บท
ตั้งค่า

ตอนที่ ๔ ตัดสินใจเร่งด่วน 2

“หืม มีอะไรพีช เรียกอาเสียงดังเชียว” แวนเงยหน้าขึ้นมองสบตากับหลานสาว ตอนแรกเขาก็ไม่ได้มีแผนที่จะทำแบบนี้เลยแม้แต่น้อย แต่พอเห็นสายตาสกปรกที่เชนท์มองมา เขาก็เลยนึกอยากเล่นละครขึ้นมาเสียหน่อย ด้วยอยากให้หมอนั่นรู้ว่าเพื่อนสาวของเขามีเจ้าของแล้ว

“อาแวนไปทำแบบนั้นได้ยังไงคะ! อารินมีแฟนอยู่แล้วนะ”

“เรื่องนั้นอาแค่ตอบปัดแบบพวกดาราเท่านั้นเอง” ชายหนุ่มหัวเราะร่วน “ความจริงเราสองคนยังคบกันอยู่ แล้วก็รักกันมากด้วย ไม่แน่นะ...บางทีข่าวดีของอากับอารินอาจจะมีพร้อมพีชเลยก็ได้ แต่งงานทีเดียวสองคู่มันน่าประทับใจจะตาย จริงไหมครับริน?” เขาหันมาถามคนข้างตัวที่ตอนนี้ยืนตัวแข็งจนแทบเป็นหินไปแล้ว กระนั้นก็ยังอุตส่าห์เค้นเสียงตอบออกมาจากลำคอได้สำเร็จ

“เอ่อ...ก็ดีนะคะ จัดกันทีเดียวสองคู่เลย” รินรตาตอบแล้วยิ้มแหย รีบฉุดมือแวนไปกุมไว้แน่น “ไปกันเถอะค่ะแวน เดี๋ยวเราไป...ไป เอ่อ...ไปหาอะไรสนุกๆ ทำกันที่บ้านรินแล้วกันค่ะ” คำพูดกำกวมที่หลุดออกมาจากปากทำเอาเรเน่ตาค้างด้วยความตกใจ คนพูดเองก็นึกอยากกัดลิ้นตัวเองด้วยเหมือนกัน

“ให้ตายเถอะที่รัก คุณเอ่ยปากขนาดนี้ผมจะไม่พร้อมได้ยังไง” แล้วคุณอาที่แสบไม่แพ้หลานสาวก็ดึงร่างอรชรของเพื่อนสนิทเข้ามากอดแนบอกให้สมจริง ไม่วายหันไปยิ้มเยาะไอ้เสือหิวบ้ากามอย่างเชนท์อย่างผู้มีชัย “คืนนี้อาไม่กลับมานอนที่บ้านนะพีช ถ้าทุกคนถามถึงก็ช่วยบอกให้ด้วยว่าอาจะไปค้างที่...อื่น” ท้ายประโยคเขาจ้องรินรตาด้วยสายตาวาววับ

เรเน่กำมือแน่นและต้องพยายามเพิ่มขึ้นเท่าตัวในการสั่งตัวเองไม่ให้กรีดร้องออกมา เชนท์ทำหน้าเจ็บใจที่แวนเป็นฝ่ายได้สาวสวยไปกกกอดในคืนนี้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นฝ่ายแพ้ ผู้หญิงกลางคืนมีมากมายให้เลือกเสพสุขด้วย เขาจะเลือกคนที่น่ากินกว่าผู้หญิงของแวนก็ยังได้

“ไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่กันเถอะน้องพีช” ชายหนุ่มเอ่ยชวน เมื่อเห็นหญิงสาวเอาแต่มองตามแผ่นหลังของแวนและรินรตาไปชนิดไม่กะพริบตา “น้องพีชเป็นอะไรไปครับ ทำไมดูเหมือนกำลังไม่พอใจอะไร หรือว่าน้องพีชไม่ชอบที่พี่ไปพูดจาเล่นหัวกับคุณรินเขา มันไม่มีอะไรหรอกนะ ยังไงพี่ก็รักน้องพีชคนเดียว”

“พีชรู้ค่ะ แต่...พี่เชนท์จะว่ายังไงคะ ถ้าพีชอยากให้เราย้ายกลับฝรั่งเศสกันทันทีหลังแต่งงาน พีชไม่อยากอยู่เมืองไทยอีกแล้ว” เธอเค้นเสียงที่แหบแห้งออกมาลำคอ พยายามทำสีหน้าให้ปกติเมื่อหันมาสบตากับเขา “มันจะมีผลอะไรกับงานของพี่เชนท์ไหมคะ”

“ไม่หรอกครับ น้องพีชอยากไปไหนพี่ก็ตามใจทั้งนั้น ดีเสียอีกที่พี่จะได้กลับไปดูแลงานที่ฝรั่งเศสเหมือนเดิม เพราะคุณพ่อเองก็บ่นอยู่เหมือนกันว่าน้องชายของพี่มันทำงานไม่ได้เรื่องเลย ไปแค่ไม่กี่วันก็ทำเรื่องง่ายให้ยากไปเสียหมด ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ว่าเราไปอยู่ฝรั่งเศสกันน่ะดีที่สุดแล้ว”

ถือเป็นทางสะดวกของเชนท์เลยทีเดียว เขาจะได้บอกปวิชญาว่าต้องกลับไปทำงานที่เดิม ปล่อยให้เธอได้อยู่ในบ้านของเขาเพื่อเลี้ยงดูลูกๆ ต่อไป ในขณะที่เขากับภรรยาใหม่กำลังมีความสุขกันอยู่ที่ฝรั่งเศส สำหรับบิดาของเขาเรื่องนี้ไม่เป็นปัญหา เพราะท่านเองก็มีบ้านเล็กบ้านน้อยนับไม่ถ้วน ยิ่งถ้าทำเพื่อผลประโยชน์ของครอบครัวศิริกีรกุล ท่านออกจะสนับสนุนด้วยซ้ำ

“พี่เชนท์แน่ใจนะคะ?”

“แน่ใจสิครับ” เขายืนยันและอาศัยจังหวะนั้นดึงร่างบางเข้าสู่อ้อมกอด

“ดีค่ะ ถ้างั้นเราไปพูดเรื่องแต่งงานกับคุณพ่อคุณแม่กันเลย มีเวลาสักสองสัปดาห์คงพอจัดงานทันอยู่ พีชอยากให้เราแต่งงานกันให้เร็วที่สุด พีชไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้วค่ะ”

“อย่าว่าแต่สองสัปดาห์เลยครับ แต่สัปดาห์เดียวพี่ก็ทำให้ทุกอย่างทันการณ์ได้ อยู่ที่น้องพีชมากกว่าจะต้องการเลือกชุดแต่งงานแบบพิถีพิถันแค่ไหน เพราะกว่าจะตัดเสร็จมันก็ใช้เวลาไม่น้อยเลย พี่ห่วงแค่ตรงนี้เท่านั้นเอง เรื่องงานกับสถานที่ไม่ใช่ปัญหา จัดงานเลี้ยงที่โรงแรมสาขาใหญ่ในกรุงเทพของพี่ได้เลยครับ”

“ตกลงค่ะ เราจะแต่งงานกันสัปดาห์หน้าเลย เรื่องชุดพีชไม่จำเป็นต้องสั่งตัดใหม่หรอกค่ะ คุณแม่เคยบอกว่าอยากให้พีชใส่ชุดแต่งงานของคุณแม่ น่าจะใส่ได้พอดีเลยเพราะเมื่อตอนสาวๆ คุณแม่ก็รูปร่างพอกันกับพีช” หญิงสาวผละออกจากอ้อมกอดเขาอย่างนุ่มนวล “ไปค่ะ ไปบอกเรื่องนี้กับผู้ใหญ่กันเลย”

“เดี๋ยวสิ ถ้าเกิดพวกท่านไม่ยอมขึ้นมาล่ะ” เชนท์ไม่มั่นใจนัก เพราะดูแล้วอุษาไม่ค่อยชอบหน้าเขาเท่าไร แทบจะเมินใส่เลยก็ว่าได้ ไหนจะสายตาประหลาดของแวนกับรินรตาอีก นี่ยังดีที่โนอาห์ยิ้มแย้มซักถามเรื่องทั่วไปอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นเขาคงอึดอัดตายคาโต๊ะอาหารไปนานแล้ว

“ถ้าพวกท่านไม่ยอม พีชจะบอกว่าพีชท้องค่ะ!”

รินรตาไม่ได้พาแวนไปเล่นสนุกอะไรกันที่บ้านของเธอ ตามที่ประกาศออกไปต่อหน้าเรเน่ แต่เธอพาเพื่อนหนุ่มคนสนิทไปพบรุจน์ เพื่อพูดคุยถึงเรื่องที่ต้องการให้ช่วยสืบเกี่ยวกับประวัติของเชนท์อย่างละเอียด ด้วยเห็นว่าแฟนหนุ่มของเธอเป็นคนกว้างขวางมาก น่าจะสามารถให้คำตอบได้รวดเร็วทันใจที่สุด

รุจน์ รวีราชศักดิ์ เป็นชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับแวน หน้าตาหล่อเหลาแบบชายไทย รูปร่างสูงโปร่งและมีผิวสีแทนสวย เขาเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่กว้างขวางที่สุดในเมืองไทย นอกจากนั้นยังค่อนข้างโด่งดังในเรื่องที่มีอิทธิพลใหญ่โต แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนไม่ดี รุจน์เป็นคนที่ดีมากคนหนึ่ง ไม่เคยใช้อำนาจของตัวเองในทางที่ผิด ที่สำคัญคือเขาทั้งรักและยกย่องว่าที่เจ้าสาวคนสวยอย่างออกหน้าออกตา

“ยินดีที่ได้พบนะครับคุณแวน ผมได้ยินมาว่าคุณน่ะหาตัวจับยากยิ่งกว่าดาราเสียอีก แต่มันก็ไม่แปลกหรอก ในเมื่อคุณช่างสง่างามเหมือนดาราฝรั่งเลยทีเดียว” รุจน์เอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร ก่อนจะหันมาสบตากับแฟนสาวที่ยิ้มหวานหยดจนน่าลากขึ้นเตียงเสียตอนนี้เลย

“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ผมก็ผู้ชายพื้นๆ ที่มีข่าวฉาวบ้างเป็นระยะ” แวนถ่อมตัวเสมอ “ผมต้องขอโทษด้วยที่ขอให้รินพามาพบคุณในเวลาพักผ่อนแบบนี้ แต่ผมค่อนข้างร้อนใจมากกับเรื่องของนายเชนท์อะไรนั่น ตอนที่ขับรถมาที่นี่รินก็โทรมาคุยกับคุณก่อนแล้ว คุณคงพอเข้าใจนะครับว่าทำไมผมถึงต้องมารบกวน”

“ผมเข้าใจดีครับ เป็นธรรมดาที่คุณต้องร้อนใจถ้ามีใครสักคนมาหลอกลวงหลานสาวคุณ เชิญนั่งก่อนดีกว่า” รุจน์ยิ้มให้แล้วผายมือบอกให้แวนนั่งลงบนโซฟารับแขกที่ดูแล้วคงมีราคาแพงพอตัว รสนิยมของผู้ชายคนนี้ทำเอาแวนต้องมองไปรอบๆ อย่างสนใจ “ผมคงต้องขอถามก่อนว่าในเมื่อคุณเองก็แสนจะกว้างขวาง แต่ทำไมถึงไม่เคยรู้จักกับครอบครัวของนายเชนท์เลย พวกศิริกีรกุลออกจะชอบตีสนิทกับคนที่มั่งมียิ่งกว่า”

“ครอบครัวเลอฟรองด์ไม่ค่อยตอบรับการออกงานสังคมครับ จะไปแค่ในกรณีที่มีการบริจาคหรือทำประโยชน์ให้กับคนที่ด้อยกว่าเท่านั้น ทุกคนอาจจะรู้จักเราผ่านทางสื่อต่างๆ หรืออาจจะปากต่อปาก แต่ความจริงแล้วพวกเราไม่ค่อยได้สนใจใครนัก เน้นหนักที่การทำงาน แล้วก็เดินทางไปพักผ่อนต่างจังหวัดมากกว่า พี่ชายกับพี่สะใภ้ของผมเขาติดนิสัยรักสันโดษพอสมควรเลย”

“แบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะเวลาไปร่วมงานเลี้ยงทั่วไป ผมถึงไม่ค่อยได้เจอพวกคุณเลย” รุจน์ยังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าเสมอ แวนเคยได้ยินมาจากหลายคนว่าเขาเป็นพวกวางก้ามและหยิ่งยโส แต่วันนี้ได้รู้เห็นเองกับตาแล้วว่ามันไม่จริงเลย ข่าวลือมันถูกสร้างขึ้นได้กับทุกคนนั่นแหละ “อันที่จริงคุณจะสืบเองก็ได้ แต่คงไม่อยากรอจนเช้าสินะครับ ดูท่าคุณจะรักหลานสาวคนนี้มาก”

“ผมมีหลานสาวแค่คนเดียว เธอเป็นทุกความหวังของผม ผมจะปล่อยให้เธอโดนคนเห็นแก่ตัวมาหลอกลวงไม่ได้” ชายหนุ่มยอมรับว่ารักหลานสาวมากเหลือเกิน “ที่ผมมาหาคุณเพราะคิดว่าคุณน่าจะให้ข้อมูลได้เร็วกว่าใคร รินบอกว่าคุณรู้จักคนเยอะมาก แทบจะทุกแวดวงเลยก็ว่าได้”

“คุณคิดถูกแล้วครับที่มาหาผม ไม่ต้องรอไปสืบสาวหาความจริงเองในวันพรุ่งนี้ เพราะผมมีคำตอบให้คุณตอนนี้เลย” คนที่ถูกขนานนามว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลว่าพลางยกแก้ววิสกี้ขึ้นจิบ “สิ่งที่รินสงสัยคือความจริงล้านเปอร์เซ็นต์ครับ ไอ้เชนท์มันแต่งงานไปประมาณห้าปีแล้ว เมียของมันแก่กว่าสามปี แต่เธอค่อนข้างร่ำรวยมันเลยรีบรวบหัวรวบหาง ตอนนี้ยังไม่ได้เลิกขาดจากกัน เมียมันชื่อปวิชญาครับ อายุไม่เยอะหรอก รู้สึกจะน้อยกว่าเราประมาณสองปี ผมว่าเธอยังดูดีอยู่มากนะ แต่อย่างว่า...ไอ้เชนท์มันพวกหื่นไม่เลือกหน้า มันนอกใจเมียมันเสมอแหละ”

“ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงมองรินแบบนั้น” แวนส่ายหน้าอย่างระอาในพฤติกรรมของคนที่ได้ชื่อว่ามีครอบครัวแล้ว คำพูดของเขาทำให้รุจน์นิ่วหน้าเหมือนรู้สึกไม่พอใจ หันไปมองหน้าหญิงคนรักที่นั่งห่างออกไปเล็กน้อยอย่างหวงแหน พร้อมกับแผนชั่วร้ายที่ผุดขึ้นมาให้ ใครที่กล้าล้ำเส้นผู้หญิงของเขา มันจะต้องถูกสั่งสอน

“ไม่ต้องเลยนะคะรุจน์ รินรู้นะว่าคุณคิดอะไรอยู่” เสียงนุ่มหยุดความคิดเขาให้พังลงไม่เป็นท่า

“ก็ได้ๆ ผมจะถือว่าไม่ได้ยินเรื่องนี้จากคุณแวนแล้วกัน แต่ถ้ามันทำตัวทุเรศกับคุณอีก ผมไม่ปล่อยเป็นครั้งที่สองแน่” ว่าที่สามีเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณไม่น่าบอกให้เอาฤกษ์แต่งงานตามที่พ่อแม่คุณหามาเลย ไม่งั้นป่านนี้ผมคงได้ประกาศให้โลกรู้ไปแล้วว่าคุณเป็นของผม แต่ถึงไอ้บ้านั่นจะรู้ว่าคุณมีเจ้าของ มันก็ไม่ช่วยให้สันดานเปลี่ยนไปได้หรอก”

“อย่าหัวเสียกับเรื่องของรินสิคะ แวนกำลังต้องการข้อมูลอยู่นะ” หญิงสาวตำหนิ

“ขอโทษทีครับคุณแวน” รุจน์ค้อมศีรษะเล็กน้อยเป็นเชิงขอโทษ

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ข้อมูลที่คุณรุจน์ให้มาก็ถือว่ามากพอที่จะยืนยันแล้ว ขอบคุณมากนะครับที่ช่วย เอาไว้โอกาสหน้าถ้ามีเรื่องอะไรที่ผมช่วยได้ ไม่ต้องเกรงใจเลยนะครับ ผมยินดีช่วยเหลือเต็มที่เลย” แวนยิ้มอ่อนโยน ต่างจากดวงตาที่เต็มไปด้วยประกายแห่งความโกรธเคือง ยังไม่ทันได้พูดอะไรกันไปมากกว่านี้ เสียงโทรศัพท์ของแวนก็ดังขึ้นขัดจังหวะ

“ครับพี่ษา” เขากดรับสายทันที

“เธออยู่ไหนเอ็นโซ!” น้ำเสียงของพี่สะใภ้ฟังดูร้อนรนและสั่นเครืออยู่ในที

“ผมอยู่บ้านเพื่อนครับ พี่ษาเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงเสียงสั่นแบบนี้”

“ก็หลานสาวเธอน่ะสิ แม่เด็กเอาแต่ใจคนนั้นดื้อรั้นเหลือเกิน”

“เรเน่ทำอะไรอีกครับ?”

“มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย ฮึก...เอาไว้มาคุยกันที่นี่ดีกว่านะ รีบกลับมาบ้านได้ไหมเอ็นโซ ตอนนี้พี่กับโนอาห์ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว” ในที่สุดเธอก็ร้องไห้ออกมาราวกับสุดจะทนไหว “พี่กับพี่ชายของเธอมีเรื่องสำคัญมากที่ต้องการให้เธอช่วย ทุกอย่างมันต้องแย่แน่ถ้าเราไม่มีเธอมาจนถึงทุกวันนี้ รีบกลับมานะเอ็นโซ ขับรถดีๆ นะ” พูดจบปลายสายก็ตัดขาดไปโดยไม่รอให้ได้ถามอะไรเพิ่มเติม

แวนขบกรามแน่นด้วยความเป็นกังวล พยายามไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ แต่ลางสังหรณ์เถียงขึ้นมาว่าความดื้อรั้นของเรเน่ในครั้งนี้จะต้องไม่ธรรมดาแน่ เพราะถ้ามันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเหมือนที่ผ่านมา อุษาไม่จำเป็นต้องโทรศัพท์มาตามตัวเขาด่วนแบบนี้หรอก

“ผมคงต้องขอตัวกลับแล้ว ที่บ้านน่าจะมีปัญหานิดหน่อย ตามเคยน่ะครับ...หลานสาวตัวแสบของผมคงก่อเรื่องอะไรขึ้นอีก แต่ครั้งนี้แม่ของเธอดูจะหัวเสียมากทีเดียว” แวนดูกระสับกระส่าย เหมือนคนที่กำลังจับต้นชนปลายไม่ถูก รุจน์กับรินรตามองหน้ากันแล้วอดกังวลไปด้วยไม่ได้

“ให้เราไปส่งนะครับ” รุจน์อาสาอย่างที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน

“ไม่รบกวนดีกว่าครับ ผม...ผม...”

“คุณดูเครียดเกินไปแล้วนะคะแวน ให้เราไปส่งดีกว่าค่ะ”

“ไม่...”

“ดีแล้วครับที่ไม่ปฏิเสธ เชิญเลยครับ เดี๋ยวผมขับเอง”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel