บทที่ 21 ปะทะลิเวียธาน
พวกราดิชไปยังศูนย์อาหารอีกครั้งพร้อมกับพวกผู้เล่นที่ติดตามมา แต่เขาก็ทำเป็นไม่สนใจ และไปซื้ออาหารมาให้ปิกามอนและอาธูเรียอีกหลายต่อหลายอย่าง ตอนนี้เขาเริ่มสงสัยแล้วว่าใครเป็นเจ้านายใครกันแน่ แต่ขณะที่พวกราดิชกำลังเอร็ดอร่อยกันอยู่นั้น กลุ่มของเกิดมารวยก็มากินข้าวเลยแวะเข้ามาทักทายเหมือนเคย
“อ้าว น้องราดิช เมื่อกี้พี่ได้ข่าวว่ามีคนมาหาเรื่องน้องหรือ” เกิดมาจนทักขึ้น
“ใช่ครับพี่เกิดมาจน แต่ผมส่งมันทั้ง 5 คนกลับไปเกิดใหม่หมดล่ะ” ราดิชตอบอย่างเอือมๆ
“พี่ต้องขอโทษแทนพวกมันด้วย พวกมันเป็นคนรู้จักของพี่เอง นี่พี่จัดการเทศน์มันไปหนึ่งชุดใหญ่แล้ว พี่รู้ว่าพวกมันผิดแน่นอน” เกิดมารวยกล่าวขอโทษราดิช
“ไม่เป็นไรหรอกพี่ พี่ไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย เพื่อนพี่กลุ่มนั้นต่างหากที่มาก่อกวนผมก่อน แต่ถ้าเขาไม่มายุ่งกับผมก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะ” ราดิชกล่าวอย่างจริงใจ ทำให้เกิดมารวยสบายใจขึ้น เพราะเขาก็กลัวว่าราดิชจะตามล้างแค้นเพื่อนของเขากลุ่มนั้น
“ขอบใจมากที่ไม่ถือสาเรื่องนี้นะ ถ้ายังไงพี่ขอตัวก่อนก็แล้วกัน” เกิดมารวยกล่าวขอบคุณ และลาราดิชไปหาที่นั่งกับคนของตัวเอง
อาธูเรียที่กำลังแย่งของกินจากปิกามอนเอ่ยขึ้น “เกิดเป็นนายท่านนี่ยุ่งดีแท้ ข้าถึงบอกแล้วไงว่าต้องสะสมดาบเยอะๆ ไว้รับมือกับทุกสถานการณ์” พูดเสร็จก็เอาของที่แย่งมาได้เข้าปากทันที ทำให้ปิกามอนถึงกับคอตกไปเลย
ราดิชเห็นปิกามอนทำคอตกเลยถามขึ้น “ปิกามอนเป็นอะไรไป ถ้าอยากกินแบบนั้นเดี๋ยวฉันไปซื้อมาให้ใหม่ก็ได้” แล้วลุกขึ้นไปซื้ออาหารอีกรอบ
“ขอบคุณเจ้านายมากเลย” ปิกามอนส่งเสียงไล่หลังราดิช แต่คนอื่นได้ยินแค่มันร้องกี้ๆ จี๊ดๆ ฟังไม่ออกว่ามันพูดอะไร
“นายท่านเป็นคนดีเกินไป ข้ากลัวว่าสักวันจะเกิดปัญหาขึ้นได้นะสิ” อาธูเรียที่เห็นราดิชเดินไปไกลแล้วพูดขึ้นกับปิกามอน
“ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องช่วยกันปกป้องเจ้านายสิถึงจะถูก” ปิกามอนว่าขึ้นมา อาธูเรียเองก็เห็นด้วยกับปิกามอน จากนั้นไม่นานราดิชก็ซื้ออาหารมาให้ปิกามอนใหม่ และไม่ลืมเอามาเผื่ออาธูเรียด้วย
“คราวหลังไม่ต้องแย่งกันแล้วนะ อยากกินอะไรก็บอกมา” ราดิชวางอาหารให้ทั้งสอง ทั้งคู่ต่างก็รับไปกินกันต่อ หลังจากที่กินกันเสร็จเรียบร้อย ก็ยกขบวนกันกลับไปที่ห้องพักเพื่อวางแผนว่าจะทำอะไรกันต่อไป
“ข้าอยากไปชมวิวด้านนอกน่ะ นายท่าน” อาธูเรียเสนอขึ้นมา
“ก็ดีนะ จะได้ไม่เจอคนเยอะๆ ดูสิ ข้าช้ำไปหมดทั้งตัวแล้ว” ปิกามอนโอดครวญ
“เดี๋ยวเราไปชมวิวกันก่อนละกัน เดี๋ยวค่อยทำอย่างอื่นต่อ” ราดิชตัดสินใจแล้วก็พากันออกจากห้องไป ระหว่างทางก็เจอู้คนมองมาที่กลุ่มราดิชอย่างสนใจเป็นพิเศษ
“ดังชั่วข้ามคืนเลยทีเดียวนะนายท่าน” อาธูเรียเห็นคนจ้องราดิชเยอะ เอ่ยปากแซว
“ฉันว่าเขามองเธอมากกว่านะ ดูชุดที่ใส่ซะก่อน เหอะๆ” ราดิชว่าแล้วเหล่ตามองอาธูเรียที่อยู่ในชุดโกธิคโลลิต้าสีขาวเหมือนคุณหนูผู้สูงศักดิ์
“ก็อย่างว่า ข้ามันสวยอยู่แล้วอะนะ” อาธูเรียเชิดหน้าตอบอย่างมั่นใจ
“แหวะ!!” เสียงปริศนาดังขึ้นพร้อมกันสองเสียง ทำให้อาธูเรียหันขวับกลับมา แต่ราดิชกับปิกามอนก็ทำเป็นไม่รู้เรื่องเดินเลี่ยงขึ้นนำไปก่อน
เมื่อมาถึงจุดชมวิวก็เป็นเวลาค่ำแล้ว ทำให้เห็นแสงจันทร์ที่ส่องลงมากระทบผิวน้ำเป็นประกายสวยงามมาก รวมทั้งหมู่ดาวบนฟากฟ้า ซึ่งนอกเกมนั้นหาดูได้ยากมาก ราดิชดื่มด่ำกับภาพที่เห็นอยู่นานเหมือนกัน
เมื่อเวลาผ่านไป ราดิชเห็นว่าได้เวลาแล้วจึงชวนอาธูเรียกับปิกามอนกลับห้อง ระหว่างทางก็เจอกับผู้เล่นหลายคนที่ยังคงมองกลุ่มพวกเขา พอมาถึงห้องอาธูเรียก็สลายร่างไป ส่วนราดิชก็ไปอาบน้ำ แล้วเข้านอนพร้อมกับปิกามอนจนหลับไปในที่สุด
เช้าวันใหม่มาถึง ราดิชก็ตื่นไปอาบน้ำแต่งตัวตามปกติ และอัญเชิญอาธูเรียออกมา พวกเขายกขบวนกันไปศูนย์อาหารแต่เช้า และราดิชก็ต้องทำหน้าที่ซื้ออาหารให้อาธูเรียกับปิกามอนที่เรียกร้องจะเอานุ่นเอานี่หลายอย่างจนเขาชักจะเวียนหัว เขาเลยแก้ปัญหาโดยการเอากระดาษให้ทั้งคู่ไปจดรายการกันมา ทั้งคู่ต่างเขียนสิ่งที่อยากกินลงไปจนเต็มแผ่น หลังจากได้อาหารตามที่สั่งราดิชก็ทยอยนำมาส่งให้ทั้งคู่จนครบ
“วันนี้เราจะทำอะไรกันดีนายท่าน” อาธูเรียถามขึ้นหลังจากซดต้มยำกุ้งไป
“ฉันกำลังคิดอยู่เหมือนกัน อาจจะนอนอยู่ห้องเฉยๆ น่ะ” ราดิชที่ไม่รู้จะไปไหนว่าขึ้น
“เจ้านายไม่ไปเข้าคาสิโนหน่อยเหรอ เผื่อรวยนะ” ปิกามอนเสนอ
“ไม่ดีกว่า การพนันไม่ทำให้ใครรวยได้หรอก” ราดิชบอก
“ทำอะไรกันดี...” ทั้งสามคนกินไปพลางคิดกันไปว่าจะทำอะไรกันดี สุดท้ายก็คิดไม่ออก เลยคิดว่าจะกลับห้องไปก่อน
ขณะที่พวกราดิชกลับไปที่ห้องนั้น ได้มีสิ่งมีชีวิตหนึ่งเคลื่อนตัวอย่างเงียบเชียบผ่านมาใกล้ๆ กับเรือโดยสาร ขณะจะผ่านไปนั้นเอง มันก็วกกลับและตรงมาที่เรือโดยสารทันที เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุการณ์พิเศษที่ต้องมีเงื่อนไขครบจึงจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งเงื่อนไขที่ว่าก็คือตัวราดิชนั้นเอง
พวกราดิชที่ตอนนี้เล่นปาหมอนกันในห้องอย่างสนุกสนาน หารู้ไม่ว่าตนเองกำลังจะชักนำภัยพิบัติมาสู่เรือลำนี้ ทันใดนั้นเองเรือก็เริ่มโคลงเคลงไปมามากขึ้นเรื่อยๆ
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ” ราดิชที่หยุดเล่นถามขึ้น
“ออกไปดูกันดีกว่าเจ้านาย” ปิกามอนเสนอ พวกเขาออกจากห้องขึ้นไปที่ดาดฟ้าเรือ ตอนนี้มีคลื่นลมแรงมาก ท้องฟ้ามีเมฆ ทำท่าเหมือนจะมีพายุ
“พายุเข้าเหรอเนี่ย” ราดิชร้องอย่างตกใจ อาธูเรียเพ่งมองไปรอบๆ แล้วกล่าวขึ้น “ข้าว่าไม่ใช่นะนายท่าน ข้าสังหรณ์ใจไม่ดีเลย” พร้อมถอยมาอยู่ข้างๆ ราดิช
ทันใดนั้นเองน้ำทะเลตรงส่วนที่อยู่ด้านหน้าเรือไม่ไกลก็ถูกดันสูงขึ้น เหมือนกับจะมีอะไรโผล่ขึ้นมา พร้อมกับที่คลื่นลมเริ่มแรงขึ้น ผู้เล่นจำนวนมากออกมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนดาดฟ้าเรือกัน ทว่าตอนนี้น้ำทะเลด้านหน้าเรือก็แตกกระจายออก พร้อมกับเสียงจากระบบที่ดังไปทั่วว่า
-ท่านพบสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิ จ้าวมังกรสมุทรลิเวียธาน ระดับ 90 ผู้ใดถูกสังหารระดับจะลดลง 5 ระยะเวลารอเกิดใหม่เพิ่มเป็น 10 ชั่วโมง
สิ้นเสียงประกาศ ก็มีสิ่งมีชีวิตหนึ่งปรากฏตัวขึ้น มันมีรูปร่างเป็นมังกรแบบยุโรปขนาดใหญ่ น่าจะใหญ่กว่าเรือโดยสารนี่ด้วยซ้ำ ตัวของมันมีสีฟ้าใสราวกับน้ำที่บริสุทธิ์ ดวงตาสีแดงและปากที่อ้าออก เผยให้เห็นฟันแหลมคมจำนวนมาก พร้อมกับเสียงคำรามก้องที่มันปล่อยออกมา
ก๊าซ!!!
เสียงของมันดังแสบแก้วหูทุกคนที่ตอนนี้กำลังตะลึงอยู่กับที่ แถมพลังกดดันที่มันปล่อยออกมา ทำให้หลายคนเริ่มอึดอัด ถึงจะอยู่ไกลจากมันมากก็ตาม
“ปกติลิเวียธานเป็นสัตว์อสูรที่ไม่โจมตีก่อนนี่นา ทำไมถึงเข้ามาจู่โจมเรือโดยสารได้ล่ะนี่” กัปตันเรือที่ตอนนี้เครียดอย่างหนักพูดขึ้น และเริ่มบังคับเรือให้ออกห่างให้เร็วที่สุด
“ว่าแล้วเชียว สังหรณ์ไว้ไม่ผิดเลย เอาไงดีนายท่าน ข้าว่ามันมาหานายท่านโดยเฉพาะเลยนะ” อาธูเรียเอ่ยเสียงเครียด
“หา ฉันเหรอ จริงด้วย เป็นผลของทักษะแน่เลย แล้วนี่จะทำไงกันดีล่ะ” ราดิชถามอย่างตกใจ
“ถามได้ ก็ต้องสู้กับมันนะสิ คิดว่ามันจะปล่อยเรือลำนี้ไปเหรอ” อาธูเรียบอกและเริ่มเร่งพลังมานาของตน จนเปลี่ยนกลับไปอยู่ในชุดอัศวินเต็มยศเหมือนเดิม
อาธูเรียหันไปพูดกับราดิช “ได้เวลาลุยแล้วนายท่าน ไปกันเถอะ” และจับมือราดิชพากันกระโดดพุ่งออกจากเรือไปทันที โดยมีปิกามอนเกาะหลังเขาไปด้วย อาธูเรียพุ่งไปหยุดและยืนอยู่กลางอากาศตรงหน้าลิเวียธาน ส่วนราดิชก็ใช้วิชาเหยียบเวหายืนอยู่ข้างๆ เขาเริ่มทึ่งในความใหญ่โตของลิเวียธาน
“นายท่าน มานาของท่านคงไม่พอให้สู้นานๆ แน่ เรารีบจัดการมันดีกว่า” อาธูเรียบอกและเรียกดาบเอ๊กซ์คาลิเบอร์ออกมา พร้อมปล่อยพลังกดดันใส่ลิเวียธานทันที
ส่วนราดิชก็ชักดาบโฟเทียออกมาเหมือนกัน เขาผนึกพลังใส่พร้อมปล่อยจิตสังหารออกมาช่วยอาธูเรียอีกแรง ถึงรู้ว่ามันไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไรก็เถอะ ตอนนี้มานาของราดิชลดฮวบๆ พร้อมกับมีแสงกะพริบของบลูโพชั่นให้เห็นเป็นระยะๆ
“ลุยกันเลยนายท่าน” อาธูเรียตะโกนขึ้นพร้อมพุ่งเข้าหาลิเวียธานอย่างรวดเร็ว มันอ้าปากและปล่อยคลื่นน้ำแรงดันสูงออกมา เธอหลบได้และเข้าไปฟันใส่มันทันที มันพยายามหลบ แต่ด้วยความใหญ่จึงหลบได้แค่ส่วนหัว ดาบฟันเข้าที่ลำตัวมันอย่างจัง แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นอะไรมาก มันวกหัวมาหมายกัดอาธูเรียให้ขาดสองท่อน แต่เธอก็หลบออกมาได้ทัน
ทางราดิชเห็นแบบนั้นก็เรียกใช้ทักษะมาเจสตี และใช้ก้าวพริบตาอ้อมไปด้านหลังมัน เขาปล่อยคลื่นดาบใส่มันหลายทีติดๆ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทำให้มันบาดเจ็บเลย ลิเวียธานคงรู้สึกรำคาญเลยใช้หางตวัดใส่ราดิช เขาใช้ดาบกันไว้ได้ แต่ก็ต้องปลิวไปตามแรงจนไปไกล เขารีบพุ่งกลับมา
ตอนนี้อาธูเรียเข้าไปฟันมันแบบฉาบฉวย แต่มันใช้กรงเล็บของมันป้องกันไว้ได้ ถึงแม้มันจะมีเกล็ดที่ฟันแทงไม่เข้าและป้องกันเวทได้ก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถป้องกันดาบของอาธูเรียที่เหนือกว่าได้ มันจึงได้แต่เอากรงเล็บเข้าปะทะ
ราดิชที่พุ่งเข้าหามันอีกครั้ง ก็ปล่อยคลื่นดาบออกไปอีกเพื่อก่อกวนสมาธิของมัน ลิเวียธานเริ่มรู้สึกรำคาญเลยหันมาทางราดิช และกำลังจะปล่อยบอลน้ำใส่เขา เป็นจังหวะที่อาธูเรียตวัดดาบปล่อยพลังลมใส่มันในระยะประชิด แรงระเบิดส่งผลให้มันเซไป ทำให้ลูกบอลน้ำที่ยิงใส่ราดิชนั้น พุ่งไปทางเรือโดยสารแทน
“พวกเรา หลบเร็ว!!”
บึม!!
มีคนตะโกนให้ทุกคนหลบแต่ก็สายเกินไป หลายคนที่โดนระเบิดจังๆ กลายเป็นแสงหายไปในทันที ส่วนคนที่โดนเฉี่ยวๆ ก็บาดเจ็บกันถ้วนหน้า
ราดิชที่เห็นเหตุการณ์ถึงกับอึ้ง ลูกบอลน้ำที่มันยิงออกมารุนแรงขนาดนั้น ถ้าเขาโดนเข้าเต็มๆ คงไม่รอดเหมือนกัน เขาพุ่งตัวต่อไปหาลิเวียธานที่ตอนนี้โดนอาธูเรียไล่ฟันอย่างหนักอยู่ โดยส่งคลื่นดาบล่วงหน้าไปอีกหลายลูก ทางอาธูเรียที่ตอนนี้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงก็โจมตีใส่มันหลายจุด แต่ด้วยความอึดของมันทำให้มันยังไม่ตาย แถมยังปล่อยพลังน้ำแรงดันสูงใส่เป็นพักๆ มีบางลูกที่พุ่งไปโดนเรือโดยสาร ทำให้สภาพที่เรือตอนนี้โกลาหลมาก
ราดิชที่พุ่งเข้ามาหาอาธูเรียรีบกล่าวขึ้น “อาธูเรีย ชั้นว่ารีบจัดการเถอะ เจ้านี่มันอึดสุดๆ แล้วเรายังไม่รู้ด้วยว่ามันยังมีไม้ตายอะไรอีกรึเปล่าด้วย”
“มันยังมีไม้ตายอยู่นายท่าน ถ้ามันใช้ล่ะก็เราแย่แน่ๆ ไม้ตายของมันคือควบคุมสภาพอากาศบริเวณนี้ได้ นั่นแหละที่น่ากลัว” อาธูเรียบอกอย่างกังวล และตวัดดาบปล่อยพลังลมใส่ลิเวียธาน
ลิเวียธานปล่อยบอลน้ำแรงดันสูงมาปะทะไว้ พลังงานทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง ลิเวียธานลอยขึ้นจากผิวน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้รอบตัวมันเริ่มมีวงแหวนเวทธาตุน้ำปรากฏให้เห็นหลายร้อยวง แต่ละวงซ้อนทับกันอยู่ในวงเวทขนาดใหญ่
“แย่แล้ว มันกำลังร่ายมหาเวท” อาธูเรียรีบพุ่งเข้าไปแต่ไม่ทันการณ์ วงแหวนเวทได้ทำหน้าที่ของมันเรียบร้อย พลังน้ำแรงดันสูงหลายร้อยลูกกำลังพุ่งมาที่พวกเขา ราดิชเห็นดังนั้นจึงลงมือทันทีทันใด เขาวาดดาบออกไปเป็นรูปวงกลมด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
ทักษะหมื่นกระบี่รวมหนึ่ง กงล้อกระบี่!!
กระบี่ไร้สภาพนับพันเล่มแผ่กระจายออกไปเป็นวงกลม คุ้มกันทั้งสองคนอย่างทันท่วงที บอลน้ำแรงดันสูงเข้าปะทะกับกระบี่ไร้สภาพเสียงดังตูมตามไปหมด ผลจากการปะทะทำให้เกิดไอน้ำจำนวนมากในบรรยากาศ ทางลิเวียธานที่เห็นว่าพวกราดิชป้องกันไว้ได้ ก็เตรียมยิงชุดที่สองมาต่อ
“อาธูเรียรีบจัดการมันซะ” ราดิชรีบพูด และพุ่งไปหาอาธูเรีย
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องใช้ของแรงจัดการกับมันซะแล้ว” อาธูเรียจับดาบด้วยสองมือยกขึ้นเหนือหัว ราดิชก็ก้าวถอยออกมาเตรียมพร้อมทันที ตอนนี้เขารู้สึกว่าพลังมานาของเขากำลังถูกดูดออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบหมดแรง ทันใดนั้นตัวดาบก็เปล่งแสงสว่างพุ่งขึ้นไปบนฟ้าเห็นได้อย่างชัดเจน พร้อมกับแรงกดดันอันมหาศาลที่แม้แต่ลิเวียธานยังหยุดร่ายเวท และรีบพุ่งเข้าหาพวกราดิชทันที
ดาบพันธะสัญญาแห่งชัยชนะ!!
อาธูเรียฟาดดาบออกไปใส่ลิเวียธานที่กำลังพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง บังเกิดลำแสงพุ่งออกจากดาบเข้าปะทะกับลิเวียธาน ทันทีที่ลำแสงปะทะกันก็เกิดการระเบิดขึ้น แสงสว่างจ้าสาดส่องไปทั่วทุกทิศ จนทำให้ทุกคนต้องเอามือมาปิดตาไว้ ส่วนราดิชนั้นหยิบแว่นกันแดดมาใส่ตั้งแต่อาธูเรียยกดาบขึ้นแล้ว ตอนนี้เขามานาหมดเกลี้ยงแทบจะร่วงลงไปเต็มที อาธูเรียหลังจากปล่อยพลังก็รีบไปพยุงราดิชทันที
อาธูเรียถามขึ้นขณะพยุงราดิช “เป็นไงมั่งนายท่าน” ตอนนี้เธอกลับไปใส่ชุดโกธิคโลลิต้าสีขาวเหมือนเดิมแล้ว
“หน้ามืดนิดหน่อย สงสัยใช้มานามากไป ว่าแต่ลิเวียธานล่ะ” ราดิชหันไปมองกลุ่มควันที่เกิดจากการปะทะ พอควันสลายหายไปก็ไม่พบสิ่งใดนอกจากไอเทมที่กำลังหล่นลงน้ำ เจ้าปิกามอนก็พุ่งไปเก็บด้วยความเร็วสูงทันที
“ไม่รอดหรอก ถึงจะเป็นจักรพรรดิเหมือนกัน แต่ลิเวียธานมันมีแค่ความอึดกับพลังเวทสูง แต่ไม่มีอาวุธแบบข้า เจอกันตรงๆ มันสู้ไม่ได้หรอก” อาธูเรียกล่าวอย่างภาคภูมิใจ และพาราดิชกลับไปที่เรือ พวกเขาฉวยโอกาสที่บนเรื่อยังวุ่นวายกันอยู่รีบหนีเข้าไปห้องพักทันที เพราะไม่อยากตอบคำถามใคร
พอราดิชเข้ามาให้ห้องได้ก็ล้มตัวลงนอนกับพื้นอย่างหมดแรง ส่วนปิกามอนนั้นก็มานั่งอยู่ข้างๆ ส่วนอาธูเรียไปนั่งที่โต๊ะนั่งเล่น
“ถ้าออกจากห้องไปนี่จะมีคนมาตามอีกเท่าไหร่เนี่ย เล่นซะอึกทึกครึกโครมขนาดนี้” ราดิชที่นอนหงายอยู่กับพื้นกล่าวขึ้นมา
“ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา นายท่านไม่มีปัญญาล้มมันแน่นอน ส่วนข้าถ้าสู้จริงๆ โดยไม่ใช้ท่าก็นานอยู่ แต่ข้ากลัวนายท่านจะเป็นอะไรเสียก่อนเลยต้องรีบจัดการน่ะ” อาธูเรียที่ตอนนี้เริ่มหยิบชุดน้ำชามาชงชาว่าขึ้น
“เจ้านาย เมื่อกี้ข้าเก็บของมาได้ตั้งหลายชิ้นแน่ะ เจ้านายลองดูสิ” ปิกามอนที่นอนอยู่ข้างๆ เขาบอก
“อืม ขอนอนพักอีกแป๊ปละกัน ไม่ไหวล่ะตอนนี้” ราดิชว่า และนอนไปอีกสักพักจนผล็อยหลับไปจนได้ อาธูเรียกับปิกามอนก็ไม่ได้รบกวน ปล่อยให้ราดิชนอนต่อไปจนกระทั่งบ่าย
ราดิชรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาและลุกขึ้นนั่ง เมื่อมองไปรอบๆ ก็เห็นว่าตอนนี้อาธูเรียกับปิกามอนกำลังนั่งกินขนมที่ซื้อตุนไว้
“นี่ฉันหลับไปนานขนาดไหนเนี่ย” ราดิชว่าและดูนาฬิกา “จะบ่ายแล้วเหรอเนี่ย ว่าไงไปกินข้าวกันไหม” ราดิชถามทั้งสองคน
“ข้าว่านายท่านดูของที่ได้มาก่อนเถอะแล้วค่อยว่ากัน” อาธูเรียบอก ราดิชก็เปิดหน้าต่างไอเทมดูว่าปิกามอนเก็บอะไรมาบ้าง ซึ่งมันก็มีอีลิกเซอร์ 8 ขวด โลหะสีเงินที่ชื่อโอริฮารุคอน 2 ก้อน เสื้อเกราะ 1 ตัว ดาบ 1 เล่ม กล่องปริศนาสีทอง 1 กล่อง ตำราทักษะ 1 เล่ม สำหรับกล่องปริศนาสีทองนั้นราดิชว่าจะเก็บไว้เปิดทีหลัง จึงหยิบแร่โอริฮารุคอนมาดูรายละเอียด
-โอริฮารุคอน
(โลหะแห่งพระเจ้าซึ่งมีความแข็งแกร่งและคงทนมาก สามารถนำไปทำไอเทมต่างๆ ได้รวมถึงใช้ในการเล่นแร่แปรธาตุอีกด้วย)
ราดิชเห็นว่ามันคงเอาไว้ทำอาวุธซะมากกว่า เลยลองเปิดกระดานข่าวสารหาข้อมูลของมันดู
“หา ก้อนเดียวราคามากกว่า 50 ล้านโกลด์อีกเหรอ” ราดิชตกใจกับราคาของมันมาก
“ไม่แปลกหรอกนายท่าน มันเอาไว้ทำอาวุธหรือเครื่องป้องกันระดับ S เลยมีราคาแพงน่ะ” อาธูเรียไขข้อข้องใจของราดิช
ทางราดิชที่อึ้งไปพักใหญ่ก็ดูข่าวสารอื่นๆ ซึ่งเขาพบแต่ข่าวเรื่องลิเวียธานเข้าโจมตีเรือโดยสาร และมีนักดาบสองคน ชายหนึ่งหญิงหนึ่งเข้าไปสู้ และจัดการมันได้อย่างง่ายดาย ทำให้เกิดความสงสัยขึ้นว่านักดาบหญิงนั้นที่จัดการลิเวียธานเป็นใคร เพราะลิเวียธานจัดเป็น 1 ใน 6 มังกรผู้พิทักษ์ที่มีความแข็งแกร่งสูงมาก และยังเป็นบอสที่แข็งแกร่งติด 1 ใน 10 ของเกมนี้ด้วย ราดิชจึงเริ่มหวั่นใจถึงความเป็นส่วนตัวทันที
จากนั้นเขาก็เปิดดูหน้าต่างข้อมูลที่ปิดเสียงเอาไว้ว่ามีอะไรเพิ่มขึ้นบ้าง
-ท่านสังหารสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิ จ้าวมังกรสมุทรลิเวียธาน ระดับ 90 ได้ค่าประสบการณ์ 9,000,000
-ระดับของท่านเพิ่มเป็น 38
-ได้รับเงินทั้งหมด 9,000,000 G
“ตัวเดียวขึ้นมา 8 ระดับเลยเหรอเนี่ย” ราดิชกล่าวอย่างตกใจ จากนั้นเขาก็หยิบชุดเกราะที่ได้มาดู มันเป็นชุดเกราะเต็มตัวแบบเกราะเหล็กน้ำเงินที่เขาใส่ แต่มันมีสีฟ้าน้ำทะเล และลวดลายมังกรเล่นคลื่นปรากฏอยู่รอบตัว ที่หน้าอกประดับด้วยอควอมารีนสีฟ้ารูปวงกลมเม็ดใหญ่ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน
-เกราะเทพสมุทร (S) (ยังไม่ได้ทำสัญญา)
พลังป้องกัน 500 พลังป้องกันเวท 500
(-เพิ่มพลังป้องกันธาตุน้ำ 50 %
-เพิ่มอัตราการฟื้นฟูพลังชีวิตและพลังมานา 50 %
-สามารถหายใจใต้น้ำและเคลื่อนไหวในน้ำได้ปกติ
-เมื่อได้รับความเสียหายถึงแก่ชีวิตจะป้องกันการตายไว้ได้ 1 ครั้งต่อ 1 วันโดยที่ระดับไม่ลด ระยะเวลาใช้ใหม่ 24 ชั่วโมง)
ราดิชเห็นความสามารถของเกราะแล้วก็อดดีใจไม่ได้ เกราะตัวนี้ก็ถือว่ามีพลังป้องกันที่เยอะมาก และมีคุณสมบัติที่ดีสุดๆ เขาจึงรีบทำสัญญากับมันทันที หลังจากที่ระบบประกาศว่าเขาทำสัญญาเรียบร้อย เขาก็สวมใส่มันแทนเกราะเหล็กน้ำเงิน แล้วเก็บเกราะเหล็กน้ำเงินเข้าหน้าต่างไอเทมไป
จากนั้นเขาก็หยิบดาบอีกเล่มขึ้นมาดู เขาพบว่าที่ฝักดาบมันเป็นสีเงิน มีลวดลายมังกรประดับอยู่ ด้ามดาบสีฟ้า กั่นดาบแบบดาบทั่วไปแต่มีอควอมารีนประดับอยู่ เขาจึงลองดึงดาบออกจากฝัก พบว่ามันเป็นดาบที่มีคมสองด้าน ใบดาบเรียวยาวด้านคมมีสีฟ้า ยาวประมาณ 80 เซนติเมตร มันแผ่พลังออกมา รู้สึกได้ถึงความชื้นนิดหน่อย เขาดูคุณสมบัติของดาบ
-ดาบเนมอส (S) (ยังไม่ได้ทำสัญญา)
พลังโจมตี 450 พลังโจมตีเวท 450
(สามารถตวัดดาบสร้างคลื่นน้ำแรงดันสูงใช้โจมตีเป้าหมายได้ ความเสียหายเท่ากับ 500 % ของพลังโจมตีเวท ใช้มานาครั้งละ 200 จุด)
(-ปราการวารี สามารถสร้างกำแพงน้ำมาใช้ป้องกันการโจมตีหรือใช้กักขังเป้าหมายได้ใช้พลังมานาในการเรียก 500 จุด และใช้พลังมานา 10 จุดทุกวินาทีในการคงสภาพ กำแพงนี้จะหายไปเมื่อทนรับการโจมตีไม่ไหวหรือพลังมานาที่ใช้คงสภาพหมด)
ราดิชที่ได้เห็นคุณสมบัติของดาบก็คิดว่าจะเอามันมาใช้งานจึงจัดการลงมือทำสัญญาในทันที หลังจากทำสัญญาเสร็จก็จัดการตั้งมันเป็นอาวุธรองอีกเล่มหนึ่ง แล้วนำไปห้อยไว้ที่เอวด้านขวา ทำให้ตอนนี้เขาพกดาบถึงสามเล่มด้วยกัน และเขาก็หยิบเอาตำราทักษะขึ้นมาดูเป็นอย่างสุดท้าย
-ตำราทักษะลมหายใจมหาสมุทร
(ใช้เรียนทักษะลมหายใจมหาสมุทรได้)
‘ทักษะอะไรหว่า’ ราดิชคิดในใจ ก่อนจะตัดสินใจเปิดอ่านตำราเล่มนั้น พร้อมกับมีเสียงแจ้งจากระบบว่า
-ท่านได้รับทักษะลมหายใจมหาสมุทร
-ทักษะลมหายใจมหาสมุทร
(สามารถหายใจในน้ำได้เหมือนอยู่บนพื้นดิน และสามารถเคลื่อนไหวในน้ำได้เร็วเหมือนอยู่บนบก เพิ่มพลังป้องกันธาตุน้ำมากขึ้น 10 % สามารถใช้เวทมนตร์ธาตุน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพและรุนแรงขึ้น 20 %)
“ดันไปซ้ำกับความสามารถของชุดเกราะนี่สิ แต่ว่าเรียนไว้ก็ไม่เสียหายอะไร อย่างน้อยก็ทำให้พลังป้องกันและโจมตีด้วยธาตุน้ำเพิ่มมากขึ้นอีกหน่อยก็ยังดี” ราดิชบ่นเล็กน้อย เขาปิดหน้าต่างทักษะลงและหันไปถามสองคนนั้นว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป
“เอาไงดี ออกไปกินข้าวกันไหม ฉันหิวแล้วล่ะ” ราดิชเอ่ยถามสองคนที่ตอนนี้จ้องเขาอยู่
อาธูเรียจ้องหน้าเขาและกล่าวเสียงเข้ม “แน่นอนนายท่าน รีบไปกันเถอะ ข้าหิวจะแย่แล้วนะ” และเริ่มหักนิวกร๊อบแกร๊บ
“ใช่แล้วเจ้านาย รีบไปหาอะไรกินกันเถอะ” ปิกามอนว่าและพุ่งมาหาราดิช เขากลัวจะโดนอาธูเรียซ้อม จึงได้แต่พากันออกจากห้องเพื่อไปศูนย์อาหาร ก่อนที่จะเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ขึ้นโดยทันที
