บท
ตั้งค่า

7 ปีศาจร้ายเริ่มปรากฏ

ในโต๊ะอาหารมื้อค่ำวิริญญาก็ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับเจ้าชายซาบ รีซึ่งเป็นน้องชายของเจ้าชายซาลาส เขามีใบหน้าคมสันคล้ายคลึงกับเจ้าชายซาลาส แต่มีเรือนผมสีน้ำตาลเข้มยาวถึงกลางหลัง เจ้าชายซาบรีมีนิสัยค่อนข้างอ่อนโยน ร่าเริงและช่างพูดช่างคุย วิริญญาคิดว่าเจ้าชายคนนี้เป็นคนที่น่าคบหาคนหนึ่งทีเดียว

“ผู้ร่วมโต๊ะอาหารของเราครบแล้ว ลงมือรับประทานอาหารกันเถิด”

เจ้าชายซาลาสพูดขึ้นก่อนจะเริ่มลงมือรับประทานอาหารเป็นคนแรก แล้วทุกคนก็เริ่มลงมือรับประทานบ้าง หลังจากอาหารมื้อค่ำผ่านพ้นไป ทุกคนก็เข้ามานั่งรวมกันอยู่ภายในห้องโถงใหญ่เพื่อพูดคุยกัน เจ้าชายซาลาสกับเจ้าหญิงเคียร่านั้นนั่งอยู่คู่กันบนเก้าอี้ยาวตัวใหญ่ ส่วนคนอื่นแยกย้ายกันนั่งตามอัธยาศัย

“พิธีอัญเชิญเทพีครีนัส จะกำหนดทำได้เมื่อใดหรือท่านฟรานเชส” เสียงเจ้าชายซาลาสถามขึ้น ก่อนที่ผู้วิเศษหนุ่มจะตอบ

“เมื่อดวงดาวประจำทิศทั้งสี่ของครีเซีย เคลื่อนตัวมาอยู่ประจำตำแหน่งและตรงทิศทางของตนเอง โดยมีเทือกเขาครีเซียอันเป็นที่ตั้งวิหาร และที่สถิตของเทพีครีนัสอยู่ตรงกึ่งกลางพอดี เมื่อนั้นเราจึงจะอัญเชิญเทพีครีนัสได้”

“อีกนานเท่าไหร่หรือท่านฟรานเชส” เทรีสถามขึ้น

“จากการคำนวณทิศทางการเคลื่อนตัวของดวงดาวประจำทิศทั้งสี่ ต้องใช้เวลาอีกเก้าสิบวัน” ฟรานเชสตอบ

“ฮะ! เก้าสิบวัน สามเดือนเนี่ยนะคะ”

วิริญญาร้องอุทานเสียงดัง เรียกสายตาของทุกคนให้หันมามองทางเธอ หญิงสาวจึงอธิบายต่อ

“ฉันไม่มีเวลามาอยู่ที่นี่นานตั้งสามเดือนหรอกนะคะ คุณพ่อกับคุณป้าฉันต้องเป็นห่วงฉันมากแน่ๆ เลย ฉันต้องไปทำงาน แล้วก็เตรียมตัวซ้อมรับปริญญาด้วย ฉันอยู่นานขนาดนั้นไม่ได้หรอกค่ะ อีกอย่างถ้าให้อยู่ที่นี่เฉยๆ นานขนาดนั้นฉันคงเบื่อตายก่อน”

ความเงียบบังเกิดขึ้นภายในห้องโถงใหญ่ทันทีเมื่อหญิงสาวพูดจบ ฟรานเชสถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้น

“ข้าก็จนใจที่จะย่นระยะเวลาให้เจ้านะริญ เพราะข้าไม่อาจเร่งการเคลื่อนตัวของดวงดาวประจำทิศทั้งสี่ได้ เจ้าต้องเข้าใจเหตุผลข้อนี้ด้วย”

วิริญญาได้แต่พยักหน้าด้วยสีหน้าผิดหวังสุดขีด ฝ่ายเจ้าหญิงเคียร่าจึงลุกจากที่นั่งเดินมาหาหญิงสาวพลางพูดเอาใจ

“เจ้าอย่าได้ทำสีหน้าเบื่อหน่ายเช่นนั้น เจ้ายังมีข้าเป็นเพื่อนนะริญ ข้าจะพาเจ้าเที่ยวชมรอบๆ อาณาจักรครีเซียของเราเอง เจ้าจะได้ไม่เบื่อหน่ายอย่างไรล่ะ”

“แต่นั่นต้องหมายถึงว่านางว่างเว้นจากการฝึกฝนพลังกับข้าก่อนนะ ท่านเคียร่า” ฟรานเชสพูดขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“เจ้าค่ะ ท่านฟรานเชส”

เจ้าหญิงเคียร่า หันไปพูดกับฟรานเชสด้วยน้ำเสียงประชดประชันนิดๆ ขณะที่เจ้าชายซาลาส เจ้าชายซาบรี ฟรานเชสและฮันส์พากันหัวเราะเบาๆ อย่างขบขัน อาร์กอนนั้นมีสีหน้าเบื่อหน่ายกับความเรื่องมากของหญิงสาวต่างมิติ ส่วนเทรีสก็ยังคงมีสีหน้าเคร่งขรึมไร้รอยยิ้มอยู่เช่นเดิม จึงไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

“หากเคียร่าจะพาริญไปเที่ยวชมรอบอาณาจักรครีเซีย ข้าจะขออนุญาตไปกับพวกนางด้วยได้หรือไม่ท่านพี่” เจ้าชายซาบรีหันไปถามเจ้าชายซาลาส

“ได้สิซาบรี เจ้าจะได้ไปช่วยอารักขานักรบหญิงของเราด้วย” เจ้าชายซาลาสตอบ

“ข้ายินดีอย่างยิ่งที่จะได้อารักขานักรบคนใหม่”

เจ้าชายซาบรีพูดพร้อมรอยยิ้ม พลางมองวิริญญาด้วยแววตาอ่อนโยน จนทุกคนในห้องรู้สึกได้ ไม่เว้นแม้แต่คนถูกมองอย่างวิริญญา ซึ่งหญิงสาวก็เกิดความรู้สึกเขินขึ้นมาทันทีเช่นกัน ที่มีชายหนุ่มรูปหล่อมาพูดแบบนี้ด้วย แต่แล้วเสียงราบเรียบของใครบางคนก็ดังขึ้นขัดอารมณ์หวานๆ ของเจ้าชายซาบรี

“หากเจ้าหญิงเคียร่าและเจ้าชายซาบรีจะพานางไปท่องเที่ยว ข้าคงต้องขอติดตามไปอารักขานางด้วยเช่นกัน”

คราวนี้สายตาทุกคู่ของทุกคนภายในห้องโถงรวมทั้งวิริญญา ต่างก็จับจ้องไปที่ชายหนุ่มในชุดสีขาว ผู้มีนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มราวกับท้องทะเลลึกด้วยความประหลาดใจ เมื่อได้ยินเขาพูดออกมาแบบนั้น เจ้าชายซาบรีหัวเราะเบาๆ พลางเอ่ยถามทีเล่นทีจริง

“ท่านเทรีสไม่ไว้ใจว่าข้าจะอารักขาริญได้งั้นหรือ”

“ท่านเข้าใจผิดแล้วเจ้าชายซาบรี ข้าเพียงแต่ทำตามหน้าที่ และคำสัญญาที่ข้าได้ให้ต่อบิดาของนางเอาไว้ ก่อนที่จะพานางเดินทางมายังครีเซีย ว่าข้าจะปกป้อง ดูแลนางและจะพานางส่งกลับไปหาบิดาของนางอย่างปลอดภัยก็เท่านั้นเอง”

เทรีสตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พอๆ กับสีหน้าเคร่งขรึม และแววตาที่ยากจะคาดเดาความรู้สึกได้

“เจ้าชายซาบรีดูจะชื่นชอบริญมาก”

ฮันส์เอ่ยขึ้น ในระหว่างที่เขา อาร์กอนและเทรีส กำลังเดินกลับไปยังห้องพักของตัวเอง หลังจากการพูดคุยในห้องโถงใหญ่จบลง

“ข้าก็คิดเช่นนั้น ถึงขนาดออกปากจะไปอารักขานางเองเชียวนะ” อาร์กอนเสริม

“ท่านคิดว่าอย่างไรล่ะเทรีส” ฮันส์หันมาถามชายหนุ่มที่ยังคงเดินเงียบๆ ไม่พูดไม่จากับใคร เทรีสเหลือบมามองเพื่อนนิดหนึ่ง แล้วตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ข้ามีหน้าที่เพียงแค่ปกป้อง และดูแลนางให้ปลอดภัย ตามที่สัญญากับบิดาของนางเอาไว้เท่านั้นฮันส์ ดังนั้นข้าไม่มีความเห็นอื่น”

“แล้วหากว่าเจ้าชายซาบรีเกิดรักนางขึ้นมาจริงๆ ล่ะ ท่านจะว่าอย่างไรเทรีส” อาร์กอนถามขึ้นบ้าง พลางมองใบหน้าคมเข้มของเทรีสอย่างต้องการค้นหาอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในแววตาของเขา

“ข้าไม่มีความเห็นเช่นเดิม หน้าที่ของข้าคือ ข้าต้องพานางส่งกลับไปหาบิดาของนางอย่างปลอดภัยเท่านั้นอาร์กอน”

“แล้วหากว่านางเกิดเปลี่ยนใจไม่อยากจะกลับไปหาบิดานางเล่า ท่านจะว่าอย่างไร” อาร์กอนยังไล่ไม่เลิก

“นั่นก็สุดแล้วแต่นาง ข้าขอตัวล่ะ” เทรีสพูดตัดบท แล้วก้าวยาวๆ นำหน้าฮันส์และอาร์กอนไปทันที

“ท่านไม่ควรถามเทรีสเช่นนั้นนะอาร์กอน” ฮันส์หันมาพูดอย่างตำหนิอาร์กอนกลายๆ หากแต่อีกฝ่ายถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดว่า

“เพราะเทรีสคือสหายของข้า ข้าจึงต้องถามเช่นนั้น ท่านก็เห็นนี่ฮันส์ ว่าริญเหมือนวีร่ามากและนางงดงามมากด้วย ท่านไม่คิดบ้างหรือว่า...”

“ข้าได้แต่หวังว่าเรื่องราวจะไม่เป็นเช่นดังอดีตอีก อาร์กอน” ฮันส์พูดแทรกขึ้น ก่อนที่อาร์กอนจะพูดจบประโยค นักรบหนุ่มผู้มีพลังแห่งไฟส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วพูดขึ้น

“ท่านไม่มีอำนาจใดๆ ที่จะหยุดยั้ง และควบคุมสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้หรอกฮันส์ นั่นคือความจริง” แล้วอาร์กอนก็เดินจากไปอีกคน ทิ้งให้ฮันส์ยืนถอนหายใจและยืนบ่นอยู่เพียงลำพังคนเดียว

“ข้าได้แต่หวัง ว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้นอีก”

วันรุ่งขึ้นหลังจากรับประทานอาหารมื้อเช้าผ่านพ้นไปแล้ว เจ้าหญิงเคียร่าก็พาสหายคนใหม่ไปขี่ม้านอกปราสาท โดยมีเจ้าชายซาบรี เทรีส ฮันส์ และอาร์กอนติดตามมาด้วย

ทุกคนขี่ม้ามาหยุดในทุ่งหญ้ากว้าง ซึ่งมีทะเลสาบกว้างใหญ่อยู่ด้านล่าง วิริญญาหย่อนตัวลงจากหลังม้าอย่างทุลักทุเล หญิงสาวเพิ่งจะเคยขี่ม้าเป็นครั้งแรก แต่ยังโชคดีที่ม้าตัวนี้ถูกฝึกมาเป็นอย่างดีแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องใช้ความสามารถในการบังคับมันมากนัก แค่ประคองตัวเองไม่ให้ตกจากหลังม้าก็พอ

“ข้าบอกแล้วว่าเจ้าจะชอบครีเซีย” เจ้าหญิงเคียร่าพูดอย่างร่าเริง พลางกระโดดลงจากหลังม้าอย่างคล่องแคล่วก่อนจะเล่าต่อ

“เมื่อก่อน ข้า ท่านพี่ซาลาสและท่านพี่ซาบรี ชอบขี่ม้ามาเที่ยวเล่นยังทะเลสาบแห่งนี้เป็นประจำ”

เจ้าหญิงเคียร่าจูงมือวิริญญาให้เดินลงไปนั่งเล่นอยู่ที่ริมทะเลสาบด้านล่างด้วยกัน โดยที่สี่หนุ่มก็ติดตามมาด้วย เจ้าชายซาบรีนั้นทิ้งตัวลงนอนราบกับทุ่งหญ้าใช้สองมือประสานกันรองท้ายทอย แล้วเหม่อมองดูท้องฟ้า ส่วนเทรีส ฮันส์และอาร์กอน นั้นแยกย้ายกันเดินสำรวจตรวจตราไปรอบๆ บริเวณ

“เจ้าหญิงพูดว่าเมื่อก่อน แสดงว่าเดี๋ยวนี้ค่อยได้มาแล้วใช่มั้ยคะ” วิริญญาถาม

“ใช่ นับตั้งแต่ข้าแต่งงานกับท่านพี่ซาลาส พวกเราสามคนก็ไม่มีเวลาว่าง ออกมาขี่ม้าเที่ยวเล่นเหมือนเช่นเมื่อก่อน ท่านพี่ซาลาสต้องยุ่งอยู่กับการดูแลอาณาจักรครีเซียอันกว้างใหญ่ ส่วนท่านพี่ซาบรีและข้าก็ต้องคอยช่วยเหลืองานท่านพี่ซาลาสด้วย ยิ่งเรามีเรื่องศึกสงครามกับดินแดนปีศาจเช่นนี้ ยิ่งไม่มีเวลามาคิดเรื่องเที่ยวเล่นดังเช่นเมื่อก่อนอีกเลย”

วิริญญาพยักหน้าอย่างเข้าใจ คนเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายก็ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบ ซึ่งยิ่งใหญ่มากกว่าคนธรรมดาอยู่แล้ว ถึงแม้จะอายุยังน้อยแต่หน้าที่และความรับผิดชอบนั้นใหญ่หลวงจริงๆ

“อ๊ะ! มีเรือจอดอยู่ตรงนั้นด้วย เราลงไปพายเรือเล่นกันดีกว่าริญ ข้าไม่ได้พายเรือเล่นนานแล้ว”

เจ้าหญิงเคียร่าพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น เมื่อมองไปเห็นเรือพายลำเล็กจอดอยู่ที่ริมตลิ่ง พลางจูงมือหญิงสาววิ่งตรงไปที่เรือลำนั้นทันทีด้วยท่าทางเริงร่าราวกับเด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่กำลังเห็นของเล่นถูกใจ

เมื่อเดินมาถึงเรือสองสาวก็ช่วยกันพายเรือออกมาลอยลำอยู่กลางทะเลสาบ โชคดีที่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยวิริญญาเคยไปเที่ยวและได้พายเรือล่องแก่งกับเพื่อนๆ อยู่หลายครั้ง เธอจึงพอจะจึงช่วยเจ้าหญิงเคียร่าพายเรือได้บ้าง

“อืม ได้ออกมาอยู่กลางทะเลสาบแบบนี้ดีจริงๆ เลยนะ เจ้าชอบหรือไม่ริญ” เจ้าหญิงเคียร่าถามขึ้น

“ชอบค่ะ อากาศสดชื่นดีนะคะ แล้วน้ำก็เย็นสบายน่าเล่นด้วย” หญิงสาวต่างมิติตอบยิ้มๆ พลางหย่อนมือลงไปวักน้ำเล่นอย่างสบายอารมณ์

“ถ้าเจ้าอยากเล่นน้ำ เอาไว้คราวหน้าเราเตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยนแล้วค่อยลงเล่นน้ำดีกว่านะ” เจ้าหญิงเคียร่าบอก ก่อนจะชวนวิริญญากลับเข้าฝั่ง เมื่อรู้สึกว่าใกล้ถึงเวลาอาหารเที่ยงแล้ว

“จวนจะถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว ข้าคิดว่าเราควรจะพายเรือกลับเข้าฝั่งได้แล้วล่ะ จะได้รีบเดินทางกลับไปที่ปราสาท”

วิริญญาพยักหน้า แล้วทั้งสองสาวก็ค่อยๆ ช่วยกันพายเรือกลับเข้าหาฝั่งทันที แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อผืนน้ำที่สงบนิ่งเมื่อครู่ เกิดระลอกคลื่นลูกยักษ์ซัดสาดเข้าหาเรือ จนเรือเริ่มโคลงเคลงไปมาราวกับถูกใครจับเขย่า ทำให้ทั้งเจ้าหญิงเคียร่าและวิริญญาต่างก็กรีดร้องออกมาอย่างตกใจ

แม้ทั้งคู่จะพยายามบังคับเรือไม่ให้ล่ม แต่เรือลำเล็กก็ไม่อาจต้านทานเกลียวคลื่นขนาดมหึมาได้ ทำให้เรือเอียงวูบ ก่อนที่ร่างของหญิงสาวทั้งสองคนจะร่วงหล่นลงไปในทะเลสาบ เจ้าหญิงเคียร่ากับวิริญญาพยายามตะเกียกตะกาย ว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งท่ามกลางผืนน้ำที่ปั่นป่วน ซึ่งก็ช่างยากลำบากเหลือเกินสำหรับผู้หญิงตัวเล็กอย่างพวกเธอ เจ้าหญิงเคียร่าพยายามร้องตะโกนขอความช่วยเหลือตามสัญชาตญาณ

“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยพวกข้าด้วย”

เสียงแว่วๆ ที่ดังมาจากทะเลสาบซึ่งไม่ไกลจากทุ่งหญ้านัก ทำให้เจ้าชายซาบรีที่นอนทอดตัวอยู่บนทุ่งหญ้าขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่เจ้าหญิงเคียร่ากับวิริญญาเดินลงไปที่ทะเลสาบ ชายหนุ่มเริ่มสังหรณ์ใจว่าจะเกิดอันตรายกับหญิงสาวทั้งสอง จึงรีบลุกแล้ววิ่งไปตามที่มาของเสียงทันที

สองสาวต่างมิติกำลังต่อสู้กับความตายท่ามกลางคลื่นลูกใหญ่ที่ก่อตัวขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ ส่วนวิริญญาพยายามว่ายน้ำตามเจ้าหญิงเคียร่าไป แต่ดูเหมือนว่าเธอกับเจ้าหญิงเคียร่าจะห่างกันไปเรื่อยๆ แม้จะประหวั่นพรั่นพรึงมากเพียงใด แต่เธอก็จะพยายามกัดฟันว่ายน้ำไปให้ถึงฝั่งให้ได้ แต่แล้วเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ผิวน้ำบริเวณใกล้ๆ ตัววิริญญาก็กลับกลายเป็นกระแสน้ำหมุนวน ทำให้เธอถูกดูดเข้าไปในกระแสน้ำวนนั้น

“ช่วยด้วย” หญิงสาวต่างมิติร้องตะโกน และพยายามตะเกียกตะกายออกมาจากน้ำวน แต่ยิ่งว่ายก็เหมือนเธอยิ่งเข้าไปใกล้ขุมนรกนั่นมากขึ้นทุกทีๆ

และในวินาทีแห่งชีวิตนั้น ก็มีร่างอัปลักษณ์ใหญ่โตร่างหนึ่งผุดขึ้นมาจากน้ำ ดวงตาของมันเป็นสีแดงฉานน่ากลัว ผมยาวกระเซอะกระเซิง จมูกก็งองุ้มแลดูน่าเกลียด สัตว์ประหลาดตนนั้นจ้องมองมาที่วิริญญา แล้วใช้มือใหญ่โตที่มีเล็บยาวเฟื้อยจับศีรษะของวิริญญากดให้จมลงใต้น้ำทันที

“อุ๊บ ช่วยด้วย…!” หญิงสาวดิ้นรนต่อสู้และพยายามผลักร่างใหญ่โตที่กำลังกดเธอให้จมลงใต้น้ำออกห่าง แต่ก็ไม่สำเร็จ

“ช่วย...ด้วย!” หญิงสาวร้องขอความช่วยเหลืออีกรอบ เมื่อพยายามดันตัวขึ้นมาอยู่เหนือน้ำ เพื่อสูดอากาศเข้าปอด

เจ้าหญิงเคียร่าซึ่งว่ายน้ำจนใกล้จะถึงฝั่งก็ต้องตกใจ เมื่อหันมาเห็นปีศาจกำลังทำร้ายวิริญญาอยู่ที่กลางทะเลสาบ

“ปีศาจ!” เจ้าหญิงเคียร่าอุทานอย่างตกใจ หัวใจเต้นรัวทั้งกลัวทั้งเป็นห่วงวิริญญา ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ขณะนั้นเจ้าชายซาบรีวิ่งลงมาถึงริมทะเลสาบพอดี ชายหนุ่มอยู่ในอาการตกตะลึงกับภาพที่เห็นเช่นกัน

“ปีศาจ!” เจ้าชายซาบรีอุทานออกมาอย่างตกใจ แม้ใจอยากเข้าไปช่วยแต่ก็ก้าวขาไม่ออกด้วยความหวาดกลัว

“ท่านเทรีส ท่านฮันส์ ท่านอาร์กอน พวกท่านอยู่ที่ไหน รีบมาช่วยริญเร็วเข้า” เจ้าหญิงเคียร่าตะโกนร้องเรียกสามหนุ่มนักรบแห่งอาณาจักรครีเซียเสียงหลง หลังจากที่ขึ้นมาบนฝั่งอย่างปลอดภัยแล้ว

“จงตายซะ ทายาทผู้มีพลังแห่งน้ำ” ปีศาจร้ายคำรามออกมา มองร่างที่พยายามตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดอย่างดุดัน

แม้ว่าหญิงสาวจะพยายามทั้งเตะ ทั้งถีบร่างของมัน แต่มันก็ไม่มีท่าทางจะรู้สึกรู้สาอะไร กลับเป็นเธอเองที่เริ่มรู้สึกว่าตัวเองจะขาดอากาศหายใจแล้ว ร่างกายเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ ภาพที่มองเห็นเริ่มพร่ามัว ลมหายใจรวยริน เธอพร้อมที่จะเดินทางก้าวสู่ห้วงแห่งความตายแล้ว ถ้าหากขาดอากาศหายใจอีกเพียงวินาทีเดียว

บึ้ม!!!

เสียงน้ำระเบิดดังกึกก้องไปทั่ว แรงกระทบมหาศาลทำให้น้ำในทะเลสาบแตกกระจายและพุ่งขึ้นสูง ก่อนจะตกลงมาราวกับเกิดพายุฝน ไหนจะคลื่นลูกยักษ์นับร้อยๆ ลูก หมุนวนอยู่กลางทะเลสาบ นาทีนี้มหรรณพที่เคยสงบนิ่งก็กลับกลายเป็นทะเลคลั่งที่พร้อมจะปลิดลมหายใจของมนุษย์ได้ทุกเมื่อ

หลังจากที่ได้ยินเสียงระเบิด วิริญญาก็รู้สึกเหมือนตัวเองล่องลอยอยู่ในภวังค์ มีสายลมบางเบาแสนอบอุ่นโอบล้อมอยู่รอบตัวเธอ ก่อนที่หญิงสาวจะหลับตาลงช้าๆ และไม่รับรู้อะไรอีกเลย

“ตายซะเถอะ ไอ้ปีศาจร้าย!”

ฮันส์ลอยตัวอยู่เหนือผิวน้ำเอ่ยขึ้นอย่างดุดัน แล้วตวัดดาบสีทองไปที่ลำคอของปีศาจร้าย อย่างแม่นยำจนคอของมันขาดกระเด็น

“อ๊ากกกกกก!!!”

ปีศาจร้ายร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด ก่อนจะโดนพลังไฟออกจากฝ่ามืออาร์กอนพุ่งเข้าใส่อีกระลอก จนร่างของมันถูกเผาไหม้กลายเป็นจุณและสลายหายไปในพริบตา แล้วทะเลสาบก็ค่อยๆ กลับมานิ่งสงบดังเดิม ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เทรีสอุ้มร่างหมดสติของวิริญญาไว้ในอ้อมอกแข็งแกร่ง ก่อนจะค่อยๆ วางลงบนผืนหญ้าอย่างทะนุถนอม เขามองใบหน้าเนียนใสที่มีหยดน้ำเกาะพราวอย่างวิตกกังวล

“ริญ! ริญ! นางเป็นอย่างไรบ้าง” เจ้าหญิงเคียร่าวิ่งปราดเข้ามาหาวิริญญา พลางเอ่ยถามอย่างร้อนใจ

“นางยังไม่ได้สติ ข้าต้องช่วยนางก่อน” เทรีสเอ่ยเรียบๆ หากแต่ดวงตาฉายแววห่วงใยออกมาอย่างชัดเจน

ร่างสูงนั่งคุกเข่านิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง ก่อนจะค่อยๆ โน้มตัวลงไปใกล้ใบหน้าของหญิงสาวต่างมิติ สายตาคู่คมแอบสำรวจไปทั่วใบหน้าเนียน แล้วริมฝีปากหยักลึกก็เข้าประกบกลีบปากสีชมพูระเรื่อของวิริญญา พลันบังเกิดรัศมีสีเหลืองนวลตาวูบวาบตรงบริเวณริมฝีปากของทั้งสอง ส่วนเจ้าหญิงเคียร่ากับเจ้าชายซาบรีที่เพิ่งตั้งสติได้ ก็ได้แต่มองการกระทำของนักรบหนุ่มอย่างอึ้งๆ ขณะที่ฮันส์กับอาร์กอน ที่เพิ่งจะลอยตัวลงมายืนบนพื้นหญ้าก็หันมองสบตากันเงียบๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel