บท
ตั้งค่า

ตอนที่ ๒ ความห่วงใยที่ไร้ผล 1

ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้วที่แวนไม่ได้กลับเข้าบ้านมาอีกเลย เรเน่พยายามฆ่าเวลาด้วยการดูภาพยนตร์ที่กว้านซื้อมาจากห้างสรรพสินค้า วันละไม่ต่ำกว่าสี่ห้าเรื่อง แต่นั่นไม่ได้ทำให้สมองของเธอเลิกคิดถึงคุณอาหนุ่มได้เลย ทั้งหงุดหงิดและเหงาที่เขาไม่มาเสนอหน้าคอยบอกสอนนั่นนี่ให้รำคาญหู เธอบอกตัวเองให้อดทน ไม่ต้องไปสนใจให้มากนัก ทว่าเรเน่ก็คือเรเน่เสมอ เธอทนกับความอึดอัดใจได้นานเสียที่ไหนกัน

มือเรียวบางคว้าโทรศัพท์มือถือมากดไล่หาเบอร์ของมารดา ด้วยอยากถามหาที่อยู่คอนโดมิเนียมส่วนตัวของแวน อยากหลบหน้านักเธอก็จะตามไปกวนประสาทเสียให้ถึงที่เลย ต่อให้มันออกจะเสียฟอร์มนิดหน่อยก็ตาม แต่ขณะที่กำลังจะกดโทรออกนั้น ดันมีสายเข้าสวนมาพอดี หมายเลขที่ขึ้นอยู่บนหน้าจอไม่คุ้นตานัก แต่หญิงสาวก็รีบกดรับสาย

“ฮัลโหลค่ะ” น้ำเสียงที่กรอกลงไปฟังดูหงุดหงิดเต็มที่

“สวัสดีครับคนสวย ทำไมเสียงขุ่นแบบนั้นล่ะ ใครทำอะไรให้หงุดหงิดใจหรือเปล่าครับ” ไม่ใช่เสียงทุ้มมีเสน่ห์ของแวน แต่เป็นเสียงทุ้มแบบผู้ชายทั่วไปที่เธอคุ้นเคยดี คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นเป็นปม พลางนึกทบทวนไปชั่วขณะหนึ่งว่าเจ้าของเสียงที่เอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเองนี่คือใคร

“พี่เชนท์!”

“โล่งอกไปทีที่น้องพีชจำพี่ได้ นึกว่าจะลืมกันเสียแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ

“โธ่ พีชจะลืมพี่เชนท์ได้ยังไงล่ะคะ เราเป็นแฟนกันนี่นา” เมื่อได้ยินเสียงแฟนหนุ่ม หัวใจที่ห่อเหี่ยวและอารมณ์หงุดหงิดที่พร้อมจะวีนเหวี่ยงได้ทุกเมื่อก็พลันหายไป “นี่มันเบอร์โทรศัพท์ในไทยนี่คะ อย่าบอกนะว่าพี่เชนท์กลับมาเมืองไทยแล้ว” เสียงหวานเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ

“ใช่ครับ พี่เพิ่งกลับมาถึงเมื่อคืน แต่ไม่ได้โทรหาเพราะมัวแต่หลับยาวเลย หวังว่าน้องพีชคงไม่โกรธกันนะครับ”

“ไม่โกรธหรอกค่ะ ตอนที่พีชมาถึงก็เหนื่อยแทบแย่เหมือนกัน”

“แต่ตอนนี้พี่โอเคดีแล้วนะครับ น้องพีชจะสะดวกไหมถ้าพี่อยากชวนออกมาเจอกันหน่อย”

“ยินดีเลยค่ะ พีชอยู่แต่ที่บ้าน เหงาจะตายอยู่แล้ว” เรเน่ตอบตกลงโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา แอบคิดในใจว่าความจริงเธอเองก็คงไม่ได้รู้สึกอะไรกับแวนมากมายนักหรอก เพราะถ้ายังรักเขามากเกินกว่าอาอยู่จริงๆ เธอคงไม่ดีใจขนาดนี้ที่รู้ว่าเชนท์กลับมาเมืองไทยแล้ว เธอคิดว่าเธอรักเชนท์ รักเหมือนอย่างที่เคยหลงรักแวนในอดีตนั่นแหละ

“ถ้างั้นเจอกันที่ไนต์คลับนะครับ ว่าแต่จะให้พี่ไปรับไหม” เชนท์ถามอย่างเอาใจ

“ไม่ต้องหรอกค่ะ พี่เชนท์ยังไม่รู้จักบ้านพีชเลย เดี๋ยวจะเดาทางลำบากเปล่าๆ เอาไว้เจอกันพีชจะบอกอย่างละเอียดเลยนะคะว่าบ้านพีชอยู่ที่ไหน วันหลังพี่เชนท์จะได้มาหาพีชถึงบ้านบ้าง คุณพ่อคุณแม่เองก็บ่นว่าอยากเจอพี่เชนท์อยู่เหมือนกัน”

“นี่น้องพีชบอกพวกท่านเรื่องของเราแล้วเหรอครับ” น้ำเสียงของเขาฟังดูแปลกใจ

“ใช่ค่ะ มีอะไรเหรอคะ...หรือว่าพี่เชนท์ยังไม่พร้อมจะมาพบพ่อแม่พีช”

“เปล่าครับ ไม่ใช่แบบนั้น พี่แค่กลัวว่าพวกท่านจะไม่พอใจเอาน่ะ”

“ไม่หรอกค่ะ พีชโตแล้วนะคะ บรรลุนิติภาวะแล้ว มีแฟนไม่ใช่เรื่องแปลกเสียหน่อย” หญิงสาวอธิบายอย่างอารมณ์ดี “ตอนนี้ก็ทุ่มกว่าแล้ว พีชขอตัวไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะคะพี่เชนท์ แล้วพบกันที่ไนต์คลับค่ะ” เมื่อชายหนุ่มตอบรับอย่างว่าง่าย เธอก็กดวางสายทันที

เจ้าของร่างบอบบางผุดลุกขึ้นจากโซฟาตัวยาวที่นอนเอกเขนกอยู่หน้าโทรทัศน์มาตั้งแต่เช้าตรู่ เดินกึ่งวิ่งหายขึ้นไปในห้องนอนเพื่ออาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ เมื่อกลับลงมาอีกครั้งก็ทำเอาบัว มุกและคนขับรถอย่างบรรจงถึงกับตาค้าง จ้องมองร่างเพรียวระหงในชุดเดรสสีทองสวยชนิดไม่อาจละสายตาได้ ดวงหน้างามแต่งแต้มด้วยสีสันสดใส ดูเซ็กซี่เย้ายวนจนน่าใจหาย เรเน่ยิ้มให้สาวใช้อย่างเป็นกันเอง กำลังจะตั้งท่าออกจากบ้านไป แต่บัวรีบก้าวเข้ามาขวางเสียก่อน

“คุณหนูจะไปไหนเหรอคะ แต่งตัวสวยเหมือนจะไปเดินแบบเลย”

“ฉันจะออกไปเปิดหูเปิดตาหน่อยจ้ะ ฝากบอกคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะว่าฉันคงกลับดึก”

“แล้วคุณหนูจะออกไปคนเดียวเหรอครับ ให้ผมขับรถให้ดีกว่าไหม” บรรจงอาสา

“ไม่ต้องหรอกบรรจง ฉันขับเองได้”

“ออกไปเที่ยวคนเดียวมันจะสนุกเหรอคะคุณหนู” คราวนี้มุกถามบ้าง

เรเน่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนหันมาตวัดสายตามองทุกคนอย่างหงุดหงิด แค่เธอจะออกไปข้างนอกก็ต้องพากันมาดักถามเสียจนน่ารำคาญ แต่ถึงอย่างไรก็น่าจะบอกไว้เสียหน่อย เผื่อว่าบิดามารดาถามถึง ท่านจะได้รู้ว่าเธอออกไปที่ไหนกับใคร

“ฉันไม่ได้ไปคนเดียว แต่ไปเจอแฟนของฉันที่ไนต์คลับ เขาเพิ่งกลับมาจากฝรั่งเศส”

“แล้วไปไนต์คลับไหนคะ”

“ก็แถวนี้แหละ”

“มันชื่อไนต์คลับอะไรล่ะคะ เอ่อ...คุณผู้หญิงเธอชอบถามละเอียดน่ะค่ะ บัวเลยต้องรู้ไว้”

“เซ็กซี่ไนต์คลับ ขับรถไปไม่เกินสิบห้านาที ฉันรู้จักที่นั่นเพราะเคยขึ้นรถผ่านบ่อยเมื่อตอนสมัยอยู่เมืองไทย แล้วเมื่อสองสามวันก่อนฉันก็เห็นว่ามันขยายกิจกาจใหญ่โตน่าไปใช้บริการมาก ส่วนแฟนฉันเขาก็อยู่บ้านไม่ไกลจากไนต์คลับนั้นนัก มันสะดวกสำหรับทั้งสองฝ่าย เอาล่ะบัว...คราวนี้มีอะไรจะถามอีกไหม? ถ้าไม่มีฉันจะได้ออกไปข้างนอกเสียที นี่มันจวนจะถึงเวลานัดอยู่แล้วด้วย” หญิงสาวยกมือขึ้นกอดอก ร่ายยาวอย่างละเอียดเพื่อประชดประชันอยู่ในที

“อ๋อ ไม่มีแล้วค่า เชิญคุณหนูเถอะค่ะ เที่ยวให้สนุกนะคะ” บัวส่ายหน้ายิ้มแหยพร้อมกล่าวอวยพร

เรเน่ยิ้มตอบไปให้น้อยมากจนแทบจะสังเกตไม่เห็น ก่อนจะเดินนวยนาดออกไปจากบ้าน ขับรถคันหรูมุ่งหน้าไปยังปลายทางที่นัดพบกับแฟนหนุ่ม แค่คิดว่าจะได้พบกัน หัวใจเธอก็พองโตจนเบียดผู้ชายที่ชื่อแวนกระเด็นหายไปไกลแสนไกลแล้ว

หลังจากคุณหนูคนสวยออกจากบ้านไปแล้ว บัว มุกและบรรจงก็รีบหันมาสบตากัน เพราะที่ถามมากความประหนึ่งชอบสอดรู้เรื่องเจ้านายนั้น เป็นคำสั่งอันเด็ดขาดของแวนเอง ชายหนุ่มกำชับหนักแน่นว่าให้รายงานทุกครั้งที่เรเน่จะออกไปไหน

สังคมที่เธอเคยอยู่กับสังคมในตอนนี้มันแตกต่างกัน เขาก็แค่เป็นห่วงกลัวว่าเธอจะยังไม่คุ้นเคยกับอะไรหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการขับรถและถนนหนทางในแถบนี้ แต่ยังไม่ทันได้โทรศัพท์ไปบอกแวน เจ้าตัวก็ปรากฏตัวออกมาจากมุมหนึ่งในครัว บัวกรีดร้องราวกับเห็นผีเมื่อจู่ๆ ชายหนุ่มก็โผล่ออกมาเงียบๆ

“ตกใจหมดเลยครับคุณแวน ทำไมถึงมาอยู่ในครัวได้ล่ะครับเนี่ย” บรรจงถามด้วยความประหลาดใจ หากแวนกลับมาที่บ้านก็น่าจะได้ยินเสียงแล่นเข้ามาจอดบ้าง แต่นี่ทุกอย่างเงียบสนิท มีเพียงเสียงรถที่เรเน่ใช้เท่านั้นที่ดังขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้ครู่หนึ่ง

“ฉันเข้าทางประตูหลังบ้านน่ะ พอดีรถเสียก็เลยให้ช่างเอาไปจัดการ ฉันนั่งแท็กซี่มาลงที่หน้าประตูใหญ่ ตอนจะเข้ามาเห็นพีชยืนอยู่ตรงประตูพอดี ฉันเลยเดินอ้อมไปเข้าข้างหลัง” แวนอธิบายขณะเดินมาทิ้งตัวลงบนโซฟา มองกองแผ่นหนังที่วางเกลื่อนอยู่บนโต๊ะรับแขกแล้วถอนหายใจ “ทำไมข้าวของเกะกะแบบนี้ล่ะบัว แอบไปอู้ที่ไหนมาใช่ไหม”

“เปล่านะคะ คุณหนูเธอนอนดูหนังอยู่ตรงนี้ทั้งวันค่ะ เพิ่งออกไปเมื่อกี้เอง บัวเลยยังไม่ทันได้เก็บ” พูดแล้วบัวก็หันมาบอกให้มุกช่วยกันนำถุงขนมกับแผ่นหนังพวกนั้นไปเก็บไว้ตรงอื่น ก่อนจะถามด้วยความไม่เข้าใจ “ทำไมคุณแวนถึงต้องหลบหน้าคุณหนูด้วยค่ะ บัวไม่เข้าใจเลย นี่เมื่อกี้บัวกับพี่จงกำลังจะโทรไปบอกคุณแวนอยู่พอดีเลยว่า...”

“ฉันได้ยินแล้วว่าพีชจะออกไปไหนกับใคร” ชายหนุ่มเอ่ยแทรกด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า เอนศีรษะพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางที่ไม่ต้องถามก็รู้ว่าคงเหนื่อยกับการทำงานมาจนค่ำ หลังเก็บข้าวของให้เข้าที่แล้ว มุกก็รีบเดินเข้าไปในครัวเพื่อรินน้ำดื่มเย็นจัดมาส่งให้เจ้านายหนุ่ม

“คุณแวนทานอะไรมาหรือยังคะ” บัวที่ยังอยู่ด้วยในห้องโถงเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“ยังเลย แต่ไม่หิวหรอก อยากนอนมากกว่า” แวนว่าพลางถอนหายใจยาว แทนที่จะหลับตาลงพักให้หายเหนื่อย เขากลับผงกศีรษะขึ้นแล้วผุดลุกยืนเต็มความสูง รับน้ำดื่มจากมุกมาดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว ก่อนจะล้วงโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาใครคนหนึ่งที่สนิทสนมคุ้นเคยกันอย่างดีในฐานะเพื่อนสาว

“ว่ายังไงคะหนุ่มหล่อ คิดยังไงถึงโทรหากันได้เนี่ย” สาวงามนามว่ารินรตากรอกเสียงทักทาย

“คิดถึงน่ะสิถึงได้โทรมา คืนนี้ว่างไหมริน” ชายหนุ่มถามเสียงเนือย

“ว่างเสมอแหละถ้าแวนโทรมา มีอะไรหรือเปล่าคะ”

“รินช่วยมารับผมที่บ้านหน่อยได้ไหมครับ แล้วไปหาอะไรดื่มที่ไนต์คลับกัน” คำพูดนี้ทำเอามุกกับบัวรีบหันมองสบตากัน ทั้งที่ดูเหนื่อยอ่อนจนตาแทบจะปิดเสียให้ได้ แต่แวนก็ยังมีแก่ใจอยากออกไปเที่ยวนอกบ้านอีก ปกติเขาไม่ค่อยออกไปไหนหลังจากเลิกงาน แต่วันนี้มาแปลกชอบกล

“ได้เลยค่ะ รินเองก็อยากออกไปดื่มอยู่พอดี นี่เชื่อไหมว่ารินเพิ่งแต่งตัวเสร็จ ตั้งใจจะออกไปดื่มคนเดียวเสียหน่อย โชคดีจังที่แวนโทรมาชวนพอดี” รินรตายังอึ้งไม่หายกับความบังเอิญในครั้งนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel