บท
ตั้งค่า

ตอนที่4. เรือนท้ายจวน

“แต่ท่านก็ไม่ปฏิเสธที่ข้าเรียกท่านว่าอาจารย์”

“ก็เจ้ามันดื้อด้านยิ่งกว่าวัว” เขาส่ายหน้าระอาใจ วันนี้ตั้งใจมาเตือนนางเรื่องที่นางออกตรวจคนป่วยโดยไม่มีเขา แต่มาพบว่านางรักษาคนบาดเจ็บสาหัสที่ยื่นขาข้ามเข้าไปแดนปรโลกให้ปลอดภัยก็อดตื่นเต้นไม่ได้ แต่ต้องเก็บอาการไว้ไม่ให้เจ้าเด็กคนนี้ได้ใจไป

“ไม่ใช่ดื้อด้านแต่เรียกว่ามีความมุ่งมั่นต่างหากล่ะ” นางยืดอกพูดทำราวกับตนเองเป็นผู้ใหญ่ทั้งที่อายุเพียงแค่สิบสี่เท่านั้น

“ช่างเถิด ข้าคร้านจะต่อปากต่อคำกับเจ้าแล้ว” หมอจูซีห่าวยกน้ำชาขึ้นดื่มจนหมดถ้วยแล้วลุกขึ้นยืน “ข้าจะกลับแล้ว เจ้าก็...ถ้าว่างก็ไปหาข้าที่โรงหมอ จะสอนเรื่องการฝังเข็ม”

“เจ้าค่ะ” ใบหน้าหวานระบายยิ้มกว้างอย่างดีใจ นางฝึกฝัง

เข็มกับหุ่นมาบ้างแล้ว แม้อาศัยอ่านจากตำราและลองฝังกับหุ่นแต่ยังท่านหมอยังไม่เคยสอนนางจริงจังเสียที แต่ยอมให้นางแอบเรียนรู้อยู่ใกล้ๆ เท่านั้น

“บ่าวไปส่งท่านหมอนะเจ้าคะ”

จางลี่เดินลากขากระโผลกกระเผลกเข้ามา เด็กสาวยิ้มน้อยๆ แล้วช่วยหมอจูซีห่าวถือล่วมยาเดินออกไป แม่นมหวงเข้ามาเปลี่ยนน้ำชาแล้วอดมองไปยังบุรุษที่นอนนิ่งบนตั่งผู้นั้นไม่ได้ หลับไปสามวันแล้วยังไม่เห็นท่าทีว่าจะตื่นเมื่อใด แต่สีหน้าดีกว่าที่เห็นในวันแรก บาดแผลต่างๆ คุณหนูก็ลงมือรักษาด้วยตนเอง

“มีอะไรรึแม่นม” ฟู่เซียงเซียงเอ่ยถามเมื่อเห็นสายตาของแม่นมมองที่ทาสหนุ่มผู้นั้น

“คุณหนูจะทำอย่างไรต่อเจ้าคะ”

“ทำอะไร” นางเอียงคอถามอย่างสงสัย

“ในเรือนของเรามีแต่ผู้หญิง ให้มาอยู่แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ”

“มีผู้ชายเพิ่มขึ้นไม่ดีหรือ?จะได้ใช้แรงงานได้อย่างไรเล่า จางลี่กับแม่นมก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก”

“แต่ดูเป็นคนอันตรายนะเจ้าคะ ไม่รู้ที่มาที่ไป...” ไม่รู้เคยฆ่าคนตายมาหรือไม่... แม่นมหวงได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจแต่ไม่กล้าพูดออกไป เกรงคุณหนูเป็นกังวล แต่เด็กสาวกลับหัวเราะเสียงหวานใสดุจระฆังเงินทำให้คนที่หลับอยู่รู้สึกตัวแต่เปลือกตายังปิดสนิท

“เรื่องนี้ข้าคิดไว้แล้ว แม่นมไม่ต้องเป็นห่วงหรอก” นางปรายตามองคนที่ยังนอนอยู่แล้วเดินไปจูงมือแม่นมเดินไปที่ลานกว้างเพื่อดูสมุนไพรที่ตากไว้ “เกสรดอกบัว ดีบัว พวกนี้ทำชาบำรุงหัวใจได้”

“คุณหนูอย่าเปลี่ยนเรื่องสิเจ้าคะ”

“แม่นมนี่ขี้บ่นกว่าท่านแม่เสียอีก”

ฟู่เซียงเซียงหัวเราะร่า ไร้มารดาปกป้องนางจึงกลายเป็นคุณหนูท้ายจวนที่ไร้คนแลเหลียว แรกทีเดียวนางเคยร้องไห้โทษโชคชะตาที่พรากความสุขของนางไป บิดายกภรรยารองเป็นภรรยาเอก ละเลยไม่สนใจนางราวกับไม่เคยมีตัวตน ทว่าวันเวลาผ่านไป นางกลับสงบใจลงได้ ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการอ่านตำราที่มารดาสะสมไว้ ยังดีที่มารดาชอบเรียนเขียนอ่าน แม้นางยังไม่ทันได้ร่ำเรียนกับอาจารย์ท่านใด แต่มารดาฝึกนางคัดอักษรและสอนอ่านตำรามาตั้งแต่เด็ก จึงใช้ความรู้ที่พอมีหารายได้ให้ตนเอง นางให้แม่นมช่วยตัดเย็บเสื้อผ้าผู้ชายให้นางสวมใส่ยามออกไปนอกเรือนเพื่อรับจ้างคัดตำรา เขียนจดหมาย และเมื่อได้รู้จักหมอจูซีห่าว นางก็ได้เรียนรู้การรักษาผู้คน

ไม่ว่าจะพยายามทำอย่างไร บิดาก็ไม่เคยหันมาสนใจไยดี นางปลงใจได้แล้ว นับจากนี้ไป นางจะมีชีวิตแบบที่ตัวเองปรารถนาและมีความสุขในทุกๆ วัน

เพื่อให้ท่านแม่ที่อยู่บนสวรรค์มองนางด้วยรอยยิ้มภูมิใจในตัวลูกสาวคนนี้.

สายลมพัดผ่านพาแสงเทียนวูบไหว ฟู่เซียงเซียงเงยหน้าขึ้นจากการคัดลอกตำราแล้วกวาดตามองไปรอบๆ เสียงแมลงกลางคืนเงียบไปตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้ นางนั่งทำงานเพลินจนลืมเวลาอีกแล้ว ในเรือนหลังนี้มีเพียงนาง แม่นมหวงเจียอีและจางลี่ ส่วนบุรุษอีกคนที่ยังหลับใหลนั้น นางไม่อยากนับรวมไปด้วย

ร่างบอบบางลุกขึ้นยืนบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยล้าแล้วหันมาเก็บสมุดบนโต๊ะให้เรียบร้อย เพราะทำงานเพลินจนดึกดื่นนางจึงไม่ให้แม่นมหวงกับจางลี่อยู่รอปรนนิบัติ สำหรับนางแล้ว ทั้งสองเป็นเสมือนญาติที่เหลืออยู่ ความตายของมารดาพรากความสุขที่เคยมีไปหมดสิ้น ในวัยเพียงสิบขวบ นางเพียรทำทุกวิถีทางให้บิดาหันกลับมาใส่ใจนางเช่นเวลาที่มารดายังอยู่ แต่ไม่คิดเลยว่า หลังมารดาตายจากครึ่งปี บิดาก็ยกภรรยารองมาเป็นภรรยาเอก รวดเร็วเสียจนนางไม่คาดคิด ในคราวที่มารดายังอยู่ คนเหล่านั้นล้วนเอาใจใส่นาง ให้ความเคารพยำเกรง แต่เมื่อสิ้นมารดา นางกลายเป็นเพียงก้อนหินไร้ค่าที่บิดาเมตตาเก็บไว้ท้ายจวน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel