บท
ตั้งค่า

บทที่ 27 ความเป็นจริงของโลก

ย้อนกลับมาตอนที่ราดิชอยู่ในโบราณสถาน หลังจากที่ควันจากแรงระเบิดจางลง ราดิชก็เห็นชายคนนั้นก้าวออกมาจากแท่นบูชา และจ้องมองมาที่ตัวเขา พร้อมจิตสังหารมากมายที่แผ่ออกมา พร้อมเสียงประกาศจากระบบที่ดังขึ้น

-ท่านพบสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิ มหาจอมเวทโอเฟน ระดับ 90 ผู้ที่ถูกสังหารระดับจะลดลง 5 ระยะเวลารอเกิดใหม่เพิ่มเป็น 10 ชั่วโมง

ชายหนุ่มคนนั้นเดินมายืนที่กลางห้องและจ้องมาที่ราดิชตรงๆ ทำให้เขาถึงกับเสียวสันหลังวาบโดยไม่รู้ตัว แต่ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในหัวของเขาเสียก่อน

‘นายท่าน อัญเชิญข้าออกมาที ข้ามีเรื่องจะพูดกับหมอนั่น’ อาธูเรียพูดขึ้น ราดิชคิดว่าคงเป็นคนรู้จักกับอาธูเรีย จึงรีบร่ายบทอัญเชิญ

“ในนามแห่งข้า ราดิชผู้เป็นนายแห่งความภักดี ด้วยพันธะสัญญาที่มีต่อกัน จงตอบรับเสียงเรียกของข้า จงออกมา จักรพรรดินีอาธูเรีย” วงแหวนเวทอัญเชิญปรากฏออกมา พร้อมกับร่างของอาธูเรียในชุดเกราะเต็มยศและแผ่จิตสังหารออกมาป้องกันราดิช

อาธูเรียที่ปรากฏกายถามขึ้น “ว่าไงโอเฟน ไม่ได้เจอกันนานเลย เจ้ายังสบายดีอยู่เปล่า” ทำให้ชายหนุ่มผมดำเบิกตากว้างอย่างตกใจ

“นั่นเจ้าหรืออาธูเรีย ข้าก็ยังสบายดีอยู่ นี่เราไม่ได้เจอกันนานมากแล้วนะ” เสียงของโอเฟนช่างทุ้มต่ำยิ่งนัก เขาตอบพร้อมเดินเข้ามาหาอาธูเรีย เธอเองก็เดินเข้าไปหาและจับไม้จับมือทักทายกัน อาธูเรียก็เริ่มเข้าเรื่อง

“ข้ามีเรื่องจะขอร้องเจ้าหน่อยได้ไหม” อาธูเรียกล่าวกับโอเฟน และถอยกลับมาอยู่ข้างราดิช

“เจ้าจะให้ข้าช่วยอะไรล่ะ ลองบอกมาสิ” โอเฟนถามความต้องการ

“ข้าอยากให้เจ้าสอนความเป็นจริงของโลกใบนี้ให้นายท่านของข้าหน่อยได้หรือเปล่า” อาธูเรีย

กล่าวขึ้น และเหล่มองราดิชที่ตอนนี้เริ่มเหงื่อแตกพลั่กแล้วหลังจากได้ยินคำพูดของอาธูเรีย

“ก็ได้อยู่หรอก นั่นเป็นเจ้านายของเจ้าหรือ ว่าแต่เรื่องเป็นไงมายังไงละนี่” โอเฟนเริ่มมองสำรวจราดิชอย่างจริงจัง ทำให้เขารู้สึกว่าอยากจะหายไปจากตรงนี้จริงๆ

“เรื่องมันยาวน่ะ เอาไว้ทดสอบเสร็จค่อยคุยกันก็ได้ เจ้าคงรู้ใช่ไหมว่าเจ้านายข้าเข้ามาทดสอบด้วยเงื่อนไขสูงสุด และสิ่งที่เขาต้องการคืออะไร” อาธูเรียส่ายหน้าให้กับความบ้าของราดิช

“เงื่อนไขการผ่านเข้าโบราณสถานครบสี่ข้อ และเข้าทดสอบเพื่อขอพลังที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ใช่ไหม นั่นเป็นการทดสอบที่สูงที่สุด ข้าจึงเป็นผู้ทดสอบด้วยตัวเอง” โอเฟนบอก และขยับดาบกับคทาไปมาคลายเมื่อย

“ส่วนท่านที่เป็นเจ้านายของอาธูเรียไม่ต้องกลัวที่จะตายหรอก” โอเฟนบอก และเร็วเกินกว่าราดิชจะตั้งตัวก็มีแสงจากคทาของโอเฟนพุ่งเข้าอาบร่างของเขาอย่างรวดเร็ว

โอเฟนกล่าวว่า “ข้าใช้เวทโบราณบทหนึ่งกับท่าน เมื่อท่านทำการทดสอบกับข้าต่อให้ตายก็จะเกิดอยู่ตรงนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าข้าจะปลดเวทมนตร์นี้ให้ แต่ยาฟื้นพลังของท่านจะไม่ทำงานด้วยนะ ข้าบอกไว้ก่อน” เขายิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ทำให้ราดิชถึงกับหน้าซีดกว่าเดิม พร้อมกับนึกสงสัยว่าคนตรงหน้าจะซาดิสม์เหมือนอาธูเรียหรือเปล่า ส่วนอาธูเรียตอนนี้หลบไปอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง และนั่งดูการทดสอบนี้กับปิกามอนที่ขอออกมาด้วยเรียบร้อยแล้ว

“เอาล่ะ นายท่านของอาธูเรีย เรามาทำการทดสอบกันดีกว่า ดูว่าท่านมีคุณสมบัติเพียงพอหรือไม่ที่จะครอบครองพลังที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้” โอเฟนบอกพร้อมกับลอยตัวขึ้นบนอากาศ ทางราดิชก็ใช้ทักษะเสริมความสามารถตัวเอง พร้อมผนึกพลังเตรียมพร้อมเช่นกัน

เมื่อเห็นโอเฟนกำลังลอยขึ้นไปราดิชก็พุ่งทะยานขึ้นไปบนอากาศด้วยทักษะเหยียบเวหา พอเข้าประชิดตัวอีกฝ่ายได้เขาก็ตวัดดาบฟันใส่ แต่โอเฟนก็ใช้ดาบกันเอาไว้ และจี้คทาใส่คอหอยราดิช จนเขาต้องพลิกดาบพร้อมโยกตัวหลบออกมา

ราดิชที่ถอยออกมาเตรียมเข้าปะทะอีกครั้ง แต่เขาก็ต้องใช้ก้าวพริบตาหลบออกมา เพราะมีพลังเวทถูกยิงสวนออกมา เขาตกใจมากที่ไม่เห็นโอเฟนร่ายเวทเลย โอเฟนที่เห็นราดิชทำหน้าไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นจึงกล่าวขึ้นว่า

“ท่านไม่ต้องแปลกใจหรอก ข้าสามารถใช้เวทระดับกลางลงไปโดยไปต้องร่าย พวกนักเวทระดับสูงคนไหนก็ทำได้ทั้งนั้นแหละ” โอเฟนบอก คราวนี้เกิดมีดน้ำแข็งจำนวนมหาศาลที่ด้านหลังของเขา ราดิชตกใจมาก จากที่เขาเคยเห็นนักเวทใช้ก็เคยเห็นเต็มที่ก็ไม่เกินสิบอัน แต่นี่มันนับไม่ถ้วนเลย ทันใดนั้นเองโอเฟนก็ชูมือขึ้นและตวัดลงมายังทางที่ราดิชอยู่ พร้อมกับมีดน้ำแข็งเหล่านั้นพุ่งใส่เขา ราดิชไม่มีทางเลือก จำต้องวาดดาบออกไปเป็นวงกลมด้านหน้าทันที

ทักษะหมื่นกระบี่รวมหนึ่ง กงล้อกระบี่!!

กระบี่ไร้สภาพจำนวนมากแผ่ออกมาป้องกันการโจมตีของมีดน้ำแข็ง เกิดการปะทะถี่ยิบจนกระบี่ไร้สภาพหายไปเกือบหมด จนราดิชต้องวาดดาบออกไปเพื่อเรียกใช้ทักษะป้องกันอีกครั้ง ครั้งนี้เขาป้องกันมีดน้ำแข็งที่เหลือได้จนหมด ทว่าเมื่อเขามองไปก็ไม่เห็นโอเฟนแล้ว ทันใดนั้นเองเขาก็สัมผัสได้ถึงอันตรายจากด้านหลัง จึงพลิกดาบฟันกลับหลังไปอย่างรวดเร็ว

ราดิชใช้ดาบป้องกันการโจมตีของโอเฟนไว้ได้ เขาออกแรงดันดาบของอีกฝ่ายพร้อมกับพลิกดาบฟันใส่ แต่อีกฝ่ายก็ตวัดดาบรับไว้ได้ เขาจึงแทงออกไปอีกครั้งที่ลำคอ แต่โอเฟนก็เอาคทาปัดไว้ และแทงดาบสวนใส่เขาเช่นกัน ราดิชเบี่ยงตัวหลบและดึงดาบกลับพร้อมเหวี่ยงดาบใส่โอเฟนอีกครั้งด้วยทักษะซอร์ดสไตร์คที่แสนภูมิใจของเขาทันที

แต่ทว่าเขากับฟันใส่เพียงแต่อากาศธาตุ เขาตกใจเล็กน้อยแล้วเปลี่ยนทางดาบกลับไปป้องกันไว้ เป็นโอเฟนนั่นเองที่ฟันใส่ราดิช เขาเริ่มสงสัยว่าอีกฝ่ายหลบดาบของเขาได้ยังไง เขาดันอีกฝ่ายออกไปพร้อมกับเคลื่อนที่เข้าหาและแทงดาบใส่อย่างรวดเร็วอีกครั้ง ซึ่งเป็นไปตามคาด โอเฟนหายตัวไปและปรากฏตัวขึ้นยังจุดที่ไกลออกไป

“นายใช้ก้าวพริบตาได้!!” ราดิชถึงกับเครียดเลยทีเดียว ถ้าโอเฟนใช้ก้าวพริบตากับการร่ายเวทแล้วล่ะก็ มันจะเป็นหายนะของเขาทีเดียว

“ก็ใช้ได้อยู่แล้วล่ะ คอยดูนะนายท่านของอาธูเรีย ข้าจะเอาจริงกว่านี้แล้วนะ” โอเฟนบอกและยิงเวทสายฟ้าใส่ราดิช เขาใช้ก้าวพริบตาหลบได้ทัน แต่พอเขาปรากฏตัวโอเฟนก็ยิงเวทน้ำดักทางเอาไว้อีก ราดิชจึงใช้ก้าวพริบตาอีกครั้งเพื่อเข้าประชิดตัวโอเฟนที่ลอยอยู่กลางอากาศ พลางเงื้อดาบหมายฟันใส่อีกฝ่ายเต็มแรง แต่โอเฟนก็ใช้ก้าวพริบตาหลบออกมาและยิงเวทใส่อีก คราวนี้ราดิชหลบไม่พ้นจึงตวัดดาบเข้าปะทะทันที

ตูม!!

แรงระเบิดทำให้ราดิชกระเด็นลงมา เขารีบหยุดร่างตัวเองไว้ และพุ่งเข้าหาโอเฟนอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายก็ยิงเวทใส่เขาอีกหลายบท ทำให้ราดิชต้องใช้ก้าวพริบตาหลบไปมา จนเข้าระยะก็ฟันดาบใส่โอเฟนอีกครั้งอย่างรวดเร็ว อีกฝ่ายเอาคทารับไว้และแทงดาบของตนออกมา ทำให้ราดิชต้องพลิกตัวหลบออกมาอีกครั้ง

พอราดิชตั้งหลักได้ก็พุ่งเข้าหาโอเฟนอีกครั้ง นี่เป็นการต่อสู้บนอากาศครั้งแรกของราดิช เขาตวัดดาบปล่อยคลื่นดาบออกไปอย่างรวดเร็วหลายลูก โอเฟนเองก็ใช่ย่อย ยิงเวทเข้าปะทะคลื่นดาบของราดิชได้อย่างสบาย ทางราดิชที่พุ่งตามเข้าไปก็ได้โอกาสเข้าประชิด รีบใช้ทักษะซอร์ดสไตร์คฟันใส่อย่างหนักหน่วง

เคล้ง!!

ราดิชที่คิดว่าดาบนี้ฟันโดนเต็มๆ ต้องตกใจอีกครั้ง เพราะดาบของเขาเหมือนถูกหยุดด้วยกำแพงที่มองไม่เห็น ทำให้เขาต้องดีดตัวถอยออกมาตั้งหลักอย่างรวดเร็ว

“มันเป็นเวทป้องกันน่ะ ไม่ต้องแปลกใจหรอก” โอเฟนกล่าวพลางยิงเวทออกมาอีกครั้ง ราดิชได้แต่ใช้ก้าวพริบตาหลบไปมา เขาตัดสินใจใช้ก้าวพริบตาอ้อมไปยังด้านหลังของโอเฟน และแทงดาบออกไปด้วยทักษะซอร์ดสแตบ แต่อีกฝ่ายพลันพลิกตัวและเอาดาบปัดป้องไว้ได้ โอเฟนใช้คทาจี้ใส่ราดิชพร้อมกับมีสายฟ้าสีดำพุ่งออกจากคทาเข้าปะทะราดิชอย่างจัง เขาโดนพลังนี้อัดกระเด็นกลายเป็นแสงไปในทันที บ่งบอกถึงความแรงของเวทบทนี้ได้เป็นอย่างดี

ราดิชที่เกิดใหม่รีบใช้ทักษะเพิ่มความสามารถตัวเองและพุ่งขึ้นไปบนอากาศอีกครั้ง จากนั้นก็ปล่อยคลื่นดาบออกไปโจมตีใส่โอเฟนอย่างว่องไว แต่แค่อีกฝ่ายตวัดไม้คทาเท่านั้น การโจมตีของราดิชก็หายวับไป ถึงราดิชจะตกใจแต่ก็ยังพุ่งทะยานต่อไป เมื่อเข้าประชิดตัวได้ เขาก็จ้วงแทงออกไปยังคอหอยโอเฟน แต่อีกฝ่ายก็ใช้ดาบป้องกันไว้ได้ และยกคทาขึ้นยิงเวทใส่ราดิชอีกครั้ง ปรากฏสายฟ้าสีดำพุ่งเข้าจู่โจม ราดิชที่เตรียมใจไว้ก่อนจึงใช้ก้าวพริบตาหลบได้อย่างหวุดหวิด

“หลบไม่พ้นหรือนี่!!” ราดิชที่ใช้ก้าวพริบตาถอยกลับมาบนพื้น มองลำตัวซีกขวาของเขาที่ไหม้เกรียมอย่างงุนงง แต่ก็ระงับความเจ็บปวดและร่ายเวทรักษาบาดแผล ทางโอเฟนก็ไม่ทำอะไร ปล่อยให้ราดิชรักษาตัวเองไป

เมื่อราดิชที่รักษาบาดแผลเรียบร้อย ก็ใช้ก้าวพริบตาอีกครั้งไปโผล่ที่ข้างหลังของโอเฟน ฟันใส่อย่างรวดเร็ว โอเฟนก็พลิกตัวเอาดาบกันไว้และแทงคทาใส่ราดิชอีกครั้ง ราดิชจึงต้องรีบดีดตัวถอยออกมา แต่เวทที่โอเฟนยิงใส่ราดิชคราวนี้เป็นเกลียวคลื่นไฟหลายลูก ราดิชประเมิณว่าไม่สามารถปะทะได้จึงคิดใช้ก้าวพริบตาอีกครั้ง แต่โอเฟนคำนวณไว้แล้ว เกลียวคลื่นลมและเกลียวคลื่นน้ำที่ควบแน่นจนกลายเป็นน้ำแข็งถูกยิงตามไปใส่ราดิชทั้งสามทิศทาง เขารีบวาดดาบออกไปอย่างรวดเร็ว

ทักษะหมื่นกระบี่รวมหนึ่ง กงล้อกระบี่!!

กระบี่ไร้สภาพถูกกางออกป้องกันการโจมตีนั้นอย่างรวดเร็ว ราดิชไม่รอผลการปะทะรีบใช้ก้าวพริบตาหลบฉากลงมาบนพื้นก่อน สาเหตุที่เขาไม่ใช้เวทมนตร์โจมตีโอเฟนก็เพราะมันเหมือนกับเด็กคิดไปงัดข้อกับผู้ใหญ่ ทันใดนั้นหลังการปะทะกัน ก็มีเกลียวคลื่นความมืดนับสิบลูกพุ่งลงมาหาราดิชที่อยู่บนพื้น เขาตกใจมาก ได้แต่รีบวาดดาบออกไปอีกครั้งหนึ่ง

ทักษะหมื่นกระบี่รวมหนึ่ง กงล้อกระบี่!!!

เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง ขณะที่ราดิชดีดตัวออกข้างเพื่อเข้าจู่โจมโอเฟน ก็มีเกลียวคลื่นความมืดอีกหลายลูกพุ่งจู่โจมในระยะเผาขน เขาได้แต่ขวางดาบกันไว้และกลายเป็นแสงหายไปอีกครั้งอย่างจนใจ

พอราดิชเกิดใหม่อีกครั้ง เขาก็รีบถอยออกมาจากกลางห้องเพื่อตั้งหลักก่อน แต่โอเฟนไม่รอให้ราดิชตั้งหลัก เกลียวคลื่นความมืดถูกส่งเข้าหาราดิชอีกหลายลูกอย่างรวดเร็วอีกครั้ง

ราดิชใช้ก้าวพริบตาหลบการโจมตีนั้น เขากระโดดขึ้นกลางอากาศและดีดตัวพุ่งเข้าหาโอเฟนพลางใช้ก้าวพริบตาอีกครั้งไปที่ด้านข้างและฟันดาบใส่ โอเฟนกับราดิชแลกดาบกันถี่ยิบ ราดิชพุ่งตามพร้อมตวัดดาบฟันใส่โอเฟนอีกครั้ง แต่โอเฟนก็ประสานดาบและคทากันไว้พร้อมยกขาถีบใส่ราดิชจนกระเด็นถอยไป

โอเฟนพุ่งเข้าหาราดิชพร้อมยิงเกลียวคลื่นความมืดเข้าใส่เขาไปด้วย ราดิชต้องใช้ก้าวพริบตาหลบไปมาเหมือนเคย พอเข้าประชิดตัวโอเฟนก็ตวัดดาบฟันใส่ราดิช ราดิชกันไว้ได้และฟันสวนใส่จนอีกฝ่ายต้องดีดตัวถอยหลังไป

‘แข็งแกร่งจริงๆเจ้านี่’ ราดิชคิดในใจ เขาหลบกระแสความมืดที่พุ่งใส่เขาหลายต่อหลายลูก พอเขาลงมาบนพื้นได้ ก็ตัดสินใจทันทีว่าต้องทำอะไรสักอย่าง เขาจึงชูดาบขึ้นเพื่อเรียกใช้ทักษะโจมตีที่รุนแรงที่สุดที่มีในตอนนี้

ทักษะหมื่นกระบี่รวมหนึ่ง พยุหะศาสตรา!!

กระบี่ไร้สภาพนับหมื่นเล่มถูกเรียกออกมา เขาตวัดดาบไปข้างหน้า พวกมันก็พุ่งเข้าโจมตีใส่โอเฟนด้วยความเร็วสูง อีกฝ่ายก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ แต่ก็ยื่นคทามาด้านหน้า และร่ายเวทบทหนึ่งออกมาสร้างความตกใจแก่ราดิชจนอ้าปากค้าง

ทักษะมหาเวทดาร์คเนสจัสติก แบล็กโฮล!!

เกิดหลุมดำขนาดใหญ่ขึ้นตรงหน้าของโอเฟน มันหมุนวนด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พอกระบี่ไร้สภาพโจมตีเข้าไป ก็ถูกมันดูดเข้าไปจนหมดทุกอัน ราดิชตกใจมากที่เจอแบบนี้ แต่ก็ไม่รอช้ารีบพุ่งตามขึ้นไป พร้อมตวัดดาบปล่อยคลื่นดาบเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง

คลื่นดาบของราดิชปะทะกับเกลียวคลื่นความมืดที่โอเฟนยิงลงมา แต่มีบางลูกที่หลุดมาได้จนเขาต้องใช้ก้าวพริบตาหลบการโจมตีนั้น ราดิชขึ้นไปปรากฏตัวอยู่กลางอากาศอีกครั้ง และพุ่งเข้าใส่โอเฟนอย่างรวดเร็ว

ทางโอเฟนเมื่อเห็นราดิชพุ่งเข้ามาก็ยิงสายฟ้าความมืดเข้าใส่ ตัวราดิชหายไปและโผล่ขึ้นที่ด้านหลังของโอเฟนอีกครั้ง พร้อมตวัดฟันใส่อย่างรวดเร็ว โอเฟนอาศัยสัญชาตญาณใช้ก้าวพริบตาหลบได้อย่างฉิวเฉียด

“ใช้ได้เหมือนกันนี่นายท่านของอาธูเรีย คงต้องเพิ่มความแรงกันหน่อยแล้ว” โอเฟนเอ่ยชมราดิช และเริ่มร่ายเวทอีกครั้ง คราวนี้เกิดเกลียวคลื่นความมืดหลายร้อยอันที่ด้านหลังของเขา จากนั้นพวกมันก็พุ่งเข้าใส่ราดิชอย่างรวดเร็วเกินคาดคิด ทางราดิชนั้นก็วาดดาบออกไป ใช้ทักษะป้องกันทักษะเดียวที่เขามีอีกครั้ง

หมื่นกระบี่รวมหนึ่ง กงล้อกระบี่!!

กระบี่ไร้สภาพแผ่ออกมาอีกครั้ง ส่วนราดิชใช้ก้าวพริบตาติดๆ กันหลบออกมาจากบริเวณนั้น พอราดิชปรากฏตัวอีกครั้ง โอเฟนที่รอท่าอยู่แล้วก็ฟาดดาบใส่เขา ทำให้เขาต้องใช้ดาบป้องกันการโจมตีไว้และดีดตัวถอยออกมา

โอเฟนฉีกยิ้มที่มุมปากก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “เอาล่ะ อุ่นเครื่องกันพอแล้ว ต่อไปนี้เป็นของจริงแล้วนะ” ราดิชถึงกลับเสียววาบ ถ้าหากที่ผ่านมาคือการอุ่นเครื่อง แล้วถ้าเอาจริงเขาจะรอดไหมเนี่ย แต่ไม่ทันขบคิดให้มากความ ฝ่ายตรงข้ามก็พุ่งเข้าหาพร้อมกับมีเกลียวคลื่นความมืดนำหน้ามาแล้ว

ตูม!!

อ๊าก!!!

เสียงร้องของราดิชดังกึกก้องไปทั่วบริเวณอีกนานแสนนาน ราดิชตายครั้งแล้วครั้งเล่าโดยที่ไม่สามารถสร้างบาดแผลให้โอเฟนได้เลยแม้แต่น้อย ขณะที่ราดิชทดสอบกันอยู่นั้น ที่มุมหนึ่งของห้องก็มีสายตาสองคู่เฝ้ามองการทดสอบนี้อยู่

“เจ้าว่านายท่านจะเป็นอะไรไหม อาธูเรีย” ปิกามอนถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่ต้องห่วงหรอก เจ้าโอเฟนมันเป็นจอมเวทที่ได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะแห่งยุคเลยนะ นายท่านต้องพัฒนาฝีมือขึ้นอย่างแน่นอน ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก” อาธูเรียบอกให้มันสบายใจ

ขณะที่ทั้งสองเฝ้ามองนั้น ราดิชต้องผจญกับมหาเวทหลายบทที่ถูกระดมยิงเข้าใส่ พอเข้าประชิดตัวอีกฝ่ายได้ก็ถูกสกัดไว้ แล้วโดนยิงเวทสวนกลับมา แถมพอถอยออกมาอีกฝ่ายก็ติดตามเข้ามาพร้อมกับระดมยิงเวทใส่เขาอีก

ตอนนี้ราดิชถูกเคี่ยวกรำอย่างหนักหน่วงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ที่ไม่มีทางชนะหรือจะเป็นความเจ็บที่ได้รับอยู่ตลอดเวลา ซึ่งโดยปกติแล้วสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้จิตใจได้รับผลกระทบอย่างมาก แต่ราดิชกลับไม่ย่อท้อ เพราะเขาคิดว่ายังไงก็ต้องหาวิธีเอาชนะให้ได้ เพราะทุกอย่างย่อมมีทางออก

โอเฟนเห็นว่าราดิชเข้ามาต่อสู้กับตนทั้งที่ไม่มีทางชนะ แต่ก็ยังมีจิตใจเข้มแข็งไม่หวาดหวั่นต่อสิ่งที่เหนือกว่าตนเองแม้แต่น้อย ทำให้รู้สึกประทับใจมาก หลังจากส่งราดิชไปเกิดใหม่อีกรอบ ราดิชที่ฟื้นขึ้นมาเตรียมพุ่งเข้าหาเขา โอเฟนก็ยกมือห้ามและลงมายืนบนพื้นอย่างนิ่มนวล ทำให้ราดิชงงกับท่าทีของโอเฟน แต่ก็ไม่ประมาท

“นายท่านของอาธูเรีย ข้าว่าการต่อสู้ให้พอแค่นี้ก่อน เรามาตอบคำถามกันดีกว่า” โอเฟนบอกราดิช

“ตอบคำถามหรือครับ” ราดิชที่ตอนนี้โทรมไปหมดคงต้องยอมไปก่อน

“ทั้งที่ท่านรู้ว่าสู้ข้าไม่ได้ ทำไมยังเข้ามาต่อสู้กับข้าอีกล่ะ” โอเฟนถามขึ้น

“ผมคิดว่าทุกอย่างย่อมมีทางออก ถ้าสู้ไปเรื่อยๆ ก็คงเล่นงานได้บ้างแหละ” ราดิชตอบตามที่คิด

“ถ้าอย่างนั้นขอให้ท่านดูในสิ่งที่ข้าจะแสดงต่อไปนี้ให้ดี และตอบคำถามของข้ามา” โอเฟนกล่าว และยิ้มที่มุมปาก จากนั้นก็โบกคทาในมือไปด้านหน้า เกิดภาพสามมิติฉายออกมาราวกับเล่นกล

ในภาพนั้นเป็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถูกชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งรุมทำร้ายกลางเมือง ผู้หญิงคนนั้นร้องขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีใครสนใจและเข้าไปช่วยเหลือเลยแม้แต่คนเดียว กลับยิ่งทำให้คนกลุ่มนั้นโมโหมากขึ้น พวกมันลงมือกับเธอหนักขึ้นจนเธอเสียชีวิตและกลายเป็นแสงหายไป

“ความจริงชายกลุ่มนั้นเป็นกลุ่มคนของกิลด์ใหญ่ที่มีอิทธิพล พวกมันก็มีระดับที่สูงมากจนคนทั่วไปไม่กล้ายุ่ง ถ้าเป็นท่านจะทำเช่นไร” โอเฟนถามคำถามนี้แก่ราดิช

“ถ้าผมพบเห็นเหตุการณ์นี้ผมจะเข้าช่วยเธอโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย” ราดิชตอบ

“แล้วถ้าท่านสู้มันไม่ได้ล่ะ หรือสู้ได้แต่ต้องเป็นศัตรูกับพวกมันหรือกิลด์ของมัน ท่านยังจะทำอีกหรือไม่” โอเฟนถามคำถามต่อไป

“ถึงสู้ไม่ได้ผมก็จะช่วยครับ เพราะมันคือสิ่งที่ถูกต้องและสมควรทำ ต่อให้เป็นศัตรูกับพวกมันทั้งหมดผมก็จะทำ เพราะการที่คนเลวแบบนั้นยังมีอยู่ในสังคมนี่แหละถึงทำให้โลกนี้ฟอนเฟะ” ราดิชที่กำหมัดแน่นกล่าวออกมา

“อย่างนั้นหรือ งั้นเรามาดูภาพต่อไปกันดีกว่า” โอเฟนสะบัดคทาอีกครั้ง คราวนี้ภาพเปลี่ยนเป็นผู้ชายสองคนยืนประจันหน้ากันอยู่กลางเมือง จากนั้นพวกเขาก็เริ่มด่าทอและเข้าต่อสู้กัน แต่ด้วยพลังของทั้งสองฝ่ายทำให้เมืองถูกทำลายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีใครที่กล้าเข้าไปหยุดยั้งการกระทำของคนทั้งสองเลย

“ชายสองคนนี้เป็นยอดฝีมือระดับสูงทั้งคู่ ทั้งสองโต้เถียงกันด้วยเรื่องไร้สาระเรื่องหนึ่งจนเกิดการทะเลาะขึ้น และทำให้เมืองเสียหายอย่างรุนแรง แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปขวางการต่อสู้นี้ เพราะรู้ว่าทั้งสองเป็นคนอารมณ์ร้อน อาจได้รับอันตรายได้ ถ้าเป็นท่านจะทำอย่างไร” โอเฟนถามราดิช

“ถึงรู้ว่าพวกเขาเก่งมาก แต่ยังไงผมก็จะเข้าไปห้ามให้ได้ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของผมก็ต้องหยุดการต่อสู้ที่บ้าคลั่งนี้ให้ได้ หรือถ้าจำเป็นก็ต้องสังหารคนทั้งสองเสีย เพราะจะให้คนส่วนใหญ่มาเดือดร้อนด้วยเรื่องแค่นี้ไม่ได้หรอกครับ” ราดิชตอบคำถาม

“แต่ถ้าท่านไม่มีพลังพอที่จะทำแบบนั้นได้ล่ะ ท่านจะทำยังไง?” โอเฟนถามจี้ประเด็นสำคัญ

“ยังไงก็ต้องทำอยู่ดีครับ ถึงผมไม่มีพลังที่มากพอ แต่จะพยายามให้ถึงที่สุด” ราดิชตอบอย่างฉะฉาน

“ถ้าแบบนั้นเราขอถามท่านว่า ถ้าเกิดมีคนสองคนที่บาดเจ็บหนักใกล้ตาย แล้วท่านไปพบเจอทั้งสองโดยบังเอิญ คนหนึ่งคือเพื่อนของท่าน อีกคนหนึ่งคือคนที่ท่านไม่รู้จักเลย แต่เมื่อสอบถามแล้วก็พบว่าเพื่อนของท่านไปขโมยของของคนคนนั้น และเขาตามมาเอาของคืนจนเกิดการต่อสู้กันขึ้นอย่างรุนแรงและบาดเจ็บหนักทั้งสองฝ่าย เป็นท่านจะทำเช่นไร” โอเฟนในตอนนี้สายตาจับจ้องไปที่ราดิชอย่างรอคำตอบ

“ผมจะช่วยทั้งสองคนครับ แล้วจะเอาของที่เพื่อนขโมยไปคืนให้เจ้าของเดิม” ราดิชตอบ

“แล้วถ้าเพื่อนของท่านเห็นแก่ตัว ไม่ยอมคืนของให้ล่ะ ท่านจะทำอย่างไร” โอเฟนจี้ต่อ

“ผมคงต้องพยายามเกลี้ยกล่อมให้เพื่อนผมคืนให้ แต่ถ้ายังดื้อคงต้องจัดการ เพราะเขาทำในสิ่งที่ผิด” ราดิชตอบ

“ตอบได้ดี คำถามสุดท้าย ถ้าเกิดท่านมีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้จริงๆ ท่านจะทำอย่างไรกับพลังนั้น” โอเฟนถามและลุ้นระทึกในคำตอบ

“ผมจะใช้พลังนั้นทำเท่าที่ทำได้เพื่อทุกคน เพื่อความถูกต้อง ปกป้องคนที่ผมรัก เพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้คนที่เดือดร้อนเท่าที่ผมพอจะช่วยได้” ราดิชตอบคำถามนี้ด้วยความจริงใจ

“ท่านตอบได้ดีมาก ข้าขอถามอีกอย่างได้ไหม ตอนที่ท่านสู้กับข้า ท่านเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมจากแต่เดิมบ้าง” โอเฟนถามถึงการทดสอบ

“ผมคิดว่าจอมเวทที่มีฝีมือเก่งกาจแบบคุณรับมือได้ยากมาก ถึงคุณจะใช้เวทได้โดยไม่ต้องร่าย แต่ก็ต้องมีจังหวะที่หยุดชะงักอยู่ ถ้าอาศัยจังหวะนี้ก็จะเข้าไปจัดการได้ แต่เสียดายที่ผมไม่สามารถทำได้ด้วยความต่างของระดับชั้น แต่ถ้าลองต่อไปเรื่อยๆ ก็ไม่แน่” ราดิชตอบตามที่คิด โอเฟนรับฟังและคิดว่าคนคนนี้ถ้าได้พลังของเขาไปคงทำให้โลกสงบสุขได้อย่างแน่นอน เพราะแหวนนางฟ้าประทานพรของราดิชนั้นได้แสดงถึงธาตุแท้ของผู้เป็นเจ้าของอยู่แล้ว

“ข้าถือว่าท่านสอบผ่าน เข้ามานี่สิ” โอเฟนกล่าว เมื่อราดิชเดินเข้าไปใกล้ เขาก็เอามือซ้ายมาทาบบนหน้าผากของราดิชอย่างแผ่วเบา พร้อมกับเสียงประกาศจากระบบดังขึ้น

-ท่านผ่านการทดสอบในโบราณสถานระดับสูงสุดครั้งที่หนึ่ง

-ท่านได้รับเงินรางวัล 20,000,000 G

-ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 30,000,000

-ระดับของท่านเพิ่มเป็น 48

-ท่านได้รับเผ่าพันธุ์ ยมทูตที่สาบสูญ

-ท่านได้รับอาวุธวิญญาณไร้ชื่อในรูปแบบดาบ 1 เล่ม

-ท่านได้รับทักษะ มหาเวทดาร์คเนสจัสติก

-ท่านได้รับ ต่างหูโอเฟน(S)

-ท่านได้รับภารกิจ เส้นทางสู่จอมราชันย์

-ภารกิจเส้นทางสู่จอมราชันย์สำเร็จส่วนที่หนึ่ง

“ข้าหวังว่าพลังของข้าที่มอบให้ท่านนั้น ท่านจะใช้มันเพื่อทำโลกใบนี้ให้ดีขึ้น ท่านคงไม่ทำให้ข้าผิดหวังนะ ข้าคาดหวังในตัวท่านเป็นอย่างมากเลยทีเดียว” โอเฟนบอกและตบบ่าราดิชที่ตอนนี้กำลังอึ้งในสิ่งที่ได้รับ

โอเฟนจับมือซ้ายของราดิชขึ้นมาและกล่าวต่อว่า “ข้ามีเรื่องอีกอย่างที่จะบอกท่านเกี่ยวกับแหวนนางฟ้าประทานพรที่ท่านมี ถึงความสามารถอย่างสุดท้ายของมัน”

“ความสามารถอย่างสุดท้าย?” ราดิชถามด้วยความสงสัย

“ท่านจะได้พรจากนางฟ้าและเป็นที่รักของนางฟ้า ข้าบอกได้แค่ว่าท่านต้องพบเจอกับนางฟ้า แล้วท่านจะรู้เอง” โอเฟนบอกราดิช นั่นไม่ได้ทำให้เขาเข้าใจแม้แต่น้อย แต่เมื่อโอเฟนกล่าวจบก็ผละไปคุยกับอาธูเรีย ทิ้งราดิชให้จมอยู่ในภวังค์ตามลำพัง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel