บท
ตั้งค่า

บทที่ 26 บททดสอบแรก

โอ้ย!!

ราดิชที่ถูกส่งเข้ามานั้น หล่นลงมาหน้าทิ่มพื้นในสภาพที่ดูไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ปิกามอนพุ่งออกมาจากแหวนเพื่อช่วยเหลือเจ้านายของมันอย่างรวดเร็ว

“เจ้านายเป็นอะไรหรือเปล่า” ปิกามอนใช้มือเล็กๆของมันแตะหน้าของราดิชด้วยความเป็นห่วง

“อูย!! ฉันไม่เป็นไรหรอก” ราดิชเอามือยันพื้นและลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับสำรวจร่างกายก็ไม่พบส่วนใดสึกหรอ ก็เลยเปิดหน้าต่างไอเทมเช็คน้ำยาฟื้นพลัง ก็พบว่ายังมีอยู่อีกจำนวนมาก เพราะเขาซื้อมาตุนไว้ตลอดเวลานั่นเอง

“นายท่านงานนี้ข้าไม่ช่วยนะ ท่านต้องผ่านมันไปด้วยตัวเองแล้วล่ะ เพราะท่านจะได้พลังที่ตัวเองต้องการ ก็ต้องลงมือทำด้วยตัวเองยังไงล่ะ” อาธูเรียบอกในสิ่งที่ทำให้ราดิชอึ้งไปเลย

“อะไรนะ ไม่ช่วยกันหรอ งานช้างแล้วสิทีนี้ เห็นบอกเป็นระดับยากสุดเลยนี่” ราดิชเริ่มเห็นชะตากรรมของตนเองขึ้นมาลางๆ

“ข้ามีข้อมูลจะบอกนายท่านด้วยนะ ข้าคิดว่าสัตว์อสูรระหว่างทางที่นายท่านจะต้องทำการทดสอบจะมีระดับและพลังชีวิตที่เท่ากับนายท่าน แต่ค่าสถานะอื่นๆของมันยังคงเดิมนะ ส่วนทักษะข้าคิดว่ามันคงไม่มีหรอกเพราะโดนลดระดับมากไป ส่วนผู้ทดสอบคนสุดท้ายข้าไม่รู้ว่าเป็นใครเหมือนกัน แต่ก็ระวังตัวด้วยล่ะนายท่าน ข้าขอเตือนไว้ก่อน” อาธูเรียบอกข้อมูลเท่าที่รู้ให้ราดิชฟัง เขาฟังแล้วก็ไม่ทำให้รู้สึกดีขึ้นเท่าไรเลย แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เขาจึงเริ่มสำรวจสถานที่ก่อนเป็นอย่างแรก

พบว่าตอนนี้เขาอยู่ในห้องที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผนังทำด้วยหินศิลาสีแดงดูเก่าแก่ แต่แข็งแกร่งขนาดห้องไม่ใหญ่นัก เพดานสูงราวห้าเมตร มีแสงสว่างส่องอยู่ตรงเหนือเพดานห้องตรงกลาง เขาพอจะรู้ว่าเป็นผลึกธาตุแสงที่ใช้เป็นพลังงานของไฟฉายที่เขาซื้อมาจากเถ้าแก่อ้วนนั่นเอง ปกติผลึกธาตุแสงนั้นมีตกจากสัตว์อสูรที่สังกัดธาตุแสง หรือซื้อจากร้านขายอุปกรณ์ก็ได้เหมือนกัน

เมื่อมองไปรอบๆ ราดิชก็พบว่าด้านตรงข้ามที่เขาอยู่มีบันไดให้เดินลงไป เขาเริ่มทำสมาธิให้จิตใจสงบ เพื่อสัมผัสถึงสิ่งรอบตัวสักพัก ก็พร้อมที่จะเริ่มการทดสอบ เขาลุกขึ้นและเริ่มเดินไปที่บันได

บันไดนี้ทอดยาวลงไปข้างล่าง แต่ละขั้นมีความกว้างพอสมควร บนเพดานมีผลึกธาตุแสงที่ให้แสงสว่างอยู่เป็นระยะ ราดิชก้าวเท้าเดินลงไปเรื่อยๆสักพัก ทางเดินก็หักมุมไปทางซ้าย พอพ้นทางเดินออกมาก็พบกับห้องโถงห้องหนึ่ง เพียงแต่ว่าที่กลางห้องมีคนที่ดูเหมือนนักรบโบราณยืนอยู่กลางห้อง พอเขาก้าวเท้าเข้าไปในห้อง มันก็พุ่งเข้าจู่โจมเขา พร้อมมีเสียงระบบดังขึ้น

-สัตว์อสูรพิเศษ นักดาบแห่งโบราณสถานระดับ 45 เตรียมโจมตี

มันพุ่งเข้าใส่เขาพร้อมเงื้อดาบขึ้นฟันใส่เขาอย่างรวดเร็ว เขาต้องเบี่ยงตัวหลบออกข้างพร้อมชักดาบอารอนไดท์ออกมาและเรียกใช้ทักษะมาเจสตีพร้อมผนึกพลังลงดาบ และพุ่งเข้าประชิดตัวพร้อมแทงดาบออกไปหมายลำคอนักดาบผู้เฝ้าโบราณสถาน แต่ทางนั้นพลิกตัวหลบและตวัดดาบฟันสวนกลับมา

ราดิชเปลี่ยนทางดาบที่แทงมากันไว้ได้ทันท่วงที แต่นักดาบผู้เฝ้าโบราณสถานก็บุกอย่างต่อเนื่อง มันเปลี่ยนทางดาบและตวัดฟันใส่เขาอีกหลายดาบ เขาตวัดดาบมากันได้ไม่ยาก หลังกันไปจนหมดชุด ราดิชก็ก้าวถอยออกมา และพุ่งเข้าหาพร้อมใช้ทักษะซอร์ดสไตร์คฟันใส่หมายตัดแขนของมัน นักดาบผู้เฝ้าโบราณสถานใช้ดาบกันไว้ได้ เขาจึงพลิกดาบตวัดฟันใส่มันอย่างรวดเร็ว โดนเข้าที่หัวไหล่ของมันอย่างจังจนมันต้องถอยออกไป เขาพุ่งตามไปและเงื้อดาบฟันใส่มันพร้อมใช้ทักษะซอร์ดสไตร์คอีกครั้ง

ราดิชฟันลงไปสุดแรง แต่นักดาบผู้เฝ้าโบราณสถานพลิกตัวหลบไปได้ และตวัดดาบฟันใส่ราดิชที่เปิดช่องว่างอยู่ เขาต้องเอี้ยวตัวหลบ แต่ก็ไม่พ้นโดนฟันเข้าที่ต้นแขนซ้ายจนเลือดโชก เขาตวัดดาบฟันกราดออกไปบังคับให้มันต้องถอย ทำให้นักดาบผู้เฝ้าโบราณสถานก็ต้องดีดตัวถอยออกไปก่อน เขาถอยออกมาตั้งหลักก่อน เมื่อตั้งหลักได้เขาก็รีบพุ่งทะยานเข้าไปหาอีกฝ่าย และฟาดฟันดาบออกไปหมายจุดตายบนร่างของมัน แต่นักดาบผู้เฝ้าโบราณสถานก็มีฝีมือใช่ย่อย สามารถป้องกันไว้ได้ทุกดาบอย่างงดงาม

ราดิชคิดในใจ ‘นี่สินะที่อาธูเรียบอก ถึงพลังชีวิตจะเท่าเรา แต่ฝีมือมันไม่ได้ลดลงตามระดับ อยากรู้จริงว่าระดับเดิมของมันเท่าไรกันแน่’ พร้อมทั้งปัดดาบที่นักดาบผู้เฝ้าโบราณสถานฟาดฟันใส่เขา เขาเห็นว่าขืนเป็นแบบนี้ไม่ดีแน่จึงถอยออกมา และปล่อยคลื่นดาบใส่หลายครั้งซ้อนอย่างรวดเร็ว คลื่นพลังเคลื่อนเข้าปะทะร่างของนักดาบโบราณอย่างจัง ตัวเขาเองก็พุ่งตามไปหลังปล่อยคลื่นพลัง พร้อมตวัดดาบฟันใส่นักดาบผู้เฝ้าโบราณสถานที่กำลังเสียหลักทันที

ดาบนี้ฟันเข้าเต็มหน้าอกมันของอีกฝ่าย ก่อนที่นักดาบผู้เฝ้าโบราณสถานจะตั้งหลักได้และตวัดดาบฟันใส่ราดิชเพื่อป้องกันตัว ทำให้เขาต้องหลบดาบนั้นออกมา พอตั้งหลักได้เขาก็พุ่งเข้าหาพร้อมใช้ทักษะซอร์ดสไตร์คฟันใส่อีกครั้ง นักดาบผู้เฝ้าโบราณสถานที่ตั้งหลักได้แล้ว ขวางดาบกันไว้ได้ พร้อมทั้งออกแรงดันจนราดิชต้องถอยออกมาก่อน มันพุ่งตามราดิชมา แต่เขาก็รออยู่แล้ว เขาหวดดาบสวนกลับไปพร้อมใช้ทักษะซอร์ดสไตร์คใส่ไปด้วย ดาบนี้ฟันเข้าเต็มอกของมันอีกครั้ง ถึงมันจะตวัดดาบกันไว้ได้ แต่ก็ต้องกระเด็นถอยไปไกล ตัวเขาก็พุ่งตามต่อและฟาดฟันใส่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

ราดิชฟันดาบนี้ปาดใส่คอหอยของนักดาบผู้เฝ้าโบราณสถาน จนเลือดของมันพุ่งกระจายออกมา มันเอามือซ้ายกุมคอไว้พร้อมทั้งพุ่งเข้ามาหมายแลกชีวิตกับเขา เขาฟาดดาบเข้าใส่มันพร้อมใช้ทักษะเอ็กซ์โพลชั่นเบรก บังเกิดเปลวไฟระเบิดออกมาอย่างรุนแรง ทำให้นักดาบผู้เฝ้าโบราณสถานต้องมีอันกระเด็นออกไป เขาตามเข้าไปและแทงดาบเข้าตัดขั้วหัวใจ จนมันกลายเป็นแสงหายไปในที่สุด

“หวังว่าคงไม่เจอตัวโหดแบบนี้หลายๆตัวพร้อมกันนะ” ราดิชที่ตอนนี้จัดการนักดาบผู้เฝ้าโบราณสถานได้ ก็เริ่มสังเกตห้องนี้อีกครั้งทำให้เห็นว่ามีทางเดินต่อไปอีก เขาหยุดพักเหนื่อยก่อน จากนั้นก็เริ่มเดินไปตามทางเดินที่เห็นนั้นต่อไป

หลังจากเดินไปตามทางเดินนั้นอีกพักหนึ่ง เขาก็พบห้องโถงอีกครั้งคราวนี้พบกับนักรบอีกเหมือนกัน แต่ถือหอกเป็นอาวุธ เขากระชับดาบและก้าวเข้าไปในห้อง มันก็พุ่งเข้ามาและแทงหอกใส่เขาทันที เขาหลบคมหอกที่แทงออกมาได้และพุ่งเข้าประชิดตัวมัน ซึ่งอาวุธประเภทหอกนั้นถ้าเข้าประชิดตัวได้ จะทำให้ไม่สามารถใช้ความสามารถได้เต็มที่ ต่างกับระยะกลางที่จะแสดงอานุภาพได้มากที่สุด

ราดิชเข้าประชิดตัวมือหอกและตวัดดาบฟันเข้าใส่ที่หน้าอกของมัน มือหอกก้าวถอยหลังและวกหอกกลับมากันไว้ได้ ดาบของราดิชปะทะกับด้ามหอกจนเบนออก เจ้ามือหอกได้โอกาสเลยตวัดปลายหอกหมายเสยหน้าเขา แต่เขาพลิกตัวหลบออกมา พร้อมเตะสวนเข้าที่ลำตัวของมันจนเซล้มไป เขาพุ่งติดตามไปพร้อมใช้ทักษะซอร์ดสไตร์คฟันใส่มือหอกหมายสังหารในคราเดียว

เจ้ามือหอกพลิกตัวหลบไปได้อย่างหวุดหวิด มันตั้งหลักได้และแทงหอกออกหลายหอกติดกัน เพื่อสกัดราดิชที่พุ่งตามเข้าไป ทำให้เขาต้องตวัดดาบป้องกันคมหอกเหล่านั้นก่อน หลังจากหมดชุดนั้นมันก็แทงหอกซ้อนเข้ามาอีกที แต่เขาก็เบี่ยงตัวหลบพร้อมพุ่งเข้าประชิดตัวมันอีกครั้ง และหวดดาบจากล่างขึ้นบน ดาบนั้นตัดผ่านลำตัวของมันจนเป็นแผลฉกรรจ์ ตัวมันเองก็ถอยหลังหลบเพื่อสลายแรงปะทะให้ได้มากที่สุด แต่เขาไม่ปล่อยโอกาสทอง เขาพลิกดาบแทงใส่ที่อกซ้ายของมันจนกลายเป็นแสงหายไปในที่สุด

หลังจากนั้นเมื่อเดินต่อไปก็เจอห้องที่มีนักดาบสองคนบ้าง มือหอกสองคนบ้าง นักดาบกับมือหอกบ้าง แต่ราดิชก็ไม่ได้ลำบากอะไรมาก มันเริ่มยากตรงห้องที่มีพวกมันอยู่สามคนนั่นเอง กว่าราดิชจะเอาชนะได้ก็เหนื่อยเหมือนกัน หลังจากเสร็จห้องสุดท้ายราดิชเดินตามทางไปก็พบบันไดลงไปและมีห้องโถงอยู่แต่คราวนี้คู่ต่อสู้ไม่ได้มีแค่สามคนซะแล้ว

ในห้องนั้นมีทั้งนักดาบ มือหอก และมีมือธนูกับนักบวชเพิ่มมาด้วยอีกสอง ตัวเขาที่ยังไม่ได้เข้าไปในห้อง พวกมันก็ยังไม่ได้จู่โจม ราดิชจึงหยุดนั่งพักก่อนที่จะเข้าไป และเริ่มคิดหาวิธีการรับมือ

ราดิชคิด ‘อยู่กันพร้อมหน้าเลย สงสัยต้องวางแผนก่อน ขืนเดินเข้าไปตรงๆมีหวังไม่รอดแน่’ และเริ่มเช็คไอเทมต่างๆให้เรียบร้อย จากนั้นเขาก็วางแผนการณ์ล่วงหน้าเพื่อเตรียมรับมือกับปาร์ตี้นรกนี้ หลังจากคิดแผนการได้ เขาก็ลุกขึ้นและใช้ทักษะมาเจสตี เขาสร้างกระบี่ไร้สภาพนับหมื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พุ่งเข้าไปในห้อง พร้อมปลดปล่อยเหล่ากระบี่ไร้สภาพออกไปโจมตีทุกชีวิตในห้องนั้น

ทักษะหมื่นกระบี่รวมหนึ่ง พยุหะศาสตรา!!

กระบี่ไร้สภาพนับหมื่นพุ่งเข้าโจมตีเหล่านักรบโบราณในห้องอย่างรวดเร็ว พวกมันตกใจมากที่อยู่ๆราดิชก็โผล่มา และยิ่งได้เห็นกระบี่ไร้สภาพนับหมื่นกำลังพุ่งเข้ามา ปาร์ตี้นรกนั้นก็พยายามป้องกันตัวเองอย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้ แต่ทว่ากระบี่ไร้สภาพนับหมื่นที่ถาโถมเข้าไปนั้น เป็นเหมือนดั่งมหานทีที่เชี่ยวกราก ลำพังการป้องกันธรรมดาคงไม่อาจต้านทานได้

เมื่อกระบี่ไร้สภาพของราดิชทำงานจนครบทุกเล่ม สภาพภายในห้องก็ยับเยินมาก แต่น่าแปลกที่พื้นห้องและผนังกลับไม่บุบสลาย ส่วนเหล่านักรบโบราณนั้นสลายกลายเป็นแสงเกือบหมด เหลือเพียงนักดาบหนึ่งคนที่ร่างกายแหลกเหลวไปหมดแต่ก็ยังไม่ตาย เขาเลยเข้าไปจัดการให้เรียบร้อย

“ใช้วิธีนี้น่าจะดีกว่า แต่ว่ากินพลังมากเหมือนกันนะแบบนี้” ราดิชบ่นกับตัวเองเบาๆ

เขาพักเหนื่อยที่ห้องนั้นไม่นาน ก็ออกเดินไปยังห้องต่อไป เขาก็พบกับพวกมันอยู่เป็นปาร์ตี้เหมือนเดิม เพียงแต่ว่ามีจำนวนมากขึ้นจากสี่เป็นห้า และมันก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด ในเมื่อเขาใช้วิธียิงถล่มแบบนั้นเข้าไปก่อน ถ้ามีคนรอดเขาก็ตามเข้าไปจัดการต่อ ถึงแม้วิธีนี้จะกินพลังมานาเยอะ แต่ว่ามันก็เหนื่อยน้อยกว่าการเข้าไปสู้ประชิดตัวมาก

ห้องต่อมาก็เพิ่มจากห้าคนเป็นหกคน และเพิ่มเป็นแปดคนในที่สุด เขายังคงใช้วิธีเดิมอยู่ตลอด แต่ว่าในห้องที่มีแปดคนนั้น มักจะมีผู้รอดชีวิตครั้งหนึ่งสองถึงสามคนเสมอ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาลำบากแต่ประการใด ราดิชจัดการพวกมันไปเรื่อยๆ ผ่านห้องที่มีแปดคนไปก็หลายห้อง จนในที่สุดเขาก็เจอทางเดินยาวเส้นหนึ่ง ที่มีสุดปลายเป็นห้องโถงใหญ่ตั้งอยู่

เขาเดินตามทางไปจนถึงห้องโถงนั้น แต่ก็ไม่เห็นว่ามีพวกนักรบโบราณอยู่เลย เขาเกิดความสงสัยจึงเดินเข้าไปในห้อง ก็พบว่ามันเป็นห้องโถงที่ไม่แตกต่างจากที่ผ่านมา นอกจากขนาดที่ใหญ่โตกว่ากันหลายเท่าตัว นอกจากนี้มันเป็นห้องที่ไม่มีทางเดินต่อ ตรงที่เคยเป็นทางเดินต่อไปนั้น มีสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นแท่นบูชาอยู่ เขาเกิดความสงสัยจึงเดินเข้าไปดู พอเข้าไปใกล้เจ้าแท่นนั้น แท่นบูชานั้นก็ส่องแสงสว่างจ้าออกมา

ราดิชหยิบแว่นกันแดดออกมาใส่อย่างทันท่วงที หลังจากที่แสงหายไป ก็พบชายหนุ่มคนหนึ่งมีผมดำยาว ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ในชุดคลุมสีทอง มือขวาถือดาบยาวสีเงินสวยงามเล่มหนึ่ง มือซ้ายถือคทาเวทสีทองเหลืองอร่ามอันหนึ่ง ราดิชคิด ‘ท่าจะเป็นชุดของนักเวทแฮะ’ ขณะที่เขากำลังพิจารณาชายคนนั้น เขาก็รู้สึกถึงอันตราย และใช้ก้าวพริบตาถอยออกมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

ตูม!!

ด้านนอกวิหาร

พวกกลุ่มคนจำนวนหลายร้อยคนที่ปิดล้อมวิหารอยู่นั้น ก็ลุกขึ้นเตรียมพร้อมทันที เพราะเกิดแสงสว่างวาบขึ้นที่หน้าวิหาร พร้อมการปรากฏตัวของราดิชอีกครั้ง

“มันออกมาแล้ว เอายังไงกันดี” ผู้เล่นคนหนึ่งถามขึ้น

“หัวหน้าของเราบอกว่า จะเข้าไปเจรจาก่อน ให้พวกเราเตรียมพร้อมไว้น่ะ” เพื่อนของมันบอกขึ้น

ราดิชที่ตอนนี้ออกมานอกโบราณสถาน พอมองไปรอบๆก็พบว่า มีคนจำนวนมากจับจ้องมาที่ตัวเขาคนเดียว แต่เขาก็ไม่ได้หวั่นเกรง เพราะเขาจะรอดูจุดประสงค์ของคนพวกนี้ก่อน

“หัวหน้าครับเอาไงกันดี” ผู้เล่นหนึ่งในกลุ่มคนที่ดูราดิชสู้กับราชาแมงมุมทรีซาถามหัวหน้ากลุ่มของตน

ชายหัวหน้ากลุ่มประเมินสถานการณ์ดูแล้วจึงกล่าวว่า “รอดูไปก่อน ฉันสั่งเจ้าสี่ให้ไปซุ่มอยู่ห่างจากที่นี่เพื่อทดสอบแล้ว” และกลุ่มของพวกเขาก็ถอยออกมาเพื่อสังเกตการณ์ ส่วนทางราดิชที่ยืนอยู่ตรงหน้าวิหารนั้น ก็มีคนสองคนที่คิดว่าน่าจะเป็นหัวหน้าของคนนับร้อยเข้าไปหา

