ตอนที่3. เกิดความรู้สึกว่า ...
ปารย์ เข้าเรียนนายร้อยตำรวจก่อนสอบชิงทุนไปเรียนต่อเมืองนอก ส่วนมินตรา สามารถสอบเข้าเป็นตำรวจหญิงของกองปราบ ชีวิตของทั้งคู่ทำท่าจะไปได้สวย หากว่า บิดาของปารย์ไม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเสียก่อน
ปารย์ถูกเรียกตัวกลับมา เขาได้รับมอบหมายให้เข้าทำงานในหน่วยงานราชการลับ สืบทอดเจตนารมณ์ของบิดาที่เป็นคนตั้งองค์กรแห่งนี้
‘แบล็คบัตเตอร์ฟลาย-ผีเสื้อแสนสวยทว่ามากพิษสง’
ทำหน้าที่คุ้มครองบุคคลสำคัญระดับชาติโดยบอดี้การ์ดสาวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างดี
มินตราเองก็ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมองค์กร ทั้งที่ไม่เต็มใจ หลังรู้ว่า ปารย์เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบองค์กร
“พี่อยากให้มิ้นปล่อยวางบ้าง”
หญิงสาวนิ่งงัน
ปารย์เปลี่ยนสรรพนามแทนตัวระหว่างเขากับหล่อนอย่างทันท่วงที
แต่มินตรารู้
ทุกอย่างไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิม
หลังสูญเสียสามี ลัดดาผู้เป็นมารดาของปารย์ก็กลับยึดเหนี่ยวตัวลูกชายเป็นหลัก จนเข้าใจผิดว่า ลูกชายให้ความสำคัญกับมินตรามากกว่า ทั้งที่ มินตราเคารพเธอเหมือนแม่ และรักปารย์เยี่ยงพี่ชาย
จู่ๆ..
. ลัดดาก็เกิดความรู้สึกว่า มินตราที่ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆและคิดจะมาแย่งปารย์ไปจากตัวเอง นางถูกยุยงจากเพื่อนสนิทที่คิดจะให้ลูกสาวตัวเองแต่งงานกับปารย์ยุยงว่า มินตราอาจหลงรักปารย์เยี่ยงหนุ่มสาว
“เท่านี้ ฉันก็คิดว่า ตัวเองปล่อยวางได้มากพอแล้ว”
หล่อนเบือนหน้าไปทางอื่น เมื่อตอบโต้
หากไม่ปล่อยวาง หล่อนคงไม่ยอมย้ายเข้ามาทำงานในองค์กรที่มีปารย์เป็นหัวหน้า ทั้งที่เคยตั้งใจว่า เมื่อเดินออกมาจากบ้านของปารย์ หล่อนจะไม่กลับไปติดต่อกับคนในครอบครัวนั้นอีก
‘ลูกคิดจะคว้าลูกโจรมาทำเมียหรือไง ปารย์’...คำพูดของลัดดายังก้องอยู่ในหู ชนวนเหตุที่ทำให้มินตราย้ายออกมาอยู่ข้างนอกตามลำพัง
หล่อนไม่คิดโกรธลัดดา แต่ที่พยายามถอยห่างจากปารย์เพื่อความสบายใจของผู้มีพระคุณ
“ถ้าอย่างนั้น ทำไมมิ้นถึงปฏิเสธเคสนี้” ชายหนุ่มย้อนถามหล่อนก่อนค่อยๆเจรจา
“...เคสดอกเตอร์บุญเติมน่ะ ที่จริง ตั้งแต่แรกพี่ตั้งใจว่า จะให้คนอื่นๆรับงานนี้ เพราะเข้าใจถึงกฎเกณฑ์ที่มิ้นเคยบอกพี่....”
“ไม่ใช่กฎเกณฑ์คะ” หญิงสาวแย้ง “...แต่ฉันไม่อยากให้ใครต่อใครมองในแง่ร้ายอีก”
หล่อนประชดเขา....ปารย์รู้ น้ำเสียงที่แฝงความน้อยเนื้อต่ำใจมารดากับญาติพี่น้องของปารย์บางคนที่ขี้อิจฉา
เพราะเกรงหญิงสาวจะมีส่วนในทรัพย์สมบัติของพ่อในฐานะเด็กที่อยู่ในอุปการะถึงยุยงส่งเสริมมารดาของเขาให้หวาดระแวงในตัวเด็กหญิงที่เลี้ยงมา
“เพียงแต่ ไม่ต้องการรับเคสที่เป็นผู้ชาย เพื่อตัดปัญหาความยุ่งยากต่างๆ” ปารย์เข้าใจดีถึงเจตนาของมินตรา
หลายหนที่หล่อนถูกเข้าใจผิด เพียงเพราะหล่อนเป็นหญิงสาวที่หน้าตาดีเกินกว่าจะมีอาชีพบอดี้การ์ด และไม่ใช่เพราะรูปร่างหน้าตาที่สวยบาดใจของหล่อนหรอกหรือ จึงทำให้คุณลัดดาไม่ไว้ใจ
“โอเค พี่ยอมรับทุกเหตุผลที่มิ้นพูดมา แต่พี่ไม่เห็นว่า ใครจะเหมาะสมเท่ามินตรา บัตเตอร์ฟลายที่เก่งที่สุดของเรา”
หล่อนนิ่ง
ที่ปารย์พูดมานั้น เขาไม่ได้พูดยกยอหล่อน หรือต้องการชื่นชมเอาใจในฐานะที่หล่อนมีความผูกพันเยี่ยงน้องสาวถึงพิเศษกว่าบอดี้การ์ดสาวคนอื่นๆในองค์กร ทว่ามินตราเป็นคนที่เก่งและมีความสามารถเหนือกว่าอย่างที่ทุกคนต้องยอมรับ
แน่ล่ะ....หล่อนใช้ทุกช่วงเวลาที่ว่างเอาแต่ฝึกฝนตัวเองทั้งบู๊ทั้งบุ๊น ไม่ยอมจัดสรรเวลาที่จบแต่ละเคสที่ได้รับเป็นเวลาพักร้อน หล่อนตัวคนเดียว ไม่มีคนรัก ไม่มีครอบครัว หล่อนไม่มีทั้งงานอดิเรกหรือ ความชอบส่วนตัว
นอกจาก ‘งาน’ ที่เป็นทั้งชีวิตและจิตใจของหล่อน
มันเริ่มตั้งแต่สูญเสียบิดาของปารย์ที่เปรียบเหมือนพ่อบังเกิดเกล้า และตั้งแต่สูญเสียความรักจากลัดดาที่มองหล่อนเป็นเพียงคนแปลกหน้า และตั้งแต่เปลี่ยนสถานภาพปารย์จากพี่ชายเป็นเจ้านายของหล่อน
มินตราก็กลายร่างเป็น หญิงสาวที่ไม่มีหัวใจ
“เคสนี้มีความเสี่ยงสูง” ปารย์อธิบายเสียงหนัก เป็นการย้ำให้หล่อนรู้ว่า เขาจะไม่เปลี่ยนความตั้งใจ “เพราะดอกเตอร์เป็นคนสำคัญในวงการวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยเฉพาะงานที่ดอกเตอร์กำลังคิดค้นทดลองในขณะนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลทั้งในหน่วยราชการตำรวจ วงการแพทย์ รวมทั้งประเทศชาติ”
ปารย์สบตามินตราอย่างเคร่งเครียด
“พี่คิดว่า มิ้นคงได้อ่านข้อมูลของดอกเตอร์บุญเติมทั้งหมด และอย่างละเอียดแล้ว เหมือนทุกเคสที่มิ้นได้รับแล้วทำการบ้านอย่างดีก่อนปฏิบัติการ”
ชายหนุ่มตัดสินใจยื่นคำขาด
“คุณไม่มีทางเลือก มินตรา เพราะนี่เป็นคำสั่ง ในฐานะของหัวหน้าองค์กร และผมเป็นเจ้านายของคุณ”
เขาย้ำ ยืนยันถึงคำสั่งเดิม
“หวังว่า พรุ่งนี้ดอกเตอร์บุญเติมคงจะได้พบคุณมินตราในฐานะ บอดี้การ์ดจาก แบล็คบัตเตอร์ฟลาย”
