ภรรยาขึ้นหิ้ง

153.0K · จบแล้ว
บุษบาบัณ/นศามณี
109
บท
18.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

พชร เดินทางมารับมรดกบ้านหลังใหญ่ที่คุณย่าทิ้งไว้ให้ทายาทเพียงหนึ่งเดียว ที่ริมรั้วใต้ต้นชมพู่เก่าแก่ปรากฏเด็กน้อยตัวอ้วนกลมกำลังแหงนคอตั้งบ่า ส่งเสียงใสๆ ขอเก็บลูกชมพู่ผลไม้สุดโปรดของเขา เขานึกเอ็นดูสาวน้อยพุงย้อยตาหยี ที่มีชื่อว่า ‘ขนมชั้น’ แล้วก็เริ่มแปลกใจที่เบ้าหน้าแม่หนูคนนี้เหมือนเขาอย่างกับโคลนนิ่งมา… ยิ่งน่าสงสัยไปอีก เมื่อเสียงเจื้อยแจ้วแนะนำตัวว่าเป็นลูกสาวของแม่ วราลี แล้วสิ่งที่คาใจก็คลี่คลาย เมื่อเขาเห็นคนรักเก่ากำลังยืนถือก้านมะยมในมือมองมาตาเขม็ง! “คุณลุงเจ้าที่ขา ชมพู่มีตั้งเยอะ แล้วคุณลุงเจ้าที่จะกินชมพู่คนเดียวหมดเหรอคะ” “เมื่อกี้เรียกฉันว่าลุงก็ตั้งใจจะให้ชมพู่หนูลูกหนึ่ง แต่ยังหาว่าฉันเป็นลุงเจ้าที่อีก…” เขากอดอกแล้วแกล้งถอนใจ “เฮ้อ…แบบนี้เอาไปครึ่งลูกก็พอมั้ง” ดวงตาสีเข้มชำเลืองมองแล้วแอบยิ้มเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กหน้าซีดทันที พชรใช้มือสองข้างกดชมพู่ลูกโตแก่จัดเพื่อแบ่งเป็นสองซีกเท่าๆ กันจากนั้นก็ส่งชมพู่ซีกหนึ่งให้สาวน้อยตรงหน้า “หวาน กรอบ” พชรยิ้มมุมปากพลางลอบสังเกตสีหน้าเศร้าไปถนัดตาแล้วกลั้นขำ “รับไปสิ” ขนมชั้นเหลือบตามองชมพู่ซีกเดียวอย่างชั่งใจ สายตายายตัวแสบมองส่วนแบ่งราวกับว่าเขาเป็นคนใจร้าย ขี้งกหวงของ ชมพู่ออกจะดกเต็มต้นแต่แบ่งให้เธอแค่ครึ่งลูก แต่พอเจ้าของชมพู่เอ่ยขึ้นว่า… “เอาซีกนี้ไปชิมดูก่อน ถ้าหนูชอบ ฉันจะเก็บให้เต็มถุงเลย” เพียงเท่านั้น แม่หนูขนมชั้นจอมแก่นประจำซอยแปด ก็เปลี่ยนท่าที ส่งรอยยิ้มหวานปนเสียงหัวเราะแหะๆ ให้ขณะมองหน้าคุณลุงเจ้าที่ที่ตัวเองเพิ่งคิดว่า ‘ขี้งก’ ไปเมื่อตะกี้ “ขอบคุณค่ะ พี่ชายใจดี” “พอบอกจะเก็บชมพู่ให้เต็มถุง ฉันหนุ่มขึ้นมาทันทีเลยนะ เรานี่มันแสบเกินอายุจริงๆ แต่เรียกพี่ก็ดีเหมือนกัน ฉันยังไม่แก่ อืม…แต่จะว่าไปแล้วก็คงน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อแม่หนูนั่นแหละมั้ง อีกอย่าง ฉันไม่ใช่เจ้าที่ แค่เป็นเจ้าของบ้านคนใหม่ แล้วก็เป็นเจ้าของชมพู่ต้นนี้ด้วย” “รับทราบค่ะ วันหลังขนมชั้นจะไม่ขอชมพู่กับเจ้าที่ จะมาขอกับพี่ชายนะคะ” ‘ลูกใครวะ เป็นงานจริงๆ

แต่งงานก่อนรักนิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันพ่อเลี้ยงสัญญาทางรักรักวัยรุ่นพระเอกเก่งตลก

ตอนที่ 1-1 หนูชื่อขนมชั้นค่ะ

“เจนค่ะ เจนค่ะ

หนูชื่อเจน มากับนุ่น และก็มากับโบว์

นุ่นค่ะ นุ่นค่ะ

หนูชื่อนุ่น มากับเจน และก็มากับโบว์

โบว์ค่ะ โบว์ค่ะ

หนูชื่อโบว์ มากับนุ่น และก็มากับเจน

ลัลลั้ลลา ลัลลัลลั้ลลา มาม้ามา ม้ามา มาออกมาเต้น

ลัลลั้ลลา ลัลลัลลั้ลลา มาม้ามา ม้ามา มาออกมาเต้น”

วราลีเม้มริมฝีปากแน่น แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกเรียกสมาธิทำงานกลับมา แต่นิ้วเรียวที่กำลังพิมพ์ตัวเลขเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บค่าส่วนกลางของหมู่บ้านลงบนแป้นแล็ปท็อปกลับกลายเป็นคำว่า ‘เจนค่ะ’

“โอ๊ย แม่ไม่ไหวแล้วนะคะขนมชั้น แม่ฟังเจน นุ่น โบว์ รอบที่ร้อยแล้วมั้ง” วราลีลุกพรวดจากโต๊ะทำงาน แล้วปรายตามองไปทางเด็กหญิงร่างกลมที่ยังไม่ได้ยินน้ำเสียงกึ่งดุกึ่งขำของคนที่กำลังเดินตรงมา

“เจนค่ะ หนูชื่อเจน...” ขนมชั้นยังทั้งร้องทั้งเต้นอย่างสนุกสนาน ทว่าเสียงผิดคีย์ที่ดังอยู่นั้นแตกต่างจากต้นฉบับมากมาย ที่ทำได้ดีคือท่าเต้นที่พลิ้วไหวขัดกับรูปร่างอวบกลม และใบหน้าอิ่มน่าเอ็นดูนัก

‘หมู่บ้านธารรินวิลล์’ เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่กว่าหนึ่งพันหลังคาเรือน ประกอบไปด้วยโซนทาวน์โฮมหรู และบ้านเดี่ยว ที่แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ห้างสรรพสินค้า สนามบิน โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย วราลีมีเหตุให้ต้องลาออกจากงาน แล้วได้ ‘ธีระ’ ประธานหนุ่มตัวแทนของหมู่บ้านชวนมาทำงานในสำนักงานส่วนกลาง

ภายในออฟฟิศน็อกดาวน์ขนาดห้าสิบคูณสิบสามเมตร เวลาปกติจะมีเพียงวราลีทำงานอยู่คนเดียว ส่วนเวลาหลังเลิกงาน ธีระและสิตา ประธานและรองประธานของหมู่บ้าน รวมถึงกรรมการของหมู่บ้านคนอื่นๆ จะแวะเวียนเข้ามาเป็นบางครั้ง แต่เวลานี้ หนูน้อยขนมชั้น ลูกสาววัยหกขวบของเธออยู่ในช่วงปิดเทอม วราลีจึงต้องพาแม่หนูน้อยมาอยู่ที่ออฟฟิศด้วย แล้วกันพื้นที่ส่วนหนึ่งให้ขนมชั้นอ่านหนังสือ วาดภาพ หรือเล่นของเล่นเสริมพัฒนาการ

ทว่า ‘ขนมชั้น’ หรือ เด็กหญิงหรรษา ภัทรปรีดากุล ไม่ชอบเล่นตัวต่อ และก็เบื่อวาดภาพแล้ว เพราะหลังจากวาดภาพตามจินตนาการหมดกระดาษไปสิบกว่าแผ่น เด็กหญิงก็ละทิ้งทุกอย่างขึ้นมาร้องเพลงสุดฮิตหนึ่งในไวรัลที่เด็กๆ ในหมู่บ้านพากันร้องได้ทุกคน

“ขนมชั้น ตอนนี้สมองแม่กำลังเต้นตุบๆ ตามเพลงของหนูไปแล้ว”

ร่างเพรียวระหงในชุดเสื้อเชิ้ตสีครีม กางเกงสีสุภาพเดินมาหยุดมองลูกสาวที่ยังเต้นอย่างเมามันราวกับเมานมเปรี้ยวที่ดื่มเข้าไปสองขวดรวด

ปลายนิ้วชี้ของวราลีเลื่อนไปสัมผัสปิดเสียงเพลงจากโทรศัพท์มือถือ หนูน้อยขนมชั้นในชุดเดรสสีเขียวเป็นชั้นๆ สมชื่อขนมชั้นหันมามองหน้าแม่แล้วทำหน้าตกใจ

“แม่ลีขา ปิดเพลงของขนมชั้นทำไมคะ”

เสียงเพลงที่ดังมาจากโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าของวราลีหยุดลง ซึ่งเธอเอาไว้ใช้เปิดสื่อการเรียนการสอนจากยูทูบให้ลูกสาวดูเป็นบางครั้งบางคราว แต่ด้วยความหัวไวของเด็กยุคนี้ แค่เธอลืมวางไว้ เด็กหญิงก็แอบหยิบขึ้นมาจิ้มๆ เลื่อนๆ หาคลิปวิดีโอเพลงสุดฮิต แล้วเปิดดูพร้อมกับโยกย้ายส่ายสะโพกกลมๆ ตามได้อย่างไม่ผิดสเต็ป

“เพลงของขนมชั้นมันดัง ทำให้แม่ลีคีย์ยอดค่าส่วนกลางผิดๆ ถูกๆ ไงคะ ตอนนี้สมองแม่มันเต้นตุบๆ ไปหมดแล้วค่ะ”

“ขนมชั้นร้องดีจนสมองแม่อยากออกมาเต้นเลยเหรอคะ”

วราลีมองหน้ายัยตัวกลมที่เห็นทีไรก็ราวกับมีหน้าใครบางคนทับซ้อนขึ้นมา “ไม่ใช่ค่ะ หมายถึงแม่ลีปวดหัวค่ะ”

เด็กหญิงพยักหน้าเศร้าอย่างเข้าใจคนเป็นแม่ “ขนมชั้นขอโทษค่ะ”

วราลีเห็นสายตาไร้เดียงสาของลูกสาวก็เกิดความรู้สึกใจอ่อนยวบ รู้ว่าลูกเหงาเพราะช่วงนี้ปิดเทอม สัญชาตญาณความเป็นแม่ทำให้เธอทรุดกายลงแล้วจับมือป้อมๆ ของลูกสาว

“เหงาเหรอคะขนมชั้น”

เนื่องจากเป็นช่วงสิ้นเดือนที่เธอเพิ่งจะเก็บค่าส่วนกลางลูกบ้าน วราลีต้องทำรายงานสรุปยอด และเช็กว่ายังไม่ได้เก็บค่าส่วนกลางบ้านหลังไหนบ้าง จึงไม่ค่อยมีเวลาเล่นกับขนมชั้น

“งั้นเอาแบบนี้ แม่ลีอนุญาตให้ไปขี่จักรยานรอบสวนได้ แต่ห้ามไปไกลนะคะ”

คนหน้าม่อยที่กำลังก้มหน้างุดๆ เมื่อครู่นี้เงยหน้าขึ้นมาทันที พร้อมยิ้มแก้มปริ

“โอเคค่ะ แม่ลี”

แม่ตัวแสบจอมเจ้าเล่ห์คิดอยู่ในหัวไว้แล้ว ถ้าเธอร้องเพลงเต้นแรงๆ สักพัก แม่ลีจะทำงานไม่ได้ แล้วต้องบอกให้ไปขี่จักรยานแทน เพราะที่จริงแล้วเธออยากขี่จักรยานเล่นรอบสวนร่มรื่นนี้มากกว่าทนอยู่ในออฟฟิศน็อกดาวน์นี้ แต่แม่ลีมักไม่ปล่อยให้ออกไปขี่จักรยานเล่นตามลำพัง

“ห้ามไปไกล ห้ามออกจากบริเวณสวนนะคะขนมชั้น เข้าใจที่แม่พูดไหม”

“รับทราบค่ะแม่ลี” น้ำเสียงสดใส ดวงตาบริสุทธิ์ไร้เดียงสาวาบขึ้นอย่างแอบมีแผนการ

ร่างอ้วนกลมที่ขี่จักรยานคันเล็กของเธอเก่งแล้วหันหลัง และแทบจะพุ่งตัวไปที่ประตูทางเข้าออกของออฟฟิศ วราลีมองตาม ที่ยอมอนุญาตให้เด็กหญิงออกไปได้เพราะข้างโต๊ะทำงานของเธอเป็นส่วนของแผงควบคุมกล้องวงจรปิดในหมู่บ้าน เธอจะเห็นว่าขนมชั้นเล่นอยู่ตรงไหน

“อย่าดื้อนะคะ”

ไม่มีเสียงตอบรับ เพราะเมื่อยัยตัวกลมหน้าใสกิ๊กกระโจนออกไปจากประตูได้ก็เหมือนจะติดปีกบิน รีบตรงไปยังที่จอดจักรยานคันสีชมพูลายคิตตี้ ไม่ลืมหยิบหมวกกันน็อกที่แม่ซื้อให้มาสวม ก่อนจะรีบขี่จักรยานออกตัวไปอย่างมีจุดหมาย

เมื่อวานเย็นที่ตามแม่ไปเก็บค่าส่วนกลาง แม่หนูตาดีเห็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่สุดในหมู่บ้านนี้ และอยู่ไม่ห่างจากบริเวณสวนสาธารณะมากนัก มีต้นชมพู่ที่ออกลูกสีแดงดกเต็มต้น และกิ่งของมันยังยื่นออกมานอกรั้ว

ขนมชั้นเคยถามแม่ว่าบ้านใคร แม่ตอบสั้นๆ ว่าบ้านเศรษฐี แต่เขาไปอยู่เมืองนอกหลายปีแล้ว

แม่ตัวแสบยิ้มกริ่ม เธอสงสารน้องชมพู่ที่ไม่มีใครเด็ด น้องชมพู่คงจะเหงา เมื่อเช้าเธอพกถุงพลาสติกใบใหญ่ใส่กระเป๋ากระโปรงมาด้วยโดยที่แม่ไม่เห็น อยากเชิญชวนน้องชมพู่ผลแดงๆ มารวมกลุ่มกันอยู่ในนั้นเอามากๆ จะได้หายเหงา

“น้องชมพู่ รอขนมชั้นเดี๋ยวเดียวนะ ขนมชั้นจะไปเก็บชมพู่มาเล่นด้วย”