บท
ตั้งค่า

6. หนี

ไป่ชวนค่อย ๆ แก้ผ้าพันแผลออกอย่างแผ่วเบา เพราะเกรงว่าตนจะทำให้นางเจ็บ “ดีที่แผลไม่ปริ ไยเจ้าถึงไม่รู้จักระวังตัวฮึ ภายหน้าหากต้องแต่งงานจริง ๆ ไม่เกรงตระกูลของสามีเจ้าจะต่อว่าเอาหรือ ไม่รู้จักห่วงร่างกายตนเองเลย” คราวนี้เสียงตำหนิของท่านหมอต่างออกไปจากเดิมมาก

ก็มันจริงเช่นที่เขาว่า สตรีทุกนางล้วนแต่ห่วงสวยกันทั้งนั้น หากเป็นผู้อื่นคงร้องคร่ำครวญไปนานแล้วแต่นี่ยังเฉยอยู่อีก

หญิงสาวย่นคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ เพราะท่าทางของท่านหมอดูประหลาดนัก มิหนำซ้ำเขายังตำหนินางมากมายอีก

“ข้าแค่ไม่อยากรบกวนท่านหมอไปเสียทุกอย่าง หากภายหน้าท่านขับไล่ ข้าจะมีชีวิตอยู่ได้เยี่ยงไร” บอกไปอย่างที่คิด ตนและเขาต่างก็เป็นเพียงคนแปลกหน้าที่มีข้อตกลงกันเท่านั้น

หากต่อไปเขาพบคนถูกใจเล่า นางจะไปอยู่ที่ใด

“เพ้อเจ้อ” ประโยคสั้น ๆ ที่ทำเอาคนฟังถึงกับหน้าหรา

“ก็มันจริง ท่านอาจพบรักมีครอบครัวในสักวัน”

“เจ้าจะไปได้ก็ต่อเมื่อเจ้าอยากไป เราตกลงกันแล้วข้าจะไม่พูดซ้ำอีก เจ้าอยากอยู่นานเท่าใดก็แล้วแต่เจ้า ขอแค่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวนอกเหนือจากที่เราตกลงกันก็พอ” กำชับถึงเรื่องที่พูดคุยกันไว้ ทำเอาคนฟังถึงกับยิ้มทันที

“จริงนะเจ้าคะ ท่านหมออย่าหลอกข้านะ ข้าจำสิ่งใดไม่ได้ กังวลว่าท่านจะรำคาญแล้วทอดทิ้งข้าไม่ไยดีอีก” บอกเสียงตื่นเต้นดีใจ พร้อมกับยิ้มจนตาหยีส่งให้เขา

ไป่ชวนชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะขยับมือทายาต่อ พร้อมคำตอบที่ดังมาจากลำคอ “อืม” จากนั้นเขาก็จัดการพันผ้ารอบเอวให้หลังจากใส่ยาเสร็จ ซึ่งเขาก็ใช้เวลาไม่นานเช่นเคย

“ขอบคุณเจ้าค่ะ” กล่าวบอกเสียงหวาน

“รีบกินข้าวจะได้กินยา” ถาดอาหารถูกยกมาวางบนเตียง และไป่ชวนก็นั่งกินด้วย ทำเอาคนเจ็บเกิดอาการประหม่าทันที ทว่านางก็ต้องแสร้งทำตัวปกติเพื่อไม่ให้เขารู้ กระทั่งกินเสร็จ

“ข้าจะลงเขาไปเอาของ มีตงตงอยู่ด้วยไม่ต้องกังวลไปล่ะ” บอกให้นางเบาใจ เพราะเกรงหญิงสาวจะกลัวที่ต้องอยู่ลำพัง เพราะก่อนนั้นนางหมดสติต่างจากยามนี้ เขาเลยเกรงคนตัวเล็กจะอยู่ไม่ได้ ตื่นกลัวการอยู่ในป่าขึ้นมา

“ข้าอยู่ได้เจ้าค่ะ ท่านหมอไปเถอะ ระวังตัวด้วยนะเจ้าคะ” บอกเขาให้เบาใจเช่นกัน ทว่าประโยคหลังมันทำให้ไป่ชวนนิ่งไป เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครกล่าวกับเขาเช่นนี้เลย ทว่าคำตอบเขามันก็มีแค่ “อืม” ก่อนจะเดินออกจากถ้ำอย่างเงียบ ๆ

สามีในนามจากไปแล้ว คนบนเตียงจึงนึกถึงคำของสองพ่อลูกที่กล่าวถึงความวุ่นวายในเมืองหลวง

“หานเยว่ พี่หวังว่าเจ้าจะปลอดภัยนะ” นึกถึงน้องชายของตน ซึ่งหนีการตามล่าของทหารกบฎออกมาพร้อมกัน

นางไม่ได้ความจำเสื่อมเช่นที่บอกกับไป่ชวน เพราะหญิงสาวไม่อาจเอ่ยถึงฐานะที่แท้จริงของตนได้ เกรงว่าวันหน้าจะไม่ปลอดภัย ไม่รู้ว่าครอบครัวของท่านหมอผู้นี้จะมีกี่คน และคบค้ากับคนกลุ่มไหนบ้าง ทำตัวให้ว่าง่ายไปจนกว่าจะหาลู่ทางได้น่าจะดีกว่า นางจึงต้องแสร้งเป็นคนที่ความจำเสื่อมไปก่อน

ไป่ชวนลงมาจากเขาก็ตรงไปที่ร้านอาภรณ์ในตำบล นานแล้วที่เขาไม่ได้มาที่นี่ เพราะปกติเสื้อผ้าที่ใส่เขาจะซื้อเพียงปีละครั้งและซื้อไว้หลายชุด ทว่าวันนี้ข้าวของที่เขาต้องการ ล้วนแต่เป็นของสตรีทั้งนั้น สร้างความประหลาดใจให้กับเถ้าแก่เป็นอย่างมาก จนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามให้รู้ความ

“ท่านหมอ ที่เรือนมีญาติมากระนั้นหรือ”

“ข้าซื้อให้ภรรยาขอรับ” เสียงเรียบดังขึ้น ก่อนจะหยิบเงินออกมาจ่าย แล้วเดินออกไปทิ้งความสงสัยให้คนแก่อยู่เช่นนั้น

“ให้ภรรยา? ท่านหมอแต่งงานตั้งแต่เมื่อใด ไยข้าไม่รู้” เกาหัวพร้อมกับเดินออกมาหน้าร้าน มองตามร่างสูงที่เอ่ยกับตนเมื่อครู่

หวังว่าจะเห็นเขาเดินไปหาสตรีสักนาง แต่ก็เปล่าเลย เส้นทางที่ไป่ชวนตรงไปก็คือทางกลับบ้าน และท่าทีของเขาก็ดูรีบร้อนยิ่งนัก ไม่แวะทักทายผู้ใดเลยสักคน

เกือบเที่ยง ไป่ชวนก็กลับขึ้นเขามา ทว่าเขาต้องตกใจเมื่อพบว่าสองพ่อลูกก็อยู่ที่นี่ด้วย มากไปกว่านั้นคือลุงหยางบาดเจ็บ

“เกิดอะไรขึ้น…!” เขารีบวางข้าวของบนเตียง ซึ่งมีฟูหรงนั่งมองเสิ่นเทาใส่ยาให้บิดาด้วยสีหน้าหวั่นวิตก

“มีฝูงหมาป่าขอรับ ไม่รู้มันมาจากที่ใด ข้ากับท่านพ่อสู้มันไม่ไหว ปกติมีสองสามตัวก็พอเอาอยู่ แต่คราวนี้มันมากันนับสิบ กว่าจะหนีลงมาได้ก็แทบแย่” น้ำเสียงของเสิ่นเทายังคงติดสั่นเล็กน้อย เพราะไม่เคยต้องหนีหัวซุกหัวซุนเพียงนี้เลย

“ได้ยินว่าพวกทหารสั่งให้ปิดป่าแถบโน้น หมาป่าเหล่านี้มันคงพลัดหลงเข้ามาเพราะตื่นตกใจ จึงได้ล่วงล้ำเข้ามาในเขตของพวกเรา ดูท่าอีกไม่นานหมาป่ามันต้องตื่นเตลิดมาถึงที่นี่เป็นแน่” บอกข่าวที่ได้ยินมาตอนที่ลงเขา

สาเหตุนี้เองที่ทำให้ท่านหมอรีบร้อน เพราะเกรงสัตว์ป่าอันตรายทั้งหลายจะหนีลงมายังแถบนี้

“ทำเยี่ยงไรดีพี่ไป่ชวน ท่านพ่อก็เจ็บ จะให้ลงเขายามนี้ก็เกรงจะไม่รอด” ความกังวลเกิดขึ้นบนสีหน้าพรานหนุ่ม เพราะลุงหยางถูกหมาป่ากัดที่ขาลึกมาก ไหนจะแผลที่หัวไหล่อีก ด้านเสิ่นเทามีตรงแขนและช่วงเอว แต่เขายังหนุ่มจึงยังพอมีแรงอยู่

“ฟูหรง เจ้าเดินไหวหรือไม่” หันมาถามคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนเตียง” อีกฝ่ายพยักหน้ารับทันที อยู่ที่นี่คงไม่ปลอดภัยจริง ๆ หมาป่ามันอาจจะได้กลิ่นคาวเลือดและตามมา

“ข้าจะแบกลุงหยาง เจ้ากับฟูหรงก็ประคองกันไป ตงตงเตรียมตัวให้ดี” หันมาสั่งแม้กระทั่งสุนัข ก่อนที่เขาจะแบกเอาลุงหยางขึ้นหลัง ยามนี้ไม่อาจชักช้าได้

หนึ่งเค่อต่อมา ทั้งห้ารวมเจ้าตงตงก็เดินลัดเลาะมาตามแนวแม่น้ำหลังจากลงจากเขามาแล้ว แม้ว่ามันจะมีระยะทางที่ไกลขึ้น ทว่าการเดินอยู่ริมน้ำเช่นนี้น่าจะดีที่สุด

หากมันตามมาทันและเข้าจู่โจม พวกเขาก็ยังหนีลงน้ำได้

และต่อมาเสียงหอนของจ่าฝูงก็ดังขึ้นมาให้ได้ยิน ทำเอาทั้งคนทั้งสุนัขต่างก็ตื่นตระหนกไม่น้อย ต้องคอยหันมองด้านหลังอยู่ตลอด เพราะเกรงจะถูกขย้ำเอาไม่รู้ตัว

โดยเฉพาะเสิ่นเทาที่ก้าวเดินช้ากว่าใครเพื่อน ก่อนนี้เขาก็แบกบิดาลงมาจึงทำให้ร่างกายอ่อนล้าเต็มที

“ท่านพี่ เสิ่นเทาคงไม่ไหวแล้ว” ฟูหรงเอ่ยบอกสามี ทำให้ร่างสูงต้องหยุดชะงักเท้าหันมาหาคนเจ็บที่ยามนี้เข่าทรุดไปแล้ว

“พี่ไป่ชวนพาท่านพ่อกับพี่สะใภ้หนีไปเถอะ ข้าไม่ไหวแล้วจริง ๆ” เสิ่นเทาเอ่ย เขาเสียเลือดมากจึงคิดว่าตนคงไม่รอด และไม่อยากเป็นตัวถ่วงให้ใคร หากไม่มีเขาทุกคนก็ต้องรอด

“พูดบ้าอันใดของเจ้า ข้าจะไม่ทิ้งใครไว้ทั้งนั้น” ตวาดเสียงดังลั่น ก่อนจะหันมาหาภรรยากำมะลอของตน “ฟูหรงหากเจ้าไหว เดินตรงไปตามแนวแม่น้ำนี้ ตงตงเจ้าไปกับนางด้วย อีกหนึ่งเค่อก็จะถึงหมู่บ้าน ให้เจ้ารีบตามคนมาช่วย ทำได้หรือไม่”

เอ่ยพร้อมกับวางคนเจ็บลงข้างต้นไม้ แล้วก้าวเข้ามาหาร่างเล็กที่มีท่าทีลังเลอย่างเห็นได้ชัด ใช่ว่านางจะกลัวที่ต้องเดินไปคนเดียว ทว่าในใจไม่อาจทอดทิ้งคนทั้งสามไปได้เท่านั้น กว่าตนจะไปหาคนช่วยได้ก็เกรงว่าทั้งสามจะไม่รอด เพราะมีแต่คนเจ็บ อีกคนก็เป็นหมอจะสู้กับหมาป่าได้เยี่ยงไรกัน

“รีบไป! อย่ามัวโอ้เอ้” ยังมิวายดุ เมื่อเห็นนางยังไม่ยอมก้าวขาเดิน “ฟูหรง!” ครานี้เป็นเสียงตะคอก

“ปะ ไปแล้ว” รับคำก่อนจะเดินตรงไปตามทาง แม้มันจะทุลักทุเลเพราะยังเจ็บแผลอยู่ แต่ยามนี้ชีวิตคนสำคัญกว่า ทำให้สตรีตัวน้อยเร่งฝีเท้าราวกับตนนั้นไม่มีบาดแผลบนตัว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel