บท
ตั้งค่า

บทที่ 28 ปะทะเดือดสองม้า

ราดิชอยู่ในภวังค์พักใหญ่จึงได้สติ เมื่อหันไปมองก็พบว่าอาธูเรียกับโอเฟนกำลังคุยกันอยู่ เขาจึงไม่ได้เข้าไปรบกวน และดูข้อมูลของไอเทมที่ได้รับมา

-ต่างหูโอเฟน(S) (ราดิช)

พลังป้องกัน 5 พลังป้องกันเวท 5

-เพิ่มความแรงเมื่อโจมตีด้วยเวทมนตร์ 20 %

-เพิ่มความเร็วในการร่ายเวท 50 %

-ถ้าเป็นเวทระดับกลางลงไปไม่เสียเวลาในการร่าย

-เพิ่มโอกาสติดคำสาปเมื่อโจมตี 30 %

-เพิ่มพลังโจมตีธาตุมืด 30 %

‘สงสัยว่าต่างหูนี่จะเป็นไอเทมของโอเฟนแน่ๆ เลย’ ราดิชคิด มันเป็นต่างหูสีทองข้างหนึ่ง ตัวต่างหูเป็นรูปทรงหยดน้ำ ที่ใจกลางประดับอัญมณีสีดำเม็ดใหญ่ดูลึกลับมาก แต่ความสามารถของมันถือว่าสุดยอดจริงๆ เขาสวมมันเข้ากับหูข้างซ้ายของเขา และใช้คำสั่งปกปิดเอาไว้ จากนั้นก็เปิดดูช่องทักษะของเผ่าพันธุ์ว่าได้ทักษะอะไรมาบ้าง

ทักษะเผ่าพันธุ์ ยมทูตที่สาบสูญ

ทักษะติดตัว

-ขีดจำกัดยมทูตที่สาบสูญ

(ทำให้ร่างกายทนทานต่อคำสาปเพิ่มขึ้น 30 % เพิ่มความเร็วและความคล่องตัว 50 % เมื่อเคลื่อนไหวร่างกาย สามารถโจมตีเผ่าที่เป็นวิญญาณได้โดยตรงและมองเห็นดวงวิญญาณได้ เมื่อใช้อาวุธวิญญาณของตัวเองจะเพิ่มพลังโจมตีมากขึ้นอย่างมหาศาล และใช้ทักษะทางเวทมนตร์ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อปล่อยพลังกดดันจะเพิ่มแรงกดดันขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้ ผู้ที่ไม่มีทักษะจิตสังหารหรือทักษะป้องกัน มีโอกาสหมดสติหรือได้รับความทรมานอย่างมากได้)

-ห้วงเวลายมทูตที่สาบสูญ

(เมื่อถูกสังหารจะฟื้นคืนชีพโดยที่ระดับไม่ลด ค่าสถานะต่างๆ รวมทั้งพลังชีวิตและพลังมานาจะเพิ่มขึ้น 3 เท่าเป็นเวลา 30 นาที ทักษะนี้สามารถใช้ได้วันละ 1 ครั้งเท่านั้น)

ทักษะเรียกใช้

-ก้าวพริบตา

(สามารถเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วสูงเป็นแนวตรงในทุกมิติราวกับหายตัวเป็นระยะทางต่ำสุด 20 ก้าว ทุก 1 ก้าวใช้พลังมานา 30 จุด และสามารถเปลี่ยนทิศทางได้ขณะเคลื่อนที่ ระยะทางสามารถเพิ่มขึ้นได้ตามความแข็งแกร่งและเชี่ยวชาญของผู้ใช้)

-อาณาเขตเจ้าแห่งความตาย

(สร้างมิติปิดกั้นขึ้นมากักขัง ลดค่าสถานะต่างๆ และบั่นทอนจิตใจของผู้ที่อยู่ในมิติแห่งนี้อย่างรุนแรง ผู้ที่ถูกสังหารในมิตินี้จะถูกผู้ใช้กำหนดระยะเวลาเกิดใหม่ได้เร็วสุดตั้งแต่ 1 วินาที ไปจนถึงช้าสุด 24 ชั่วโมง ใช้พลังมานา 5,000 จุดในการเรียกใช้ และเสียมานา 10 จุดทุกวินาที ในการคงสภาพอาณาเขตเอาไว้ ถ้ามานาหมดอาณาเขตจะสลายไปเอง หรือจะสลายไปเมื่อผู้ใช้ตาย สามารถยกเลิกได้โดยผู้ใช้ตลอดเวลา)

เขากวาดตาอ่านความสามารถต่างๆอย่างสนใจ และมีข้อความทิ้งท้ายด้วยว่า ทักษะก้าวพริบตาที่เขาได้มาตอนแรกนั้น ได้หลอมรวมกับทักษะเผ่าพันธุ์เรียบร้อยแล้ว ทำให้ตอนนี้เขาใช้ทักษะก้าวพริบตาของเผ่าพันธุ์แทน ต่อจากนั้นเขาก็เปิดดูทักษะมหาเวทดาร์คเนสจัสติกที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นทักษะเฉพาะตัวของโอเฟน

-ทักษะมหาเวท ดาร์คเนสจัสติก

(เป็นการใช้ความมืดเพื่อพิพากษา มีท่าดังต่อไปนี้)

-ดาร์คซันนาดา

(ทำการสร้างดวงอาทิตย์แห่งความมืดเพื่อทำการพิพากษา เปลวไฟสีดำนั้นจะเผาทุกสรรพสิ่งจนเป็นเถ้าถ่าน รัศมีการทำลายล้างขั้นต่ำ 3 กิโลเมตรรอบตัวผู้ใช้ ใช้พลังมานา 10,000 จุด ระยะเวลาร่ายเวท 5 นาที สามารถใช้ใหม่ได้ในอีก 3 ชั่วโมง)

-ดาร์คแฟลร์

(เรียกสายฟ้าสีดำออกมาโจมตีเป้าหมาย เป้าหมายมีโอกาสติดสถานะอัมพาต 30 % สร้างความเสียหาย 3,000 % ของพลังโจมตีเวท ใช้พลังมานา 1,000 จุด ระยะเวลาร่ายเวท 3 วินาที)

-แบล็คโฮล

(สร้างหลุมดำแห่งความมืดขึ้นมาดูดกลืนพลังโจมตีของทักษะและเวทมนตร์ ใช้พลังมานา 1,000 จุด ระยะเวลาร่ายเวท 2 วินาที)

“นี่มันสุดยอดทักษะเลยนี่” ราดิชกล่าวอย่างตกใจหลังจากได้รับรู้ว่าตัวเองได้ทักษะอะไรมาบ้าง

ตอนนี้ราดิชนั่งลง ปล่อยให้อาธูเรียกับโอเฟนคุยกันไปก่อน เจ้าปิกามอนก็ผละจากกลุ่มและเดินต้วมเตี้ยมเข้ามาแล้วกระโดดเข้ากอดเขา

ปิกามอนที่ตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดของราดิชเอ่ยขึ้นว่า “เป็นยังไงบ้างเจ้านาย ข้าเป็นห่วงท่านแทบแย่เลยนะ”

“ไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็ผ่านมาได้แล้ว แต่พวกเราคงต้องรอให้อาธูเรียคุยกับโอเฟนกันก่อนนะ สองคนนั่นคงไม่ได้เจอกันมานาน คงมีเรื่องให้คุยกันเยอะ” ราดิชพูดกับปิกามอน พลางหยิบของอย่างสุดท้ายที่ได้รับมานั่นคืออาวุธวิญญาณไร้ชื่อ มันเป็นดาบรูปทรงญี่ปุ่นเหมือนดาบคาตานะ กั่นดาบเป็นรูปดาวห้าแฉกอยู่ในวงกลม ด้ามดาบมีสีดำสนิท เขาดึงดาบออกจากฝัก มันเป็นดาบคาตานะของญี่ปุ่นมีคมด้านเดียว ใบดาบยาวกว่า 70 เซนติเมตร ราดิชรู้สึกผูกพันกับมันอย่างบอกไม่ถูก จึงลองดูรายละเอียด

-อาวุธวิญญาณไร้ชื่อ (สถานะถูกปิดผนึก)

พลังโจมตี ??? พลังโจมตีเวท ???

-ไม่สามารถปลดปล่อยพลังหรือใช้ทักษะได้จนกว่าจะรู้ชื่อ

“แล้วจะรู้ชื่อได้ยังไงล่ะ” ราดิชว่า ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ถามโอเฟน เขาเปลี่ยนให้มันเป็นอาวุธหลักแทนดาบอารอนไดท์ จากนั้นเขาก็เก็บบรรดาดาบต่างๆ ที่พกไว้เข้าหน้าต่างไอเทมไป เหลือไว้แต่ดาบคาตานะที่เป็นอาวุธวิญญาณเท่านั้น

แล้วเขาก็ใช้เวลาที่เหลือเปิดดูกระดานข่าวสารหาข้อมูลเรื่องเกี่ยวกับเผ่าที่เขาได้รับ ทำให้ทราบว่าในเกมนี้มีเผ่ายมทูตอยู่ แต่ทักษะที่มีให้ตอนเปลี่ยนเผ่านั้นมีแค่ห้วงเวลายมทูต ขีดจำกัดยมทูตและก้าวพริบตาเท่านั้นเอง และรายละเอียดทักษะก็ต่างกับทักษะของเขาอยู่บ้าง ต่างจากตัวเขาที่มีทักษะมากกว่าอยู่หนึ่งทักษะ ราดิชหาข้อมูลของอาวุธวิญญาณก็ไม่พบอีกเช่นเดียวกัน คาดว่าอาจจะยังไม่มีคนได้เผ่ายมทูต หรือว่าได้แล้วแต่ยังไม่สามารถไขปริศนาได้ จึงทำให้ไม่มีข้อมูล แล้วเขาก็เปิดดูรายละเอียดของภารกิจที่ได้รับมา

ภารกิจ : เส้นทางสู่จอมราชันย์

สถานที่รับภารกิจ : มหาจอมเวทโอเฟน

รายละเอียด : ทำการทดสอบในโบราณสถานให้ครบ เพื่อทำให้เส้นทางเปิดออกและเข้าไปรับการทดสอบสุดท้ายของจอมราชันย์

สถานที่ส่งภารกิจ : ไม่ทราบ

“ท่าทางจะเป็นภารกิจที่ยากน่าดูเหมือนกัน” ราดิชว่า จากนั้นเขาก็หาข้อมูลเกี่ยวกับโบราณสถานไปเรื่อยๆ เพื่อรอเวลา จนกระทั่งอาธูเรียและโอเฟนเดินมาหา เขาก็ยืนขึ้น

โอเฟนกล่าวแนะนำขึ้นว่า “นายท่านของอาธูเรีย จากนี้ไปถ้าท่านไปเจอโบราณสถานแห่งอื่นและคุยกับคนเฝ้าประตู เขาจะไม่ถามคำถามท่านอีกแต่ท่านจะสามารถลงมาทดสอบได้เลย และมันก็จะเป็นการทดสอบที่ยากที่สุดตามที่ท่านเลือกไว้เช่นเดียวกัน”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ” ราดิชขอบคุณจากใจจริง

“อ้อ เกือบลืมบอกไปเกี่ยวกับของรางวัลที่ได้ มันเป็นไอเทมประจำตัวข้าเอง ใช้ให้ดีล่ะ ทักษะเวทนั่นก็เหมือนกัน ข้าคิดว่าท่านจะใช้มันได้เป็นอย่างดีแน่ๆ ส่วนอาวุธวิญญาณนั้น เมื่อท่านค้นพบตัวเองเมื่อไรท่านก็จะรู้ชื่อของมัน และใช้พลังของมันได้ในที่สุด แล้วเผ่าพันธุ์ที่ท่านได้รับนั้น ถ้าเจอคนที่เกี่ยวข้องกับเผ่านี้ท่านอาจจะได้ทักษะหรือภารกิจเพิ่มเติมได้ ส่วนภารกิจที่ข้ามอบให้นั้น ถ้าท่านเข้าไปทดสอบในโบราณสถานจนครบ ท่านก็จะรู้เองว่าจะต้องทำยังไงต่อไป ข้าคงแนะนำท่านได้เพียงเท่านี้” โอเฟนบอก และจับมือบอกลากับอาธูเรีย

“ขอบคุณมากจริงๆ ครับ” ราดิชบอกพลางหันไปหาอาธูเรียและกล่าวว่า

“อาธูเรีย ฉันว่าเธอกลับไปก่อนดีกว่า ตอนที่ฉันออกไปข้างนอกไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มีคนอยู่ข้างนอกเต็มไปหมด ฉันอยากเก็บเธอไว้เป็นไพ่ตายน่ะ ส่วนปิกามอนก็กลับเข้าแหวนด้วยล่ะ” ราดิชบอกทั้งสอง อาธูเรียก็ยอมกลับไปแต่โดยดี ปิกามอนเองก็พุ่งเข้ามาในแหวนอย่างรวดเร็ว

“เอาล่ะ เดี๋ยวข้าจะส่งท่านออกไปนอกโบราณสถาน ท่านจะไปปรากฏตัวด้านหน้าโบราณพอดี ยังไงก็ขอให้ระวังตัวด้วยล่ะ” โอเฟนบอก จากนั้นเขาก็ร่ายเวท แล้วตัวของราดิชก็ส่องแสงออกมาก่อนจะหายไปจากที่นั่น

กลับมาที่เวลาปัจจุบัน

“เล่นลอบกัดกันเหรอพวกแก” ราดิชตะโกนลั่น เขาใช้ทักษะมาเจสตีเพิ่มความเร็วให้ตัวเอง พร้อมทั้งปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างรุนแรงจนเห็นเป็นไอพลังเข้มข้นด้วยตาเปล่า จากนั้นก็พุ่งเข้าหาพวกผู้เล่นที่อยู่ตรงหน้าทันที ผู้คนที่ตื่นตะลึงกับการฟันกระสุนทิ้งของราดิชชะงักไปนิดเดียว แต่ราดิชก็ไม่ปล่อยโอกาสนั้น เมื่อเขาพุ่งเข้าถึงตัวคนที่อยู่ใกล้ที่สุด เขาก็ตวัดฟันเข้าใส่จนผู้เล่นคนนั้นกลายเป็นแสงหายไป

คาเครุตะโกนด่าลูกน้อง “พวกแกทำอะไรอยู่ อย่ามัวแต่ยืนเซ่อสิเว้ย!!” หลายคนเริ่มรู้ตัว พวกสายที่โจมตีระยะไกลก็ประเคนสารพัดการโจมตีใส่ราดิชทันที เขาหันกลับมาและวาดดาบออกไปอย่างรวดเร็ว

ทักษะหมื่นกระบี่รวมหนึ่ง กงล้อกระบี่!!

กระบี่ไร้สภาพนับพันแผ่ออกปกป้องเขาจากการโจมตีของลูกธนู ลูกกระสุนปืน และพลังเวทจนหมดสิ้น แม้แต่คาเครุยังไม่เชื่อสายตัวเอง

คาเครุหันไปปรึกษาน้องชายที่ยืนอยู่ข้างๆ “มันมีทักษะพิเศษด้วยหรือเนี่ย แย่แล้ว เอาไงดีทาคาโอะ”

“ผมว่ารุมเข้าไปเยอะๆ มันก็รับมือไม่ไหวหรอกพี่ เชื่อผมสิ” ทาคาโอะบอกแล้วหันกลับไปสั่งลูกน้องของตนให้ระดมโจมตีระยะไกลเข้าไปอีก เขาคิดว่าราดิชที่เป็นนักดาบคงไม่มีทักษะโจมตีระยะไกลอยู่ ซึ่งมันเป็นการคิดผิดอย่างใหญ่หลวง

“พวกแกเล่นยิงไกลเหรอ งั้นเอานี่ไปกิน ดาร์คแฟลร์!!” ราดิชร่ายเวทเรียกสายฟ้าสีดำลงมาโจมตีพวกนักเวททันที พวกนักเวทที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหวบ่อยนัก จึงไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้ และกลายเป็นแสงไปในที่สุด

“บ้าน่า มันใช้เวทได้ด้วย แถมยังต้องแรงมากเลยด้วย ถึงทำให้จอมเวทระดับเกือบ 60 ตายได้ในการโจมตีครั้งเดียว” ทาคาโอะที่คำนวณผิดพลาดเริ่มลนลาน

ราดิชนั้นหลังจากปล่อยเวทใส่ไปแล้วก็ใช้ก้าวพริบตาเข้าหากลุ่มของนักเวทและนักธนู เขาไปปรากฏที่กลางวงของพวกมันแล้วใช้ทักษะเอ็กซ์โพลชั่นเบรกฟาดดาบลงบนพื้นอย่างรุนแรงทันที จากนั้นเขาก็พุ่งเข้าประชิดตัวคนที่ใกล้ที่สุด พร้อมทั้งแทงดาบตัดขั้วหัวใจและผละไปหาคนต่อไป เขาตวัดดาบฟาดฟันอย่างว่องไว สังหารเหล่านักเวทไปนับสิบคน แต่ก็ต้องใช้ก้าวพริบตาหลบออกมาอย่างรวดเร็วเพราะลูกธนูและกระสุนปืนที่ยิงเข้าใส่เขาจากด้านหลัง

ราดิชที่หลบออกมาได้ใช้เวทดาร์คแฟลร์ยิงใส่ พร้อมใช้ก้าวพริบตาไปด้วยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของโอเฟน ด้วยการโจมตีที่รุนแรงถึงตายในครั้งเดียวนี้ทำให้เขาสังหารผู้เล่นไปอีกหลายสิบคน ตอนนี้พวกผู้เล่นเริ่มระส่ำระสายที่เห็นพรรคพวกตายไปมากมาย แต่ก็ยังคิดว่าคนเยอะกว่าอยู่ยังไงก็สู้ได้ พวกผู้เล่นสายประชิดรีบบุกเข้าใส่ราดิชอย่างพร้อมเพรียงกัน เขารอจนพวกมันเข้ามาในระยะก็ฟาดดาบกับพื้นและระเบิดพลังออกไปด้วยทักษะเอ็กซ์โพลชั่นเบรกอีกครั้ง

เปลวไฟระเบิดออกอย่างรุนแรงทำให้ผู้เล่นที่วิ่งเข้ามากระเด็นกลับไปชนคนข้างหลัง ราดิชรีบพุ่งตามไปและตวัดดาบฟันใส่คนที่อยู่ใกล้ที่สุดโดยไม่รอดูผล จากนั้นก็พลิกดาบและเคลื่อนที่ต่อเนื่องเข้าปะทะกับผู้เล่นที่เหลืออย่างดุเดือด ผู้เล่นคนแล้วคนเล่าที่กลายเป็นแสงหายไปด้วยน้ำมือของราดิช แต่เขาก็ยังเคลื่อนที่ไปมาตลอดเวลา ทำให้มีผู้เล่นกลายเป็นแสงหายไปมากขึ้นเรื่อยๆ

“เอาไงดีพี่ ผมว่าท่าจะไม่ดีแล้วนะ” ทาคาโอะถามพี่ชายด้วยความร้อนรน คาเครุในตอนนี้หยิบธนูขึ้นมายิงใส่ราดิชแล้ว ทางทาคาโอะเองก็ปล่อยกระสุนจากปืนพกในมือออกไปหลายนัดเหมือนกัน

“งานนี้เราคงถอยไม่ได้แล้ว ลองมันมีฝีมือขนาดนี้ละก็...” คาเครุตอบพร้อมปล่อยลูกธนูอีกชุดออกไป

ราดิชใช้สองมือจับดาบหันกลับมา พร้อมฟันใส่ลูกธนูและกระสุนปืนที่พุ่งเข้าใส่เขาอย่างรวดเร็ว ลูกธนูและกระสุนที่ราดิชฟันใส่บางลูกก็แฉลบเข้าใส่ผู้เล่นที่พุ่งเข้ามา บาดเจ็บล้มตายไปอีกหลายคน

เขาใช้ก้าวพริบตาเข้าจัดการผู้เล่นคนหนึ่ง และพลิกตัวกลับไปฟาดฟันใส่ผู้เล่นอีกคนจนทางนั้นต้องใช้โล่เข้าป้องกัน ราดิชฟันติดโล่ แต่เขาก็เคลื่อนที่ออกข้าง พร้อมทั้งยิงดาร์คแฟลร์เข้าใส่ในระยะประชิด อีกฝ่ายก็ถูกสายฟ้าสีดำโจมตีใส่จนกลายเป็นแสงหายไป

ตอนนี้ราดิชยืนอยู่ท่ามกลางผู้เล่นที่ยังเหลืออยู่อีกเป็นจำนวนมาก พวกเขาเหล่านั้นยังคงคิดว่าจะจัดการราดิชได้ ถึงแม้มีผู้คนจะตายไปเยอะก็ตาม ราดิชจึงปล่อยจิตสังหารออกมาอีกครั้ง คราวนี้เขาใส่เจตแห่งการฆ่าฟันเข้าไปอย่างรุนแรงจนหลายคนต้านทานไม่ไหวและทรุดลงกับพื้น ราดิชที่เห็นว่ายังเหลือผู้เล่นอีกมากจึงตัดสินใจใช้ท่าใหญ่ทันที เขาเงื้อดาบขึ้นเหนือหัวและตะโกนก้อง

ทักษะหมื่นกระบี่รวมหนึ่ง พยุหะศาสตรา!!

กระบี่ไร้สภาพนับหมื่นเล่มถูกสร้างอยู่กลางอากาศหลังราดิช ทำให้ตอนนี้ผู้เล่นหลายคนได้แต่มองตาค้าง ส่วนสองพี่น้องนั้นยืนตัวแข็งไปแล้ว เขาตวัดดาบไปข้างหน้าส่งพวกมันเข้าโจมตีใส่ผู้เล่นพวกนั้นทันที

ตูม! ฉัวะ!! อ๊าก!!!โอ๊ยย!!!!

เหล่าผู้เล่นที่เหลืออยู่พยายามหลบหลีกและป้องกันตัวเอง แต่ก็ไม่อาจรอดจากคมกระบี่นับหมื่นที่พุ่งเข้าโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้เล่นที่ยังเหลือรอดทั้งหมดที่อยู่ตรงนั้นกลายเป็นแสงไปอย่างรวดเร็ว

หัวหน้าของกลุ่มคนที่แอบเฝ้าดูราดิชสู้กับราชาแมงมุมทรีซา และเป็นคนส่งมือปืนไปทดสอบราดิชกล่าวขึ้น “ถ้ามันเล่นงานกิลด์สองม้าเสร็จคงพุ่งมาจัดการเราต่อแน่ ตอนนี้เราไม่ต้องการปะทะกับใคร ดังนั้นพวกเราถอนตัวกันก่อนแล้วกัน เรื่องราดิชไว้ว่ากันทีหลัง” จากนั้นเขาก็ใช้ม้วนคาถากลับเมืองไป พร้อมๆ กับลูกน้องของเขาทุกคน

ทางด้านสองพี่น้องคาเครุและทาคาโอะตอนนี้ขำไม่ออกแล้ว เพราะเหล่าลูกน้องของตนถูกราดิชใช้พยุหะศาสตราสังหารไปคราวเดียวกว่าร้อยคน ความจริงพวกมันทั้งสองพาคนมาร่วมสามร้อย แต่ไม่นึกว่าแค่ปะทะกับราดิชไม่นาน คนก็หายไปเกือบสองในสามแล้ว เรียกได้ว่าสถานการณ์คับขันถึงขีดสุด

หลังจากราดิชจัดการกับผู้เล่นนับร้อยคนในคราวเดียว ก็ทำให้พวกผู้เล่นที่เหลือเริ่มคิดที่จะหนี แต่ราดิชไม่ปล่อยให้เป็นเช่นนั้น เขาใช้เวทอาณาเขตออกไปในทันที ทำให้กลุ่มคนที่แอบเฝ้าดูซึ่งกลับเมืองไปก่อนนั้นไม่มีข้อมูลของเขาเกี่ยวกับทักษะนี้

ทักษะเผ่าพันธุ์ อาณาเขตเจ้าแห่งความตาย!!

ความมืดมิดแผ่ออกมาโดยมีตัวเขาเป็นศูนย์กลาง มันเข้าครอบคลุมทุกสรรพสิ่งในระยะการมองเห็นของเขา ทำให้พื้นที่ทั้งหมดกลายเป็นสถานที่ที่ปิดกั้นจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง หลายคนเริ่มชักกระตุก มีบางคนมองซ้ายมองขวาหาทางที่จะหนีออกไป แต่เมื่อมองไปทางไหนก็เจอแต่ความมืดมิดไร้ขอบเขต ตอนนี้พวกที่เหลือได้แต่หวาดกลัวสิ่งที่เกิดขึ้น และคิดว่าไม่ควรเข้ามายุ่งกับราดิชเลย

ทางสองพี่น้องที่ตอนนี้ยืนตัวแข็งทื่อไปแล้วนั้นรู้สึกหวาดกลัวถึงก้นบึ้งของจิตใจ และคิดเสียใจกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดของตนเองที่ทำให้ต้องพบกับเรื่องแบบนี้ ราดิชมองไปรอบๆ เพื่อคำนวณจำนวนผู้เล่นที่เหลืออยู่อย่างรวดเร็ว เขาตัดสินใจยิงเวทดาร์คแฟลร์ออกไปใส่พวกที่เขาคิดว่าเป็นนักบวชที่กำลังใช้ทักษะรักษาให้ผู้เล่นที่บาดเจ็บอยู่ทันที

เปรี้ยง!! ตูม!!! อ๊าก!!!!!

พวกนักบวชเหล่านั้นโดนสายฟ้าสีดำฟาดใส่และหายไปอย่างรวดเร็ว เขากำหนดให้ผู้เล่นเหล่านั้นเกิดในอีก 24 ชั่วโมง ตอนนี้หลายคนเริ่มกระจายกันออกไปไม่อยู่เป็นกลุ่มกันแล้ว ทำให้สายฟ้าของเขาฆ่าอีกฝ่ายได้ไม่มากนัก เขาปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างรุนแรงอีกครั้ง และพุ่งเข้าฟันใส่ผู้เล่นที่อยู่ใกล้ที่สุดพร้อมกับทะยานตัวเข้าหาคนต่อไป และฟาดฟันดาบออกไปอย่างแรงจนผู้เล่นคนนั้นกลายเป็นแสงหายไป

ตอนนี้พวกผู้เล่นหลายคนกรีดร้อง ทิ้งอาวุธและวิ่งเตลิดไปทั่ว เพราะทนต่อแรงกดดันของมิตินี้ไม่ไหว ราดิชพุ่งเข้าหาคนพวกนั้นและสังหารอย่างไม่มีมีการปรานีใดๆทั้งสิ้น ผู้เล่นที่เหลืออยู่อีกไม่กี่สิบคนตอนนี้ไม่มีใจที่จะต่อสู้กับราดิชอีกแล้ว พากันเข้ามาจับกลุ่มอยู่ด้วยกันตรงกลาง และมองราดิชด้วยสายตาหวาดกลัว แต่ราดิชกลับไม่ปรานี เงื้อดาบขึ้นพร้อมใช้ทักษะอีกครั้ง

ทักษะหมื่นกระบี่รวมหนึ่ง พยุหะศาสตรา !!

กระบี่ไร้สภาพนับหมื่นพุ่งเข้าโจมตีอย่างรวดเร็วรุนแรงเกินต้านทาน ทำให้ผู้เล่นที่ยอมแพ้ทั้งหมดถูกสังหารไป ตอนนี้เหลือผู้เล่นอยู่ไม่ถึงสิบคนแล้วในมิติแห่งนี้ รวมทั้งสองพี่น้องที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ข้างหลังลูกน้องของมัน

“เราหนีกลับเมืองกันเถอะทาคาโอะ” คาเครุไม่เหลือมาดหัวหน้ากิลด์อีกแล้ว เพราะตอนนี้สภาพของเขาสะบักสะบอมจากการป้องกันทักษะของราดิช เขาหยิบม้วนคาถากลับเมืองขึ้นมาใช้ แต่ก็ทำให้เขาตกใจมาก เพราะไม่สามารถใช้ได้

“พวกคุณไม่ต้องคิดจะหนีหรอกครับ” ราดิชพูดเสียงเหี้ยม และก้าวเดินเข้าหากลุ่มคนที่เหลืออยู่อย่างช้าๆ ราวกับยมทูตที่จะมารับวิญญาณพวกมัน เขาปล่อยจิตสังหารอีกครั้งโดยเน้นไปที่สองพี่น้องหัวหน้ากิลด์เป็นพิเศษ ทำให้พวกผู้เล่นทุกคนถึงกับโดนกดจนติดพื้น ไม่อาจทำได้แม้แต่ลุกขึ้นมา

“ผมก็บอกพวกคุณแล้วตอนนี้ยังไม่อยากเข้ากิลด์ไหน ผมยังอยากท่องเที่ยวอย่างอิสระไปก่อน ทำไมพวกคุณไม่ฟังเหตุผลของผมบ้างเลยล่ะครับ” ราดิชที่เดินเข้ามาใกล้เอ่ยถามสองพี่น้องที่ตอนนี้โดนพลังกดดันกดจนโงหัวไม่ขึ้น

คาเครุที่นอนติดพื้นอยู่ตอบออกมาอย่างยากลำบาก “แก...คิดว่าจะหลีกเลี่ยงเรื่องแบบนี้...ไปได้อีกเท่าไรกัน ยังไง....ก็ต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกอยู่ดี แก...คิดว่า...จะรอดไปได้เท่าไรเชียว”

“สู้ไม่ได้ผมก็จะสู้ ผมเลือกเส้นทางเดินของตัวเองได้ ไม่ต้องให้พวกคุณมากำหนดหรอก” ราดิชบอกพร้อมกับใช้ทักษะหมื่นกระบี่ ส่งกระบี่ไร้สภาพนับหมื่นเข้าทะลวงร่างของทุกคนที่โดนอัดบนพื้นจนสลายกลายเป็นแสงไปทุกคน ตอนนี้กิลด์ม้าดำและม้าแดงทั้งสองม้าไม่เหลือผู้เล่นแม้แต่คนเดียวในอาณาเขตแห่งนี้

“สู้ได้หรือไม่ได้ ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไง ยังไงเราก็ไม่ยอมสยบต่อความอยุติธรรมเหล่านี้อย่างเด็ดขาด” ราดิชพูดกับตัวเอง แล้วเริ่มเดินเก็บของที่ตกจากคนพวกนี้ พร้อมกับที่เจ้าปิกามอนออกมาช่วยเก็บ ไม่นานเท่าไหร่สิ่งของที่ตกกระจายเกลื่อนก็ถูกพวกราดิชเก็บจนหมด จากนั้นเขาก็ลองดูหน้าต่างข้อมูลว่าได้ค่าประสบการณ์เท่าไร

-ท่านสังหารผู้เล่นคาเครุ ทาคาโอะ ผู้เล่น...ไปจำนวน 286 คน ได้ค่าประสบการณ์รวม 2,288,000

-ระดับของท่านเพิ่มเป็น 49

“ระดับ 49 อีกนิดเดียวก็จะ 50 แล้วสินะ ทีนี้เราจะได้เปลี่ยนอาชีพขั้นที่สองเสียที” ราดิชกล่าวอย่างดีใจ เขาสลายมิติปิดกั้นและหยิบแว่นกันแดดมาใส่พร้อมกับผนึกปิกามอน จากนั้นก็ใช้ม้วนคาถากลับเมืองกลับไปยังฮาร์เบอร์ในทันที

ราดิชมาโผล่ที่ลานกว้างหน้าอาคารภารกิจของเมืองฮาร์เบอร์ เขามองซ้ายมองขวาก็รีบเดินเข้าไปในอาคารภารกิจ ในตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้ว มีผู้เล่นมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ทำให้เขาต้องรอคิวอยู่สักพักถึงได้ใช้บริการ เมื่อส่งภารกิจเสร็จเขาก็ได้รางวัลเป็นเงินรวมแล้วราวหนึ่งล้านโกลด์ เมื่อออกจากอาคารภารกิจมาด้านนอก เวลานอกเกมก็เกือบบ่ายสองโมงแล้วด้วย เขาจึงหาตรอกลับตาคนแถวนั้นและออกจากเกมไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel