บท
ตั้งค่า

5. ดูแลอย่างดี

ไป่ชวนมองสตรีตรงหน้าด้วยสายตากดต่ำ นางจะเอาอย่างไรก็ไม่พูด มิหนำซ้ำรอยยิ้มที่เผยออกมายังดูมีเลศนัยอีก

“ไม่ตกลงหรือ” ถามอีกครั้ง เมื่อเห็นนางยังนิ่ง

“ได้ ข้าจะเป็นภรรยาท่าน” จู่ ๆ นางก็รับคำอย่างน่าตกใจ

“หากรับงานก็เรียกให้ถูก ท่านพี่ แล้วก็พูดจาให้มีหางเสียงด้วย จากนี้ต้องทำหน้าที่ให้ดี ทำให้ทุกคนเชื่อว่าเจ้าคือภรรยาข้า แต่ถ้าวันไหนเจ้าอยากไปก็บอก ข้าจะไม่รั้งเจ้าไว้ ทว่าหากเจ้าอยากตามหาครอบครัว คงต้องรอให้บ้านเมืองสงบสุขเข้าที่เข้าทางมากกว่านี้ก่อน ไม่ต้องห่วงถึงยามนั้นข้าจะให้สหายช่วยตามหาญาติให้เจ้าอีกแรง ถือว่าตอบแทนที่เจ้ายอมรับข้อเสนอของข้าในวันนี้” ท่านหมอเอ่ยเป็นการเป็นงาน

สิ้นคำเขาก็พลิกตัวนอนมองเพดาน ก่อนจะปิดเปลือกตาลง คนเจ็บเอียงหน้ามองเล็กน้อย พร้อมกับนึกในใจ

‘นี่คงเป็นทางเดียวที่เราจะมีชีวิตรอดต่อไป หาลู่ทางได้เมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน’ นึกแล้วก็ขยับหมายจะนอนหันหลังให้เขา ใครมันจะทำใจนอนกับคนแปลกหน้าได้ง่าย ๆ กัน

“แผลยังไม่ปิดอย่าขยับให้มาก หรืออยากให้ข้าทายาให้ทุกวัน เจ้าคงไม่ได้เป็นเหมือนสตรีพวกนั้นหรอกนะ” เสียงตำหนิเอ่ยออกมาพอให้ได้ยิน ริมฝีปากอิ่มคว่ำลงทันที

“ชิ!...ใครเขาอยากให้ทากันล่ะ ต่อไปข้าทาเองก็ได้ หลงตัวเองเกินไปแล้ว” ปากบ่นพึมพำ สองแขนก็ยกขึ้นมากอดอก

“หึหึ” เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้น ก่อนที่ร่างกำยำของท่านหมอจะพลิกตัวกลับมาหานางอีกครั้ง จากนั้นเขาก็มุดเข้าผ้าห่มพร้อมกับกอดไว้ราวกับเป็นสามีภรรยากันจริง ๆ “หวังว่าเจ้าจะยังไม่มีสามีหรือคู่หมาย เพราะข้าไม่อยากทำผิดต่อใคร” บอกผู้ที่นอนตัวแข็งทื่อไม่ขยับเขยื้อน ดีที่ยังมีลมหายใจพ่นออกมาบ้าง

“นอนเถอะ ก็แค่วันนี้ที่ข้าจะกอดเจ้าไว้ ผ้ามีแค่ผืนเดียว ข้าไม่เสียสละจนทำให้ตนเองหนาวตายหรอก” ถ้อยคำของคนตัวโตช่างยียวนนัก ปากอิ่มก็ได้แต่คว่ำลงเพราะทำอันใดไม่ได้

‘ชิ เช่นนั้นก็ถือว่าข้าตอบแทนที่เจ้าช่วยชีวิตแล้วกัน’ นึกในใจก่อนจะปิดเปลือกตาลง ยามนี้เสียงพูดคุยของพ่อลูกก็เงียบไปแล้ว คาดว่าทั้งคู่คงหามุมสงบพักผ่อนแล้วกระมัง

รุ่งสางของวันใหม่ สองพ่อลูกก็เตรียมตัวขึ้นเขาล่าสัตว์อีกครั้ง ด้านไป่ชวนได้ลุกมาหุงหาอาหารและเตรียมยาให้ภรรยา

“ข้าเสียดายยิ่งนักที่ไม่ได้เจ้ามาเป็นหลานเขย หากชิงสุ่ยรู้ นางคงร้องไห้เสียใจเป็นแน่” ลุงหยางเอ่ยอย่างที่คิด คนฟังก็ได้แต่ยิ้ม ไป่ชวนรู้ดีว่าผู้อาวุโสเอ็นดูเขามาก

“ชิงสุ่ยเป็นสตรีที่ดี ภายภาคหน้านางต้องได้พบกับบุรุษที่คู่ควรแน่ เหมือนที่ข้าได้พบรักกับฟูหรง ข้าสัญญากับนางว่าจะมีรักเดียว ไม่ข้องแวะกับสตรีใดอีกตราบชั่วชีวิต” มันเป็นการสื่อให้ลุงหยางรับรู้อยู่กลาย ๆ ว่าอย่าให้หลานสาวเขามายุ่งเกี่ยวอีก

คนแก่เอี้ยวหน้ามามอง “เช่นนั้นเจ้าสองคนก็ดูแลกันให้ดีล่ะ พักอยู่ที่นี่ให้เรื่องซาก่อนค่อยลงไปก็ได้” ยังแนะคำเดิม ก่อนจะยกมือขึ้นตบไหล่อีกฝ่ายเบา ๆ แล้วชักชวนบุตรชายตนออกไป

แค่ก! แค่ก! เสียงคนเจ็บดังขึ้น พร้อมกับพยุงกายตนลุกนั่ง ตงตงร้องเห่าก่อนจะวิ่งมาคาบกระบอกน้ำส่งให้อย่างรู้ความ

“ขอบใจนะตงตง” บอกพร้อมกับลูบหัวมันด้วย

“อยากไปทำธุระหรือเปล่า” ถามเสียงทุ้มอ่อน ซึ่งมันก็เป็นปกติอยู่แล้วยามไป่ชวนเอ่ยกับคนไข้ของเขา

“เจ้าค่ะ” ตอบรับพร้อมกับขยับกายลงจากเตียง ไป่ชวนเพียงแต่ยืนมองเท่านั้น อยากรู้ว่านางจะไปได้ไกลแค่ไหน อีกไม่นานคงร้องโอดครวญเหมือนสตรีทั่วไปนั่นแหละ ยิ่งรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นเช่นนี้ด้วยแล้ว มีแต่จะร้องเรียกให้สนใจเสียมากกว่า เพราะส่วนมากพวกนางก็เป็นเช่นนี้ยามเขารักษา

ทว่าคนตัวเล็กกลับพยุงกายเดินไปอย่างเชื่องช้า โดยใช้มือกุมท้องของตนเอาไว้ด้วย ก่อนจะหายเข้าไปในพุ่มไม้

“หึหึ เก่งนี่ ไม่ร้องให้ช่วยเลย” เอ่ยชมอีกฝ่าย ก่อนจะหันมาสนใจเตาที่กำลังต้มข้าวอยู่ ทว่า!

“ทะ ท่านหมอช่วยด้วย ข้าลุกไม่ไหว” เสียงร้องเรียกดังขึ้น แต่ผู้ที่วิ่งได้ก่อนคือเจ้าตงตง มันรีบมุดเข้าไปในพุ่มไม้ทันที

“ว๊าย!! ตงตงข้าตกใจหมด” ส่งเสียงตำหนิ เพราะเจ้าตูบดันพุ่งพรวดเข้าหา ทำเอาคนที่นั่งยองอยู่นั่งแหมะลงทันที

“ออกไปนั่งรอข้างนอกเลย วิ่งมาคิดว่าจะแบกนางไปได้งั้นหรือ เสร่อจริงเชียว” ผู้เป็นนายตำหนิบ้าง เจ้าตงตงเลยได้แต่หลุบตาต่ำอย่างสำนึกผิด ก่อนจะเดินออกมานั่งมองตาละห้อย ด้านไป่ชวนพอหันมาหาคนตัวเล็กก็ถอนหายใจแรง

“นอกจากดูแลเจ้าเป็นอย่างดีแล้ว ข้าก็ต้องซักผ้าเลอะฉี่เจ้าด้วยสินะ” ครานี้ตำหนิผู้ที่นั่งแหมะอยู่กับพื้นดิน เพราะตรงนี้ไม่มีหญ้าเลย อาภรณ์ที่สวมใส่จึงเลอะโคลนเต็มไปหมด

ฟูหรงยิ้มแหยใส่สามีกำมะลอของตน ก็คนมันตกใจจริง ๆ ใครจะอยากทำตัวเองเปรอะเปื้อนเลอะเทอะเช่นนี้

ไป่ชวนก้มลงมองสภาพนางแล้วก็เผลอยิ้ม นางเหมือนเด็กที่เล่นดินโคลนแล้วสกปรก ทว่านี่มันไม่ใช่น้ำฝนน้ำคลอง แต่เป็นน้ำที่นางขับถ่ายออกมา ยังดีที่นางแค่ปวดเบา ถ้าปวดหนักเขานึกสภาพไม่ออกเลย “จะเช็ดตัวหรืออาบน้ำ” เอ่ยถามพร้อมกับช้อนอุ้มนางขึ้น แล้วตรงไปที่หน้าถ้ำ

“มันหนาว” ตอบเสียงเบา ใครมันจะไปอาบไหว อากาศช่วงเช้ามันเย็นจับใจ ขืนโดนน้ำมีหวังนางชักตายเป็นแน่

“เช่นนั้นจะต้มน้ำให้ ราดแค่ช่วงล่างเอาแล้วกัน ด้านบนเช็ดเอา ไม่งั้นคงไม่หายเหม็น” บอกสิ่งที่คิดออกมา ทำเอาใบหน้างามขึ้นสีเรื่อทันที ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอเรื่องอับอายเช่นนี้มาก่อนเลย คนตัวโตก็ช่างกระไรย้ำอยู่ได้

“เจ้าค่ะ” รับคำเสียงเบา ทั้งอายทั้งสงสารเขา เมื่อถูกวางลงข้างกองไฟนางก็นั่งนิ่งไม่กล้าขยับ มองดูเขาจัดการทำนั่นทำนี่โดยไม่เอ่ยอันใดรบกวน เพราะเกรงว่าท่านหมอจะเกิดอาการหงุดหงิด ท่าทีเรียบเฉยนี้มันน่ากลัวกว่าคนขี้บ่นเสียอีก

“เดี๋ยวข้ายืนถือผ้าห่มบังให้ จัดการตนเองไหวหรือเปล่า”

“น่าจะได้เจ้าค่ะ” คราวนี้ไม่กล้าอวดดีอีกแล้ว เมื่อครู่ที่ออกไปเองเพราะไม่อยากรบกวนเขามากจนเกินไป สิ่งใดทำเองได้นางก็อยากทำ เพื่อให้ตนเองอยู่ได้อย่างสงบสุขที่สุด

“อย่าให้โดนแผล เสร็จแล้วก็สวมอาภรณ์เจ้าที่ใส่วันบาดเจ็บไปก่อน สาย ๆ ข้าจะลงไปหาชุดมาให้เปลี่ยน” เอ่ยบอกเมื่ออุ้มคนตัวเล็กมานั่งที่หน้าถ้ำ ข้างกันก็มีน้ำที่ผสมแล้วหนึ่งถัง

ก่อนที่ร่างสูงจะหมุนตัวออกไปยืนพร้อมกับกางผ้าห่มให้ สายตาเขาคอยมองซ้ายแลขวา และยังมีตงตงคอยดูต้นทางอีกแรง จนกระทั่งหนึ่งเค่อต่อมา เสียงเรียกจากด้านหลังก็ดังขึ้น

“เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ”

ไป่ชวนจึงค่อย ๆ ลดผ้าลง ก่อนจะหันกลับมาหานาง ซึ่งยามนี้ยืนทำหน้าเหยเกบอกบุญไม่รับอยู่

“กลัวอาภรณ์เปียกอีกเจ้าค่ะ” บอกทันที เมื่อเห็นเขามีสีหน้าเรียบ เพราะนางไม่ได้เปลี่ยนชุด

“ก็บอกแล้วว่าจะลงไปเอาชุดใหม่มาให้ แต่ช่างเถอะ” ตัดบทแล้วก็ช้อนอุ้มเอาคนตัวเล็กไปวางที่เตียง ก่อนจะปลดเชือกผูกเอวออก มือเล็กจึงรีบตะปบกุมมือเขาไว้

“จะดูแผล อย่าลืมสิยังต้องใส่ยาอีก” เสียงดุดังขึ้น มือเล็กจึงค่อย ๆ คลายออก ปล่อยให้เขาตรวจตราบาดแผลตามหน้าที่

‘ช่างเถอะ ก่อนนี้เขาก็เห็นหมดแล้ว อีกอย่างคนผู้นี้ก็ไม่ได้ชอบสตรี ดูเถอะหน้านิ่งเชียว’ นึกในใจถึงอิริยาบถของอีกฝ่าย ที่ยังคงท่าทางเช่นเคย ไม่มีอาการสั่นหรือวอกแวกเลยสักนิด

#โอ๋ ๆ ตงตง ถูกดุเสียแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel