พ่ายรักเชลยสาว

64.0K · จบแล้ว
เพลงมีนา
55
บท
7.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ฟู่เซียงเซียง บุตรสาวภรรยาเอกของเสนาบดีกรมพิธีการฟู่เจี้ยนกั๋ว อาศัยในแคว้นสือเจ้า ตั้งแต่มารดาของนางตายจาก บิดาละเลยไม่สนใจ นางจึงทุ่มเทแรงใจศึกษาแพทย์ปรารถนาจะเป็นหมอหญิง ขณะที่เดินผ่านตลาดค้าทาส บังเอิญได้พบทาสหนุ่มผู้หนึ่ง แม้สภาพร่างกายบอบช้ำเต็มไปด้วยบาดแผล แต่แววตาแข็งกร้าวทำให้นางตัดสินใจซื้อตัวทาสหนุ่มผู้นั้น โดยไม่รู้เลยว่า... ด้ายแดงแห่งโชคชะตาร้อยรัดพันเกี่ยวชีวิตของนางและเขาไว้ด้วยกัน “ข้าซื้อชายคนนี้สองตำลึง” นางกล่าวย้ำ “ไม่มีต่อรอง” ชายร่างท้วมกัดฟันกรอด แต่หันไปมองทาสที่ตนได้มาก็ได้แต่หัวเสีย ช่างเถอะ อย่างน้อยก็ได้เงินมาในมือดีกว่าขายไม่ได้แล้วยังต้องหาที่ทิ้งศพอีก “ได้! ขายสองตำลึง” ฟู่เซียงเซียงลอบถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินตามไปด้านหลังเพื่อรับสัญญาทาส ทว่าทาสที่นางซื้อมาไม่มีแรงเดินด้วยซ้ำ ชายฉกรรจ์สองคนหิ้วปีกลากร่างที่ไร้เรี่ยวแรงมากองที่พื้นแทบเท้านาง เด็กสาวชักเท้าไม่ทัน ใบหน้าของเขาจึงแทบจะซบกับรองเท้าของนาง เด็กสาวย่อตัวลงแล้วกระซิบเบาๆ “อดทนมาได้ถึงเวลานี้แล้วก็อดทนอีกนิดเถอะนะ อย่างไรก็มีชีวิตให้คุ้มค่าเงินสองตำลึงของข้าหน่อย”

นิยายจีนโบราณคนต่ำต้อยท่านอ๋องพลิกชีวิตหมอสายลับจีนโบราณโรแมนติกพระเอกเก่ง18+

ตอนที่1. สองตำลึง

แนะนำตัวละคร

ฟู่เซียงเซียง : บุตรสาวภรรยาเอกของเสนาบดีกรมพิธีการฟู่เจี้ยนกั๋ว อาศัยในแคว้นสือเจ้า สนใจวิชาแพทย์ปรารถนาจะเป็นหมอหญิง

ฟู่ซินอี๋ : บุตรสาวภรรยารองของเสนาบดีกรมพิธีการฟู่เจี้ยนกั๋ว มีศักดิ์เป็นน้องสาวฟู่เซียงเซียง

แม่นมหวงเจียอี : แม่นมที่เลี้ยงดูฟู่เซียงเซียงตั้งแต่แบะเบาะ รักและเอ็นดูฟู่เซียงเซียงดุจลูกในไส้

จางลี่ : สาวใช้ขาพิการ ที่ฟู่เซียงเซียงซื้อตัวมา

อี้เฉิน : ทาสหนุ่มที่ฟู๋เซียงเซียงซื้อตัวมา

ฉินตงหยาง : ไต๋อ๋องแห่งแคว้นฉิน

ชีอันฟาน : คนสนิทของไต๋อ๋อง

บทนำ

“ข้าซื้อชายคนนี้สองตำลึง” นางกล่าวย้ำ “ไม่มีต่อรอง”

ชายร่างท้วมกัดฟันกรอด แต่หันไปมองทาสที่ตนได้มาก็ได้แต่หัวเสีย ช่างเถอะ อย่างน้อยก็ได้เงินมาในมือดีกว่าขายไม่ได้แล้วยังต้องหาที่ทิ้งศพอีก

“ได้! ขายสองตำลึง”

ฟู่เซียงเซียงลอบถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินตามไปด้านหลังเพื่อรับสัญญาทาส ทว่าทาสที่นางซื้อมาไม่มีแรงเดินด้วยซ้ำ ชายฉกรรจ์สองคนหิ้วปีกลากร่างที่ไร้เรี่ยวแรงมากองที่พื้นแทบเท้านาง เด็กสาวชักเท้าไม่ทัน ใบหน้าของเขาจึงแทบจะซบกับรองเท้าของนาง เด็กสาวย่อตัวลงแล้วกระซิบเบาๆ

“อดทนมาได้ถึงเวลานี้แล้วก็อดทนอีกนิดเถอะนะ อย่างไรก็มีชีวิตให้คุ้มค่าเงินสองตำลึงของข้าหน่อย”

............

ตอนที่1.

ราวกับถูกสายตาคู่หนึ่งดึงดูดไว้ทำให้เด็กสาวที่แต่งกายด้วยชุดของเด็กชายที่ใหญ่เกินตัว ดวงตาเป็นประกายจ้องมองชายหนุ่มที่สภาพสะบักสะบอม เสื้อผ้าดูไม่ออกว่าสีเดิมเป็นสีอะไร ผมเผ้ารุงรังเกรอะกรังไม่น่ามอง ตามเนื้อตัวดูท่าจะมีแผลฟกช้ำห้อเลือดอยู่ไม่น้อย ริมฝีปากที่เม้มแน่นแต่เห็นได้ชัดว่าเขียวคล้ำ คงมีเพียงแววตาที่แข็งกร้าวที่บ่งบอกว่ายังมีชีวิต

“สิบตำลึง...สิบตำลึงเท่านั้น”

“สิบตำลึง!” เด็กสาวร้องเสียงหลงแต่ทำให้หลายคนหันมามอง นิ้วเรียวชี้ไปยังทาสหนุ่มที่ถูกกระชากให้ลุกขึ้นยืน แม้ร่างกายสูงใหญ่แต่สภาพดูไม่ได้เอาเสียเลย

“น้องชาย...นี่ไม่ใช่ที่ๆเด็กๆอย่างเจ้าจะมาเดินเล่น” นายหน้าค้าทาสพูดอย่างดูแคลน

“สภาพนี้สิบอีแปะก็นับว่าแพงไปแล้ว” นางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบและไม่มีท่าทีหวาดกลัวแต่อย่างใด ดวงตางดงามกวาดตามองทาสหนุ่มเบื้องหน้าแล้วส่ายหน้าไปมา “เนื้อตัวเป็นจ้ำเลือด ปากก็เขียวคล้ำ กลิ่นก็เหมือนเน่าราวซากศพ เอาคนผู้นี้ไปควรให้ค่าทำศพไปด้วยถึงจะถูก”

“เจ้า!” นายหน้าถึงกับตวาดอย่างลืมตัว ผู้คนที่ได้ยินก็พยักหน้าเห็นด้วยกับเด็กสาวเอ่ยออกมา

“ยืนห่างขนาดนี้ยังได้กลิ่นเหม็นเน่าเหมือนซากศพจริงๆ เอาไปทำอะไรได้” ใครคนหนึ่งพึมพำแล้วยกมือโบกไปมาไล่กลิ่นเหม็นที่โชยมาแตะปลายจมูก

“สภาพนี้ยังขายตั้งสิบตำลึง เกินไปแล้ว”

เสียงพูดคุยเริ่มดังขึ้น นายหน้าค้าทาสเริ่มหน้าเปลี่ยนสี เด็กหญิงยังสบตากับดวงตาแข็งกร้าวคู่นั้นแล้วยกมือขึ้น

“สองตำลึง”

“อะไรนะ!” นายหน้าคนเดิมผงะไป

“ข้าซื้อชายคนนี้สองตำลึง” นางกล่าวย้ำ “ไม่มีต่อรอง”

ชายร่างท้วมกัดฟันกรอด แต่หันไปมองทาสที่ตนได้มาก็ได้แต่หัวเสีย ช่างเถอะ อย่างน้อยก็ได้เงินมาในมือดีกว่าขายไม่ได้แล้วยังต้องหาที่ทิ้งศพอีก

“ได้! ขายสองตำลึง”

เด็กสาวลอบถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินตามไปด้านหลังเพื่อรับสัญญาทาส ทว่าทาสที่ซื้อมาไม่มีแรงเดินด้วยซ้ำ ชายฉกรรจ์สองคนหิ้วปีกลากร่างที่ไร้เรี่ยวแรงมากองที่พื้นแทบเท้านาง เด็กสาวชักเท้าไม่ทัน ใบหน้าของเขาจึงแทบซบกับรองเท้า เด็กสาวย่อตัวลงแล้วกระซิบเบาๆ

“อดทนมาได้ถึงเวลานี้แล้วก็อดทนอีกนิดเถอะนะ อย่างไรก็มีชีวิตให้คุ้มค่าเงินสองตำลึงของข้าหน่อย”

ดวงตาคมปลาบดุจสัตว์ป่าจ้องมองเหมือนอยากจะฉีกนางออกเป็นชิ้นๆ เด็กสาวผงะไปเล็กน้อย และฝืนยิ้มออกมา ทำใจแข็งแล้วลุกขึ้นยืนเดินไปจ้างรถม้ามาพาทาสหนุ่มผู้นี้กลับเรือน

หญิงวัยกลางผู้นั้นคือแม่นมหวง หรือนางหวงเจียอีกับสาวใช้ขาขวาพิการลีบเล็กชื่อจางลี่ ทั้งสองกำลังตากสมุนไพรอยู่ที่ลานกว้าง เสียงรถม้าหยุดนิ่งที่ประตูด้านข้างของเรือน ทำให้ทั้งสองหันไปมอง แล้วก็เป็นแม่นมหวงที่รีบเข้าไปหาคุณหนูของบ้านที่กำลังประคองร่างใหญ่โตของบุรุษผู้หนึ่ง ไหล่ข้างหนึ่งสะพายล่วมยาที่แทบจะหล่นจากบ่าแล้ว