ตอนที่ 2-3
“อะไรนะคะ ไม่ได้หนีมาที่นี่เหรอคะ แล้วหายไปไหน”
วราลีถอนหายใจหนักหน่วง เครื่องหมายคำถามว่าลูกไปไหนลอยชัดขึ้นมาบนใบหน้าสวยหวาน ก่อนรีบขอตัวกับแม่ของเพื่อนลูกสาว
“พี่พลอย งั้นลีไปก่อนนะคะ ขนมชั้นหายไปจากสำนักงาน ไม่รู้หนีไปเล่นบ้านใคร”
วราลีหันกลับไปคว้าจักรยานที่จอดอยู่ข้างรั้ว พลอยใสจึงรีบเรียกเอาไว้ “เดี๋ยวก่อนน้องลี พี่ยังบอกไม่จบ”
พลอยใสนึกออกว่าเมื่อเกือบชั่วโมงก่อน เธอเดินมารับของจากไลน์แมนที่มาส่งอาหาร แล้วเห็นขนมชั้นขี่จักรยานสีชมพูคู่ใจผ่านมา เธอจึงรีบกวักมือเรียกเด็กหญิง เพราะสั่งซาลาเปาเจ้าอร่อยร้านดังมาแจกเด็กๆ แต่น่าแปลกที่วันนี้ขนมชั้นมองเมินซาลาเปาสองกล่องใหญ่ในมือพลอยใส แล้วตอบเธอว่า
‘วันนี้ขนมชั้นมีเป้าหมายแล้วค่ะคุณป้าพลอยใส แต่ถ้ายังไง คุณป้าจะเก็บไว้ให้ขนมชั้นสักสามสี่ลูกก็ได้นะคะ ขากลับ ขนมชั้นจะเก็บชมพู่มาฝากค่ะ’
พลอยใสเลิกคิ้วอย่างสงสัย รู้ดีว่าบ้านขนมชั้นไม่มีต้นชมพู่ แล้วปกติวราลีค่อนข้างเข้มงวด ถ้าไม่ได้มาเล่นกับหวันยิหวาก็ไม่ปล่อยให้ไปเล่นบ้านใคร
แต่ไม่ทันถาม แม่แก้มยุ้ยร่างอวบก็ชิ่งหนีไปเสียก่อนจึงได้แต่ตะโกนตามหลังร่างอ้วนป้อมนั้นไป
‘อ้าว เดี๋ยว จะไปไหนลูก ขนมชั้น’
วราลีฟังเรื่องราวจากรุ่นพี่แล้วก็ตกใจ เบาะแสสำคัญที่ลูกสาวทิ้งไว้คือคำว่า ‘ขากลับ ขนมชั้นจะเก็บชมพู่มาฝากค่ะ’ นึกถึงเมื่อเช้าที่พาขนมชั้นขี่จักรยานไปที่สำนักงานของหมู่บ้าน เมื่อผ่านบ้าน ‘สราญพิพัฒน์’ ลูกสาวก็หยุดรถแล้วมองไปที่ต้นชมพู่ต้นใหญ่ที่ลูกออกดกทุกปี ก่อนพูดว่า
‘แม่ลีขา ชมพู่บ้านนี้ดกจัง ทำไมคนในบ้านเขาไม่เก็บล่ะคะ’
‘เขาไม่เก็บก็เรื่องของเขา บ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่ เพราะคุณหญิงรำไพท่านเสียไปหลายปีแล้ว’ เธอตอบลูกไปตามเรื่อง
‘สงสารน้องชมพู่จังค่ะ คงเหงาน่าดู’
‘ไปเถอะ’ วราลีบอกเสียงเข้ม แล้วเห็นว่าขนมชั้นยังแอบเหล่หันกลับไปมองที่ต้นชมพู่ แม้จะขี่จักรยานนำหน้าเธอไปแล้ว
‘ไม่ต้องไปมองของเขา เดี๋ยวแม่ไปตลาดตอนเย็นจะซื้อให้สองกิโลเลย’
‘แต่มันไม่น่ากินเหมือนชมพู่ต้นตะกี้นี่คะ’
‘พูดมากเหลือกิโลเดียว’ เท่านั้นขนมชั้นก็ไม่พูดอะไรอีก
นึกมาถึงตรงนี้ วราลีก็รู้แล้วว่าแม่ตัวแสบหนีหายไปที่ไหน
“ลีรู้แล้วค่ะพี่พลอย ว่ายัยขนมชั้นหายไปไหน”
วราลีรีบคว้าจักรยานแล้วตรงไปที่บ้านหลังใหญ่ที่เธอรู้ดีว่า หลังประตูรั้วนั้น ภายในบ้านตกแต่งอย่างเรียบหรูสวยงามสมฐานะมหาเศรษฐี เธอเคยไปที่นั่นบ่อยครั้งตอนคุณหญิงรำไพยังมีชีวิตอยู่ และมักจะเลี่ยงไม่ผ่านมาทางบ้านหลังใหญ่นั้นอีกภายหลังการเสียชีวิตของเสาหลักในตระกูลสราญพิพัฒน์ แม้ว่าจะมีความร่มรื่นของต้นไม้มากกว่าทางที่เธอใช้ประจำเพื่อไปสำนักงานก็ตาม
ไม่นานวราลีก็มายังจุดหมายแล้วต้องตกตะลึง ไม่คิดเลยว่าเหตุการณ์ที่กลัวมาตลอดจนไม่ยอมปล่อยปละละเลยลูก ยกเว้นวันนี้ที่พลาดจะเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา โจรจับเด็กยุคนี้มันคงเลี่ยงรถตู้ติดฟิล์มดำอำพรางสายตา แต่ใช้รถครอบครัวแบบเจ็ดที่นั่งเข้ามาจับเด็กแทน
ภาพที่เห็นทำให้วราลีแทบจะผลักจักรยานที่ขี่มาทิ้งแล้ววิ่งเข้าไปหาผู้ชายร่างสูงใหญ่คนนั้นให้เร็วที่สุดคือ มันกำลังเอาจักรยานสีชมพูลายคิตตี้ของลูกสาวเธอใส่หลังรถที่เปิดออก คาดว่าขนมชั้นคงถูกมันจับมัดเอาไว้ในตัวรถเรียบร้อยแล้ว
“แก! แกทำอะไรลูกสาวฉัน!”
คนเป็นแม่รูปร่างผอมบางในชุดเสื้อเชิ้ต กางเกงสีดำเข้ารูป พุ่งตัวไปกระชากคอเสื้อไอ้ผู้ชายตัวสูงใหญ่ที่หันหลังให้อย่างไม่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
ฝ่ายคนที่กำลังพยายามดันจักรยานคันน้อยให้เข้าที่ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาจัดถุงใส่ชมพู่ขนาดสิบกิโลกรัมเข้าไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อถูกกระชากอย่างแรงก็หันกลับมามองอย่างหัวเสีย
“อะไรกันคุณ ใครทำอะไรลูกสาวคุณ” เขาไม่เคยพรากผู้เยาว์ ถึงแม้จะมีเด็กมาให้กินบ่อยๆ จนอิ่มเต็มท้องไม่เคยขาดแคลน แต่ก็อายุสิบแปดปีขึ้นไปทั้งนั้น
ดวงตาสองคู่สบกัน วราลีบอกไม่ถูกว่าทำไมชีวิตของเธอกับเขาถึงเวียนมาบรรจบกันอีก ทั้งที่เขาก็ไปอยู่อีกซีกโลกแล้วไม่ใช่หรือ สวรรค์เล่นตลกร้ายกับเธอเสียแล้วสิ
คุณแม่ยังสาวตะลึงงันเมื่อเห็นเต็มตาว่าคนที่เธอกระชากคอเสื้อเมื่อครู่คือ...
“คุณพชร!”
พชรก้มมองคนตัวเล็กที่สูงเพียงไหล่เขา ไล่ต่ำไปถึงเอวบางคอดที่จำได้ว่ายี่สิบสี่ แม้จะไม่ได้เห็นใบหน้านี้มาหลายปีแล้ว แต่เขาไม่มีทางลืมไปได้
“วราลี!”
“เรียบร้อยแล้วค่า พี่ชายใจดี”
ก่อนที่คนทั้งสองซึ่งกำลังตะลึงงันในการพบกันอีกครั้งจะพูดอะไรต่อ เสียงดังสดใสของเด็กหญิงก็ดังขึ้นพร้อมกับเดินถือชมพู่ลูกโตเต็มสองมือออกมาจากรั้วบ้าน เพราะเจ้าของต้นชมพู่บอกว่า เธอคงขี่จักรยานหอบถุงชมพู่กลับบ้านไม่ไหวจึงจะขับรถไปส่ง
แต่เมื่อเห็นผู้หญิงรูปร่างผอมบางคุ้นตา ทรงผมก็ใช่ การแต่งตัวเป๊ะเหมือนตอนเช้า เด็กหญิงก็กลืนน้ำลายลงคอดังอึก!
‘เอ่อ... ตายละหว่า’
แล้วขนมชั้นก็นึกได้ว่า การที่หายมานานแบบนี้ ก่อนที่เธอจะได้กินชมพู่หวานกรอบจนหมดถุง แล้วแบ่งมันเป็นถุงๆ มัดหูหิ้วไว้เอาไปฝากป้าพลอยใสแลกกับซาลาเปาสักสามลูก ตามด้วยเอาไปฝากคุณยายชื่น บ้านซอยสี่ที่ขายขนมโตเกียว เพราะหวังจะได้โตเกียวแสนอร่อยติดมือกลับมาอีกอย่าง เธอคงได้กินก้านมะยมหวานจากต้นหน้าบ้านของตัวเองก่อน
“ขนมชั้น...!” วราลีกดเสียงลงต่ำ ปรายสายตาดุจัดไปมองแม่ตัวกลม
“แม่ลี...” รอยยิ้มแป้นจางหายเพราะสายตาแม่ดุมาก ขนมชั้นรู้ตัวว่าหายมานาน ร่างเล็กจึงสะดุ้งโหยงเมื่อแม่ลีเรียกชื่อตัวเองจบ ชมพู่สีสวยลูกโตร่วงตกจากมือลงบนพื้น จะก้มเก็บด้วยความเสียดายก็ไม่ได้เพราะแม่จ้องเขม็งอยู่
พชรปรายตามองสองคนแม่ลูกสลับกันไปมา ยัยเด็กหน้าตาคล้ายคุณย่ารำไพเป็นลูกของวราลีอย่างนั้นหรือ
“อย่าบอกนะ หนูขนมสามชั้นนี่... ลูกคุณ”
