บท
ตั้งค่า

ตอนที่4.

“คุณคิดว่าเราต้องใช้เวลานานแค่ไหน สำหรับการก่อสร้าง? ” อัปสรสุดาเข้าสู่เรื่องงาน

วิศวกรหนุ่มกวาดสายตามองไปรอบๆ “ไม่เกินหนึ่งปีครับ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและการจัดการของผู้รับเหมา” เขาตอบ

“แบบนี้เราต้องลงมาคุมงานเองใช่ไหมคะ ถึงจะแน่ใจว่าเสร็จทันเวลา”

“ครับ...ผมจะพยายามให้เสร็จตามเวลา” วิศวกรหนุ่มรับคำแข็งขัน

“ดีค่ะ...ฟ้าจะได้เร่งให้ฝ่ายการตลาดเขาเตรียมงาน” หญิงสาวพยักหน้ารับพอใจ

“โปรเจกนี้คุณพ่อท่านตั้งใจมาก ฟ้าต้องลงมาคุมงานเอง”

“ทางฝ่ายคุณอเนก ท่านก็ส่งลูกชายมาช่วยคุณฟ้าเหมือนกันนะครับ แบบนี้สองแรงแข็งขันรับรองไม่มีทางล่มแน่” ลูกน้องหนุ่มพูดเอาใจนายจ้างสาว

อัปสรสุดาหน้ามุ่ยหมดอารมณ์คุยต่อ แค่คิดว่าจะทำงานร่วมกับนายตัวแสบนี่แล้ว พาลหงุดหงิดขึ้นมา ทำไมเธอต้องมาเผชิญกรรมกับคนนิสัยแย่อย่าง นายรักษ์ อนันตยรักษ์คนนี้ด้วย!

คนที่ทำให้หญิงสาวอารมณ์เสียตอนนี้ยิ้มระรื่น คุยกับพนักงานสาวๆ ที่ร่วมขบวนมาอย่างสนุกสนาน ชายหนุ่มไม่เดือดร้อนกับการเดินทางอันแสนสาหัสนี่เลย ยิ่งมีสาวๆ ร่วมเดินทางมาด้วยเยอะๆ แบบนี้เขายิ่งสนุก สาวๆ ต่างวิ่งเข้าหา รักษ์ อนันตยรักษ์ คงมีแต่นางฟ้าบนหอคอยสวรรค์อย่างอัปสรสุดากระมัง คอยตั้งท่าปฏิเสธเขา

รักษ์แอบลอบมองนางฟ้าแสนสวยเป็นระยะ เจ้าหล่อนทำหน้าเคร่งเป็นสาวมั่นผู้เห็นงานสำคัญกว่าอะไร นางฟ้าก็ยังเป็นนางฟ้าต่อให้ลงมาเดินคลุกฝุ่นบนดินแบบนี้ เขาก็ไม่เห็นว่าอัปสรสุดาจะสวยน้อยลงกว่าเดิมเลย แต่ที่น่าสงสัยคือความสามารถในการทำงานของเธอ ผู้หญิงสวยมักจะกรีดกราย จะให้ลงมาลุยโคลนลงดินจะทำได้สักกี่น้ำกัน ชายหนุ่มนึกดูถูกในใจ...

การสำรวจพื้นที่สิ้นสุดลงด้วยดี อัปสรสุดานำทีมงานและผู้ร่วมคณะทุกคนมาถึงบ้านของเธอในตอนค่ำ หญิงสาวจัดงานเลี้ยงรับรองการจัดเลี้ยงเป็นแบบขันโตกมีอาหารทางภาคเหนือ จำพวก ไส้อั่ว แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม กับแกงพื้นเมืองอีกสองสามอย่าง เช่นแกงฮังเล แกงหน่อไม้ แกงโฮะ นำมาเสิร์ฟบนขันโตกไม้สักแกะสลัก พร้อมข้าวเหนียวร้อนๆหอมกรุ่น

แขกผู้มาร่วมงานนั่งอยู่บนเสื่อซึ่งปูบนสนามหญ้า ในสวนสวยของบ้านไม้สักศิลปะแบบล้านนาของตระกูลพิบูลย์สินทร วงดนตรีพื้นเมืองบรรเลงเพลงขับกล่อม ท่วงทำนองไพเราะอ่อนหวานตามสไตล์ดนตรีของชาวล้านนา ที่เรียกว่าวงสะล้อซอซึง

ไพศาลเดินทางมาร่วมงานพร้อมบุตรชายของเขา โชคออกมาต้อนรับด้วยตนเอง เขาเชิญเพื่อนคนสำคัญนั่งร่วมวงเดียวกัน โชคจัดให้พายัพลูกชายของไพศาล นั่งติดกับลูกสาวของเขา

รักษ์ซึ่งนั่งข้างๆอัปสรสุดาพาลฝืดคอกินอะไรไม่ลง ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิด กับสายตาของพายัพที่ทอดมองหญิงสาวอย่างสนใจ เจ้าหนุ่มหน้าแหลมสวมแว่นวางมาดทรงภูมิ ขัดตาเขาเหลือทน สิ่งเหลือรับคือวาจาอ่อนหวานยามเจรจากับหญิงสาวคนเดียวในกลุ่ม มันทำให้หูตาของรักษ์คันยุกยิกด้วยความหมั่นไส้ ช่างกระไรเลยนางฟ้าแดนดินกับตั้งอกตั้งใจฟังคำพูดคนมาใหม่จนน่าโมโห ทีกับเขาอัปสรสุดาเมินหน้าหนีตั้งท่ารังเกียจ ราวกับเหม็นเบื่อเต็มทน

“คุณรักษ์ครับ ผมขอไปดูงานสร้างรีสอร์ทด้วยคนนะครับ”

จู่ๆ พายัพก็พูดกับรักษ์ขึ้นมา ทำให้ชายหนุ่มสะดุ้ง ทำหน้าเหรอหรามองคนถาม

“คุณพายัพว่าอะไรนะครับ? ”

“คือผมอยากศึกษางานกับคุณครับ” พายัพทวนอีกครั้ง

“อ๋อ...ได้สิครับ” รักษ์ตอบรับทันควัน

“แต่ผมไม่ได้เป็นคนเดียวที่ทำโปรเจคนี้นะครับ ต้องลองถามผู้ร่วมงานของผมอีกคน ว่าเธอจะยินดีหรือเปล่า”

ตอนท้ายรักษ์หยอดภาระให้นางฟ้าแสนสวยอีกทอดหนึ่ง คนรับภาระแอบส่งสายตาต่อว่าชายหนุ่ม เธอกำลังรำคาญนายแว่นคนนี้เหลือกำลัง อุตส่าห์ข่มใจทนฟังคำพูดน่าเบื่อยังจะให้มีการพบปะร่วมงานกันอีก แค่คิดอัปสรสุดาแทบอยากกินยาแก้ปวดล่วงหน้าแล้ว

“ว่ายังไงครับคุณฟ้า คุณรักษ์เขาโอเค แล้วคุณล่ะครับ” นายแว่นหันมาถาม แววตาวาดหวังเต็มที่

อัปสรสุดายิ้มแห้งๆ “ถ้าคุณพายัพสนใจงานของเรา ก็ไม่มีปัญหาค่ะ” จำใจต้องตอบรับ

พายัพยิ้มหน้าบานปลื้มใจที่ไม่ถูกปฏิเสธ เขาแอบดีใจอยู่ลึกๆ ว่าจะได้ใกล้ชิดอัปสรสุดา แค่เห็นหน้าหญิงสาว หัวใจของเขาก็ลอยลงไปกองแทบเท้าเธอแล้ว หากมีหนทางใดสามารถทำให้สามารถพิชิตใจหญิงสาวได้ เขายินดีทำทุกอย่างตอนนี้ต้องเริ่มต้นสานสัมพันธ์ไปก่อน

“คุณคิดดีแล้วหรือ ที่ให้นายพยาธินั่นมาด้วย” รักษ์เอียงหน้ากระซิบถามอัปสรสุดา

“คุณรักษ์ ไปเรียกคุณพายัพแบบนั้นได้ยังไงคะ น่าเกลียดจริงเชียว! ”

อัปสรสุดาเอ็ดเสียงเบา มองคนต้นเรื่องที่ยืนยิ้มแป้นอยู่ใต้ร่มไม้ อย่างกลัวว่าเขาจะได้ยินชื่อที่ถูกเรียก ก่อนหันมาทำตาเขียวใส่คนตั้งชื่อ

“สมควรไหมล่ะ...ทำตัวเป็นพยาธิไส้เดือนเกาะเท้าคุณ น่ารำคาญที่สุด”

“ฉันยังไม่เห็นเดือดร้อนเลย” หญิงสาวเชิดหน้าใส่

“เฮอะ...” รักษ์ทำเสียงในคอ สายตารู้ทัน

“อย่าปากไม่ตรงกับใจเลย ผมรู้ว่าคุณรำคาญนายแว่นนั่น แทบกระอักเลือดตายแล้ว”

“ทำเป็นแสนรู้...แล้วรู้อะไรอีกอย่างไหมคะ” หญิงสาวเน้นเสียง จ้องหน้าชายหนุ่มเขม็ง

“ฉันก็รำคาญคุณไม่น้อยกว่าใครเลย! ”

รักษ์ยักคิ้ว พร้อมส่งยิ้มกวนๆให้ “ข้อนั้นผมรู้ตัวดี แต่จะทำยังไงได้ เราต้องทำงานร่วมกันอีกนาน ต้องสามัคคีกันไว้หน่อย” เขาไม่มีทีท่าเดือดร้อนกับถ้อยคำนั้นสักนิด

“มันก็เหตุผลเดียวกันนั่นแหละ ที่ทำให้ฉันต้องทนคุณแบบนี้”หญิงสาวโต้กลับ

“นานไปเดี๋ยวคุณก็ชินเอง แต่ระวัง...” เขาจ้องตาหญิงสาวแววตาเป็นประกาย “ระวังคุณจะเคยชินจนขาดผมไม่ได้”พูดจบรักษ์ก็เดินไปหาพายัพ

หญิงสาวเม้มปาก ดวงตาวาวจ้าเขียวขุ่น มองตามหลังชายหนุ่มไปด้วยความเคืองจัด ทำไมเธอต้องมาพบเจอกับผู้ชายอย่าง รักษ์ อนันตยรักษ์คนนี้ด้วย! ในโลกสุขสงบของเธอบัดนี้กำลังมี นายวายร้ายจอมกระล่อนกวนอารมณ์ เข้ามาสร้างความวุ่นวายปั่นป่วน ให้รำคาญใจ

หลังจากทิ้งคำพูดชวนหัวเสียไว้แล้ว รักษ์เลี่ยงมาคุยกับพายัพที่ยืนอยู่ใต้ร่มไม้ ชายหนุ่มมองหน้าแดงกล่ำของอีกฝ่ายอย่างเวทนา แดดในตอนบ่ายร้อนจัดแถมฝุ่นฟุ้งตลบ พายัพขมวดคิ้วจนหน้ายับย่น ดวงตาใต้แว่นหนาหรี่หลบแสง ใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อป้อยๆ สายตายังทอดมองสตรีร่างระหงอย่างอดทน รักษ์อดสงสารไม่ได้ เขาจึงเดินเข้าไปหานายแว่นก่อนจะมีโศกนาฏกรรมเกิดขึ้น คงไม่สนุกแน่หากต้องแบกคนเป็นลมที่ตัวไม่ใช่น้อยแบบนี้ ยิ่งเป็นผู้ชายด้วยแล้วคนจะอาสารับแบกคงหายากสักหน่อย

“คุณพายัพไปนั่งรอบนรถไหมครับ อากาศร้อนเดี๋ยวจะแย่นะครับ”

รักษ์เสนออย่างหวังดี หากคนที่รับข้อเสนอส่ายหน้าไปมาเช็ดเหงื่อยิกๆ

“คุณฟ้าเธอยังทนได้ ผมต้องทนได้สิ ไม่เห็นจะร้อนเท่าไหร่เลย”

พายัพบอกว่าไม่ร้อน แต่หน้าตาแดงกล่ำไปหมด แว่นตาขุ่นมัวมีฝุ่นเกาะกระจกเป็นคราบ

“เดี๋ยวเราจะไปสำรวจที่แห่งใหม่กัน” รักษ์ออกอุบายเกลี้ยกล่อม “คุณพายัพไปรอที่รถก่อนเถอะครับ ผมจะเร่งคุณฟ้าเอง สักครู่ก็เสร็จแล้ว”

“จริงเหรอครับ” พายัพมองหน้า

“ครับ” รักษ์พยักหน้าให้

“ถ้าอย่างนั้นผมจะไปรอที่รถนะครับ”

นายแว่นยอมเดินไปนั่งรอบนรถ รอดพ้นจากการเป็นลมกลางแดดหวุดหวิด รักษ์ส่ายหน้า มองตามหลังพายัพไปอย่างสมเพช ทั้งที่สังขารไม่อำนวยนายแว่นยังอุตส่าห์ตามมาอีก ไม่รู้จะรอดไปได้สักกี่น้ำ

“คุณพายัพขึ้นไปนั่งรอบนรถแล้ว”

รักษ์ชิงพูดขึ้นก่อน เมื่อเห็นอัปสรสุดาเดินเข้ามายืนข้างๆ ชายหนุ่มทอดตามองหน้าหญิงสาวอย่างอ่อนโยน แก้มนวลของเธอ ตอนนี้แดงระเรื่อเหมือนแก้มเด็ก เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดเต็มหน้าผาก

“อากาศร้อนคุณต้องระวังบ้าง เดี๋ยวเป็นลมขึ้นมา ผมขี้เกียจผายปอด” เขาอดแหย่ไม่ได้

“คนเป็นลมบ้านคุณสิ ต้องผายปอด!” อัปสรสุดาค้อนคนช่างยั่ว

รักษ์หัวเราะมองใบหน้านางฟ้าแสนงอนด้วยสายตาเอ็นดู เจ้าหล่อนยั่วขึ้นจริงๆพูดอะไรนิดหน่อยก็พาลโมโหง่ายๆ หน้าตายามงอนแสนน่ารัก เจ้าตัวจะรู้ไหมว่าเวลาทำหน้าบึ้งปากแดงอิ่มเบะนิดๆ แบบนี้ น่าจูบที่สุด

“เราไปขึ้นรถกันเถอะ...นายพยาธิชะเง้อคอรอคุณ จนคอยาวแล้ว”

รักษ์เบือนหน้าหนีซ่อนความรู้สึกที่จู่โจมในใจไว้เงียบๆ เดินนำหญิงสาวไปยังรถ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel