บทที่ 4 ข้าต้องการท่าน 1/2
บทที่ 4
ข้าต้องการท่าน
หวงเฟยหลงที่คอยมองคู่หมั้นของตนตลอดเวลานั้น เขารู้สึกว่าเรื่องราวครั้งนี้มีข้อพิรุธหลายจุด และเขาเองก็ยังคงหวาดระแวงในตัวเสิ่นลู่ซือไม่เสื่อมคลาย
ขณะที่เขากำลังคิดว่าจะทำอย่างไร กระดาษแผ่นเล็กก็ถูกลอบส่งมาให้กับโม่โฉ่วผ่านทางนางกำนัล ด้านในมีข้อความว่า 'ช่วยซูเจียว' โม่โฉ่วยื่นแผ่นกระดาษให้องค์รัชทายาท เขารับมาอ่านก่อนจะเอ่ยสั่งการเสียงเข้ม
“ลายมือของลู่ซือ เจ้าไปจับตาดูลู่ซือเสีย ข้าเกรงว่าจะเกรงเรื่องร้ายกับนางเช่นกัน”
“แล้วคุณหนูมู่เล่าขอรับ”
“ข้าจะไปดูแลนางเอง ฝากด้วยนะโม่โฉ่ว อย่างไรนางก็เปรียบเหมือนน้องสาวของข้า”
“ขอรับ”
โม่โฉ่วที่เป็นหัวหน้าองครักษ์ขององค์รัชทายาท จึงได้ลอบปลีกตัวออกจากงานเลี้ยง โดยที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น
ฝีเท้าบางเบาดุจขนนกลอบติดตามเสิ่นลู่ซือมาไม่ห่าง คิ้วกระบี่ขมวดกันแน่นเมื่อเริ่มเห็นความผิดปกติของหญิงสาว เรือนร่างบอบบางของนางเดินโซเซไปมาคล้ายกับคนเมาสุรา แต่เท่าที่เขาเห็นนางเพิ่งดื่มสุราไปเพียงสองจอกมิใช่หรือ
'เหตุใดจึงเมามายเสียแล้ว นางคงจะคออ่อนมากสินะ'
ร่างสูงใหญ่ที่ติดตามมาไม่ห่างหัวเราะขันคนงาม รู้ว่าตัวเองคออ่อนแล้วยังยกจอกสุราดื่มราวกับชาเสียอย่างนั้น ช่างไม่ประมาณตนเสียบ้างเลย
หมับ!
จู่ ๆ สตรีที่เขาคิดว่ากำลังเมามายกลับหันหลังกลับมามองเขาด้วยดวงตาวาววับ เรือนร่างนุ่มนิ่มที่มีกลิ่นกายหอมกรุ่นโถมมากอดแขนเขาแน่น แววตาคู่สวยฉ่ำน้ำมองโม่โฉ่วราวกับจะกลืนกิน ริมฝีปากอวบอิ่มสั่นระริกก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ยังติดค้างในใจของนาง
“ช่วยมู่ซูเจียวด้วย” น้ำเสียงหวานเอ่ยตะกุกตะกัก เพราะบัดนี้ร่างกายของนางร้อนรุ่มราวกับถูกไฟมาสุมก็ไม่ปาน
“องค์รัชทายาทไปช่วยแล้ว”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เสิ่นลู่ซือก็เบาใจลง เหตุการณ์ในนิยายยังคงดำเนินต่อไปสินะ และตอนนี้ว่าที่สามีของนางในอนาคตก็ยืนอยู่ตรงหน้าแล้ว เช่นนี้นางจะกล้าปล่อยเขาให้หลุดมือไปได้อย่างไรเล่า
‘ขอโทษนะโม่โฉ่ว มีเพียงท่านที่จะมาช่วยเปลี่ยนชะตาที่น่าสงสารของข้าได้’
ไอ้ฤทธิ์ยาปลุกกำหนัดนี่ก็รุนแรงกว่าที่นางคาดคิดเสียอีก ความรู้สึกสะบัดร้อนสะบัดหนาวนี้ ทำให้ร่างกายของนางร้อนผ่าวราวกับต้องพิษไข้ ยิ่งได้แนบชิดกับกายแกร่งอันแข็งแรงของบุรุษเพศอย่างโม่โฉ่ว ยิ่งทำให้ส่วนนั้นของนางสั่นระริก และอ่อนไหวขึ้นมาอย่างรุนแรง
โม่โฉ่วที่ไม่ได้รับรู้ความคิดอันร้ายกาจของสตรีด้านข้าง จึงได้เข้ามาช่วยประคองหญิงสาวให้เดินไปยังห้องรับรองที่วังหลวงได้จัดเตรียมไว้
ชายหนุ่มไม่ได้รับรู้เลยว่าความช่วยเหลือในครั้งนี้ จะนำพาให้ชีวิตอันเรียบง่ายของเขาไม่สงบสุขอีกต่อไป
ทันทีที่เสิ่นลู่ซือมาถึงยังห้องรับรอง นางก็เดินโซเซไปยังเตียงนอนที่อยู่ด้านในของห้อง หญิงสาวใช้สติอันเหลือน้อยนิดที่ยังมีอยู่เอ่ยเรียกชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
“ท่านองครักษ์โม่ ข้ารบกวนท่านช่วยรินชาให้ข้าได้หรือไม่”
น้ำเสียงแว่วหวานแหบพร่าขึ้น จนคนฟังรู้สึกถึงความผิดปกติ คิ้วกระบี่ขมวดกันเป็นปมแน่น เวลานี้จะไปเรียกนางกำนัลก็ไร้ผล เขาจึงได้เดินไปยังโต๊ะมุมห้องที่มีน้ำชาอันเย็นชืดตั้งไว้
โม่โฉ่วเดินถือถ้วยน้ำชาจะมาให้หญิงสาว แต่เมื่อได้เห็นเรือนร่างบอบบางที่นอนดิ้นไปมาบนเตียงกว้าง สาบเสื้อของนางเผยอออกมาจนเห็นเนินอกขาวผ่องเช่นนี้ ทำให้ลำคอหนาของเขาพลันแห้งผากขึ้นมาทันใด
อึก!
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายอันเหนียวข้นของตนเองลงไปอย่างยากลำบาก
“ข้าร้อน ร้อนเหลือเกิน ช่วยข้าด้วยโม่โฉ่ว” ร่างเล็กดิ้นพล่านไปมา พร้อมกับพยายามปลดอาภรณ์อันรุ่มร่ามของตนออกไป
“คุณหนูเสิ่น ท่านไม่สบายหรือ”
ทันทีที่ฝ่ามือร้อนผ่าวของโม่โฉ่วแตะสัมผัสที่หน้าผากมน เสิ่นลู่ซือก็รีบคว้าหมับที่ข้อมือแข็งแรงของชายหนุ่ม โม่โฉ่วที่ไม่ทันได้ตั้งตัวจึงถูกสตรีตรงหน้าดึงร่างของเขาเข้าไปกอด ร่างกายสูงใหญ่ของเขาทาบทับร่างกายบอบบางของนางจนมิด
“ขะ ข้าน่าจะโดนยาปลุกกำหนัด ช่วย ช่วยข้าด้วย”
“ว่าอย่างไรนะ!!”
ชายหนุ่มตกตะลึงจนร่างกายแข็งทื่อ หัวสมองหมุนติ้วพยายามหาทางแก้ไข
“ช่วยข้า ข้าต้องการท่านโม่โฉ่ว”
“ท่านบ้าไปแล้ว!! พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือไม่” ชายหนุ่มตวาดเสียงดังลั่น
สตรีผู้นี้ถูกยากำหนัดจนสติเลอะเลือนไปแล้วหรืออย่างไร นางไม่รู้หรือว่าการกล่าววาจาเช่นนี้ออกมา แม้แต่เขาที่สุขุมก็ไม่อาจจะทานทนภาพเย้ายวนตรงหน้าได้
เรือนร่างบอบบางนุ่มนิ่ม แววตากลมโตฉ่ำน้ำที่ปรือขึ้นมามองเขาอย่างออดอ้อน ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อที่เผยอขึ้นมาราวกับต้องการให้เขาบดจูบลงมานั้น ช่างยั่วอารมณ์ของเขาให้มีความปรารถนาในตัวนางอย่างยิ่ง
เขาเองก็เป็นบุรุษจะอาจหาญทานทนสตรีที่งดงาม และมีเสน่ห์ตรงหน้านี้ได้อย่างไรกัน!!
“เพราะเป็นท่านอย่างไรเล่า ข้าจึงยินยอม”
“ข้าหาใช่องค์รัชทายาทไม่”
โม่โฉ่วยังคงคิดว่านางเข้าใจผิด บุรุษที่นางรักและต้องการมอบร่างกายนี้ให้คือหวงเฟยหลง หาใช่องครักษ์ผู้ต่ำต้อยเช่นเขา
“ถ้าท่านคือโม่โฉ่วก็ถูกคนแล้วล่ะ เพราะบุรุษที่ข้าต้องการให้มาเป็นสามีคือองครักษ์ที่มีนามว่าโม่โฉ่ว หาใช่องค์รัชทายาทไม่”
สิ้นประโยคของโฉมสะคราญ หัวใจที่ด้านชาของโม่โฉ่วก็เต้นกระหน่ำราวกับกลองศึก เขามองสีหน้าของนางก็รู้ว่าคำพูดที่นางเอื้อนเอ่ยมานั้นเป็นจริงทุกคำ
“แล้วท่านจะเสียใจเสิ่นลู่ซือ”
หญิงสาวหัวเราะขำ “ข้าไม่มีวันเสียใจ ข้าต้องการท่านโม่โฉ่ว แต่งงานกับข้านะเจ้าคะ”
“ฮะ!!”
โม่โฉ่วเบิกตากว้างด้วยความตกใจ วันนี้หญิงสาวทำให้เขามึนงงไปหมดแล้ว อะไรที่ทำให้นางเปลี่ยนแปลงไปได้มากขนาดนี้กัน
