บทที่ 5 ข้อเสนอ 1/2
บทที่ 5
ข้อเสนอ
หวงเฟยหลงที่ลอบติดตามมู่ซูเจียวก็เห็นความผิดปกติในทันที ทางเดินที่นางกำนัลพาไปนั้นไม่ใช่ตำหนักรับรอง แต่กลับเป็นตำหนักเล็กของพระสนมนางหนึ่งที่ถูกปิดตายไปแล้ว หนทางที่ต้องลัดเลาะไปมานั้นดูวกวนไปมา จนเขาอดจะสงสัยกับการกระทำนี้ของนางไม่ได้
มู่ซูเจียวที่เคยมาเยือนวังหลวงหลายคราก็เริ่มตงิดใจ นางหยุดชะงักไม่ก้าวเดินตามนางกำนัลไปอีก
“คุณหนูมู่มีสิ่งใดหรือเจ้าคะ”
นางกำนัลที่รู้ว่ามู่ซูเจียวไม่ได้เดินตามมานั้นจึงรีบเอ่ยถามทันที หากครั้งนี้นางทำแผนการของฮองเฮาล้มเหลว ตัวนางและครอบครัวคงไม่แคล้วต้องไปเยือนปรโลกเป็นแน่
“ข้าคิดว่าเจ้าอาจจะมาผิดทาง ทางนี้มันเป็นวังหลังของฝ่าบาทมิใช่หรือ เหตุใดเจ้าจึงไม่พาข้าไปตำหนักรับรองกัน”
“คือ...ตำหนักรับรองมีคุณหนูคุณชายมาพักกันหมดทุกห้องแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูมู่ไปที่ตำหนักรับรองอีกที่หนึ่งนะเจ้าคะ”
“เช่นนั้นหรือ แต่ข้าว่า...”
ฟุบ!!
ขันทีที่ติดตามมาทางด้านหลัง ลอบสับมือที่หลังคอของมู่ซูเจียวจนนางสลบไปในทันที ขันทีผู้นี้ประคองร่างที่ไร้สติของมู่ซูเจียวไม่ให้ล้มลงไปกองกับพื้น
“ไม่ได้เรื่อง แค่งานง่าย ๆ ยังทำไม่สำเร็จ”
“ขะ ขอโทษเจ้าค่ะ”
“รีบพานางไปเร็วเข้า หากมีผู้ใดมาเห็นเข้าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่”
“เจ้าค่ะ”
นางกำนัลปรี่เข้ามาช่วยประคองมู่ซูเจียวไปยังสถานที่ที่ถูกจัดเตรียมไว้ ทั้งคู่ใช้เวลายังไม่ทันน้ำในกาเดือดก็พามู่ซูเจียวมาถึงยังตำหนักที่เคยปิดตายไว้ แต่ตอนนี้กลับมีแสงไฟเล็ดลอดออกมาจากในห้อง และยังเห็นว่ามีเงาของบุรุษผู้หนึ่งอยู่ในห้องนั้นด้วย
หวงเฟยหลงที่แอบติดตามมาไม่ห่าง ขบฟัดกรอดด้วยความกรุ่นโกรธ บัดนี้เขารู้แล้วว่าสิ่งใดคือเป้าหมายของคนพวกนี้
จัดฉากให้มู่ซูเจียวมีสัมพันธ์กับบุรุษอื่น แล้วปลดนางออกจากตำแหน่งพระชายาในองค์รัชทายาท!!
แผนการสกปรกหยาบช้าเช่นนี้ คงมีเพียงฮองเฮาที่น่ารังเกียจผู้นั้นเป็นแน่ สารเลว!!
“คุณชายหลี่มาแล้วขอรับ”
ขันทีเอ่ยเรียกคนข้างในเสียงเบา บุรุษที่นั่งรออยู่บนเก้าอี้รีบลุกพรวดมารับหญิงสาวที่เขาเฝ้าคะนึงหา
‘หลี่อี้เฉิน’ บุตรชายของรองเจ้ากรมพิธีการ ที่มีสายสัมพันธ์ทางเครือญาติกับฮองเฮา รีบตรงเข้ามารับร่างที่อ่อนปวกเปียกของมู่ซูเจียวด้วยความยินดี
“ฝากคุณชายหลี่ด้วยขอรับ ฮองเฮาทรงตรัสว่าอย่าได้ทำให้พระองค์ผิดหวัง อีกสักหนึ่งชั่วยามก่อนงานเลี้ยงเลิกจะมีนางกำนัลมาพบพวกท่านทั้งสอง หวังว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยนะขอรับ”
หลี่อี้เฉินยกยิ้มด้วยความสมใจ “อย่าได้กังวล ข้าไม่มีทางทำให้ฮองเฮาต้องทรงผิดหวังเป็นแน่”
“เช่นนั้นก็ดีขอรับ ขอให้คุณชายหลี่มีค่ำคืนที่ดีนะขอรับ”
หลี่อี้เฉินนำถุงเงินที่เตรียมเอาไว้มอบให้กับขันทีผู้นั้น ก่อนจะรีบอุ้มร่างที่ไร้สติของมู่ซูเจียวไปยังห้องนอนชั้นใน
เขากระตุกยิ้มอย่างยินดี พลางกวาดสายตาสำรวจเรือนร่างที่งดงามของมู่ซูเจียว ริมฝีปากหนาแห้งผากเมื่อคิดว่าค่ำคืนนี้โฉมสะคราญแห่งเมืองหลวงจะตกเป็นของเขา กายแกร่งพลันรู้สึกร้อนวูบวาบ อารมณ์ปรารถนาถูกจุดขึ้นจนยากจะดับลง มีเพียงต้องเติมเต็มความต้องการนี้เท่านั้น
“อ่า...เจ้าช่างงดงามนัก ข้าสัญญาว่าจะทะนุถนอมเจ้าเป็นอย่างดี หึๆ”
ฝ่ามือหนาเลื่อนมาปลดอาภรณ์ของมู่ซูเจียว แต่ทันใดนั้นกลับมีมีดสั้นเล่มหนึ่งพุ่งเข้ามาปักที่หลังมือของเขาอย่างแรง ความรู้สึกเจ็บแปลบแล่นพล่านไปทั่วหลังมือ เลือดสีแดงฉานอาบย้อมเต็มฝ่ามือหนาของหลี่อี้เฉิน
“โอ๊ย!! ผู้ใดมันกล้าลอบกัดข้า ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”
หลี่อี้เฉินลุกพรวดแล้วหันหลังกลับมามองผู้ที่กล้าทำร้ายเขาที่วังหลัง พลันแข็งขาของชายหนุ่มอ่อนแรงจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ ใบหน้าที่มีเลือดฝาดพลันซีดขาวราวกับกระดาษ ดวงตาทั้งสองเบิกโพลงด้วยความตกตะลึง
“อะ...องค์รัชทายาท ทำไมถึงอยู่ที่นี่ได้” น้ำเสียงของเขาสั่นระริกด้วยความขลาดกลัว
ผู้ใดไม่รู้บ้างว่าองค์รัชทายาทผู้นี้โหดเหี้ยมเกินผู้ใด ทั้งที่ฮองเฮาทรงตรัสว่าจะดึงตัวพระองค์ให้อยู่ในงานเลี้ยง แต่เหตุใดพระองค์จึงมาปรากฏกาย ณ ที่แห่งนี้ได้
นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลย แล้วเช่นนี้เขาจะเอาชีวิตรอดที่ล่วงเกินว่าที่พระชายาได้อย่างไร
“เจ้าบังอาจนัก! หาญกล้าเช่นไรถึงได้กล้ามาทำร้ายว่าที่พระชายาของข้า นี่เจ้าวางแผนจะฆ่านางใช่หรือไม่”
หวงเฟยหลงตวาดเสียงดังลั่น จนหลี่อี้เฉินสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจกลัว
“มะ ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมแค่ แค่จะ...”
หัวสมองหมุนติ้วเพื่อหาคำแก้ตัวพัลวัน ในตอนนั้นเขาก็คิดขึ้นได้ สายตามาดร้ายมองมู่ซูเจียวที่ยังคงสลบตรงเตียงนอน
“อภัยให้กับความรักของเราทั้งสองด้วยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมกับเจียวเอ๋อร์เรารักกันพ่ะย่ะค่ะ แต่เพราะสมรสพระราชทานจึงทำให้เราทั้งคู่ต้องพรากจากกัน พวกเรามิอาจจะทนฝืนใจได้อีกต่อไปจึงได้ลอบทำเรื่องเช่นนี้ที่วังหลัง ขอองค์รัชทายาทโปรดเห็นถึงความรักอันบริสุทธิ์ของพวกเราด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
หวงเฟยหลงขบฟันแน่นด้วยความโกรธ มันผู้นี้กล้าผายลมต่อหน้าเขาเช่นนั้นหรือ
ร่างสูงแค่นหัวเราะกับคำพูดพกลมของหลี่อี้เฉิน เสียงหัวเราะของเขาบาดลึกเข้าไปถึงใจคนฟัง
“ตระกูลหลี่คงจะสั่งสอนเจ้าไม่ได้สินะ ข้าก็เห็นอยู่ว่าเจ้ากำลังบีบคอเจียวเอ๋อร์ของข้า แล้วเจ้าจะมาโป้ปดคำเท็จหาว่านางกับเจ้าเป็นคนรักกันได้อย่างไร บอกมาว่าผู้ใดเป็นผู้สั่งการอยู่เบื้องหลัง”
“ไม่ใช่นะพ่ะย่ะค่ะ ข้ากับเจียวเอ๋อร์คือคนรักกัน และเพราะนางอ่อนเพลียข้าจึงพานางมาพักยังที่นี่ และเมื่อครู่เราทั้งสองก็กำลังจะ...”
