บทย่อ
นางตกกะไดพลอยโจรต้องรับหน้าที่เป็นภรรยาเขา เพื่อเอาตัวรอด ส่วนเขารับนางเอาไว้เป็นไม้กันหมา หวังใช้นางเป็นเกราะกำบังจากสตรีทั่วทั้งเมือง แล้วเรื่องวุ่นวายก็บังเกิดขึ้นกับสถานะกำมะลอของทั้งคู่
1. ช่วยชีวิต
ณ ตำบลฉงอัน เขตชายแดนในแคว้นหนานจิ่ง ที่นี่มีประชากรประมาณหนึ่งพันคน รวมเด็กและคนแก่ด้วย ช่วงนี้เป็นฤดูเหมันต์ ทว่ามันไม่ได้หนาวจัดเช่นภูมิภาคอื่น ที่มีหิมะตกด้วย ยามกลางวันเมืองนี้ถือว่าอากาศดีใช้ได้ทีเดียว
“พี่ไป่ชวนข้าขอขึ้นไปเก็บสมุนไพรด้วยนะ” เสียงหวานเอ่ยกับชายหนุ่มซึ่งมีอายุห่างกว่ามาก เพราะไป่ชวนอายุยี่สิบเจ็ดแล้ว ส่วนคนที่พูดด้วยในตอนนี้ปักปิ่นไปได้ยังไม่ถึงปีเลย ทว่าพี่ชายของนางอายุอานามเท่ากับชายหนุ่มตรงหน้า จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่นางจะเรียกเขาเช่นนี้
และเขาก็ยังโสดไม่มีพันธะกับสตรีใด รูปร่างหน้าตาก็ดี อาศัยอยู่ที่ตำบลนี้ตั้งแต่อายุสิบห้า เป็นหมอที่มีฝีมือมาก รักษาคนป่วยหายขาดมานักต่อนักแล้ว จึงมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่ว แม้แต่สกุลใหญ่โตในเมืองยังอยากได้ไปเป็นลูกเขย
ทว่าหลี่ไป่ชวนกลับไม่สนใจที่จะเกี่ยวดองกับผู้ใด
ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะไม่มีผู้ใดอยู่บังคับแล้ว บิดามารดาล้วนแต่สิ้นใจไปตั้งแต่เขาอายุยังไม่ถึงยี่สิบ ไป่ชวนจึงใช้ชีวิตเพียงลำพัง มีสุนัขสีน้ำตาลนามว่าตงตงอยู่เป็นเพื่อน ยามขึ้นเขาเก็บสมุนไพรมันจะคอยวิ่งตามและระวังภัยให้เสมอ
“จะบ้าหรือ เจ้าเป็นสตรี จะไปด้วยได้เช่นไร” หันมาตำหนิเด็กสาววัยสิบห้าทันที นางมักจะมาเกาะแกะเขาอยู่เสมอ
“แต่ก่อนข้าก็ไปกับพี่ ไยยามนี้ถึงไปไม่ได้” นางยังคงรบเร้า พร้อมกับเดินตามคนตัวโตหมายจะไปด้วยอย่างที่พูด
“นั่นมันเมื่อก่อน มีชิงเฟยพี่ชายเจ้าอยู่ ทว่ายามนี้เขาไม่อยู่ เจ้าจะไปกับข้าแค่สองคนไม่ได้” ยื่นคำขาดเสียงดัง
ชายหนุ่มรู้ดีว่าคนตรงหน้าต้องการสิ่งใด ทว่าไป่ชวนให้ไม่ได้ เขาเอ็นดูนางไม่ต่างจากน้องสาวไม่เคยคิดเป็นอย่างอื่น
“แต่!” หมายจะเอ่ยท้วง ทว่าสีหน้าของไป่ชวนในยามนี้ดูไม่พอใจเป็นอย่างมาก ทำให้เด็กสาวต้องพาตนกลับเรือนไปในที่สุด ร่างสูงของหมอหนุ่มจึงเดินเลี่ยงไปคนละทาง เพื่อตรงไปขึ้นเขา จุดหมายเดิมที่ตนขึ้นไปหาสมุนไพรทุกครั้ง
สองชั่วยามต่อมา [4 ชั่วโมง] หมอหนุ่มก็มาหยุดยืนที่แม่น้ำสายหนึ่ง ซึ่งเขามักแวะมาที่นี่ประจำ ทว่าวันนี้มันกลับต่างออกไป เมื่อได้พบกับร่างของใครบางคนนอนคว่ำหน้าอยู่ริมน้ำ
โฮ่ง!โฮ่ง! เจ้าสุนัขสีน้ำตาลร้องเห่าผู้ที่ไม่ได้สติ ไป่ชวนจึงรีบจับร่างนางพลิกหงายขึ้น จับชีพจรอย่างชำนาญ พร้อมกับมองสำรวจตามร่างกายทุกที่ “ถูกแทงงั้นหรือ หัวก็แตกอีก ชักช้าไม่ได้ ต้องรีบพาไปรักษาก่อน” ร่างเล็กจึงถูกช้อนอุ้มขึ้นจากความแข็งแกร่งของชายฉกรรจ์ จากนั้นเขาก็พาไปยังถ้ำที่อยู่ไม่ไกลเพื่อรักษา ไป่ชวนรู้สึกวิตกยิ่งนัก เพราะแผลตรงช่วงท้องน่าจะใหญ่พอสมควร โลหิตจึงได้ไหลออกมามากเพียงนี้
“ข้าขออภัยนะแม่นาง” เอ่ยกับคนไร้สติ เมื่อเขาต้องปลดอาภรณ์เพื่อดูบาดแผลบนตัวคนเจ็บ ใจก็อยากเอาผ้าปิดตาตนไว้ ทว่าหากทำเช่นนั้นเกรงจะไม่ทันการณ์เสียมากกว่า และอาจจะทำให้นางเจ็บหนักกว่าเดิมก็เป็นได้
หนึ่งเค่อต่อมา [15 นาที] ร่างเล็กที่บาดเจ็บหนักก็ได้รับการรักษา พร้อมกับสวมใส่อาภรณ์ใหม่ซึ่งเป็นเสื้อตัวนอกของเขา ยังดีที่มีเตียงไม้ไผ่ที่เขาทำขึ้นมาไว้หลับนอนยามมาหาสมุนไพร
“ตงตง เฝ้านางอยู่ที่นี่นะ ข้าจะกลับไปเอาอาหารและของใช้ เจ้าห้ามไปไหนเด็ดขาด” ออกคำสั่งกับสุนัขของตน ซึ่งมันมีท่าทางดุมาก แต่นั่นเป็นเฉพาะกับคนที่ไม่รู้จัก นิสัยที่แท้จริงของตงตงคือขี้อ้อนเป็นที่สุดและยังชอบแกล้งมากด้วย มันไม่เคยกัดใครเลย เชื่อฟังเป็นที่หนึ่งว่านอนสอนง่ายกว่าคนเสียอีก
“โฮ่ง!” คำตอบรับของมันมาพร้อมกับการวิ่งมุดเข้าไปนอนใต้เตียง ทำตามคำสั่งของผู้เป็นนาย ไป่ชวนจึงเผยยิ้มเอ็นดูมันเช่นทุกครั้ง ก่อนที่เขาจะออกคำสั่งอีกหน
“หากนางรู้สึกตัว ยาและน้ำอยู่ตรงนี้” ยังกำชับเพราะเกรงคนเจ็บจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา กว่าเขาจะกลับก็เป็นชั่วยามหรืออาจจะมากกว่า เพราะต้องลงเขาขึ้นเขาอีกไม่ใช่เรื่องง่าย
ตงตงมองผู้เป็นนายเดินออกจากถ้ำไปอย่างเร่งรีบ ก่อนจะวางหัวหมอบลงบนขาของตนที่ไขว้กันอย่างสงบเสงี่ยม
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม [หนึ่งชั่วโมง]
แค่ก! แค่ก!
เมื่อได้ยินเสียงของคนบนเตียง ตงตงก็รีบขยับกายลุกขึ้นมอง ก่อนจะส่งเสียงเห่าออกมาเพื่อทักทาย หญิงสาวจึงเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนกทันที ก่อนจะพยายามเอียงหัวมอง
นางผงะด้วยความตกใจเมื่อเห็นสุนัขตัวใหญ่จ้องเขม็ง ท่าทางมันดูน่ากลัวเพราะเจ้าตงตงมีใบหน้าเรียบขรึม ทว่าไม่นานนักมันก็แปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน พร้อมกับกระดิกหางให้
“โฮ่ง! โฮ่ง!” เห่าแล้วก็หันมาหากระบอกไม้ไผ่ ก่อนจะคาบเอาไปส่งให้ผู้ที่พยายามลุกนั่งบนเตียง
“หะ…ให้ข้าหรือ” เอ่ยถามเสียงแหบพร่า ก่อนจะรับมาถือไว้ ตงตงจึงหมุนตัวหันไปหาขวดยาและคาบมันมาส่งให้อีก
“ยาหรือ?” ถามอีกครั้ง พร้อมกับพลิกและเปิดดมกลิ่น ตงตงผงกหัวก่อนจะเห่าบอก คนบนเตียงจึงเผยยิ้มออกมา
‘สุนัขของใครกัน’ นึกในใจ มองไปรอบถ้้ำก็ไม่มีเงาของมนุษย์อย่างที่ควรจะเป็น พอก้มมองอาภรณ์ที่สวมใส่ก็ใจหาย เพราะมันไม่ใช่ชุดที่ตนใส่ก่อนหน้านี้ สำรวจร่างกายก็พบว่ามีผ้าพันแผลอยู่รอบท้องบริเวณที่ถูกแทง บนหัวก็ไม่ต่างกัน
เสียงถอนหายใจดังขึ้นมาในทันที เมื่อนึกถึงเรื่องน่าอายที่เกิดขึ้นกับตนยามที่หมดสติไป แต่ก็อย่างว่านางตัวเปียกชุ่มและยังบาดเจ็บอีก หากไม่เปลี่ยนชุดเก่าออกเป็นต้องได้จับไข้ตายก่อนเป็นแน่ ‘ช่างเถอะ คนที่ช่วยเราอาจจะเป็นสตรีก็ได้’
คิดได้ดังนั้นก็หันมากินยาในขวดแล้วตามด้วยน้ำ จากนั้นก็หันมาสนใจเจ้าสุนัขสีน้ำตาลอีก “ขอบใจนะ คงไม่ใช่เจ้าที่พาข้ามารักษากระมัง นายของเจ้าล่ะ เขาไปไหนแล้ว”
ตงตงเห่าออกไปด้านนอกราวกับจะบอกว่านายของตนออกไปที่ใดสักแห่ง คนบนเตียงจึงได้แต่ยิ้มเอ็นดู สุนัขตัวนี้ช่างรู้ความยิ่งนัก มันคงทำตามคำสั่งของเจ้านายอยู่เป็นแน่
“หวังว่าคนที่ช่วยเราจะเป็นสตรีนะ” เอ่ยทั้งที่พอจะเดาออกว่าชุดที่ใส่เป็นของบุรุษ แต่คนเจ็บก็ยังหวังว่าผู้ที่ช่วยตนไว้อาจเป็นคู่สามีภรรยาก็ได้ และนางก็หมายจะรอให้พวกเขากลับมา ทว่าร่างกายที่อ่อนแอนี้ก็ไม่อาจทานทนต่อความเพลียได้ สุดท้ายก็เอนตัวลงนอนแล้วหลับไปในที่สุด
#ตอนแรก ไม่ได้เปิดตัวพระนางนะคะ แต่เปิดตัวเจ้าตงตง 55
