ตอนที่3 จะอยู่เคียงข้างเสมอ
หลังจากเดินดูทั่วโรงแรม คริสโตเฟอร์กลับเข้ามาในห้องทำงาน หน้าตาเคร่งขรึม
"ไงดีนร์ วันนี้ฉันมีประชุมหรือเปล่า"คริสโตเฟอร์ถอดสูทโยนให้คนสนิทรับไป
"ไม่มีครับ อ้อ…คุณคริสทราบหรือยังครับว่าคุณครรชิต เอ่อ...เชิญให้คุณไปทานมื้อค่ำที่บ้านท่าน "
"พัฒนจักรนะเหรอ อืม...แล้วนายคิดว่าไง ฉันควรไปมั้ย"
."ถ้าตามมารยาท และผลพวงที่ดีในอนาคตสำหรับโรงแรมแอนเดอะสันผมว่าคุณคริสน่าจะไปทานข้าวที่บ้านท่านนะครับ "
"นายคิดว่าควรเป็นแบบนั้นใช่มั้ย ได้โอเค ฉันจะไป "
คริสยกยิ้มมุมปากแล้วนั่งเก้าอี้หนังตัวใหญ่ มือจับปากกาสีทอง พร้อมกวาดสายตาไปที่หน้าเอกสารแต่ล่ะหน้าอย่างถี่ท้วน หัสดินทร์ผู้เป็นเลขาและเพื่อนจึงหันหลังเดินออกจากห้องผู้บริหารไปทำงานตามหน้าที่พร้อมกับโทรแจ้งทางพัฒนจักรตอบรับคำเชิญอาหารมื้อค่ำให้บอสของเขา
ในขณะที่คริสโตเฟอร์กำลังขะมักขะเม้นกับการทำงาน สายตรงจากต่างประเทศก็โทรเข้ามา มือหนากดรับสาย
[ไงครูส] คริสนั่งหลังพิงพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ในท่าสบาย
"เป็นไงบ้าง นายคุยกับพริกหรือยัง"
[นายโทรมาก็ดีเหมือนกัน ฉันกำลังจะโทรไปบอกอยู่พอดี พริกไม่ไป ]
"คริส นายก็รู้ว่าคุณพิมพ์เป็นห่วงและรักพริกแค่ไหน นายพูดกับพริกอีกได้มั้ย พูดยังไงก็ได้ให้พริกมาอยู่ที่ลอนดอน "
[แล้วทำไมนายกับคุณพิมพ์ไม่คุยกับพริกเองละครูส]
"นายก็รู้ ว่าพริกเกลียดฉันแค่ไหนที่เป็นต้นเหตุให้พ่อของพริกต้องตาย ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่พยายามคุยกับพริกนะ แต่พริกยังไม่ยอมรับฉันเลย หรือแม้แต่คุณพิมพ์เองก็เถอะหลายครั้งที่คุณพิมพ์พูด แต่พริกก็ยังดื้อดึง"
[ถ้าพริกยืนยันแบบนั้น ต่อให้พูดยังไงพริกคงไม่เปลี่ยนใจ ]คริสออกความคิดเห็น
"ก็เพราะแบบนี้ ฉันถึงอยากให้นายพูดกับพริกแทนฉันกับคุณพิมพ์"
[โอเค ฉันจะลองพูดกับพริกอีกครั้ง แล้วคุณพิมพ์สบายดีหรือเปล่า]
"สบายดี ขอบใจนายมากนะที่ช่วยดูแลพริกมาตลอด นายเป็นน้องชายที่ฉันภูมิใจมากที่สุด คริส"
คริสวางสมาร์ทโฟนไว้บนโต๊ แล้วขะมักขะเม้นกับการทำงานต่อจนกระทั่งได้เวลาที่เขาจะไปทานอาหารมือค่ำ
บ้านพัฒนจักร
"สวัสดีครับคุณครรชิต "คริสโตเฟอร์ยื่นมือทักทายตามมารยาท ผู้สูงวัยกว่ายื่นมือทักทายต้อนรับ
"พัฒนจักรยินดีต้อนรับคริสโตเฟอร์ เชิญทางนี้ดีกว่า
"คุณครรชิตเดินนำหน้าพาร่างสูงไปที่ห้องรับประทานอาหารตกแต่งสไตล์ยุโรปสุดอลังการบ่งบอกความร่ำรวยของตระกูลพัฒนจักรได้อย่างดี เขารอจนเจ้าของบ้านนั่งประจำตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว เขาจึงนั่งลงอย่างสุภาพ
"อืม..ครูสเป็นยังไงบ้าง "
"ครูสสบายดีครับ ขอบคุณมากนะครับคุณครรชิตที่ตัดสินใจมาเป็นหุ้นส่วนของโรงแรมแอนเดอะสัน "
"หื้ม...ไม่ต้องขอบคงขอบคุณหลอก ผมชอบคนหนุ่มไฟแรงอย่างคุณ แล้วก็ไม่ต้องพิธีรีตองให้มาก เรามันคนกันเอง เรียกผมว่าคุณลุงจะดีกว่า เพราะว่า แอนเดอะสันกับพัฒนจักรในอนาคตอาจจะต้องเกี่ยวดองกันจริงมั้ย"
"เอ่อ..ครับ..คุณลุง" คริสยิ้มเล็กน้อย
"เดี๋ยวรอสักครู่นะ พอดีเคทกลับเข้ามาจากข้างนอกพอดี จะได้ทานอาหารค่ำพร้อมกัน และจะได้ทำความรู้จักกันไปด้วย"
"ครับ”
"จวง!! จวง!!"ประมุขของบ้านเรียกคนรับใช้
"ค่ะคุณท่าน"
"ไปดูสิว่าเคทมาหรือยัง "
"ค่ะคุณท่าน "ยังไม่ทันที่คนรับใช้จะเดินออกไปจากห้องรับประทานอาหาร สาวสวยในชุดนักศึกษาก็เดินเข้ามาพอดี
"เคทมาแล้วค่ะคุณพ่อ "
"อ้าวมาแล้ว เอ้อ...เคทรู้จักคุณคริสโตเฟอร์ไว้สิลูก
"ครรชิตบอกลูกสาวพร้อมแย้มยิ้ม
"สวัสดีค่ะคุณคริสโตเฟอร์ เคทขอโทษนะคะที่มาช้า "
"ไม่เป็นไรครับ "
"อ้าว...ไปนั่งที่โต๊ะเลยลูกจะได้คุยกันไป ทานอาหารไป แล้วก็เรียกคริสว่าพี่คริสจะดีกว่า พ่อฟังแล้วมันดูห่างเหินยังไงไม่รู้ "
"ค่ะคุณพ่อ เอ่อพี่คริสลองทานดูนะคะ จะได้รู้ว่าแม่ครัวที่นี่ฝีมือไม่แพ้เชฟโรงแรมเลยล่ะค่ะ"
"ครับ" คริสยิ้มแล้วก็เริ่มรับประทานอาหารร่วมกันสร้างความสนิทสนมระหว่างสองตระกูล
บริเวณสวนสวยหน้าคฤหาสน์ ร่างผอมบางเดินไปเดินมา สายตาของเธอจ้องไปที่ประตูรั้วใหญ่รอคุณอากลับมาจากทำงาน เพื่อที่จะทานอาหารมื้อค่ำด้วยกัน
"คุณหนูพริกคะ ไม่ต้องรอคุณคริสหลอกค่ะ "
"แต่พริก"
"เชื่อป้าเถอะค่ะ เข้าข้างในนะคะ ไปทานข้าวดีกว่า" เอมม่ายิ้มอ่อน เพราะรู้ว่าเด็กสาวที่นางดูแลมาตลอดหลงรักอาหนุ่ม แต่ด้วยวัยและวุฒิภาวะที่เป็นข้อจำกัดทำให้พริกได้แต่เก็บเอาไว้ในใจ
"ไม่เป็นไรค่ะพริกรออีกแป้บดีกว่า"
"คุณคริสกว่าจะกลับมาก็ดึกค่ะ อีกอย่างกลับมาถึงก็คงขึ้นห้องพักผ่อนเลย คุณดีนร์โทรมาบอกเมื่อกี้นี้เองค่ะ ว่าคุณคริสไปทานอาหารค่ำบ้านคุณครรชิต เข้าข้างในเถอะค่ะ นะคะ "
"ใครเหรอคะคุณครรชิต ป้าเอมม่ารู้จักหรือเปล่าคะ"แววตากลมสงสัย เธอรู้สึกแปลกใจที่คุณอามีนัดทานอาหารมื้อค่ำกับบุรุษ เพราะปกติอาคริสของเธอมักจะทานมื้อค่ำกับสาวๆมากกว่า
"เอ่อ...ป้าก็ไม่ค่อยทราบหรอกค่ะ คุณพริกเข้าข้างในเถอะนะคะ "
"ก็ได้ค่ะ "เธอเผยรอยยิ้มอย่างคนว่าง่ายให้เอมม่า แล้วเดินเข้าไปในบ้านเก็บงำความสงสัยเอาไว้เพียงลำพัง
คริสโตเฟอร์กำลังเดินเคียงคู่กับลูกสาวเจ้าของบ้านหลังโตบริเวณลานกว้างตามทางเดิน ปลายหางตาของเขาชำเรืองมองร่างระหงส์เห็นทาทีนิ่งเรียบราวกับรูปปั้น
"อะแฮ่ม!! "
"คะ " เคทสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกทำลายห้วงเวลาของเธอ
"คุณเคทมีอะไรหรือเปล่าครับ "
"อ่ะ อ๋อ เปล่าค่ะ "
"งั้นผมกลับก่อนนะครับ ขอบคุณสำหรับอาหาร อาหารอร่อยมากเลยครับ "
" จริงเหรอคะ เคทกลัวจะไม่ถูกปากคุณจะแย่ เห็นคุณคริสเงียบๆน่ะค่ะ "
"หึ (ยกยิ้มมุมปาก) ผมดูน่ากลัวหรือเปล่าครับ "
"ไม่ค่ะ เคทว่าคุณดูลึกลับและก็มีเสน่ห์มากกว่า เคทหวังว่าโอกาสหน้า คุณคริสจะมาที่นี่บ่อยๆนะคะ เคทอยากจะรู้จักคุณคริสมากกว่านี้ค่ะ "
" งั้นผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมก็อยากจะรู้จักคุณเคทมากกว่านี้เหมือนกันครับ งั้นผมกลับก่อนดีกว่านี่ก็ดึกมากแล้ว ฝันดีนะครับ"
"ค่ะ ฝันดีนะคะ "
เคทยิ้มให้อย่างอบอุ่นเช่นเดียวกับคริสโตเฟอร์แยมยิ้มตอบรับอย่างอ่อนโยน แล้วร่างสูงก็เดินลิ่วๆไปที่รถ แววตาของเธอทอดมองจนกระทั่งเขาหายไปกับความมืดจากนั้นเคทจึงเดินเข้าไปในบ้านโดยไม่ทันสังเกตุว่าบิดานั่งอยู่ที่ห้องรับแขก
"เป็นไง "
"คุณพ่อ!! เคทนึกว่าคุณพ่อขึ้นข้างบนไปแล้วซะอีก "
"พ่อถามว่าเป็นยังไง"
"เคทไม่เข้าใจค่ะ "
"ลูกถูกใจคริสโตเฟอร์หรือเปล่า "
"อืม...ไม่ทราบสิคะ แต่เคทอยากรู้จักเขามากกว่านี้ แบบนี้พอจะตอบคำถามของคุณพ่อได้หรือยังคะ " ริมฝีปากบางแย้มยิ้มพร้อมกับเรียวขาที่ก้าวเดินขึ้นไปยังชั้นบน
" พ่อภูมิใจในตัวลูกจริงๆ เคท"
คริสโตเฟอร์กลับมาจากบ้านคุณครรชิต เขาเดินผ่านห้องรับแขก สายตาคมเข้มสะดุดกับร่างเล็กบอบบางนอนหลับสนิทอยู่บนโซฟาตัวยาว
" พริก ทำไมถึงมานอนอยู่ตรงนี้ " เขาเอ่ยออกมาเบาๆแล้วเดินเข้าไปจนชิดร่างบอบบาง จากนั้นคริสก็ยื่นมือสะกิดเด็กสาวให้รู้สึกตัว
"พริก!! พริก ทำไมถึงได้มานอนอยู่ตรงนี้ ตื่น ขึ้นไปนอนที่ห้องสิพริก"
"zzz"
" พริก!"
".zzz" ไม่มีเสียงโต้ตอบหรือรู้สึกตัว คริสตัดสินใจอุ้มร่างเล็กลอยขึ้นจากโซฟาแล้วเดินเพื่อไปส่งเด็กสาวหลับสนิทที่ห้องนอน ในขณะที่พริกกำลังหลับลึกฝันถึงชายหนุ่มที่กุมหัวใจของเธอไว้ เธอตกเป็นทาสของเขา
(ทุ่งดอกไม้หลากสี กลิ่นไอหอมสดชื่นของมวลดอกไม้ บรรยากาศรอบกายชั่งอบอุ่นดั่งแสงอาทิตย์ในยามเช้า เขาและเธอกำลังวิ่งไล่จับกันอย่างสนุกสนาน
