บท
ตั้งค่า

ตอนที่3. รักษา

“อดทนหน่อยนะ” นางเอ่ยแล้วใช้ปลายมีดกรีดเปิดปากแผล รับรู้ได้ถึงร่างกายที่เกร็งจนสั่นสะท้าน แผลตรงหัวไหล่เป็นมานานจนแผลอักเสบเป็นหนอง ทันทีที่ปากแผลเปิด หนองสีขาวขุ่นก็ไหลทะลักออกมา กลิ่นเน่าเหม็นคลุ้งจนแม่นมหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดจมูก จากนั้นใช้แหนบคีบเอาหัวลูกศรที่ฝังอยู่ออกมา เสียงถอนหายใจโล่ง อกที่อุปสรรคแรกผ่านไป

“ต้องเอาหนองออกให้หมด” นางอธิบายทั้งที่ไม่แน่ใจว่าทาสที่ซื้อตัวมาฟังอยู่หรือไม่ เด็กสาวล้างแผลด้วยน้ำผสมเกลือเจือจาง ซับแผลจนมั่นใจว่าไม่มีสิ่งใดตกค้างอีกจึงหยิบยาผงโรยที่แผลแล้วใช้ผ้าปิดปากแผล

“คุณหนูเก่งจังเลยเจ้าค่ะ” จางลี่อดชื่นชมไม่ได้

“ยังมีอีกแผลที่ต้องเย็บ”

“ยะ..เย็บ..เย็บแผล?” คราวนี้จางลี่พูดไม่ออก นางเคยเห็นคุณหนูฝึกเย็บแผลบนหนังหมูที่ซื้อมา แต่ไม่เคยเห็นทำบนตัวคนเลยสักครั้ง

ฟู่เซียงเซียงครุ่นคิดเพียงครู่หนึ่ง อย่างไรก็ต้องเร่งรีบรักษาบาดแผลเหล่านี้ นางเปิดล่วมยาหยิบขวดยาที่เป็นสูตรลับของท่านหมอจูออกมาแต่เตรียมเครื่องมือเย็บแผล

“ทำแผลไม่ยากเท่าไหร่ แต่หลังการทำแผลนี่ต่างหากที่สำคัญ ไม่รู้ว่าเขาจะอดทนได้มากน้อยเพียงใด”

“แล้ว...คนผู้นี้เป็นใครเจ้าค่ะ” จางลี่เอียงคอถามอย่างสงสัย

เด็กสาวส่ายหน้าไปมา ทำให้แม่นมงุนงงหนักขึ้น

“ข้าเดินผ่านตลาดค้าทาส เห็นแล้วก็คิดว่าเขาเหมาะกับการเป็นหุ่นให้ข้าได้ฝึกฝนรักษาบาดแผลจึงซื้อมา”

“หา!”

ฟู่เซียงเซียงเหนื่อยล้าจนแทบสิ้นเรี่ยวแรง นางก้มหน้าลงมองคนเจ็บที่ยามนี้สิ้นฤทธิ์ไปแล้ว มือเรียวเล็กยื่นไปหยิบผ้าออกจากปากของเขา เงินสองตำลึงที่คิดจะซื้อข้าวสารและเนื้อสัตว์ไว้ให้แม่นมปรุงเป็นอาหารหายวับไปกับตา

จะโทษใครได้เล่านอกจากความใจอ่อนของตนเอง.

“ไม่น่าเชื่อเลย”

“ทำไมรึเจ้าคะ”

หมอจูซีห่าวในวัยสามสิบห้าหันมามองเจ้าของเสียงหวานใสที่จ้องมองเขาอย่างเฝ้ารอคำตอบ มุมปากยกยิ้มอย่างเอ็นดู เขาเคยประกาศว่าไม่รับนางเป็นศิษย์ แต่เด็กสาวต้องการหาเงินเป็นค่าใช้จ่าย นางเคยคัดตำรามาก่อน ลายมือใช้ได้ดีทีเดียวและยังหัวไวสอนอะไรนิดหน่อยก็จำได้อย่างดี เสียดายที่นางเกิดเป็นหญิง ซ้ำยังเป็นสตรีที่เกิดในตระกูลสูงส่งจะให้เป็นหมอหญิงนั้นคงเป็นไปได้ยาก แม้ว่าสภาพความเป็นอยู่ของนางจะดู...เอ่อ...ไม่สมฐานะบุตรสาวภรรยาเอกไปสักหน่อย

“เจ้าเย็บบาดแผลได้ดี หากหายแล้วคงเหลือแผลเป็นไม่น่าเกลียดนัก”

“ต้องแน่นอนอยู่แล้ว ข้านะฝึกฝนมาหลายครั้งแล้ว”

“แต่เจ้าก็เพิ่งเคยเย็บหนังมนุษย์ครั้งแรก”

หมอจูซีห่าวส่ายหน้าไปมาอายุยังน้อยแต่มั่นใจในตัวเองมากเกินไป ครั้งก่อนเขาไม่อยู่โรงหมอ นางแอบไปตรวจอาการคนป่วยเสียเอง แม้คนป่วยเป็นสตรีแต่นางก็ประมาทเกินไป

“ข้ายังไม่ได้คิดบัญชีที่เจ้าไปตรวจคนป่วยโดยพละการ”

“ข้าไม่ได้อยากไปเสียหน่อยแต่เพราะฮูหยินท่านนั้นต้องการให้ข้าไปตรวจด้วยตนเอง นางเป็นหญิงไม่กล้าพูดบางเรื่องกับท่านหมอหรอกเจ้าค่ะ” ฟู่เซียงเซียงเบ้ปากใส่ทำแง่งอนราวเด็กน้อย

“อย่าให้มีเรื่องเช่นนี้อีก” หมอจูซีห่าวถอนหายใจอีกครั้ง หากไม่รู้มาก่อนว่าความเป็นอยู่ของนางลำบากเพียงใด เขาคงไม่เชื่อว่าคุณหนูฟู่เซียงเซียงที่คนในเมืองต่างลือว่าร่างกายอ่อนแออยู่แต่ในจวน แท้จริงแล้วเป็นเด็กสาวร่าเริงและเฉลียวฉลาด เพราะเขาเป็นหมอที่เคยพานพบผู้คนมาหลายรูปแบบ จึงรู้ว่าเรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรพูด หรือไม่ก็ทำเป็นไม่เคยรู้เคยเห็นอะไรทั้งนั้น

“ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะ” ฟู่เซียงเซียงเข้าใจความลำบากใจของท่านหมอจูเป็นอย่างดี วันนี้ท่านหมอจูแค่แวะมาเตือนนางที่รักษาคนโดยพละการ แต่เมื่อนางเห็นหน้าเขาก็รีบจูงมือมาดูอาการของทาสที่ยังนอนหลับใหลหลังจากทำแผลตามเนื้อตัวและบนศีรษะให้เรียบร้อยแล้ว

“แล้วเจ้าจะทำอย่างไรต่อไป”

“อาจารย์หมายถึงเรื่องใดเจ้าคะ”

แม้ท่านหมอจูไม่รับนางเป็นศิษย์ แต่นางยังดื้อดึงเรียกเขาว่าอาจารย์อยู่ดี

“ทาสที่เจ้าซื้อมานี่อย่างไรเล่า จะเอาอย่างไรต่อไป ฐานะอย่างเจ้าจะเลี้ยงคนเพิ่มไหวหรือ?”

“อาจารย์อยากได้คนของข้ารึเจ้าคะ” นางถามกลับ ทำตา กลมโตเป็นประกายเจ้าเล่ห์ แต่คนถูกเรียกขานว่าเป็นอาจารย์กลับรู้ทัน ยกมือไปเขกศีรษะนางเบาๆ ทั้งเอ็นดูทั้งเหนื่อยใจ

“ข้าจะเอาไปทำอะไร” หมอจูซีห่าวส่ายหน้าไปมา “อย่าได้คิดว่าจะเอาคนมาแลกกับการรับเจ้าเป็นศิษย์”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel