
บทย่อ
ขายโจ๊กหมูอยู่ดี ๆ กลับต้องตกตายแล้วมาเข้าร่างของนางร้ายในนิยายเรื่องโปรด เสิ่นลู่ซือคนใหม่ผู้นี้ขอปฏิญาณว่าไม่ต้องการพระเอกอีกต่อไป องครักษ์หนุ่มหล่อล้ำบึกผู้นี้สิคือว่าที่สามีของนาง!!
บทที่ 1 เทพผลัก 1/2
บทที่ 1
เทพผลัก
“กรี๊ดดดดด!!”
เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจ และตื่นตระหนกของน้ำอิงดังก้องไปทั่วบริเวณหน้าฟุตบาทที่เป็นทางเดินเท้า รถเก๋งยี่ห้อหรูสีขาวพุ่งตัวเข้ามาชนร้านโจ๊กของเธอด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด
โครม!! เอี๊ยดดด!!
ตัวรถเก๋งสีขาวพุ่งเข้าชนร้านโจ๊กหมูที่มีร่างของน้ำอิงยืนอยู่เข้าอย่างจัง ร่างกายผอมบางของเธอถูกอัดกระแทกเข้ากับเสาไฟฟ้าคอนกรีต เลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาจากร่างกายของน้ำอิง จนบริเวณโดยรอบมีแต่หยดเลือดสีแดงฉานของเธอที่ไหลนองเต็มพื้น
ผู้คนโดยรอบที่ยืนรอซื้อโจ๊กต่างพากันขวัญเสีย และตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงตรงหน้า ไม่ต้องเข้าไปดูร่างของน้ำอิงก็รู้ได้ในทันทีว่าเธอเสียชีวิตแล้วในที่เกิดเหตุ แรงกระแทกที่ส่งเสียงดังขนาดนี้ หากไม่ตายก็ไม่ใช่คนแล้ว
เวลาผ่านไปไม่นานรถตำรวจและรถปอเต็กตึ๊งก็เข้ามาจอดบริเวณที่เกิดเหตุ คนขับที่มีสภาพเมามายเกิดอาการช็อกเมื่อรู้ว่าตัวเองชนคนตาย ตำรวจเข้ามาจับกุมตัวคนขับเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนศพของน้ำอิงถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยเก็บไปเป็นที่เรียบร้อย
ร่างกายโปร่งแสงยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยดวงตาเลื่อนลอย เธอยืนมองร่างไร้วิญญาณของตนเองด้วยความเสียใจ หากรู้ว่าตัวเองจะตายทั้งที่ยังโสดและซิง เธอคงจะนำเงินเก็บทั้งหมดไปเที่ยวบาร์โฮสแล้ว
เฮ้อ...น่าเสียดายจริง ๆ นี่วิญญาณของเธอจะต้องไปขึ้นสวรรค์ใช่ไหมนะ
แล้วไหนล่ะสวรรค์? จะขึ้นสวรรค์ได้ยังไงกันละเนี่ย
น้ำอิงยืนเกาหัวตัวเองแกรก ๆ ด้วยความสับสน หัวสมองของเธอยังคงมึนงงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว
เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วเธอยังยืนขายโจ๊กหมู และแซวเด็กหนุ่มหน้าตาขาวตี๋ที่เรียนมหาวิทยาลัยอยู่เลย แต่ตอนนี้เธอได้กลายมาเป็นวิญญาณเร่ร่อนเสียแล้ว
โชคชะตามักชอบเล่นตลกกับชีวิตของผู้อื่นสินะ
ความตายมันช่างไม่จีรังโดยแท้...
น้ำอิงทำท่าทางถอนหายใจ โดยที่ไม่มีเสียงลมหายใจออกมาอย่างปลงตก
วิญญาณของน้ำอิงที่กำลังล่องลอยอยู่นั้น กลับถูกแรงดึงดูดมหาศาลที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน ดูดวิญญาณของเธอหายเข้าไปในอากาศ รู้ตัวอีกทีวิญญาณของเธอก็มาโผล่ยังที่ที่มีแต่สีขาวโพลน มองไปทางไหนก็เป็นสีขาวไปหมด
“ที่นี่มันที่ไหนวะเนี่ย”
“ดินแดนพ้นทุกข์”
น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของน้ำอิง
หญิงสาวสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เธอไม่คิดว่าคำพูดที่เผลอหลุดปากออกไป จะมีคนเข้ามาตอบคำถามของเธอด้วย
น้ำอิงค่อย ๆ หมุนคอหันกลับไปมองเจ้าของเสียงที่ดังขึ้นจากทางด้านหลัง เธอพบว่าเป็นชายชราที่มีผมยาวสีขาวโพลน ใบหน้าของเขาดูอิ่มเอิบและเปี่ยมไปด้วยเมตตา
บรรยากาศโดยรอบของเขาให้ความรู้สึกสุขสงบ แต่การแต่งกายของเขาราวกับเทพเซียนในซีรีส์จีนที่เธอชอบดู ทำให้เธออดจะรู้สึกประหลาดใจไม่ได้
“คุณ...คือใครคะ” น้ำเสียงหวานเอ่ยถามชายชราตรงหน้า
ความหวาดระแวงพุ่งเข้าสู่กลางใจของหญิงสาว และลางสังหรณ์ของเธอร้องเตือนว่าการที่ชายชราผู้นี้มาพบเธอนั้น เขาจะนำความยุ่งยากมาสู่ชีวิตของเธอแน่นอน ถึงเธอจะตายไปแล้วก็เถอะ
“ข้าคือเทพแห่งโชคชะตาที่คอยดูแลชะตาชีวิตของเหล่ามนุษย์ และเจ้าคือคนที่ชะตาลิขิตให้หวนคืนกลับไปยังที่ที่เจ้าควรอยู่ตั้งแต่แรก”
“ฉัน...ไม่เข้าใจค่ะ”
น้ำอิงมองหน้าผู้ที่เรียกตนเองว่าเทพแห่งโชคชะตาด้วยความมึนงง
เทพแห่งโชคชะตาถอนหายใจเฮือกด้วยความจนใจ “ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟังสั้น ๆ แท้จริงแล้ววิญญาณของเจ้าส่วนหนึ่งได้แยกออกจากเจ้าไปเมื่อนานมาแล้ว เดิมทีเจ้าควรจะมีชีวิตที่ยาวนานกว่านี้ แต่เพราะวิญญาณที่อยู่ในอีกโลกหนึ่งได้สิ้นอายุขัยลง วิญญาณของเจ้าที่อยู่ในภพนี้จึงต้องดับสูญไปด้วย ข้าจึงจะให้โอกาสเจ้าได้กลับไปใช้ชีวิตใหม่อีกครั้งในอีกโลกหนึ่ง เพื่อเป็นการชดเชยที่ข้าทำให้วิญญาณของเจ้าต้องแยกออกจากกัน”
น้ำอิงมองหน้าท่านเทพด้วยแววตาถมึงทึง ที่แท้ที่เธอไม่ได้ใช้ชีวิตสาวโสดให้นานกว่านี้ก็เพราะความสะเพร่าของเทพผู้นี้นั่นเอง
เหอะ! แล้วมีหน้ามาบอกว่าจะให้โอกาสเธอได้ใช้ชีวิตใหม่ คิดว่าเธอโง่มากนักหรือไง ถึงเธอจะเรียนจบแม่ ม.6 และผันตัวเองมาเป็นแม่ค้า แต่เธอก็ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบหรอกนะ รู้จักเจ๊น้ำอิงน้อยไปแล้ว
เทพก็เทพเถอะ วันนี้มาไฟล์กันสักตั้ง!
น้ำอิงแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะแกล้งตีสีหน้าเศร้าหมองเหมือนกับนางเอกที่ถูกรังแกในละครหลังข่าว
“ฮึก ๆ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความผิดของท่านเทพใช่ไหมคะ ทำให้ชะตาชีวิตของฉันมันน่าสงสารแบบนี้ ถ้าท่านเทพให้ฉันไปเกิดใหม่ในอีกโลกหนึ่ง แล้วท่านเทพจะให้ฉันไปเกิดเป็นอะไรคะ แล้วโลกใหม่ที่ท่านเทพกล่าวมานั้นคือที่แบบไหนเหรอคะ”
ก่อนจะให้ไปเกิด เธอก็ต้องรู้ข้อมูลก่อนสิ จะได้หาทางหนีทีไล่ทัน
ท่านเทพหรี่ตามองวิญญาณของน้ำอิง ก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ วิญญาณตนนี้ฉลาดนัก ไม่ง่ายเลยที่จะรับมือด้วย แต่เพราะเป็นเช่นนี้เขาถึงได้ถูกใจอย่างไรเล่า