“สวัสดีนะครับคุณราดิช ผมคาเครุ หัวหน้ากิลด์ม้าดำยินดีที่ได้รู้จักครับ” คาเครุแนะนำตัวเอง

“สวัสดีครับคุณราดิช ผมทาคาโอะ หัวหน้ากิลด์ม้าแดงยินดีที่ได้รู้จักครับ” ทาเคโอะแนะนำตัวบ้าง ทั้งสองคนนี้ถือเป็นหัวหน้ากิลด์ที่มีฐานที่มั่นอยู่ในเมืองฮาร์เบอร์และอัลเคีย

“สวัสดีคุณคาเครุและคุณทาคาโอะเช่นกันครับ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรหรือเปล่า” ราดิชกล่าวทักทายคนทั้งสองกลับไป แต่ก็ลอบประเมินสถานการณ์และเตรียมพร้อมไว้

“ผมพูดตรงๆเลยและกันนะครับ ผมอยากจะชวนคุณเข้ากิลด์ม้าดำของผม ผมให้ตำแหน่งรองหัวหน้ากิลด์เลย ถ้าคุณเข้าร่วมกับเรา” คาเครุบอกจุดประสงค์

“ทางผมก็เหมือนกัน ผมก็อยากจะชวนคุณเข้ากิลด์ม้าแดงของผมเหมือนกัน และผมก็ให้ตำแหน่งรองหัวหน้ากิลด์คนที่หนึ่งกับคุณ ถ้าร่วมงานกับทางเรา” ทาคาโอะยื่นขอเสนอของเขาให้ราดิช แต่ว่าราดิชในตอนนี้นั้นไม่เหมือนแต่ก่อน จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำเขารู้ดีว่าพวกนี้ต้องการมากกว่าการเข้ากิลด์

“คือตอนนี้ผมยังไม่ได้ตัดสินใจจะเข้าร่วมกับใครนะครับ” ราดิชตอบอย่างชัดเจน

“หมายความว่าคุณจะไม่เข้าร่วมกับเราอย่างนั้นหรือครับ” คาเครุถามขึ้น

“ครับ ผมคิดว่าตอนนี้ยังไม่อยากเข้ากิลด์ใดๆ แต่อยากผจญภัยก่อน” ราดิชยังยืนยันคำเดิม แต่คาเครุกับทาคาโอะหันมาสบตากัน ความจริงแล้วคาเครุกับทาคาโอะทั้งสองเป็นพี่น้องกัน และต่างเข้ามาเล่นเกมพร้อมกัน แต่แยกกันตั้งกิลด์เพื่อที่จะครองเมืองได้มากขึ้นเท่านั้นเอง

“อย่างนั้นหรือครับ คงช่วยไม่ได้ คงต้องจัดการคุณก่อนที่จะเป็นภัยกับพวกเราภายหลัง” คาเครุบอกเสียงเหี้ยม ที่พวกเขาทั้งสองทำแบบนั้นก็เพราะว่า ราดิชมีไอเทมระดับ S ในครอบครองและมีฝีมือสูงพอที่จะพัฒนาเป็นยอดฝีมือได้ ถ้าได้มาเป็นพวกแล้ว ก็จะสามารถแผ่อิทธิพลขยายกิลด์ให้ยิ่งใหญ่ได้มากขึ้นนั่นเอง แต่ถ้าไม่สามารถเอามาเป็นพวกได้ ก็ต้องตัดไฟแต่ต้นลม คือกำจัดราดิชเพื่อไม่ให้มีระดับที่สูงกว่านี้นั่นเอง ถึงแม้ว่าไอเทมระดับ S จะแย่งชิงไม่ได้ แต่ไอเทมระดับอื่นยังตกได้ และพวกนี้ก็ถือว่าเป็นผลพลอยได้ไปด้วย คาเครุและทาคาโอะหันไปส่งสัญญาณให้ลูกน้องของพวกเขา พร้อมกับถอยกลับไปอยู่แนวหลัง

“เราคงต้องให้คุณตายที่นี่ และถ้าคุณกลับไปเกิดที่เมืองเราจะตามฆ่าคุณถึงที่สุด” คาเครุประกาศก้อง พร้อมกับพวกลูกน้องของมันที่เริ่มตีวงเข้ามาหาราดิช

‘คนพวกนี้นี่ยังไงกันนะ เรื่องแค่นี้ถึงกลับจะฆ่าแกงกันเลยหรือไง เห็นทีเราคงต้องสู้อย่างจริงจังเสียแล้ว’ ราดิชคิดในใจอย่างโมโห เขาเริ่มโกรธขึ้นมาจริงๆแล้ว

เขาคิดอย่างเคร่งเครียด ‘แต่ว่าคนที่เข้ามาล้อมเรา กว่าครึ่งน่าจะมีระดับเกิน 50 และน่าจะได้อาชีพขั้นสองแล้วด้วย งานนี้ถือว่าหนักจริงๆสินะ’ ขณะกวาดตามองสำรวจเหล่าผู้เล่นที่รุมล้อมเขาอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้มีความหวาดกลัวแต่อย่างใด ตัวเขาในตอนนี้ไม่ใช่คนเดิม ก่อนที่จะเข้าไปในโบราณสถานอีกแล้ว

ราดิชชักดาบออกมาผนึกพลัง และปล่อยจิตสังหารออกมาแผ่เป็นวงกว้างครอบคลุมทั่วทั้งบริเวณ แรงกดดันนี้หนักมาก จนทำให้พวกมันบางคนที่ระดับไม่ถึง 50 ถึงกับลงไปนอนชักกับพื้นหรือสลบไปในทันที พวกมันหลายคนที่ใช้จิตสังหารได้ก็ปล่อยออกมาป้องกันตัวเอง แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนัก หรือบางคนก็ระเบิดพลังออร่าออกมาปกป้องตนเอง และนั่นก็เป็นทักษะระดับ 50 ที่บางคนยังไม่มี ทำให้คนที่ต้านทานแรงกดดันนี้ได้ มีไม่มากนัก

คาเคคุรคิดในใจ ‘แรงกดดันอะไรกันนี่ ราวกับอยู่ต่อหน้ามหาสมุทรที่ยิ่งใหญ่ไร้ซึ่งทางต่อต้านอย่างนั้นแหละ’ และปล่อยจิตสังหารของตัวเองออกมาเพื่อลดทอนแรงกดดันของราดิช

ทาคาโอะเห็นแบบนั้นก็รีบสั่งการออกไป “พวกเราลุยเข้าไป มันมีแค่คนเดียวนะ” ทำให้หลายคนที่พอต้านทานได้ และมีอาชีพสายประชิดบุกเข้าหาราดิชทันที ทันใดนั้นเองราดิชที่ยืนตั้งหลักก็หันหลังและเงื้อดาบขึ้นฟาดฟันลงมาอย่างรวดเร็วจนมองไม่ทัน

ชิ้ง!! ชิ้ง!!

เสียงแรกยังไม่ทันจาง ราดิชก็เงื้อดาบขึ้นอีกครั้งและฟาดฟันลงไปอีกทีด้วยความเร็วที่มองไม่ทัน มันคือกระสุนปืนสองลูก ที่ถูกยิงมาจากทางทิศเหนือโดยมีเป้าหมายอยู่ที่ตัวเขา กระสุนทั้งสองลูกที่ถูกผ่าออกนั้น แฉลบใส่คนที่เข้าโจมตีใส่เขาจนกลายเป็นแสงหายไปสี่คนในทันใด แสดงถึงความแรงของกระสุนนั้นได้เป็นอย่างดี

“ตอนแรกนึกว่ามันจะหลบ เล่นฟันกระสุนทิ้งเลยหรอเนี่ย” เสียงชายคนหนึ่งที่ลอบยิงราดิชด้วยปืนสไนเปอร์จากทางทิศเหนือพูดกับคนที่มาด้วยกัน และที่ที่พวกเขาอยู่นั้นไกลจากวิหารประมาณหนึ่งกิโลเมตร แต่อีกคนกลับนิ่งเงียบไม่ว่าอะไร ทว่าสายตาของเขายังจับจ้องไปยังโบราณสถานอย่างสนใจ

ราดิชตะโกนอย่างโมโห “เล่นลอบกัดกันเหรอพวกแก” และใช้ทักษะมาเจสตีเพื่อเพิ่มความเร็วของตัวเอง พร้อมทั้งปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างรุนแรงกว่าปกติ จนเห็นเป็นไอเข้มขนด้วยตาเปล่า พร้อมพุ่งทะยานเข้าหาพวกมันที่อยู่ตรงหน้าทันที มันเกิดอะไรขึ้นกับราดิชกันแน่ตอนอยู่ในโบราณสถานแห่งนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel