6| คนของผม
“ตะวัน ตื่นได้แล้วนะคะ” ฉันทิ้งเรื่องวานเอาไว้แล้วตั้งใจตื่นขึ้นมาทำงานแต่เช้า
“ครูเตย ไม่เป็นอะไรแล้วใช่มั้ยคะ” น้ำเสียงงัวเงียของตะวันทำให้ฉันขมวดคิ้ว
ตะวันรู้เรื่องเมื่อวานด้วยเหรอ
“ไปอาบน้ำได้แล้วนะคะ จะได้มาแต่งตัว” ฉันเลี่ยงที่จะตอบตัดบทด้วยการเอาเรื่องที่ต้องรีบทำขึ้นมาพูดก่อน
“ครูเตยไปส่งตะวันด้วยนะคะ”
“แน่นอนค่ะ” หน้าที่ของฉันก็คือเป็นพี่เลี้ยงให้กับลูกสาวมหาเศรษฐีท่านหนึ่ง เหตุการณ์เมื่อคืนเขาทำให้ฉันรู้สึกดีมากจริงๆ เป็นเพราะว่าเขามีลูกสาวหรือเปล่าเลยปฏิบัติกับฉันแบบนั้น
ระหว่างที่รอฉันก็สลัดผ้าห่ม จัดหมอนหนุนให้เข้าที่และดึงผ้าปูที่นอนให้ตึงอีกเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยน่านอนเหมือนเดิมแล้ว
“เสร็จแล้วค่ะ”
“ให้ช่วยมั้ยคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ตะวันชอบแต่งตัวเอง ครูเตยถักเปียให้ตะวันก็พอค่ะ” ฉันอมยิ้มให้กับความน่ารักของตะวัน
“แล้วก่อนหน้าที่ยังไม่มีพี่เลี้ยงใครเป็นคนถักเปียให้คะ”
“คุณพ่อค่ะ” เธอพยักหน้าอย่างเหลือเชื่อ แต่ก็ยอมเชื่อเพราะเขามีรางวัลการันตีคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวแห่งปี
“คุณพ่อของตะวันเก่งรอบด้านเลยนะคะ”
“ตะวันภูมิใจในตัวคุณพ่อมากๆ เลยค่ะ” พูดพร้อมกับยิ้มกว้างแสดงว่าภูมิใจมากจริงๆ
“มาค่ะ ถักเปียกัน”
“ไม่รู้วันนี้อาหารเช้าเป็นอะไร ถ้าเป็นข้าวต้มอีกล่ะก็ เบื่อจะแย่”
“ถ้าให้เลือกอยากได้เมนูอะไรเป็นมื้อเช้าคะ”
“ตะวันอยากได้ข้าวเหนียมหมูปิ้งค่ะไม่ก็อะไรก็ได้ค่ะที่ไม่ใช่ข้าวต้ม ตะวันเบื่อมากๆ เลย”
“ยังพอมีเวลา ตะวันอยากทานฝีมือครูเตยมั้ยคะ” ฉันไม่รู้ว่ากฎของบ้านนี้มีอะไรบ้างแต่ถ้ามันทำให้ลูกสาวของเจ้าของบ้านพอใจฉันก็ยินดีทำ
“อยากค่ะ ครูเตยทำอาหารเป็นด้วยเหรอคะ ว้าวมากๆ เลย”
“นิดหน่อยค่ะ”
.
.
.
“อาหารเช้าพร้อมแล้วค่ะคุณหนู”
“ว่าแล้วเชียวต้องเป็นข้าวต้ม ตะวันไม่รับมื้อเช้าเป็นข้าวต้มค่ะ” พอลงมาด้านล่างแม่บ้านก็ยืนรอพร้อมกับผายมือเชิญไปที่โต๊ะอาหาร บรรยากาศเหมือนในละครหลังข่าวไม่มีผิด
“คุณหนูอยากทานอะไรคะ ป้าจะไปทำให้”
“ไม่ต้องค่ะ ครูเตยจะเข้าครัวเอง”
“ต้องขออนุญาตคุณก่อนนะคะ”
“คุณพ่ออนุญาตแล้วค่ะ” คุณที่แม่บ้านเอ่ยถึงคือคุณคีรินสินะ
“ถ้าอย่างนั้นเชิญค่ะ”
“ไปค่ะครูเตย” เมื่อแม่บ้านเปิดทางฉันจึงกล้าก้าวเดินไปที่ห้องครัว แค่ทำอาหารคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ฉันเลือกเมนูที่เด็กๆ ส่วนใหญ่ชอบหรืออาจจะชอบเพราะฉันไม่รู้ว่าตะวันชอบหรือไม่ชอบอะไร คงต้องใช้เวลาเรียนรู้อีกสักพัก
“ดูดีกว่าข้าวต้มอีกค่ะ”
“ไม่รู้ว่าจะอร่อยหรือเปล่า ติชมได้นะคะครูเตยไม่โกรธ” มันคือสปาเกตตีไวน์ซอส วัตถุดิบมีครบฉันก็เลยเลือกเมนูนี้
“ทำเผื่อคุณพ่อด้วยได้มั้ยคะ”
“ก็ได้ค่ะ” ถ้าเขาเลือกข้าวต้มก็ไม่เป็นไร ถือเป็นน้ำใจเล็กๆ สำหรับเหตุการณ์เมื่อคืนก็แล้วกัน
“วันนี้ตะวันจะทานมื้อเช้าในครัวค่ะ” ฉันยิ้มให้เจ้าเด็กน้อยช่างพูด ไม่ได้ห้ามแล้วก็เอ่ยปากไล่ให้ตะวันออกไปอยู่ข้างนอก
“ทานให้หมดนะคะ”
“ของอร่อยแบบนี้จะกินให้เกลี้ยงจานเลยค่ะ” ฉันรับรู้ได้ถึงสายตาที่แอบจ้องมองอยู่ด้านหลัง ไม่ได้เก็บมาใส่ใจเพราะรู้ตัวว่ากำลังทำอะไร คนพวกนั้นต่างหากที่กำลังละเลยหน้าที่ของตัวเอง
“คุณพ่อตื่นสายแบบนี้ทุกวันเลยเหรอ” เมื่อทำอีกจานเสร็จแล้วยังไม่เห็นเจ้าของบ้านฉันก็เลยเอ่ยถามผู้เป็นลูกสาวให้แน่ใจ
“ผิดปกติค่ะ ตะวันไปตามดีกว่า”
“ไม่ต้องค่ะ นั่งทานต่อนะคะ ครูเตยจะขึ้นไปดูให้” ฉันอาสาขึ้นไปตามคุณคีรินเอง ในขณะที่คนในบ้านก็ยังมีบางคนที่ไม่ยอมไปไหน เฝ้าจับตาฉันทุกฝีก้าวกลัวว่าฉันจะขโมยราวบันไดไปขายหรือไง
ฉันยืนเคาะประตูอยู่สักพักสลับกับเอาหูแนบกับบานประตูเพื่อฟังเสียงจากด้านในว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า
“สวัสดีตอนเช้าครับคุณเตย”
“อุ๊ย” ฉันสะดุ้งตกใจแล้วรีบถอยห่างจากประตูห้องทันที
“ผมชื่อเทพนะครับ เราเคยเจอกันแล้ว”
“สวัสดีตอนเช้าค่ะ คุณคีรินยังไม่ตื่นใช่มั้ยคะ พอดีว่าตะวันถามหาค่ะ”
“ประตูไม่ได้ล็อกครับ คุณเตยเปิดเข้าไปได้เลยครับ”
“ได้เลยเหรอคะ”
“ครับ” นั่นจึงทำให้ฉันกล้าเปิดประตูเข้าไป พยายามเบามือและเงียบเสียงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทันทีที่เท้าแตะพื้นห้องของเขาก็รู้สึกขนลุกกับอากาศภายใน มันเย็นจนรู้สึกว่าไม่ได้อยู่ประเทศไทย
“คุณคีรินคะ ได้เวลาอาหารเช้าแล้วนะคะ ตะวันรอคุณอยู่ค่ะ”
เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับ หรือว่าเมื่อคืนที่เขาหายไปเพราะมีงานด่วน
“คุณคีริน” เดินมาเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่เตียงกว้าง
เขายังหลับอยู่
“คุณ” หรือว่าไม่สบาย หลับลึกขนาดที่ว่าไม่ได้ยินเสียงเรียกเลยหรือ ฉันจึงเดินเข้าไปใกล้และก้มลงไปมองว่าเขาผิดปกติหรือเปล่า
ไม่เห็นความผิดปกติทางร่างกายแต่สิ่งที่ผิดปกติคือ หล่อเกินคนมาก
“ตัวร้อนหรือเปล่า” ฉันพึมพำเบาๆ แล้วยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อที่จะได้สัมผัสหน้าผากให้แน่ใจว่าเขามีไข้หรือเปล่า
“ก็ไม่..ว้ายยยยยย”
“คุณจะทำอะไรผม” ฉันไม่ได้สนใจที่เขาถามเลยสักนิด พยายามดีดดิ้นตัวเองออกจากอ้อมกอดของเขา แล้วนี่มันก็คือเตียงนอนของเขา ห้องก็ของเขา อันตรายสุดๆ
“คุณ ปล่อยฉันนะคะ” ฉันยังไม่หยุดดิ้น แต่ยิ่งดิ้นลำแขนแกร่งก็ยิ่งแข็งแรงรัดตัวฉันแน่นกว่าเดิม
“ยังไม่ตอบผมเลย”
“เปล่าค่ะ”
“ก็เห็นอยู่ว่ากำลังจะแตะเนื้อต้องตัวผม”
“คุณรู้ แล้วทำไมไม่ตอบล่ะคะ ปล่อยให้ฉันเรียกซ้ำๆ ทำไม” ฉันเริ่มโมโหเมื่อรู้ว่าเจ้าของห้องแกล้งหลับแล้วทำเป็นหูทวนลม
“แค่อยากรู้ว่าคุณจะทำยังไงกับผม”
“คุณคีริน ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะคะ”
“เวลาคุณโมโห มันดูน่าแกล้งดี”
“คุณคีริน ฉันไม่ขำนะคะ ตะวันรอคุณอยู่ค่ะ” ฉันควรโกรธใครมากที่สุด ลูกน้องตัวร้ายหรือว่าเจ้านายตัวดี
“ผมกอดคุณแน่นไปเหรอ”
“คุณ”
“โอเค ผมปล่อยก็ได้ แต่ช่วยอะไรผมหน่อยได้มั้ย”
.
.
เขาใช้เวลาอาบน้ำไม่ถึงสิบนาที ทันทีที่ประตูห้องน้ำเปิดกลิ่นหอมของสบู่ก็ลอยมา
“เสื้อผ้าคุณแขวนอยู่หน้าตู้นะคะ”
“เมื่อคืนหลับสบายมั้ย” เขาเดินมาหยิบเสื้อเชิ้ตที่ฉันเตรียมให้สวมใส่โดยที่ฉันกำลังหันหลังให้เขาอยู่
“ค่ะ”
“เมื่อคืน โซฟาห้องคุณทำผมปวดหลังมาก”
“อะไรนะคะ” ฉันหันกลับไปเผชิญหน้ากับเขาโดยยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดตาไม่ให้เห็นสิ่งที่เขาทำอยู่ตอนนี้
“ผมเพิ่งได้นอนตอนตีสาม ก็เลยตื่นสายทำให้คุณลำบากต้องเข้ามาปลุก” ฉันก็นึกว่าที่เขาไม่ได้กลับมาที่ห้องของฉันเสียอีก
ฉันหมุนตัวกลับช้าๆ เมื่อรู้ว่าเมื่อคืนไม่ได้มีแค่ตัวเองที่อยู่ในห้อง
“คุณ เป็นอะไรไป”
“เปล่าค่ะ คุณรีบแต่งตัวเถอะ ตะวันจะไปสายเพราะคุณนะรู้ตัวมั้ย”
ไม่ถึงห้านาทีเขาก็แต่งตัวเสร็จ
“ผมพร้อมแล้ว”
“เดินนำเลยค่ะ”
ฉันเดินตามหลังเขาเว้นระยะห่างพอประมาณ
“ใจคอจะไม่บอกแม่หน่อยเหรอว่าได้พี่เลี้ยงใหม่แล้ว” ฉันเงยหน้ามองแล้วก้มหน้าเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงแววตาดูถูกดูแคลนที่ส่งมาให้จากเจ้าของประโยคเมื่อสักครู่
“ที่นี่บ้านผม ผมจะรับใครใหม่ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องแจ้งใครนี่ครับ”
“ห้องคนใช้ก็มี ทำไมต้องให้ไปอยู่ห้องข้างบนด้วย”
“ใบเตยคือพี่เลี้ยงของตะวันไม่ใช่คนใช้”
“แกจะเอาผู้หญิงมั่วไม่ได้นะคีริน” แรงมาก! ฉันกับคุณคีรินไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย
“ฉันกับคุณคีรินไม่ได้มีอะไรกันนะคะ” ฉันยอมไม่ได้หรอกนะถึงจะเป็นลูกจ้างก็มีเกียรติมีศักดิ์ศรี
“ฉันไม่ได้พูดกับหล่อน”
“แต่คุณกำลังดูถูกฉันอยู่นะคะ ผู้หญิงที่คุณพูดถึงถ้าไม่ได้หมายถึงฉันแล้วหมายถึงใครคะ”
“ไล่นังนี่ออกซะ” ฉันโกรธมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนเก็บอารมณ์ไม่ให้เพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้
“ผมไม่ไล่ แม่นั่นแหละครับกลับไป ที่นี่บ้านผม และที่ยืนอยู่ตรงนี้ก็คือคนของผม”
________________
