3. แรงดึงดูดจากภาพ
งานแสดงภาพศิลปะของนักศึกษาคณะจิตรกรรม เต็มไปด้วยภาพเขียนหลากหลายภาพจากนักศึกษาหลายคนที่นำภาพเขียน หรือภาพวาดจากฝีมือตัวเองมาจัดแสดง เป็นกิจกรรมที่เหล่านักศึกษาจำนวนหนึ่งร่วมกันจัดขึ้นเพื่อหารายได้ช่วยรัฐนันท์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมคณะที่ทางบ้านของเขาประสบภัยจากน้ำป่าไหลหลาก พัดบ้านพังไป กับน้ำ โดยใช้ชื่องานว่า “ภาพช่วยเพื่อน”
หากภาพวาดขายได้ก็จะยกให้กับรัฐนันท์ทั้งหมดเพื่อนำไปสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับพ่อแม่ของเขาที่ต่างจังหวัด
“ภาพของซาซ่ามีตั้งห้าภาพเชียวเหรอ”
รุจรวี เพื่อนซี้ของเนตรดาว บอกด้วยความตื่นเต้นที่เห็นภาพเขียนของเนตรดาวทั้งหมด
“ความจริงก็มีอีกสองภาพ แต่มันยังไม่เสร็จดีก็เลยได้แค่นี้”
เนตรดาว บอกด้วยความภูมิใจ มือก็สาละวนอยู่กับการจัดวางตำแหน่งของภาพให้ดูเด่นที่สุด
“แค่นี้นายนันท์ก็คงปลื้มใจแทบแย่แล้วล่ะ ไม่เสียแรงที่เป็นคนสำคัญของเขานะ”
รุจรวี แซวทำให้เนตรดาวหน้าแดง เพื่อนในกลุ่มต่างก็รู้ดีว่าเนตรดาว กับ รัฐนันท์ คบกันฉันคนรักมาได้เกือบปีแล้ว
“เพื่อนคนอื่นก็เป็นคนสำคัญของนันท์ทุกคนน่ะแหละ” เนตรดาวบอก
“แต่ซาซ่าสำคัญที่สุดจ๊ะ” รุจรวี ยืนยันแววตาล้อเลียน
“เหมือนกับที่เธอกับปิติ ก็เป็นคนสำคัญของกันและกันใช่ไหมล่ะ” เนตรดาว แซวกลับบ้าง
รัฐนันท์เดินเข้ามาพร้อมด้วยปิติ และเพื่อนชายหญิงอีกสิบคน ทำให้ภายในห้องจัดแสดงภาพดูคึกคักขึ้นมาทันที
“สาว ๆ คอยต้อนรับลูกค้าด้วยนะจ๊ะ”
ปิติ เดินมาบอกรุจรวี และเนตรดาว
“แหม..อันนี้ไม่บอกก็ต้องทำอยู่แล้วค่ะคุณปิติขา”
รุจรวี หยอกล้อเสียงหวาน
“วันนี้จะมีลูกค้าคนพิเศษมาชมภาพของพวกเราด้วยล่ะ”
เนตรดาว เกริ่นให้เพื่อน ๆ หันมาสนใจ เธอยังไม่ได้บอกใครล่วงหน้าถึงเรื่องนี้มาก่อน อยากจะเซอร์ไพรส์เพื่อน ๆ นั่นเอง
“ใครเหรอ เศรษฐีใจดีจะมาเหมารูปพวกเราใช่ไหม”
เพื่อนหญิงคนหนึ่งถามขึ้น
“พี่สาวเราเอง..พี่นีน่าไงล่ะ”
คำเฉลยของเนตรดาว ทำให้เพื่อน ๆ ส่งเสียงฮือฮาด้วยความตื่นเต้นที่จะได้ยลโฉมดาราละครชื่อดังที่กำลังมีผลงานเป็นที่ชื่นชอบ และกล่าวขานอยู่ในขณะนี้
ความมีชื่อเสียงของเนตรอัปสร เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่สองปีก่อนที่ได้เข้าไปแข่งขันในรายการ “ปั้นดาวเด่น” ทางรายการโทรทัศน์ ความสามารถด้านการแสดงของเนตรอัปสร ทำให้ชนะใจกรรมการจนเข้ารอบสามคนสุดท้าย กระทั่งถึงรอบตัดสินที่ใช้คะแนนโหวตจากผู้ชมทางบ้านและบรรดาแฟนคลับที่ติดตามในสื่อโซเชียล และ เนตรอัปสรก็ได้คะแนนนำเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนคนที่ได้คะแนนรองลงมาที่เป็นคู่แข่งของเนตรอัปสร ก็คือโชติกา
เนตรอัปสร ขึ้นแท่นเป็นางเอกละครยอดนิยมทันทีที่มีผลงานละครเรื่องแรก ทำให้เรื่องต่อ ๆ มาได้รับบทเด่น ๆ อยู่เสมอ ส่งผลให้มีงานโชว์ตัว งานพรีเซนเตอร์ต่าง ๆ เข้ามามากมาย สิ่งที่มาพร้อมกับความมีชื่อเสียง คือ ข่าวด้านลบของเนตรอัปสรที่มีมากขึ้นในช่วงนี้ไม่เว้นแต่ละวัน แต่ข่าวด้านลบของเนตรอัปสรก็ไม่ได้มีผลต่อความชื่นชอบของเพื่อน ๆ เนตรดาว เพราะเนตรดาวมักจะเป็นคนคอยแก้ข่าวให้พี่สาวทุกครั้งอยู่เสมอ
“แล้วแฟนพี่นีน่า มาด้วยหรือเปล่า”
เพื่อนหญิงคนเดิมถามเนตรดาวด้วยความอยากรู้ เช่นเดียวกับเพื่อนคนอื่น ๆ ที่หูผึ่งอยากรู้เช่นกัน เพราะหากว่านักร้องหนุ่มขวัญใจวัยรุ่นที่มีข่าวกับเนตรอัปสร มาปรากฏในงานด้วยก็จะเป็นการสร้างสีสัน ให้พวกตนได้ถ่ายรูปไปลงอวดกันในสังคมออนไลน์นั่นเอง
“ไม่รู้สิ..แต่ที่แน่ ๆ พี่นีน่า มาอยู่แล้วล่ะ”
เนตรดาวตอบตามตรง
รัฐนันท์ นำภาพเขียนของเขามาแสดงสองภาพ โดยภาพแรกเป็นภาพสีน้ำมัน รูปสัตว์ป่าที่เขาทำไว้นานแล้ว ตั้งใจว่าจะมอบเป็นของขวัญวันเกิดให้เนตรดาว แต่เมื่อมีเหตุจำเป็น เขาจึงนำภาพนั้นมาแสดงในครั้งนี้
ส่วนอีกภาพหนึ่ง เขาเพิ่งจะทำเสร็จเมื่อคืนนี้เอง เป็นภาพเหมือนที่วาดจากภาพถ่ายของสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่ง ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าชายของเขา แต่เขาเปลี่ยนจากเครื่องแต่งกายปกติให้เป็นการแต่งกายคล้ายแบบย้อนยุคกลายเป็นเทพบุตรสุดหล่อในชุดอลังการประดับด้วยเพชรนิลจินดาสวยงาม โดยใช้แสงเงาให้ภาพดูสว่างสดใสงามอ่อนช้อยตระการตา จนได้รับคำชมจากเพื่อน ๆ ว่าน่าจะขายได้อย่างแน่นอน
“อุ๊ย!.พี่นีน่ามาแล้ว”
รุจรวี อุทานด้วยความตื่นเต้นทำให้เพื่อนคนอื่นที่อยู่บริเวณนั้น รวมทั้งผู้ที่มาชมภาพต่างก็หันไปมองที่ร่างบางระหงส์ในชุดเสื้อสายเดี่ยวคอลึกที่โชว์หน้าอกอวบอิ่ม และท่อนล่างเป็นกระโปรงสั้นเหนือเข่าโชว์เรียวขาสวยของดาราละครชื่อดัง
เนตรอัปสร ถอดแว่นกันแดดเสียบไว้ที่ร่องอกก่อนจะเดินเข้ามาด้านในที่จัดแสดงภาพ ด้วยท่าทางดูกรีดกรายชวนมองไม่รู้เบื่อ รัศมีความเด่นของเนตรอัปสร ทำให้เป็นที่จับตามองทุกฝีก้าว
“พี่นีน่า..นึกว่าจะไม่มาเสียแล้วสิ”
เนตรดาว รีบเดินมาหาพี่สาวด้วยสีหน้าดีใจ
“พี่รับปากไว้แล้วก็ต้องมาสิ ถึงแม้พี่จะไม่ค่อยชอบงานศิลปะอะไรแบบนี้ก็เถอะ”
เนตรอัปสร บอกน้องสาวเสียงเบา เกรงว่าคนอื่นจะได้ยินด้วย
เนตรดาวรับฟังด้วยความเข้าใจเพราะทราบดีว่าพี่สาวไม่เคยสนใจงานศิลปะที่เธอทำเลย แต่ก็ยังอุตส่าห์มาให้กำลังใจน้องสาว
“พี่มิกกี้ไม่มาด้วยเหรอคะ” น้องสาวแอบกระซิบถามพี่สาว
“พี่กับมิกกี้ ไม่ได้ตัวติดกันซะหน่อย จะได้ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด”
คำตอบของพี่สาวทำให้เนตรดาวรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง เพราะเมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมา เนตรอัปสร ดูจะคลั่งไคล้มิกกี้มาก และพี่สาวของเธอก็ไม่แคร์ที่จะตกเป็นข่าวกับนักร้องหนุ่มคนนั้น จึงมีข่าวให้เห็นอยู่เสมอว่าพี่สาว กับ มิกกี้ ควงกันไปในที่ต่าง ๆ อีกทั้งพี่สาวของเนตรดาวก็มักจะโพสต์รูปที่ถ่ายคู่กับมิกกี้ ลงในสื่อโซเชียลทั้ง
ไอจี เฟสบุ้กส่วนตัวอยู่บ่อย ๆ ทำให้เข้าใจว่ากำลังคบหากันอยู่
“พี่นีน่าชอบรูปไหนก็ซื้อได้เลยค่ะ เงินรายได้ทั้งหมด เราจะไปช่วยเพื่อนที่ประสบภัยน้ำท่วมค่ะ”
เนตรดาว บอกพร้อมกับจูงมือพี่สาวเดินไปดูภาพที่จัดโชว์
“เธออยากให้พี่ซื้อรูปไหนก็บอกมาก็แล้วกัน จะอุดหนุนสักสองภาพ สามภาพ ก็ได้เอ๊า!”
เธอบอกน้องสาวอย่างใจดี
“พี่นีน่าเดินดูไปเรื่อย ๆ ก่อนสิคะ..เพื่อน ๆ ของซ่าจะได้ดีใจ”
เนตรอัปสร พยักหน้ายิ้มน้อย ๆ ก่อนจะเดินดูไปทีละภาพอย่างไม่ค่อยจะสนใจนัก โดยระหว่างที่เดินอยู่นั้นก็จะมีเพื่อน ๆ ของน้องสาว รวมทั้งคนที่มาชมภาพขอถ่ายภาพด้วยเป็นระยะ ซึ่งเธอก็ยอมถ่ายภาพด้วยความเป็นกันเอง สลับกับการเดินดูภาพไปเรื่อย ๆ
จนมาหยุดชะงักอยู่ที่ภาพสุดท้าย ด้วยสายตาเบิกกว้างยืนมองภาพนั้นนิ่งราวกับถูกสะกดด้วยมนต์ขลัง รู้สึกถึงพลังดึงดูดให้จ้องมองผู้ชายในภาพที่คล้ายจะคุ้นหน้ามาก่อนแต่ก็ยังนึกไม่ออกว่าเคยพบที่ไหน แม้เป็นเพียงภาพวาดแต่แววตาของผู้ชายในภาพก็ดูมีชีวิตชีวาสามารถสื่อสารให้เนตรอัปสรรู้สึกวาบหวามใจได้อย่างประหลาด
“พี่นีน่าสนใจภาพนี้หรือคะ”
รุจรวี เป็นคนถามขึ้นเมื่อเห็นพี่สาวของเพื่อนรักยืนจ้องภาพวาดเทพบุตรสุดหล่อนั้น แน่นิ่งอยู่นาน
“เป็นภาพเหมือนที่ผมเขียนจากภาพถ่ายจริงครับ”
รัฐนันท์ รีบเดินเข้ามานำเสนอด้วยความภูมิใจ
“เธอเป็นคนวาดภาพนี้เหรอ”
เนตรอัปสร หันมาถามรัฐนันท์ด้วยความอยากรู้
“ใช่ครับ” รัฐนันท์ยิ้มรับ
“นี่คือ นันท์ เพื่อนของซ่าค่ะ เขาเป็นเจ้าของภาพ แล้วก็เป็นคนที่ครอบครัวของเขาประสบภัยน้ำป่าพัดบ้านหายไปทั้งหลังจนพวกเราต้องจัดแสดงภาพเพื่อหาเงินสร้างบ้านให้เขาค่ะ”
เนตรดาว บอกพี่สาวแต่ไม่ได้แนะนำรัฐนันท์ให้พี่สาวได้รู้จักในฐานะที่คบหากันฉันคนรัก
“พี่อยากได้ภาพนี้..พี่เอาภาพนี้แหละ”
เนตรอัปสร บอกในขณะที่ตาจ้องภาพไม่กะพริบ
“เออ..ต้องขอโทษพี่นีน่าด้วยครับ ภาพนี้..มีคนจองแล้วครับ”
รัฐนันท์ บอกด้วยน้ำเสียงเกรงใจ
“จองแล้วงั้นหรือ?” เนตรอัปสร มีสีหน้าแสดงความผิดหวัง
“ครับ เพิ่งจะจองก่อนหน้าพี่นีน่าแป๊บเดียวเองครับ”
“ใครจองเหรอ” เนตรดาวถามรัฐนันท์แทนพี่สาว
“เป็นผู้ชายมีอายุแล้วล่ะ แต่เขาดูภูมิฐานมาก” รัฐนันท์บอก
“รุจมีนามบัตรของคนที่จองภาพค่ะ เพราะเขาจองหลายภาพ”
รุจรวี พูดขึ้นพร้อมกับส่งนามบัตรนั้นให้กับเนตรอัปสรด้วย
“รุ่งภพ ศิลาอาจ ประธานมูลนิธิศิลาอาจ”
เนตรอัปสร รับนามบัตรนั้นมาอ่าน ก่อนจะหันไปถามรัฐนันท์ว่า
“เขาให้ราคาเท่าไหร่”
“สองหมื่นบาทครับ” รัฐนันท์บอก
“ถ้าพี่ให้เธอห้าหมื่นบาทล่ะ”
เนตรอัปสร โพล่งออกมาโดยไม่ต้องคิด เธอหวังว่าราคาที่เธอเสนอให้มากกว่าคนที่ชื่อรุ่งภพ อาจจะทำให้เจ้าของภาพยอมที่จะเปลี่ยนใจมาขายให้เธอแทนก็ได้
“อุ๊ย!..ตั้งห้าหมื่นเชียวเหรอ”
เสียงของเพื่อนเนตรดาวคนหนึ่งอุทานน้ำเสียงตื่นเต้น
“ตกลงให้พี่ก็แล้วกันนะ”
เนตรอัปสร หันมาอ้อนวอนเจ้าของผลงาน เมื่อเห็นว่ารัฐนันท์นิ่งอึ้งไป
“ผมเกรงว่าจะไม่ได้น่ะครับ พี่นีน่า..”
รัฐนันท์ มีสีหน้าไม่ค่อยสบายใจเพราะเขาไม่อยากจะทำให้พี่สาวของคนที่เขารักผิดหวัง แต่เขาก็ไม่อยากจะเสียคำพูดกับคนที่สั่งจองไว้เช่นกัน เพราะชายสูงวัยคนนั้นให้ความสนใจภาพนี้มากด้วย
“ถ้าพี่นีน่าสนใจภาพนี้จริง ๆ ให้นันท์วาดให้ใหม่ดีไหมคะ”
เนตรดาว เป็นคนช่วยหาทางออกให้กับพี่สาวและคนรัก
“พี่ไม่ต้องการภาพใหม่ แต่อยากได้ภาพนี้มากกว่า..เพราะถ้าวาดใหม่พี่คิดว่ามันจะไม่ได้อารมณ์เหมือนที่พี่รู้สึกกับภาพนี้หรอก”
เธอยืนยันจากความรู้สึกของตัวเองในขณะนี้ที่เสมือนกำลังถูกพลังดึงดูดบางอย่างจากแววตาของชายในภาพวาด
“เอาไว้ผมจะลองคุยกับคุณรุ่งภพให้นะครับ แล้วจะแจ้งให้พี่นีน่าทราบทันที”
รัฐนันท์ รีบพูดเอาใจ
“งั้นโทรหาเขาตอนนี้ได้ไหม พี่อยากได้คำตอบเลย”
เนตรอัปสรเร่ง ทำให้รัฐนันท์ ทำตามด้วยความกระตือรือร้นท่ามกลางการลุ้นเอาใจช่วยของทุกคน โดยเฉพาะเนตรดาวที่อยากจะให้พี่สาวสมหวังได้ภาพที่อยากได้มาครอบครองเป็นเจ้าของ
“ไม่มีสัญญาณตอบรับเลยครับ สงสัยจะปิดโทรศัพท์”
รัฐนันท์บอกหลังจากที่พยายามโทรหาคนชื่อรุ่งภพ
“พยายามติดต่อเขาให้ได้นะ พี่จะรอฟังข่าวดี”
เนตรอัปสร กำชับน้ำเสียงหนักแน่น
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะติดต่อกับคุณรุ่งภพให้ได้ ถึงยังไงเขาก็ต้องมารับภาพนี้อยู่แล้วครับ”
“ต้องพูดให้เขายอมยกเลิกให้ได้นะ อย่าให้เขาเอาภาพนี้ไป ต้องเอามาเป็นของพี่ให้ได้”
เนตรอัปสร ย้ำหนักแน่นก่อนที่จะกลับ สร้างความแปลกใจให้กับเนตรดาวไม่น้อย ที่พี่สาวให้ความสนใจกับภาพวาดนี้อย่างมาก ทั้งที่พี่สาวเป็นคนที่ไม่เคยสนใจภาพวาด ภาพเขียนใด ๆ มาก่อนเลย
“ครับ ผมจะพยายามให้ดีที่สุดครับ”
คำพูดของเจ้าของภาพทำให้เนตรอัปสรรู้สึกพอใจและหวังว่าเธอจะต้องเป็นเจ้าของภาพนี้
