บท
ตั้งค่า

บทที่ 20 โด่งดังในหนึ่งวัน

ราดิชจ้องมองกล่องสีทองนานหลายนาที ตอนนี้เขาตั้งจิตอธิษฐาน โดยหวังว่าค่าโชคที่มีจะช่วยเขาได้ จากนั้นเขาก็เปิดมันออกอย่างแผ่วเบา พร้อมกับมีแสงสว่างวาบออกมา และมีหนังสือเล่มหนึ่งตกลงมากตรงหน้าเขา

-ท่านได้รับหนังสือศาสตร์แห่งการแปรธาตุ ระดับ S 1 เล่ม

มันเป็นหนังสือที่ดูหนามาก มีสีทองอร่ามไปทั้งเล่ม ตัวอักษรโบราณเขียนอยู่ที่หน้าปกและมีอัญมณีประดับอยู่ ส่วนสายรัดดูเหมือนจะทำมาเพื่อไม่ให้หน้าหนังสือกางออก บนสายรัดประดับด้วยพลอยหลากสี ราดิชจึงลองดูรายละเอียดของมัน

-หนังสือศาสตร์แห่งการแปรธาตุ (S) (ยังไม่ได้ทำสัญญา)

พลังโจมตี 300 พลังโจมตีเวท 400

(ใช้ในการแปรธาตุสิ่งต่างๆ ให้เป็นอาวุธ ชุดเกราะ หรือใช้ในการโจมตี

-เพิ่มโอกาสในการสร้าง 50 %

-ลดระยะเวลาในการร่ายเวท 50%)

ราดิชที่ดูข้อมูลของหนังสือแล้วก็คิดว่า ‘หนังสือนี่เราคงไม่ได้ใช้แน่ๆ แต่คิดว่าน่าจะมีคนสนใจอยู่บ้างนะ คงต้องลองหาดูเสียหน่อยแล้ว’ จึงลองเปิดกระดานข่าวสารดู และพบว่ามีคนสนใจหนังสือเล่มนี้อยู่จริงๆ เขาจึงลองติดต่อคนคนนั้นตามชื่อที่ทิ้งไว้ในกระดานข่าวสาร ซึ่งระบบสื่อสารของเกมนี้นั้น ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้เพิ่มชื่อเป็นเพื่อนกับเราไว้ จะมีแต่สัญญาณเสียงเท่านั้น แต่ถ้าเพิ่มชื่อเป็นเพื่อนไว้จะเห็นหน้าของอีกฝ่ายได้ด้วย

“สวัสดีครับคุณซากุระ” ราดิชติดต่อไปหาคนที่ต้องการหนังสือเล่มนั้นอยู่

“ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าใครคะ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งตอบกลับมา

“พอดีผมอ่านเจอข้อความที่คุณเขียนไว้ว่าต้องการหนังสือศาสตร์แห่งการแปรธาตุนะครับ” ราดิชบอกเธอ

“ใช่ค่ะฉันฝากข้อความไว้ หรือว่าคุณมีคะ” ซากุระถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ใช่ครับ ผมเพิ่งเปิดกล่องสีทองได้เมื่อกี้เอง” ราดิชบอกไปตามตรง

“เดี๋ยวฉันส่งคำขอเป็นเพื่อนกับคุณไปนะคะ จะได้เห็นหน้ากันได้” ซากุระว่า และก็มีคำขอเป็นเพื่อนส่งมาให้ราดิช เขาก็กดตกลง ทันใดนั้นสัญญาณการติดต่อก็หายไป แต่กลายเป็นช่องเพื่อนแทน และภาพที่ปรากฏให้ราดิชเห็นนั้น ซากุระเป็นผู้หญิงผิวขาว ผมสีน้ำตาลยาว รูปร่างไม่สูงนัก กำลังอยู่ในห้องห้องหนึ่งที่ราดิชเดาว่าเป็นห้องทดลองอะไรซักอย่างแน่ๆ

“สวัสดีค่ะคุณราดิช ไม่ทราบว่าจะให้ฉันดูหนังสือได้ไหมค่ะ จะดูว่าใช่หรือเปล่าน่ะ” ซากุระเอ่ยขึ้นก่อน ทางราดิชก็หยิบหนังสือมาให้เธอดูใกล้ๆ หน้าจอ

“ของจริงด้วย ไม่ทราบว่าจะขายให้ฉันได้ไหมคะ” ซากุระที่ตอนนี้จ้องจนแทบจะติดกับหน้าจอถามขึ้น

“เห็นคุณบอกว่าเอาไปแลกกับดาบระดับ S ได้ใช่ไหมครับ พอดีผมเป็นนักดาบเลยอยากได้ดาบมากกว่าน่ะครับ” ราดิชบอก

“คุณราดิชเป็นนักดาบเหรอคะ ถ้าอย่างนั้นก็อยากได้ดาบอารอนไดท์เล่มนี้สินะคะ” ซากุระบอกและหันไปหยิบดาบเล่มหนึ่งมาให้ราดิชดู

“ดาบเล่มนั้นแหละครับ ว่าแต่คุณซากุระเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุหรือครับ” ราดิชถามขึ้น

“ใช่แล้วค่ะ ถ้าคุณอยากจะแลกกันก็ตกลงนะคะ” เธอตอบคำถามของราดิช

“แน่นอนครับด้วยความยินดีเลย ว่าแต่จะเจอกันยังไงครับ คือตอนนี้ผมอยู่บนเรือที่เดินทางจากเกาะเริ่มต้นไปทวีปใหญ่อยู่นะครับ” ราดิชรีบตอบ และเริ่มคำนวณว่าจะไปเจอเธอยังไง

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกันค่ะ เดี๋ยวเราไปเจอกันที่เมืองฮาร์เบอร์ก็ได้ค่ะ มันเป็นเมืองที่เรือที่เดินทางจากเกาะเริ่มต้นทุกเกาะต้องไปจอดน่ะค่ะ เลยเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของทวีปใหญ่ด้วย” ซากุระว่า

“เอาตามนี้ก็ได้ครับ ผมคงไปถึงในอีกสองวัน แล้วเดี๋ยวยังไงเราติดต่อกันอีกทีล่ะกันนะครับ” ราดิชตกลงตามที่ซากุระบอก

“โอเคค่ะ เดี๋ยวคุณราดิชมาถึงแล้วค่อยว่ากันอีกนะคะ” ซากุระตอบรับ จากนั้นพวกเขาก็คุยกันอีกนิดหน่อยเรื่องดาบแล้วก็วางสายไป ราดิชที่ตกลงเรื่องการแลกเปลี่ยนเสร็จก็กล่าวขึ้น

“แล้วนี่จะทำอะไรต่อไปดีกันล่ะ” ราดิชถามทุกคนเพื่อขอความเห็น

“ออกไปเดินเที่ยวกันต่อดีไหมเจ้านาย” ปิกามอนว่า

“ข้าก็ว่าอย่างนั้นนะนายท่าน ออกไปเดินเล่นกันต่อดีกว่า” อาธูเรียเห็นด้วยกับปิกามอน

“เอาตามนั้นก็แล้วกัน” ราดิชเก็บหนังสือเข้าหน้าต่างไอเทม แล้วจึงออกจากห้องไป

พวกเขามุ่งหน้าไปที่ศูนย์อาหารของเรือที่ตอนนี้มีผู้เล่นหลายคนกำลังใช้บริการอยู่ ราดิชเดินไปซื้ออาหารชุดใหญ่ แล้วนำไปที่โต๊ะที่พวกเขาจองอยู่

“มีอะไรน่ากินมั่งเจ้านาย” ปิกามอนที่ตอนนี้จ้องไปที่อาหารทุกอย่างถามขึ้นมา ราดิชยิ้มให้กับท่าทางของมันก่อนจะกล่าวว่า “เอาน่า ฉันว่าแกกินได้ทุกอย่างแหละ ยังจะถามอีกเหรอนั่น” และวางอาหารลงบนโต๊ะ

“อันนี้น่าอร่อยนะนายท่าน” อาธูเรียว่าและฉกอาหารที่ราดิชยกมาไปจานหนึ่งทันที ราดิชก็ไม่ได้ว่าอะไร พวกเขาก็นั่งกินอาหารกลางวันกันต่อไป แล้วเสียงประกาศก็ดังขึ้น

“สวัสดีครับ ผมจอห์น กัปตันเรือลำนี้ ขอแจ้งทุกท่านว่าเรือจะออกเดินทางใน 30 นาทีนี้ ถ้าผู้โดยสารคนใดที่มีเพื่อนยังไม่ได้ขึ้นเรือ กรุณารีบตามโดยด่วน เพราะถ้าพลาดเที่ยวนี้ต้องรออีกหลายวันเลยนะครับ” เป็นเสียงประกาศจากกัปตันเรือนั่นเอง

“อีกครึ่งชั่วโมงก็ได้เวลาเดินทางไปทวีปอเมเนียนแล้ว” ราดิชเปรยขึ้นมาเบาๆ ขณะนั้นเองก็มีคนคนหนึ่งเข้ามาทักทายเขา

“สวัสดีน้องราดิช” เป็นเกิดมารวยกับเกิดมาจนนั่นเอง

“สวัสดีครับพี่เกิดมารวย พี่เกิดมาจน” ราดิชทักทายตอบ ดูเหมือนกลุ่มของพวกเขาจะนั่งรวมกันอยู่ไม่ไกล

“นี่น้องราดิชไปถึงทวีปใหญ่แล้วจะทำอะไรต่อหรือ” เกิดมาจนถามเปิดประเด็น

“ก็คงต้องเพิ่มระดับก่อนน่ะครับ” ราดิชตอบ

“แล้วไปกันแค่นี้นะหรือ” เกิดมารวยที่ถามขึ้นมาบ้าง

“ใช่ครับ ผมชอบไปคนเดียวมากกว่าน่ะครับ” ราดิชตอบ พร้อมแย่งของกินกับปิกามอนต่อ

“ถ้าอย่างนั้นมีอะไรให้ช่วยก็บอกพี่ได้นะ ยังไงพี่ขอตัวก่อนล่ะ” เกิดมารวยรีบพูด แล้วทั้งสองก็บอกลาราดิช กลับไปนั่งที่โต๊ะของกลุ่มตัวเอง

“นายท่านนี่เนื้อหอมจริงๆ เลย ข้าว่าพวกนั้นคิดจะมาชวนท่านไปเป็นพวกใช่ไหมล่ะ” อาธูเรียแกล้งแซว ตอนนี้เธอกำลังตักอาหารอย่างมีมารยาทเหมือนกับพวกคุณหนูสูงศักดิ์มากๆ

“ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ แต่ความจริงฉันอยากผจญภัยโดยไม่ต้องกังวลอะไรมากกว่านะ” ราดิชตอบด้วยท่าทางสบายๆ

อาธูเรียว่าและพยักหน้าไปอีกทาง “แต่ข้าว่านายท่านคงไม่สบายอีกนานเลยล่ะ ดูนั่นมาอีกชุดแล้ว” ราดิชมองตามก็พบว่ามีกลุ่มคนอีกกลุ่มที่เขาไม่คุ้นหน้ากำลังตรงมาทางนี้ และมีคนหนึ่งเข้ามาหาราดิช

“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณคือราดิชใช่ไหมครับ” ชายคนหนึ่งในกลุ่มถามขึ้น ดูเหมือนเขาจะเป็นหัวหน้าของคนกลุ่มนี้

“ใช่ครับ ผมเองแหละชื่อราดิช ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือเปล่า” ราดิชตอบอีกฝ่ายไป แต่ก็เตรียมพร้อมอยู่เสมอ เพราะเขาไม่รู้จักคนที่มาคุยด้วยในครั้งนี้

“พอดีผมอยากมาชวนคุณเข้ากลุ่มของผมน่ะครับ” ชายคนนั้นบอกจุดประสงค์

“กลุ่มของคุณ? หมายถึงปาร์ตี้เหรอครับ หรือว่ากิลด์” ราดิชถามกลับ

“ก็ทั้งสองอย่างน่ะครับ ว่ายังไงสนใจหรือเปล่าครับ” ชายคนนั้นยิ้มให้

“ตอนนี้ยังก่อนดีกว่าครับ ผมอยากผจญภัยไปเรื่อยๆ ก่อนน่ะครับ” ราดิชปฏิเสธแบบสุภาพไป

“อย่างนั้นหรือครับ ต้องขอโทษด้วยที่รบกวนเวลา หวังว่าเราจะได้เจอกันใหม่นะครับ สวัสดีครับ” ชายคนนั้นกล่าวขอโทษและกลับไป

“ตกลงมันเรื่องอะไรกันหว่า ใครๆ ถึงได้มายุ่งกันฉันกันนักเนี่ย” ราดิชบ่นอุบ และถอนหายใจอย่างสุดเซ็ง

“ข้าว่าพวกนั้นคงเห็นนายท่านตอนสู้กับโกเล็มดินแน่เลย อย่าลืมว่าแถวนั้นมีคนอยู่เยอะ พวกนั้นอาจเห็นนายท่านเก่งเลยมาชวนก็ได้” อาธูเรียวิเคราะห์

“ตอนนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรนี่ แค่ใช้ดาบจู่โจมเองนะ” ราดิชบ่นเล็กน้อย

“แต่พวกนั้นคงไม่รู้นะสิว่าดาบของนายท่านโจมตีทะลุพลังป้องกัน เลยคิดว่านายท่านเก่งมาก เลยฆ่าโกเล็มดินได้สบายๆ” อาธูเรียบอกตามที่เธอคิด

“สงสัยจะเป็นอย่างที่เธอว่าจริงๆ นั่นแหละ” ราดิชรับคำ แล้วก็ไม่มีใครพูดอะไรกันอีกเลย

หลังจากกินเสร็จเรือก็เริ่มออกเดินทางพอดี พวกเขาไปที่จุดชมวิวของเรือเพื่อชื่นชมทิวทัศน์กันอยู่นาน ราดิชก็ชวนทุกคนไปที่ศูนย์การค้าของเรือที่ขายพวกเครื่องประดับ เสื้อผ้า ของต่างๆ พวกราดิชเดินดูของที่ขายหลายๆ อย่าง ซึ่งก็ราดิชซื้อมาแต่เรดโพชั่นกับบลูโพชั่นขวดกลางที่เพิ่มพลังได้อย่างละ 300 หลายร้อยขวดเลยทีเดียว เพราะคิดว่าเตรียมพร้อมไว้ก่อนเป็นการดีที่สุด

พวกเขาเดินเที่ยวชมเรือกันอย่างสนุกสนาน อาธูเรียก็เสนอให้เขาไปที่ศูนย์อาหารอีกครั้ง ราดิชเองก็ไม่ได้ขัดอะไร คราวนี้ราดิชต้องซื้อพวกขนมกับของหวานมาเลี้ยงเจ้าพวกนี้อีกจนได้ เขาเห็นว่ามีขนมหลายอย่างดูท่าทางน่าอร่อยก็เลยซื้อมาทั้งหมด ถึงยังไงก็ไม่ต้องกลัวว่าจะกินไม่หมดเพราะมีตัวย่อยชั้นดีถึงสองตัวอยู่แล้ว

“อร่อยมากเลยนะเนี่ย” ปิกามอนที่ตอนนี้กำลังกินพุดดิ้งช๊อคโกแลตว่าขึ้น

“ใช่นายท่าน อร่อยมากๆ เลย คราวหลังซื้อไว้เยอะๆ นะ ไม่ก็ไปเรียนทำขนมมาซะ” อาธูเรียที่กำลังเลียครีมประดับหน้าเค้กกล้วยหอมอยู่พูดสนับสนุน

“ครับผมเจ้านาย ตอนนี้ซื้อไปก่อนละกัน เดี๋ยวมีเวลาจะไปเรียนให้ละกันนะขอรับกระผม” ราดิชประชดทั้งคู่ แต่ขณะที่พวกราดิชกำลังกินของว่างกันอยู่นั้น ก็มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งก้าวเข้ามาที่ศูนย์อาหารแห่งนี้

“เฮ้ย!! แก!!!!”

มันส่งเสียงออกมาพร้อมหยุดเดินกันทั้งกลุ่มทันทีที่เห็นราดิช ราดิชที่ได้ยินเสียงก็หันไปมอง ส่วนอาธูเรียและปิกามอนก็แค่มองพวกมันแวบหนึ่งแล้วก็กินกันต่อ ไม่ได้สนใจพวกมันอีก

ราดิชปรายตามองพวกมันและว่าขึ้น “อ้อ พวกคุณที่ทิ้งศักดิ์ศรีไปแล้วนี่เอง” กลุ่มคนเหล่านี้คือคนที่เจอที่สุสานผีดิบนั่นเอง

“แกคิดว่าแกเก่งนักหรือไง ฉันบอกแล้วจะตามฆ่าแกถึงที่สุด ไม่นึกเลยจะมาเจอที่นี่” มันว่าและเตรียมตัวหาเรื่องราดิช

“จะตามฆ่าผมเหรอ ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นพวกคุณห้าคนได้อาชีพ แถมระดับก็ตั้งเยอะนี่ โดนผมที่ยังไม่ได้อาชีพคนเดียวฆ่าตายหมดนี่มันหมายความว่ายังไงล่ะ แถมพวกคุณฟันผมไม่โดนซักแผลด้วย” ราดิชจงใจพูดเสียงดังเพื่อให้ทุกคนได้ยินกันหมด และก็ได้ผล คนที่อยู่ในศูนย์อาหารแห่งนี้เริ่มหันไปซุบซิบกันทันที

“ดูซิหน้าด้านจริงๆ ห้ารุมหนึ่งสู้เขาไม่ได้แล้วยังจะตามมาหาเรื่อง” ผู้เล่นเอว่า

“นั่นสิ น่าไม่อาย ระดับก็เยอะกว่าแถมไปตั้งหลายคน แพ้คนไม่มีอาชีพแค่คนเดียว” ผู้เล่นบีผสมโรง

“ตั้งห้าคนไปหาเรื่องคนคนเดียวนี่เขาเรียกอะไรนะ หมาหมู่ใช่มะ แถมสู้เขาไม่ได้อีก” ผู้เล่นซีว่า และอีกๆ หลายเสียงที่เริ่มพูดคุยกัน

“ไม่สนใจแล้ว วันนี้แกตาย” หัวหน้ากลุ่มว่าพร้อมเรียกดาบออกมา ทุกคนในกลุ่มก็ชักดาบเตรียมสู้กับราดิช ทางราดิชก็ลุกขึ้นประจันหน้ากับมัน และชักดาบโฟเทียออกมาตั้งท่าทันที

“แน่จริงแกอย่าใช้ดาบเล่มนั้นสิวะ” ชายหัวหน้ากลุ่มว่า

“ตายแล้ว สู้เขาไม่ได้ยังไปบอกไม่ให้เขาใช้ดาบอีก เลวจริงๆ เลยนะเธอ” ผู้เล่นคนหนึ่งว่าและเริ่มมีเสียงนินทาดังขึ้นอีก

“ไม่ให้ใช้ดาบเล่มนี้ นี่คุณจะให้ผมเอามือเปล่าไปสู้กับดาบห้าเล่มเหรอ ไม่เอาเปรียบกันเลยนะครับ” ราดิชพูดประชดประชันอย่างสุภาพ ทำให้พวกมันถึงกับหน้าชาเลยทีเดียว

“ไม่รู้แหละ ดาบแกมันโกงนี่ พวกข้าจะสู้ได้ไง” ชายหัวหน้ากลุ่มชี้หน้าว่าราดิช

“ไม่ใช้เล่มนี้ก็ได้ เอาเล่มนี้ละกัน” ราดิชก็บ้าจี้ไปกับพวกมันด้วย เขาเก็บดาบโฟเทียเข้าฝัก แล้วชักเอาดาบจู่โจมออกมาแทน

“เข้ามาเลยครับ จะได้จัดการทีเดียวหมดเลย เสียเวลากินขนมของผมหมด” ราดิชบอก และใส่พลังมานาลงดาบ แล้วผนึกพลังซ้อนเข้าไปอีกที

“เฮ้ย!! พวกเราลุย” ชายหัวหน้ากลุ่มสั่ง

พวกมันพุ่งเข้าล้อมราดิชไว้ แต่เขาไม่ได้กลัวเกรงพวกมันเลยซักนิด ตอนนี้เขาสงบมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ทันใดนั้นจิตสังหารมหาศาลก็ถูกปลดปล่อยออกมาใส่พวกมันห้าคนทันที

ชายหัวหน้ากลุ่มคิดในใจอย่างตื่นตระหนก ‘บ้าแล้ว น่ากลัวกว่าตอนนั้นอีก’ แต่แค่พวกมันผงะราดิชก็พุ่งเขาหาพวกมันที่อยู่ใกล้สุดแล้ว พร้อมกับตวัดดาบฟันขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้เล่นคนนั้นเพิ่งจะได้สติแต่ก็สายไปแล้ว

ดาบของราดิชตวัดเข้าคอหอยของมันจนเลือดสาดกระจาย ล้มลงกลายเป็นแสงทันที เขาพุ่งต่อหาคนที่สองทั้นที ตอนนี้มันฟันใส่เขา แต่เขาก็ตวัดดาบกันไว้ได้อย่างไม่อยากเย็นนัก ราดิชพลิกดาบฟันขวางเข้าที่ท้องมันด้วยความรวดเร็ว จนมันต้องรีบถอยออกไป ราดิชใช้แรงฟันหมุนตัวไปรับดาบของอีกสองคนที่ฟันใส่เขาทางด้านหลังพร้อมกัน

ดาบทั้งสองเล่มถูกรับไว้ได้ ราดิชถีบใส่คนขวาจนปลิวไป และตวัดดาบฟันใส่คนซ้ายด้วยความเร็วที่เกินกว่ามันจะหลบ ดาบของราดิชฟันเข้าที่ซอกคอของมัน แหวกร่างมันออกเป็นสองซีกกลายเป็นแสงไปอีกคน พอดีกับที่หัวหน้ากลุ่มและผู้เล่นอีกคนพุ่งเข้ามาหาราดิช เขาก้าวไปหาพวกมันและฟาดดาบลงไปสุดแรง ระเบิดพลังออกมาด้วยทักษะเอ็กซ์โพลชั่นเบรก

เปลวเพลิงระเบิดออกมาอย่างรุนแรง ทำให้มันสองคนที่พุ่งเข้ามาเป็นอันต้องกระเด็นไป ราดิชพุ่งตามไปติดๆ และตวัดดาบฟันเข้าที่คอของเจ้าคนที่อยู่ใกล้ที่สุด จากนั้นเขาก็ดีดตัวตามหัวหน้ากลุ่มไป ซึ่งตอนนี้ผู้เล่นที่โดนฟันท้องก็ถอยไปอยู่กับลูกพี่ของมันเหมือนกัน

“เอาไงดีหัวหน้า” เจ้าคนโดนฟันท้องถาม

“ก็รุมมันซิวะถามได้” หัวหน้าตอบและรับดาบที่ราดิชฟันลงมา มันกันไว้ได้แต่ก็ต้องถอยไปสองก้าว เขาเปลี่ยนทางดาบและตวัดฟันใส่หัวหน้ามันที่ไหล่เป็นแผลเหวอะ เจ้าคนโดนฟันท้องเห็นหัวหน้าถอยออกมาก็พุ่งเข้าหาราดิชพร้อมตวัดดาบใส่

ราดิชเบี่ยงตัวหลบพ้นวิถีดาบของมัน และฟันใส่มันจนกลายเป็นแสงหายไปอีกคน ตอนนี้เหลือเพียงหัวหน้ากลุ่มที่ตอนนี้ยืนกุมแผลอยู่ มีแสงของน้ำยาฟื้นพลังกะพริบอยู่เรื่อยๆ บ่งบอกถึงสถานะเลือดไหลไม่หยุดนั่นเอง ราดิชย่างสามขุมเข้าหามัน

“เหลือคุณคนเดียวแล้วนะคุณหัวหน้า จะเอายังไงล่ะ” ราดิชถามมัน และเดินเข้าไปใกล้มันที่ตอนนี้ทำใด้แต่เพียงถอยหลังหนีไปเรื่อยๆ

“คอยดู ฉันจะฟ้องลูกพี่ฉันอีกที ให้มาจัดการแก” ชายหัวหน้ากลุ่มกล่าวอาฆาต

“เชิญไปฟ้องเลยครับ แต่ยังไงพวกคุณก็เป็นคนผิดนะครับ อย่าลืมล่ะ” ราดิชไม่เสียเวลา เขาพุ่งเข้าหามัน พร้อมฟาดฟันดาบออกไปอย่างรุนแรง ดาบของราดิชดาบนี้รวดเร็วยิ่งนัก เจ้าหัวหน้ากลุ่มพยายามเอาดาบกันแต่ก็กันไม่อยู่ ดาบของมันหักสะบั้นพร้อมกับที่ตัวของมันที่กลายเป็นแสงหายไปในที่สุด

“เบื่อจริงๆ พวกชอบหาเรื่องชาวบ้านก่อนเนี่ย” ราดิชบ่นอุบแล้วกลับโต๊ะไปกินขนมต่อ

“ใครน่ะ โหดชะมัดเลยว่ะ แต่ละดาบนี่สุดๆ ตัดหัวอย่างเดียวเลย” ผู้เล่นเอว่า

“ชื่อราดิช ระดับ 30” ผู้เล่นบีว่า

“แต่ทำไมผู้หญิงที่มากับเจ้านั่นถึงไม่คิดจะไปช่วยเลย หรือว่ามั่นใจในฝีมือ” ผู้เล่นซีเอ่ยขึ้น ซึ่งก็มีหลายคนเริ่มซุบซิบเรื่องของเขา

“พัฒนาขึ้นนิดหน่อยนะนายท่าน แทบไม่ใช้ทักษะเลย” อาธูเรียเอ่ยชมเขา

“ไม่รู้สิ ชั้นคิดว่าขืนมัวแต่ใช้ทักษะก็ไม่ทันกินกันพอดี อีกอย่างดาบมันก็ตีแรงอยู่แล้ว” ราดิชตอบอย่างอารมณ์ดี และหัวเราะอย่างครึ้มอกครึ้มใจ

ตอนนี้โต๊ะของราดิชกลายเป็นเป้าสายตาของทุกคู่ในศูนย์อาหารไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อกี้เขาจัดการผู้เล่น 5 คนได้อย่างไม่ยากเย็นนัก พวกผู้เล่นเลยสนใจว่าเขาเป็นใครและจะไปทำอะไร

“อาธูเรีย ปิกามอน กินเสร็จแล้วจะไปไหนต่อกันดี” ราดิชถามและดูเวลา พบว่าตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามโมงแล้ว

“ไปสนามประลองไหมนายท่าน แก้เมื่อยกันหน่อย” อาธูเรียเสนอ

“ก็น่าจะดีนะ เห็นว่าถ้าชนะได้เงินด้วยนี่” ราดิชเห็นด้วย และนึกถึงสนามประลองของที่นี่ที่เอาไว้ให้ผู้เล่นประลองและพนันกันได้ แถมยังได้ฝึกฝีมือไปในตัว

พวกเขาที่กินเสร็จก็พากันออกจากศูนย์อาหารไปยังสนามประลองกัน พวกผู้เล่นบางคนก็ลุกตามไป เพราะอยากรู้ว่าราดิชจะไปไหน ทำให้ตอนนี้มีผู้เล่นกลุ่มใหญ่เดินตามพวกเขาไป

“เจ้านาย มีคนตามมาเพียบเลย” ปิกามอนที่เดินตามหลังราดิชบอกขึ้น

“คนพวกนี้นี่ก็แปลก มีอย่างอื่นก็ไม่ไปทำ มาตามคนอื่นอยู่ได้” อาธูเรียบอกด้วยน้ำเสียงรำคาญ ร่ำๆ จะเข้าไปฆ่าคนพวกนี้อยู่แล้ว เดือดร้อนถึงราดิชต้องดึงไว้

“ใจเย็นน่า พวกเขาอยากตามก็ให้ตามไปเถอะ ตามมาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ” ราดิชต้องออกแรงห้ามอาธูเรียอย่างหนัก และลากเธอไปจนถึงสนามประลองได้ในที่สุด

พอราดิชเข้ามาในสนามประลองก็พบกับเวทีประลองขนาดใหญ่พอสมควร ยกสูงขึ้นมาจากพื้นและมีเสาตั้งอยู่ทั้งสี่มุม ส่วนรอบๆ นั้นเป็นอัฒจันทร์หลายชั้นลดหลั่นกันไป

ที่กลางเวทีประลองในขณะนี้มีคนสองคนต่อสู้กันอยู่ คนหนึ่งใช้ดาบ คนหนึ่งใช้ขวาน ราดิชจึงไปหาที่นั่งที่ว่างอยู่เพื่อชมการต่อสู้ ส่วนคนที่ตามมาก็ทยอยกันหาที่นั่งกัน การต่อสู้บนเวทีนั้นดุเดือดมาก ทั้งสองคนผลัดกันรุกและรับอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งคนใช้ขวานสามารถจัดการคนใช้ดาบจนเป็นแสงหายไป ซึ่งถ้าเข้าประลองแล้วแพ้หรือตายจะเกิดตรงข้างๆ เวที และไม่เสียอะไรทั้งสิ้น

“เราได้ผู้ชนะในรอบนี้แล้วนะครับ ต่อไปใครจะขึ้นมาประลองอีกมั่งครับ” โฆษกประกาศขึ้นและให้คนใช้ขวานลงจากเวทีไปรับรางวัล

“ผมขอลองหน่อยได้ไหมครับ” ราดิชตะโกนขึ้นมา แล้วเดินลงไปที่เวทีท่ามกลางสายตาสนใจของใครหลายๆ คน

“ได้แน่นอนครับคุณพี่ เดี๋ยวรอให้มีคนมาท้าสู้ด้วยก่อนถึงจะวางเดิมพันได้นะครับ” โฆษกรีบกล่าว และหันไปส่งสายตาให้คนรับพนันเริ่มหาอัตราต่อรอง ผ่านไปสักพักก็ยังไม่มีใครขึ้นมาสักคน

“คุณพี่ไปทำอะไรมารึเปล่าครับ ถึงไม่มีคนขึ้นมาสู้เลยสักคนเลย” โฆษกถามราดิช

“แหะๆ พอดีเมื่อกี้เพิ่งเชือดพวกมาหาเรื่องไป 5 ศพ เองครับ” ราดิชตอบ ทำให้โฆษกตะลึงไปเลยทีเดียว

“หรือคุณพี่คือ ‘ราดิชจอมตัดหัว’ ที่เขาลือกันบนเรือ” โฆษกรีบถามขึ้น

“ชื่อราดิชน่ะใช่ครับ แต่จอมตัดหัวนี่ไม่น่าใช่นะครับ” ราดิชแย้ง

“แล้วพวกเราจะเอาไงกันดีล่ะคุณพี่ ไม่มีคนกล้าขึ้นมาซักคน” โฆษกถามราดิช ขณะนั้นก็มีเสียงเรียกขึ้นมาซะก่อน

“ปอดกันจริงๆ เจ้าพวกนี้ มา ข้าเองแล้วกัน” อาธูเรียว่าขึ้นมา และลงไปบนเวทีทั้งชุดโกธิคโลลิต้าแบบนั้นเลย ราดิชที่เห็นแบบนั้นถึงกับสะดุ้งโหยง เริ่มรู้สึกถึงลางหายนะที่กำลังมาเยือน

“ข้าลงประลองได้ไหมคุณโฆษก” อาธูเรียถามขึ้น

“ขอตรวจสอบก่อนนะครับ” โฆษกเริ่มทำการตรวจสอบ แต่ยิ่งตรวจสอบยิ่งหน้าซีด เหงื่อแตกซิกๆ ขึ้นไปใหญ่

‘จักรพรรดิระดับ 95 ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้เนี่ย แต่มีพันธสัญญาด้วยนี่ กับใครหว่า อ้อ คนข้างๆ เรานี่เอง’ โฆษกที่ตอนนี้หน้าบัดเดี๋ยวแดงบัดเดี๋ยวซีดเริ่มเห็นลางไม่ดีมาแต่ไกล

“ตกลงว่าไงล่ะ” อาธูเรียถามซ้ำจนโฆษกสะดุ้ง

“ก็ประลองได้อยู่ครับ คุณสองคนตกลงกันเอาเองนะครับ” โฆษกตั้งสติได้ก็รีบกล่าวและรีบถอยฉากออกมา

อาธูเรียเดินเข้าไปหาราดิช เธอแบมือขอและพูดขึ้นมา “นายท่าน ยืมดาบธรรมดาเล่มหนึ่งสิ” ราดิชจำใจต้องหยิบดาบเหล็กกล้าระดับ C ขึ้นมาให้เล่มหนึ่ง ส่วนเขาใช้ดาบจู่โจม และหันไปพยักหน้าบอกโฆษกว่าพร้อมแล้ว

“เอาล่ะครับ เราได้คู่ต่อสู้แล้ว เชิญชมกันเลยดีกว่านะครับ” โฆษกประกาศ และให้สัญญาณเริ่มการต่อสู้ ราดิชกระชับดาบและผนึกพลังใส่ดาบ จากนั้นค่อยๆ ก้าวเท้าเข้าหาอาธูเรีย อาธูเรียเองก็เตรียมพร้อมเช่นกัน ไวเท่าความคิด ทั้งสองพุ่งเข้าปะทะและแลกดาบกันอย่างดุเดือด

ดาบต่อดาบปะทะกันถี่ยิบ ทำให้คนดูจ้องการต่อสู้ของทั้งสองตาไม่กะพริบ หลังจากฟันใส่กันอยู่นานราดิชก็รู้ว่าปล่อยไว้แบบนี้เขาเสียเปรียบแน่ จึงดีดตัวถอยออกมาและใช้ทักษะมาเจสตีเพื่อเสริมความสามารถให้กับตัวเองก่อน จากนั้นเขาก็พุ่งเข้าหาอาธูเรียด้วยความเร็วสูง เขาตวัดดาบหมายฟันที่รักแร้อาธูเรีย แต่ว่าเธอก็ตวัดดาบกันไว้ และพลิกดาบฟันใส่ราดิช หมายตัดเขาให้ขาดเป็นสองท่อน

ราดิชถอยหลบออกมาได้ทัน และตวัดดาบฟันใส่ช่องว่างที่ลำตัวที่เปิดว่างอยู่ทันที อาธูเรียเอี้ยวตัวหลบไปได้ และกลับตัวฟันใส่ราดิชเหมือนกัน เขาตวัดดาบป้องกันไว้ได้ฉิวเฉียด อาธูเรียอาศัยจังหวะนี้ฟันใส่ราดิชอย่างต่อเนื่อง เขาหลบได้ไม่หมดโดนเข้าที่หน้าอกไปเต็มๆ จนถอยออกมา แต่อาธูเรียก็เร่งความเร็วเข้าประชิด และฟันอีกออกหลายที จนราดิชกลายเป็นแสงไปเกิดที่ข้างเวทีในที่สุด

“เราได้ผู้ชนะในรอบนี้แล้วนะครับ” โฆษกรีบถลาเข้าไปชูมืออาธูเรียและประกาศผล

“ผู้หญิงคนนี้ใครวะ เก่งกว่าเจ้าราดิชอีก” ผู้เล่นเอว่า

“ก็คนที่อยู่กับมันไง สงสัยเป็นแฟนมันนะแหละ” ผู้เล่นบีว่าขึ้น

“อย่างนี้แฟนมันก็โหดสุดๆ เลยน่ะสิ ขนาดเจ้าราดิชที่ว่าเก่งๆ ยังสู้ไม่ได้” ผู้เล่นซีออกความเห็น แล้วพวกผู้เล่นก็เริ่มซุบซิบนินทากัน

อาธูเรียที่ชนะก็เดินลงเวทีไปหาราดิชที่รออยู่ ทั้งสองเดินกลับไปยังนั่งที่ของตัวเอง ที่ตอนนี้เจ้าปิกามอนกำลังถูกสาวๆ รุมอยู่ พอเขามาถึงมันรีบกระโดดใส่เขาทันทีด้วยความกลัว

“เจ้านายไปประลองแป๊บเดียว ข้าก็ถูกจับนู่นจับนี่จนเยินไปหมดเลย” ปิกามอนฟ้องราดิช เขาก็ได้แต่หัวเราะออกมาไม่ได้ว่าอะไร หลังจากนั้นพวกเขาก็นั่งดูอีกหลายต่อหลายคู่สู้กันจนเย็น ก็ไปที่ศูนย์อาหารอีกครั้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel