บท
ตั้งค่า

ตอนที่ ๔ ตัดสินใจเร่งด่วน 1

แวนยอมไม่ไปทำงานนานถึงสามวัน เพื่อพาหลานสาวคนสวยไปเปิดหูเปิดตาตามสถานที่ต่างๆ ที่เจ้าตัวอยากไป จนกระทั่งวันนี้เองที่ได้มีโอกาสจัดปาร์ตี้เล็กๆ ที่คฤหาสน์เลอฟรองด์ ชายหนุ่มเชิญรินรตามาที่บ้านเพื่อหวังจะแนะนำให้รู้จักกับหลานสาวอย่างเป็นทางการ

เรเน่แสดงออกอย่างปกติ ไม่มีร่องรอยของความคุกรุ่น แต่ทนได้ไม่นานก็หมั่นไส้เสียจนต้องโทรศัพท์บอกเชนท์ ให้มาทำความรู้จักกับบิดามารดาในวันนี้เสียเลย แทนที่แวนจะไม่พอใจตามคาด เขากลับเห็นด้วยกับการกระทำของเธอ เพราะกำลังหาโอกาสขอโทษเชนท์สำหรับเรื่องที่เขาทำอะไรใจร้อนลงไปในคืนนั้น

เชนท์ยิ้มสุภาพและตอบรับคำขอโทษของแวนด้วยความเต็มใจ เขาเป็นคนที่มีนิสัยสุภาพมาก แต่ทันทีที่รินรตามาถึง บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นก็เปลี่ยนไป หญิงสาวจ้องมองเชนท์ด้วยสายตาประหลาด สีหน้าเหมือนกระอักกระอ่วนใจจนแวนสังเกตเห็น จึงเอ่ยปากชวนเธอให้เข้าไปในครัว โชคดีที่เรเน่ไม่ได้เดินตามมาด้วยเหมือนที่ทำมาตลอด เพราะเชนท์รั้งไว้ด้วยการบอกให้รับประทานน้ำพั้นช์ด้วยกัน

“มีอะไรหรือเปล่าริน?” ชายหนุ่มถามทันทีที่อยู่ด้วยกันตามลำพัง

“เอ่อ...มีค่ะ มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าฟังนัก” รินรตาพูดแล้วหันมองซ้ายขวาเพื่อดูให้แน่ใจว่าไม่มีคนอื่นอยู่แถวนี้ “แต่คุณควรรู้มากที่สุดนะคะแวน คือผู้ชายที่ชื่อเชนท์นั่นรินรู้จักเขาค่ะ แต่เดาว่าเขาคงจำรินไม่ได้ คุณพ่อของรินเป็นหุ้นส่วนกับคุณพ่อของเขา แล้วรินก็เคยไปร่วมงานสำคัญของเขาด้วยครั้งหนึ่ง”

“จะมีใครในโลกที่จำคนสวยอย่างคุณไม่ได้ด้วยเหรอเนี่ย” แวนเย้าเพราะไม่อยากเห็นเธอเครียดแบบนี้

“ไม่เอาน่าแวน นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะคะ” หญิงสาวแตะแขนเขาเบาๆ แล้วสบสายตาก่อนจะบอกทุกอย่างให้ฟัง “งานที่รินบอกว่าเคยไปร่วมด้วยครั้งหนึ่งนั่นน่ะ มันเป็น...งานแต่งงานของเขาค่ะ พูดตามตรงคือนายเชนท์นั่นแต่งงานมีครอบครัวแล้ว มีลูกสาวด้วยสองคน ที่สำคัญคือรินมั่นใจว่าเขายังไม่ได้เลิกกับภรรยา เพราะหลายวันก่อนรินยังเห็นเขาพาลูกกับภรรยาไปดูหนังอยู่เลย”

“นี่หมายความว่าหมอนั่นกำลังหลอกเรเน่เหรอ” เสียงของแวนเปลี่ยนจากอารมณ์ดีกลายเป็นฉุนเฉียวอย่างชัดเจน ปกติเขาไม่ใช่คนอารมณ์ร้อนไร้เหตุผล แต่ทุกครั้งที่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับหลานสาว เขามักจะทนไม่ได้และขาดสติทุกที “ผมจะไปถามมันให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้เลย!”

“ใจเย็นค่ะแวน” รินรตาคว้าแขนเขาไว้ทัน “ถ้าใจร้อนมันจะไม่ดีสำหรับเรเน่นะคะ ก่อนอื่นเราควรสืบดูให้รู้ก่อนดีกว่าว่าเรื่องมันจริงเท็จยังไง บางทีสิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่ความจริงเสมอไป รินอาจจะคิดผิดก็ได้...นะคะแวน อย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่นเลยนะคะ”

“ผมไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวอะไรกับงู!” ชายหนุ่มถามจริงจัง

“เอ่อ มันเป็นสุภาษิตไทยที่มีความหมายว่าประมาณว่าอย่าเพิ่งทำอะไรบุ่มบ่าม หรือให้มันเป็นเรื่องใหญ่น่ะค่ะ” หญิงสาวอธิบายขณะยกมือขึ้นทาบตรงต้นแขนเขา แล้วลูบไล้เบาๆ เพื่อให้ใจเย็นลง ตอนนี้แวนหน้าบึ้งอย่างน่ากลัว หายใจแรงจนทรวงอกสะท้อนขึ้นลงถี่รัว ดูแล้วก็ต้องรับทีเดียวว่าเรเน่ช่างมีอิทธิพลสำหรับเขาเหลือเกิน

“นี่มันห่าเหวอะไรกัน! ผมคิดว่าหมอนั่นน่าจะดีพอสำหรับหลานสาวผมแล้วเชียว ผมคงทนไม่ได้แน่ถ้าต้องเห็นเธอเสียใจเมื่อรู้ความจริง แล้วถ้ามันเป็นความจริงขึ้นมา ผมควรทำยังไงดี ผมคิดว่าเธอจะต้องรักนายเชนท์อะไรนั่นมากแน่ ผม...ผมไม่อยากเห็นเธอเสียใจเลยริน”

ความเจ็บปวดฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลา รินรตาตรงเข้าสวมกอดชายหนุ่มไว้แล้วกระซิบบอกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยในแบบของมันเอง เรื่องนี้มันคงไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก หากไม่ใช่เพราะเรเน่เคยพูดไว้แล้วว่าผู้ชายที่อยากแต่งงานด้วยก็คือเชนท์

เรเน่ยืนกำมือแน่นจนปลายนิ้วขาวซีดอยู่ตรงหน้าประตูครัว ลอบมองสองหนุ่มสาวกอดกันแนบแน่น ไหนแวนบอกว่ารินรตาเป็นแค่เพื่อน แล้วก็กำลังจะแต่งงานไปกับคนอื่น แต่ทำไมถึงได้มาลักลอบอยู่ด้วยกันลับหลังแบบนี้ คิดแล้วก็หงุดหงิดนักกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า อยากเดินเข้าไปกระชากหญิงสาวรุ่นพี่นั้นออกให้ห่าง แล้วตบสั่งสอนสักสองทีที่กล้านอกใจผู้ชายของตัวเองมากกกอดคุณอาของเธอ น่าเสียดายที่ทำได้แค่เพียงในความคิดเท่านั้น

“อาแวนคะ” เรเน่เดินตรงเข้าไปในครัวด้วยรอยยิ้มสดใส ทำให้สองหนุ่มสาวแยกห่างจากกันอย่างรวดเร็ว “คุณแม่บอกว่าให้ออกไปทานบาร์บีคิวได้แล้วค่ะ คุณพ่อเปิดไวน์รออาแวนแล้วด้วย เชิญอารินด้วยกันเลยนะคะ” เธอเรียกเพื่อนสาวของเขาว่าอาเช่นเดียวกัน

“เดี๋ยวเราจะตามออกไป” แวนพยักหน้าแล้วเอ่ยยิ้มๆ เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความลำบากใจ แต่เรเน่มองว่าอากัปกิริยาเหล่านั้นคือการแสดงออกของคนที่ถูกจับได้ว่ากำลังทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ถ้าเธอร้ายกาจกว่านี้คงแอบถ่ายรูปแล้วไปตามหาว่าที่สามีของรินรตาเพื่อให้ดูเองกับตา แต่ถ้าทำแบบนั้นแล้วพวกเขาเลิกกัน รินรตาจะต้องกลับมาซบอกแวนแน่ เธอจะไม่ยอมปล่อยให้เป็นอย่างนั้นได้เด็ดขาด

“โอเคค่ะ” หญิงสาวรับคำอย่างว่าง่าย แล้วหมุนตัวเดินออกไปจากห้องครัว ทันทีที่หันหลังให้ทั้งคู่ สีหน้าที่ยิ้มแย้มก็แปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงด้วยความกรุ่นโกรธ แต่ก็จำเป็นต้องแสดงละครให้สมบทบาท

ถ้าเผลอหลุดบทหลานสาวที่น่ารักว่าง่ายไปแล้วล่ะก็ แวนคงจะหนีหน้าหายไปอีก สิ่งที่เธอต้องการในตอนนี้คือได้อยู่เคียงข้างเขา มีเขาให้กอดในเวลาที่อยากกอด แล้วก็ได้แอบหอมแก้มแบบเนียนๆ เสมือนอาหลาน ทั้งที่ความจริงแล้วเธอคิดไปไกลกว่านั้นมาก ทว่าไม่ได้ถึงขั้นหื่นกามน่าเกลียดแต่อย่างใด

“ถ้าเรเน่ได้รู้ว่าคุณรักเธอมากมายขนาดนี้ เธอคงดีใจนะคะแวน แต่ถึงยังไงคุณก็ต้องใจเย็นนะคะ อย่าเพิ่งรีบร้อนสำหรับเรื่องนั้น” เสียงของรินรตาที่แว่วมาตามหลัง ทำให้เรเน่ที่แอบยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งหน้าห้องครัวรีบเงี่ยหูฟัง แต่สิ่งที่ได้ยินหลังจากนี้ช่างทำร้ายความรู้สึกของคนแอบฟังเสียจริง

“ผมทำทุกอย่างเพื่อโนอาห์กับพี่ษา ผมอยากให้เรเน่แต่งงานมีครอบครัวเสียที ผมแค่...เหนื่อยล้าเหลือเกิน” สิ้นประโยคนี้คนที่ซ่อนตัวเองอยู่ตรงมุมมืดก็ยกมือขึ้นปาดน้ำตา แล้วรีบเดินออกไปสมทบกับคนที่อยู่ข้างนอกด้วยรอยยิ้มปั้นแต่ง และดูจะออดอ้อนแฟนหนุ่มมากเป็นพิเศษ แต่ถ้าได้ฟังบทสนทนาของแวนจนจบ เธอจะไม่คิดเสียใจเลย

“ผมเหนื่อยใจกับเรื่องของนายเชนท์มาก สิ่งที่ผมต้องการมากที่สุดคือแค่ได้เห็นเรเน่แต่งงานกับผู้ชายที่เธอรัก แต่นี่...ผมไม่รู้จะทำยังไงถ้ามันเป็นความจริง ผมทนเห็นเรเน่เสียใจไม่ได้หรอกนะ”

“รินเข้าใจค่ะ ถ้ามีคุณอยู่ด้วย การอกหักมันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเธอหรอก”

“หวังว่ามันคงจริงอย่างที่คุณว่านะ ขอให้ผมแค่คิดมากไปเองเถอะ”

“ทำหน้าให้มันร่าเริงได้แล้วนะคะ เราหายกันมานานเกินไปแล้ว เอาเป็นว่ารินจะให้คุณรุจน์ช่วยสืบเรื่องนี้ดูอย่างละเอียดเลยแล้วกันค่ะ บางทีมีแฟนเป็นผู้มีอิทธิพลมันก็ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์กันหน่อย” รินรตาว่าพร้อมยิ้มหวานให้เขาคลายความตึงเครียด แวนเป่าปากถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะยิ้มออกมาเพื่อให้สีหน้าตัวเองดูเป็นปกติมากที่สุด เขาจะพยายามเชื่อว่าถ้าเรเน่มีเขาอยู่เคียงข้าง เธอต้องผ่านเรื่องที่กำลังจะพบเจอไปได้อย่างแน่นอน

หลังจากรับประทานอาหารจนอิ่มเอมกันเต็มที่แล้ว เชนท์กับเรเน่ก็แยกตัวมานั่งที่ชิงช้าตัวยาวในสวนกันตามลำพัง หญิงสาวมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรัก พร้อมลอบถอนหายใจ เขาเป็นคนดีที่มีทุกอย่างเพียบพร้อม หากในที่สุดได้ลงเอยกันด้วยการแต่งงาน วันหนึ่งอาจจะยอมเปิดใจรักเขาได้อย่างแท้จริง การที่เอาแต่มานั่งจับเจ่าคอยคิดถึงแต่เรื่องของแวนอยู่ตลอดเวลา มันไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นเลย

ต่อให้พยายามมากแค่ไหน เรื่องระหว่างเธอกับอาหนุ่มก็เปรียบดั่งเส้นขนานที่ไม่มีวันมาบรรจบกัน อย่างมากที่สุดก็คงแค่ได้อยู่เคียงข้างกันไปเท่านั้น เมื่อนึกถึงเรื่องที่แอบได้ยินมาว่าแวนพยายามผลักไสเธอให้รีบแต่งงานไปเสีย ทำให้เธอคิดทบทวนอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งตัดสินใจว่าควรเอ่ยเรื่องนี้กับเชนท์เสียที

“พี่เชนท์รักพีชไหมคะ”

“ทำไมน้องพีชถึงถามแบบนี้ล่ะ พี่ต้องรักน้องพีชสิครับ รักมากด้วย” ชายหนุ่มยืนยันพร้อมดึงมือบางไปกุมไว้ ใครเล่าจะไม่รักสาวสวยนัยน์ตาชวนฝันเย้ายวนคนนี้ เรเน่เป็นผู้หญิงที่สวยมากและฉลาดเป็นกรด การศึกษาหรือฐานะทางสังคมก็มีชื่อเสียงไม่น้อยหน้าใคร ทายาทคนเดียวของตระกูลเลอฟรองด์ แทบไม่มีใครเลยที่จะไม่รู้จักเธอ

สื่อทุกแขนงไม่เคยพลาดที่จะติดตามเรื่องราวของตระกูลมหาเศรษฐีระดับแนวหน้า โดยเฉพาะเรื่องความหล่อเหลาของแวนที่โด่งดัง จนทุกวันนี้ก็ยังกลายเป็นประเด็นร้อนแรงไม่จางหาย มีหลายครั้งที่สื่อพยายามขุดคุ้ยที่มาของพ่อหนุ่มตาสวยคนนี้ แต่กลับไม่พบข้อมูลเลย

ทุกวันนี้จึงยังเป็นที่กังขาเสมอว่าเพราะเหตุใด เขาจึงใช้นามสกุลต่างจากพี่ชาย หลายคนซุบซิบกันว่าเขาเป็นลูกนอกไส้ที่ผู้เป็นพ่ออย่างมาติช คงจะไม่ยอมให้ใช้นามสกุล แน่นอนแวนไม่สนใจข่าวลือพวกนั้นสักนิด มันแทบไม่มีผลอะไรต่อจิตใจเขาเลย เพราะเขารู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร

“พีชคิดว่าถ้าเราสองคนรักกัน บางทีมันอาจถึงเวลาพูดคุยเรื่องอนาคตกันแล้วนะคะ” เรเน่ตัดใจพูดออกมา

“เรื่องอนาคต?” เชนท์ทำหน้างง แต่เพียงครู่เดียวก็แปรเปลี่ยนเป็นนิ่งอึ้ง มองสบตากับหญิงสาวด้วยตรงๆ แล้วยิ้มกว้างจนมองเห็นแนวฟันขาวเรียบเรียงเป็นระเบียบ “น้องพีชหมายถึงเรื่องแต่งงานใช่ไหมครับ ถ้าใช่...พี่พร้อมเสมอนะสำหรับเรื่องนี้ แต่ทางพ่อแม่น้องพีชนี่สิ คงยังไม่อยากให้เรารีบร้อนแน่เลยครับ”

“คุณพ่อหัวสมัยใหม่ค่ะ พีชว่าท่านคงพูดกับคุณแม่ได้สบายมาก”

“แล้วคุณแวนล่ะ อย่าลืมสิว่าอาของพีชหวงพีชมาก” เขาชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดกับเธอ

“ช่างอาแวนสิคะ พีชแคร์แค่คุณพ่อคุณแม่เท่านั้น” หญิงสาวทำหน้าเชิดแบบเด็กดื้อรั้น เชนท์มองกริยานั้นแล้วนึกอยากดึงร่างบางเข้ามากอดจูบให้หนำใจ แต่ถ้าขืนเผยตัวตนออกมาเสียตอนนี้ เกรงว่าเธอจะหนีเตลิดเปิดเปิงไป จนสุดท้ายเขาก็พลาดในสิ่งที่ต้องการ

เชนท์ยอมรับว่ารักเรเน่ แต่มันคือความจริงที่ว่าเขาได้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้วเมื่อห้าปีก่อน อีกทั้งยังมีลูกสาวแล้วถึงสองคน คนแรกอายุห้าขวบ เพราะเกิดขึ้นมาในท้องของปวิชญา ภรรยาของเขาตั้งแต่ก่อนแต่งงาน ส่วนอีกคนเพิ่งครบสองขวบไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ปวิชญาเป็นผู้หญิงที่ดีมากคนหนึ่ง แต่ด้วยวัยที่มากกว่าเขาถึงสามปี อีกทั้งยังเอาแต่สนใจลูกจนลืมปรนนิบัติสามีตามหน้าที่ มันทำให้เขาระอากับการที่ต้องติดแหงกอยู่กับเธอ

เรเน่ทั้งสาวและสวยกว่ามาก ที่สำคัญกว่านั้นคือสามารถให้ในสิ่งที่เขาต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนหนุนบริษัทของเขาให้ก้าวไกล หรือแม้กระทั่งชื่อเสียงที่จะได้รับพ่วงมาจากตระกูลของเธอหลังแต่งงาน ฉะนั้นจึงยืนยันได้เลยว่าเขาต้องการแต่งงานกับเธอโดยเร็วที่สุดเหมือนกัน สิ่งที่เขาต้องทำต่อจากนี้คือหาทางหย่าขาดกับปวิชญาให้ได้ เขาสัญญาว่าถึงอย่างไรก็จะยังคงส่งเสียลูกสาวทั้งสองคนเสมอ ไม่มีวันทอดทิ้งเด็ดขาด

“ถ้าน้องพีชยืนยันแบบนั้น...พี่ก็ตกลงครับ พี่เองก็อายุสามสิบแล้ว ถึงเวลามีครอบครัวที่อบอุ่นเสียที” เชนท์ตอบตกลงหลังจากนิ่งเงียบไปชั่วอึดใจ “เราไปบอกเรื่องนี้กับคุณพ่อคุณแม่ของน้องพีชเลยดีไหมครับ ส่วนฤกษ์นั้นถือเอาฤกษ์สะดวกไปเลยก็ได้ ขอแค่ให้เราสองคนได้แต่งงานกันโดยเร็วที่สุดก็พอ”

“มันจะไม่รีบร้อนไปหน่อยเหรอ?” เสียงทุ้มกังวานที่เปรียบเสมือนดนตรีชั้นยอดดังขึ้นจากทางด้านหลัง เมื่อทั้งสองคนหันไปมองก็พบแวนยืนอยู่ตรงนั้นกับรินรตา สีหน้าของเขาราบเรียบไร้อารมณ์ ดวงตาสีฟ้ากระจ่างแวววาวงดงามเมื่อต้องแสงไฟที่ประดับตกแต่งอยู่ในสวน

“คุณแวน...” เชนท์พึมพำแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับเรเน่ จำต้องทำหน้าเจียมตัวเพื่อให้ตัวเองน่าสงสาร ทั้งที่ความจริงอยากวิ่งเข้าไปต่อยหน้าหล่อเหลากวนประสาทนั่นสักที โทษฐานที่คอยทำตัวเป็นมารขวางความสำเร็จในชีวิตของเขา นี่ถ้าแต่งงานกับเรเน่เมื่อไร เขาจะหาเรื่องยุยงให้เธอเกลียดคุณอาคนนี้ให้ถึงที่สุดเลย

“ทำไมคะอาแวน รีบแล้วมันผิดตรงไหน” หลานสาวเอ่ยแล้วยิ้มประชด

“อาคิดว่าพีชควรดูให้ดีก่อนนะว่าคนที่คบหาอยู่น่ะ...”

“แวนคะ! เอ่อ...น้องพีชก็คงไม่ได้หมายความว่าจะแต่งพรุ่งนี้สักหน่อยนี่นา” รินรตาฉุดแขนล่ำกำยำไว้ แล้วเอ่ยแทรกขึ้นเพื่อห้ามไม่ให้แวนเผลอหลุดปากพูดเรื่องสำคัญออกมาตอนนี้ “รินว่ารินน่าจะกลับบ้านได้แล้ว แวนช่วยเดินไปส่งที่รถหน่อยนะคะ รินมีเรื่องอยากคุยด้วยอีกนิดหน่อย”

“จะกลับแล้วเหรอครับคุณริน ผมคิดว่าจะอยู่นั่งเล่นด้วยกันต่อเสียอีก แบบนี้คุณแวนจะไม่ได้โกรธแย่เหรอครับที่แฟนสาวคนสวยจะทิ้งไปหลังปาร์ตี้ของครอบครัวจบลง แอบนัดหนุ่มอื่นไว้หรือเปล่าครับเนี่ย” เชนท์จงใจพูดเย้าแหย่สาวสวย “แต่ลืมไปเลยครับ น้องพีชบอกว่าคุณสองคนไม่ใช่แฟนกันนี่นา” พูดแล้วก็จ้องมองอย่างโลมเลีย โดยระมัดระวังอย่างมากที่จะไม่ให้แฟนสาวสังเกตเห็น

จะว่าไปรินรตาก็สวยเซ็กซี่ใช่เล่นเสียที่ไหน รูปร่างมีส่วนเว้าส่วนโค้งอวบอัดไปหมด หน้าอกหน้าใจดูเต็มไม้เต็มมือ ไม่อยากจินตนาการเลยว่าถ้าได้สัมผัสมันในสภาพไร้อาภรณ์ปกปิดสักครั้ง เนื้อหนังอุ่นซ่านของเธอจะทำให้เขาตื่นตัวได้มากแค่ไหน นี่ถ้าลองตามจีบดูสักหน่อย บางทีอาจจะสอยมาขึ้นเตียงสำเร็จก็ได้

“นั่นสิริน คุณกลับเร็วแบบนี้ผมคงเหงาแย่” แวนยอมไหลไปตามน้ำ ทำเอาเรเน่ถึงกับหน้าชาด้วยความหึงหวง ยิ่งเมื่อเขาโอบเอวรินรตาแล้วดึงเข้ามาเบียดชิดอยู่ข้างตัว เธอแทบดิ้นพล่านด้วยความไม่พอใจ “แต่ในเมื่อที่นี่มันไม่มีอะไรน่าสนใจแล้ว เราไปต่อที่อื่นกันดีกว่าไหมครับ” ร่างสูงใหญ่โน้มลงกระซิบชิดใบหูเล็ก แล้วจุมพิตข้างแก้มฟอดใหญ่

“อาแวน!” เรเน่ทนไม่ได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel