บทที่ 4 ข้าต้องการท่าน 2/2
เสิ่นลู่ซือที่เห็นชายหนุ่มชะงักค้างไป นางก็ฉวยโอกาสคว้าลำคอหนาของเขาให้โน้มลงมาใกล้ ริมฝีปากเล็กประกบจูบริมฝีปากหนาโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว ลิ้นเล็กของนางตวัดปาดชิมไปมาด้วยความชอบใจ ก่อนจะผละออกเพื่อดูสีหน้าที่ตกตะลึงของเขาด้วยความขบขัน
บุรุษผู้นี้ช่างน่าเอ็นดูนัก เขาคงจะไม่ประสีประสากับเรื่องนี้ใช่หรือไม่
ไม่เป็นไรนะ อดีตแม่ค้าสาวที่ชื่นชอบดูหนังเรต 20+ ผู้นี้ จะใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมากกว่า10 ปีเพื่อสอนเขาเอง
“อ่า...”
โม่โฉ่วที่ถูกสัมผัสนุ่มละมุนของเสิ่นลู่ซือเมื่อครู่ หัวสมองของเขาพลันขาวโพลนไปชั่วขณะ ริมฝีปากหยักหนากระตุกยิ้มก่อนจะเป็นฝ่ายแนบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับให้ความรู้สึกร้อนเร่ามากกว่าคราแรก
“อื้อ ข้า...หายใจไม่ทัน”
มือเล็กยกขึ้นมาทุบหน้าอกแกร่งหลายครั้ง จูบของเขาช่างเผ็ดร้อนยิ่งนัก นี่เขาไม่ใช่ลูกแกะน้อย แต่เป็นสุนัขจิ้งจอกที่ห่มหนังแกะใช่หรือไม่
“เป็นท่านที่ต้องการเองนะคุณหนูเสิ่น”
ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมากระซิบที่ใบหูเล็ก แล้วขบเม้มที่ติ่งหูของนางอย่างหยอกเย้า ก่อนจะเบนมาดอมดมที่ซอกคอขาวหอมกรุ่นที่อยู่ตรงหน้า ริมฝีปากร้อนลวกไล่ดูดดึงขบเม้มที่ลำคอระหง จนผิวกายที่เคยขาวผ่องปรากฏร่องรอยฝากรักสีแดงระเรื่อ
“อ่า...ข้ากลัวแล้วเจ้าค่ะโม่โฉ่ว อย่ารังแกข้าเลยนะ”
คนใต้ร่างแสร้งร้องห้าม แต่มือเล็กกลับรีบปลดอาภรณ์ของชายหนุ่ม ลูบไล้ที่หน้าอกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ดวงตาของนางสั่นระริกเมื่อเห็นลอนคลื่นที่สวยงามที่หน้าท้องของเขา
โม่โฉ่วกระตุกยิ้มหนึ่งครา ก่อนจะปลดอาภรณ์ของสตรีใต้ร่าง เต้าหู้ก้อนอวบที่มีเม็ดทับทิมสีหวานปรากฏแก่สายตาคม เขาเคลื่อนใบหน้าลงมาขบเม้มที่ฐานอก ก่อนจะค่อย ๆ ละเลียดชิมเม็ดทับทิมจนแข็งเป็นไต มืออีกข้างก็บีบเฟ้นเต้าอวบอีกข้างอย่างมันมือ
“อึก อ่า โม่โฉ่ว” นางร้องครางเรียกคนบนร่างเสียงสั่น
ดวงหน้างามเชิดหน้าขึ้น พร้อมกับแอ่นหน้าอกให้แนบชิดกับริมฝีปากของเขามากขึ้นไปอีก
โม่โฉ่วคล้ายกับเด็กน้อยที่ได้ลิ้มรสอาหารเลิศรสตรงหน้า เขาใช้ลิ้นสากตวัดปาดเลียไปมาจนทั่วเต้าหู้อวบก้อนใหญ่ ทั้งยังขบเม้มสร้างรอยรักสีหวานทั่วเต้าอวบของหญิงสาว
มือหนาเลื่อนลงไปลูบที่เรียวขาสวย ก่อนจะแตะลงที่จุดสงวนของร่างกายหญิงสาว เพียงแค่นิ้วของเขาปัดผ่านไปมา เสิ่นลู่ซือก็สะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันที
“อ๊ะ ตรงนั้น ข้า...ข้าไม่ไหวแล้ว”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยากำหนัด หรือไฟราคะที่ถูกโม่โฉ่วปลุกปั่นกันแน่ เสิ่นลู่ซือจึงได้ลืมอายเช่นนี้ นางดิ้นเร่าไปมาเมื่อถูกนิ้วร้าย และลิ้นร้อนของชายหนุ่มปรนเปรอมิได้ขาด
โม่โฉ่วกระตุกยิ้มที่เห็นใบหน้าเหยเกของหญิงสาว เขาค่อย ๆ ใช้นิ้วแหวกกลีบดอกไม้งามเบื้องล่าง แล้วเขี่ยปุ่มกระสันของหญิงสาวไปมา จนเรียกเสียงครางไม่เป็นภาษาจากคนใต้ร่าง
“อื้อ อ่า...”
เสียงหวานที่ร้องครางนั้น ยิ่งทำให้อารมณ์ของชายหนุ่มพลุ่งพล่านไปด้วย
เขาค่อย ๆ สอดนิ้วชี้ของตนเองเข้าไปยังร่องรักอ่อนนุ่มของหญิงสาว ก่อนจะขยับเรียวนิ้วเข้าออกไปมาด้วยความเนิบนาบ แล้วเร่งจังหวะรัวเร็วขึ้นเรื่อย ๆ
“อ๊า...โม่โฉ่ว ขะ ข้าไม่ไหวแล้ว”
เสิ่นลู่ซือที่เพิ่งรู้สึกถึงความสุขเป็นครั้งแรกของการถูกปรนเปรอด้วยนิ้ว นางร้องลั่นด้วยความเสียวซ่านที่พุ่งทะยานขึ้นมา กายสาวดิ้นเร่าไปมาจนผมที่ถูกจัดแต่งมาอย่างดีแผ่หลาบนเตียงกว้าง
ใบหน้างามส่ายหน้าไปมาด้วยความเสียดเสียว เพียงไม่นานร่างของนางก็กระตุกเกร็งหนึ่งครั้ง ก่อนจะคลายน้ำหวานออกมาจนชุ่มฉ่ำไปทั่วนิ้วมือของโม่โฉ่ว
ความทรมานที่รู้สึกคราแรกเริ่มมลายหายไป เหลือทิ้งไว้ความรู้สึกเบาสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โฉมสะคราญหอบหายใจเหนื่อยหอบกับรสรักเมื่อครู่
มัน...รู้สึกดีมาก มากเสียจนต้องการมากกว่านี้!!
โม่โฉ่วผละตัวออกจากโฉมงามตรงหน้า เมื่อเห็นว่าฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดเริ่มคลายลงแล้ว เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ที่นี่ต่อ แม้ว่าตรงส่วนนั้นของเขาจะแข็งขึ้นมาจนรู้สึกปวดหนึบ แต่หากเขายังอยู่ที่นี่ เกรงว่าจะพบเจอกับเรื่องวุ่นวายตามมาอีก
เสิ่นลู่ซือเป็นถึงบุตรสาวของท่านราชครู ผู้เป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาท การที่เขากระทำเรื่องเช่นนี้กับนางก็ถือว่าหมิ่นเกียรตินางมากเกินไปแล้ว แม้เขาจะทำไปเพราะต้องการคลายอารมณ์กำหนัดที่เกิดจากยา แต่หากมีผู้อื่นมารับรู้เรื่องในคืนนี้ เกรงว่าชื่อเสียงของนางจะต้องฉาวโฉ่เป็นแน่ ซึ่งเขาไม่ต้องการเช่นนั้น
“ขออภัยที่ล่วงเกินคุณหนูเสิ่น ข้าขอตัวขอรับ”
โม่โฉ่วหมุนกายเดินจากไป แต่เสิ่นลู่ซือย่อมไม่ยอมปล่อยเขาไปเป็นแน่
โฉมสะคราญรีบลุกขึ้นวิ่งไปคว้าแขนของชายหนุ่มให้หันกลับมามองนาง
“ท่านรังเกียจข้าหรือ”
“มิใช่ขอรับ แต่มันไม่สมควร” โม่โฉ่วจัดอาภรณ์ที่หลุดรุ่ยของนางให้เข้าที่ พร้อมกับผูกสายรัดเอวให้นางด้วย
นางมองการกระทำอันอ่อนโยนของเขา ก่อนจะกระตุกยิ้มเจ้าเลห์ออกมา “ท่านล่วงเกินข้าแล้วนะโม่โฉ่ว ท่านจะไม่รับผิดชอบข้าเช่นนั้นหรือ” นางเอ่ยตัดพ้อบุรุษตรงหน้า
“ข้าแค่ช่วยไม่ให้ท่านถูกธาตุไฟเข้าแทรกเพราะฤทธิ์ยาเท่านั้น”
คำพูดที่เคยนอบน้อมแปรเปลี่ยนไปราวกับพูดคุยกับสหาย หาใช่คุณหนูสูงศักดิ์ไม่
นางควรจะดีใจมิใช่หรือ ที่เขาทำราวกับเรื่องเมื่อครู่เป็นเพียงการช่วยเหลือเท่านั้น คุณหนูที่มาจากตระกูลชนชั้นสูงในเมืองหลวงจะสนใจองครักษ์ที่ต่ำต้อยเช่นเขาไปทำไมกัน
“ไม่! ท่านต้องรับผิดชอบข้า ข้าเสียสิ่งที่หวงแหนที่สุดให้กับท่านแล้ว”
เสิ่นลู่ซือตีหน้ามึน นางยังคงยืนกรานที่จะให้ชายหนุ่มตรงหน้ารับผิดชอบ
“ท่านต้องการสิ่งใดคุณหนูเสิ่น ท่านอยากใช้ข้าเพื่อเรียกร้องความสนใจจากองค์รัชทายาทเช่นนั้นหรือ”
หญิงสาวอยากจะตบหัวเขาสักทีให้หายคิดไปเอง นางหรือต้องการเรียกร้องความสนใจจากบุรุษที่ไม่เคยสนใจไยดีนางผู้นั้น
หึ! อย่าพูดให้ขำไปมากกว่านี้เลย
“ข้าจะพิสูจน์ให้ท่านเห็นว่าข้าหาได้รักองค์รัชทายาทผู้นั้นไม่ แต่ข้ารักท่านต่างหากเล่า โม่โฉ่ว...ได้โปรดแต่งงานกับข้าเถิดนะ”
โม่โฉ่วก้าวถอยหลังด้วยความตื่นตระหนก
บุรุษที่เป็นดั่งแขนขาให้กับองค์รัชทายาทผู้มีอำนาจแห่งแคว้นหวง กำลังถูกสตรีจากตระกูลสูงศักดิ์ขอแต่งงานเช่นนั้นหรือ
นี่มันช่าง...น่าขำสิ้นดี
เขาผู้นี้ไม่รู้จริง ๆ ว่าควรจะรับมือกับสตรีตรงหน้านี้อย่างไร
