับพร้อมลุกขึ้นยืน และเรียกพนักงานมาเก็บเงินและเตรียมออกจากภัตตาคารทันที

“ใจเย็นสิน้องชาย เสื้อเกราะเหล็กน้ำเงินน่ะมันมีราคามากกว่า 5 ล้านโกลด์อีกนะ น้องชายไม่ขายจริงๆ หรือ” เกิดมารวยพยายามครั้งสุดท้าย

“ผมคงตอบว่าไม่ ยังไงก็ขอตัวก่อนละกันนะครับ” ว่าแล้วราดิชก็ไม่สนใจคนทั้งสองอีก เขาเดินออกไปจากภัตตาคารทันที ท่ามกลางสายตาของคนในภัตตาคารที่มองอยู่

ราดิชที่ออกจากภัตตาคารด้วยอารมณ์ขุ่นมัว พลางคิดในใจว่า เจ้าพวกนี้มันอะไรกันนักกันหนา มาตามตื้อเขาอยู่ได้ ทั้งๆ ที่ก็บอกไม่ขาย ก็ยังอ้างเรื่องที่เขาระดับต่ำไม่สามารถดูแลตัวเองมาขู่อีก และตอนนี้เขากำลังอารมณ์เสียสุดๆ พอเดินต่อมาได้สักพัก ก็มีเสียงที่แสนคุ้นเคยดังออกจากตรอกข้างทาง พร้อมกับมีผู้เล่นเกือบ 10 คน เดินออกมาล้อมตัวเขาไว้อย่างรวดเร็ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel