บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

“เชิญนั่งครับปู่” ทีปต์พยุงปู่ให้ลงนั่งบนโซฟาภายในห้องรับแขก

“ขอบใจ อันที่จริงปู่ก็แค่แวะมาทำธุระอะไรแถวๆ นี้สักหน่อยก็เท่านั้นเอง ไหนๆ ผ่านมาแล้วก็แวะเข้ามาหาเจ้าสักหน่อย” ดีแลนรู้อยู่แล้วว่ามาวันนี้จะได้เจอทีปต์ แต่กลับไม่บอกเหตุผลที่แท้จริงว่าธุระที่ว่านั่นคือเขาได้ข่าวการปรากฏตัวของหมาป่าที่นี่ ก็เลยตั้งใจมาดูให้เห็นกับตา ว่าข่าวนั้นจริงหรือเท็จอย่างไร

“อ้อ...ครับ”

“ทำไมในบ้านเจ้าถึงมีกลิ่นสาบหมาป่า” ทันทีที่ดีแลนก้าวเข้ามาในพื้นที่บ้านของหลานชาย เขาก็ได้กลิ่นสาบนี้ทันที จึงเอ่ยถามให้หายสงสัย

“อ้อ…พอดีหลายวันก่อน ผมเจอหมาป่าบาดเจ็บตัวหนึ่งน่ะครับ” ทีปต์โกหกเรื่องนี้ไม่ได้ นั่นเพราะปู่ของเขานั้นคลุกคลีกับหมาป่ามาทั้งชีวิต และมีเซ้นส์เรื่องหมาป่ามากกว่าใคร

“แล้วตอนนี้หมาป่าตัวนั้นอยู่ที่ไหน” ดีแลนรู้ได้ทันทีว่าหมาป่าตัวนั้นแตกต่าง และนี่คือเหตุผลที่ทำให้เขามายืนที่นี่เช่นกัน แต่ทว่ากลับคลาดกันเสียได้

“ไปแล้วครับ นี่ผมก็รออยู่ ยังไม่เห็นมันกลับมาสักที คิดในแง่ดีว่ามันอาจเจอฝูงของมันแล้วก็เป็นได้”

“ขอให้เป็นแบบนั้น อย่าเจอพวกลัทธินอกรีตเลย” คำพูดของปู่ทำให้ทีปต์คิ้วขมวด เพราะตั้งแต่เล็กจนโต เขามักได้ยินเรื่องเล่าขานของตำนานมนุษย์หมาป่าจากปู่ จากพ่อเสมอๆ และเขาก็เชื่อว่ามันมีจริง ทั้งปู่และพ่อของเขามีพลังงานบางอย่างในตัว ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ปกป้องเหล่ามนุษย์หมาป่า

ปู่เขามีอาคมที่สามารถสะกดการกลายร่างของมนุษย์หมาป่าได้ พ่อของเขาสามารถคุยกับหมาป่าหรือหมาทุกชนิดบนโลกใบนี้ได้

แต่ทว่าความพิเศษนี้กลับไม่ได้ถูกถ่ายทอดไปยังไรเกอร์ ลูกชายอีกคนของปู่ดีแลนหรืออาแท้ๆ ของเขานั่นเอง คงเหมือนเขาที่เป็นหลานและไม่ได้มีพลังใดๆ ติดตัวมาเช่นเดียวกัน

“อย่าบอกนะครับ ว่าที่ปู่แวะมาหาผมก็เพราะเรื่องของอาไรเกอร์กับลัทธินอกรีตอะไรนั่น”

“ใช่…ปู่ได้ข่าวมาว่าแถวๆ บ้านของทีปต์เจอหมาป่าฝูงพิเศษ เพราะคือฝูงสุดท้ายที่มีอยู่บนโลก และไรเกอร์อาของเจ้าก็มาที่นี่เพื่อจัดการหมาป่าพวกนั้น”

“นี่อาไรเกอร์ยังไม่เลิกคิดที่จะทำลายล้างหมาป่าหรือมนุษย์หมาป่าอีกเหรอครับ เมื่อไหร่จะคิดได้ว่า การตายของอาโจแอนมันคืออุบัติเหตุ หมาป่าหรือมนุษย์หมาป่าไม่ได้ฆ่า” สีหน้าของทีปต์ดูเครียดขึ้นมานิดหน่อย เพราะตั้งแต่การตายของอาสะใภ้ ไรเกอร์อาแท้ๆ ของเขาก็มีความคิดฝังใจว่าที่อาโจแอนต้องตาย เพราะถูกมนุษย์หมาป่าฆ่า ทั้งๆ ที่มันไม่มีหลักฐานบ่งชี้สักนิด

ในตอนนี้ ไรเกอร์ก็อัพเลเวลเป็นถึงผู้นำกลุ่มลัทธินอกรีต ที่มีเป้าหมายเดียวคือตามไล่ฆ่ามนุษย์หมาป่าให้หมดไปจากโลก โดยอ้างว่าตนได้รับคำสั่งจากผู้เป็นเจ้า ทั้งๆ ที่ทั้งคน ทั้งหมาป่าหรือมนุษย์หมาป่า ต่างก็ใช้ชีวิตในส่วนของตัวเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย

“อาเจ้าเป็นพวกจำฝังใจ และเพราะเรื่องนั้นทำให้เขากลายมาเป็นผู้นำลัทธินอกรีตคนปัจจุบัน เที่ยวไล่ฆ่ามนุษย์หมาป่าอย่างไม่หยุดหย่อน”

“แบบนี้ใช่ไหม ปู่ถึงยังไม่ยอมพัก ยังตามไปช่วยมนุษย์หมาป่าอยู่ตลอด”

“ปู่ก็ทำได้เท่าที่มีแรง”

“ปู่มาก็ดีเลย ผมมีอะไรจะถาม” ทีปต์นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงเดินไปหยิบสร้อยหินที่เก็บได้ออกมาจากลิ้นชักแล้วยื่นให้ปู่ได้ดู

“นี่ใช่สร้อยหินที่ปู่ลงอาคมไว้ไหมครับ”

“ใช่! ทีปต์ได้มันมาได้ยังไง”

“ก็อย่างที่ปู่บอกว่าเมื่อหลายวันก่อนแถวๆ บ้านผมมีหมาป่าฝูงพิเศษปรากฏตัว สร้อยเส้นนี้ผมเก็บได้ที่หน้าบ้าน คิดสงสัยอยู่ว่าต้องเป็นสร้อยที่ปู่ลงอาคมไว้ ซึ่งก็ใช่จริงๆ”

“นี่เป็นสร้อยหินของครอบครัวเอซไม่ผิดแน่ มนุษย์หมาป่าครอบครัวสุดท้ายที่มีอยู่บนโลก” ดีแลนมองสร้อยหินในมือ สร้อยหินเส้นนี้ต้องติดตัวทุกคนในครอบครัวเอซ เพื่อผนึกพลังไม่ให้กลายร่างเป็นหมาป่าจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม

นั่นเพราะหากยังไม่ถึงเวลา มนุษย์หมาป่าก็จะไม่อาจควบคุมพลังที่มีของตัวเองได้ พลังที่ว่านั่นคือการกลายร่าง เพราะหากเติบใหญ่พอ จิตใจแข็งแกร่งพอ การกลายร่างเป็นมนุษย์หรือหมาป่าก็ง่ายดั่งใจคิด แม้จิตใจจะแข็งแกร่งแต่เอซและลูน่าก็ยังคงสวมสร้อยหินนี้ติดตัวตลอดเวลา เพื่อเตือนตัวเองว่าพวกเขานั้นแตกต่างจากคนอื่นๆ

“จริงเหรอครับปู่!”

“อืมม์…ครอบครัวเอซ ถูกต้องสงสัยว่าเป็นมนุษย์หมาป่าโดยอาของเจ้า และเมื่อรู้แน่ชัด ไรเกอร์ก็เริ่มทำลายล้างชีวิตเรียบง่ายของครอบครัวนี้ ร้ายแรงถึงขั้นไล่ฆ่าอย่างไม่รามือ ปู่ถึงต้องมาที่นี่เพื่อตามหาไรเกอร์ แต่ทว่ากลับยากที่จะรู้ที่ซ่อนตัว”

“ปู่” แค่คิดตาม ทีปต์ก็ชักจะเครียดจนปวดหัวตุ้บๆ หวนให้คิดถึงเจ้าหมาป่าตัวน้อยตัวนั้นเหลือเกิน

“ถ้าสร้อยหินเส้นนี้หลุดออกมาจากตัวเจ้าของที่ยังไม่สามารถควบคุมพลังของตัวเองได้ละก็ ไม่แน่ว่าตอนนี้มนุษย์หมาป่าตนนั้นก็ยังคงอยู่ในร่างของหมาป่า ดีไม่ดีอาจถูกฆ่าไปแล้ว”

“แล้วเอ่อ…เราจะทำยังไงให้หมาป่าตัวนั้นกลายร่างกลับมาเป็นมนุษย์ และอยู่แบบนั้นตลอดเวลาไม่กลับไปเป็นหมาป่าอีกครับ”

“มนุษย์ที่ตัวตนเป็นหมาป่าจะกลายร่างในคืนพระจันทร์เต็มดวง แต่ถ้าเป็นหมาป่าอยู่แล้วก็จะกลายร่างกลับมาเป็นมนุษย์เหมือนเราๆ อันนี้ก็ต้องอยู่ที่จิตใจของมนุษย์หมาป่าตนนั้นๆ ว่าจะแข็งแกร่งหรือแน่วแน่มากแค่ไหน อยากอยู่ในร่างหมาป่าตลอดไปก็ได้ หรือหากต้องการอยู่ในร่างของมนุษย์ตลอดไป ก็แค่สวมสร้อยหินเส้นนี้ไว้ คราวนี้ถึงแม้จะผ่านคืนพระจันทร์เต็มดวงอีกสักกี่คืนก็จะไม่กลายร่าง หรือทางกลับกัน ถ้าอยากจะกลายร่างเป็นหมาป่า ก็แค่ถอดสร้อยหินเส้นนี้ออกเท่านั้น”

“ครับ” เสียงทุ้มของทีปต์เอ่ยรับ และตั้งใจจะเก็บสร้อยหินเส้นนี้ไว้อย่างดี นั่นก็เพื่อรอผู้เป็นเจ้าของมันปรากฏตัว

“ทำไมนะ พลังถึงไม่ถ่ายทอดไปถึงเจ้าด้วยทีปต์ หรือมนุษย์หมาป่าจะสูญสิ้นไปจากโลกนี้ พระเจ้าถึงไม่ประทานพลังแก่เจ้า” ดีแลนมองหลานชาย ที่โครงหน้านั้นช่างเหมือนเขาตอนสมัยหนุ่มๆ ไม่มีผิดเพี้ยน

“อย่าคิดแบบนั้นสิครับปู่ ตอนนี้ผมยังไม่มีพลัง แต่วันพรุ่งนี้ จู่ๆ ผมอาจมีพลังพิเศษเหมือนปู่ เหมือนพ่อก็เป็นได้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel