7| พาหนี
“คุณย่าก็แบบนี้แหละค่ะ ครูเตยอย่าคิดมากเลยนะคะ” ระหว่างที่ยืนรอรถ ตะวันก็ปลอบใจฉันพร้อมกับบีบมือเบาๆด้วย ความพยายามเล็กๆ นี้ทำให้อดยิ้มไม่ได้ เด็กคนนี้เอาใจใส่ความรู้สึกของคนรอบข้างดีจัง
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ”
“แน่ใจนะคะ ถ้ารู้สึกไม่ดีบอกคุณพ่อนะคะ” ฉันพยักหน้ารับ
“ครูเตยไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ แค่นี้จิ๊บๆ” เมื่อเทียบกับเรื่องที่เคยเจอมา ฉันคิดว่ามันเล็กน้อยมาก
“คุณพ่อมาแล้ว เย่ๆ วันนี้คุณพ่อขับรถเอง” ตะวันออกอาการดีใจเมื่อเห็นรถSUVสุดหรูแล่นมาทางนี้
พอรถจอดคนขับก็ลดกระจกลง
“ขึ้นรถเร็ว” เขาดูไม่สบอารมณ์ตั้งแต่อยู่ในบ้านแล้ว มื้อเช้าก็ไม่ได้แตะเลย
“ครูเตยนั่งข้างหน้าก็ได้ค่ะ” ฉันรีบเปิดประตูด้านหลังให้ตะวันดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้แล้วก็รีบพาตัวเองขึ้นมานั่งข้างคนขับโดยทันที
ฉันสัมผัสได้ว่าเขาหงุดหงิดและพยายามเก็บกลั้นอารมณ์นั้นเอาไว้เพราะกลัวว่าลูกสาวจะเป็นห่วง
“คุณหิวมั้ยคะ” ฉันตัดสินใจถามออกไปมันอาจจะทำให้เขาอยากพูดอะไรออกมาบ้าง
“คุณล่ะหิวหรือเปล่า” เขาถามกลับ ฉันเองก็ยังไม่กินมื้อเช้ามาเหมือนกันแต่ก็ยังไม่รู้สึกหิวสักเท่าไหร่
“ส่งตะวันเสร็จแล้ว คุณพ่อพาครูเตยไปทานมื้อเช้าด้วยนะคะ เดี๋ยวจะปวดท้องเอาค่ะ”
“ครับลูก”
“ฉันกลับไปทานที่บ้านก็ได้ค่ะ”
“ผมต้องเข้าบริษัทแล้วผมก็มีงานให้คุณทำด้วย”
“แต่ชุดที่ฉันใส่” ฉันก้มมองตัวเองที่สวมเพียงชุดเดรสสีจืดชืด สีสุภาพก็จริงแต่มันดูเก่าไม่เหมาะกับเดินเข้าบริษัทใหญ่โตของเขาเลย
“ไม่ใช่ปัญหา”
ฉันไม่ได้เตรียมความพร้อมมาเลยนะเอาจริงแล้วมันก็เป็นการทำงานวันแรกที่วุ่นวายมาก
โรงเรียน HT
เมื่อรถจอดฉันก็รีบลงรถเพื่อไปเปิดประตูให้ตะวัน
“เจอกันหลังเลิกเรียนนะคะ”
“ตะวันดีใจที่มีครูเตยเป็นพี่เลี้ยง ฝากดูแลคุณพ่อด้วยนะคะ” จริงๆ ไม่ใช่หน้าที่ฉันเลยสักนิดแต่ฉันก็ยินดีทำตามที่เด็กน้อยคนนี้ร้องขอ
“คุณพ่อไม่เป็นไรแน่นอนค่ะ”
“ตะวันไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะครูเตย สวัสดีค่ะคุณพ่อ”
“ตั้งใจเรียนนะครับ หลังเลิกเรียนเจอกัน”
หลังจากส่งตะวันเสร็จคุณคีรินก็ขับรถพาฉันขึ้นทางด่วนที่ไม่ด่วนเลยสักนิด รถติดหนักมากๆ เมื่อยขาแทนเลยแม้รถจะเป็นเกียร์ออโต้ก็ตามเถอะ
“ทำไมถึงขับรถเองล่ะคะ”
“อยากไปไหน จะได้ไป ไม่อยากถูกรายงานทุกย่างก้าว”
“เมื่อเช้า คุณแม่ของคุณใช่มั้ยคะ” รถค่อยๆ เคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ แต่ก็ไม่ได้ติดแหง็กถึงขนาดขยับไม่ได้เลย
“ใช่ ดูไม่มีมารยาทใช่มั้ย”
“ท่านคงหวงลูกชาย เป็นธรรมดาค่ะฉันเข้าใจ”
“พูดมาเถอะ ผมไม่ว่าหรอก”
“คุณนี่ยังไงคะ”
“แม่ผมเสียมารยาทและดูถูกคนเก่งที่หนึ่งเลยรู้มั้ย แม่เกลียดคนไม่มีเงินที่สุด ชอบเข้าสังคมและไปงานการกุศล ซึ่งนั่นมันสวนทางกับสิ่งที่แม่เป็นมาก” เขากำลังพูดถึงแม่ตัวเองอยู่นะ เรื่องดีๆ ไม่มีเลยเหรอ
“ยังไงท่านก็เป็นแม่ของคุณ”
“ผมเลือกแม่ไม่ได้ แต่ผมต้องเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองได้” ชีวิตของเขาไม่ได้แฮปปี้ทุกอย่างหรอกเหรอ
“ส่วนฉันเลือกเองไม่ได้สักอย่างเลยค่ะ”
“ทำไมไม่ได้ คุณเลือกมาทำงานกับผม ตอนนี้ผมเป็นเจ้านายคุณแล้วผมรับรองว่าจะไม่มีใครมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตคนได้อีก” คนอย่างแม่ทำได้ทุกอย่างเพื่อเงิน
“คุณจะปกป้องฉันจากแม่เหรอคะ”
“คุณอยากให้ผมทำมั้ยล่ะ"
“ถ้าคุณปกป้องฉัน ฉันก็พร้อมยืนเคียงข้างคุณถึงแม้ว่าฉันจะไม่มีอะไรเลยก็ตาม” ฉันพร้อมทำงานให้เขาและพร้อมเป็นทุกอย่างที่เขาอยากให้ฉันเป็น ตั้งแต่ลืมตาดูโลกแม่ยังไม่ดีกับฉันขนาดนี้เลยมั้ง ไม่รู้ว่าตอนเด็กๆ เขาแอบหยิกฉันไปกี่ครั้ง พอเริ่มหยิบจับอะไรได้แม่ก็เอ่ยปากใช้ตลอด หุงข้าว ต้มน้ำ ถูกไฟดูด น้ำร้อนลวกก็ห้ามสำออย ร้องไห้ก็จะถูกตีซ้ำ
“คุณมี แล้วก็เยอะด้วย”
พอลงทางด่วนคุณคีรินก็พาฉันมาที่ร้านอาหาร เป็นร้านเล็กๆ ไม่ได้หรูหราแต่ก็น่านั่งมากๆ
“เช็ทอาหารเช้าสองที่ครับ”
“รอสักครู่นะครับ” เขาไม่ถามว่าฉันอยากกินอะไร เอ่ยปากสั่งให้จนเสร็จสรรพ
“ร้านน่านั่งจังเลยค่ะ”
“ไม่ไกลจากบ่อนผม”
“บ่อน”
“ใช่ ผมทำธุรกิจสีเทาเอาไว้แก้เคล็ดตามที่หมอดูทักมา”
“หมอดูสำนักไหนคะ”
“ล้อเล่น เป็นรายได้เล็กๆ น้อยๆ เอาไว้จ่ายค่าเทอมลูก”
“เปิดบ่อนในไทยรายได้ธรรมดาที่ไหน” หนึ่งในนั้นก็คงมีแม่ฉันที่เป็นลูกค้าประจำ
“กินมื้อเช้าเสร็จผมจะพาไปซื้อเสื้อผ้า”
“ไม่ต้องค่ะ ไปทำงานของคุณต่อเลยค่ะ”
“ผมอยากซื้อให้อยู่แล้ว แต่งตัวให้สมกับตำแหน่งหน่อยสิ” ฉันก้มมองตัวเองอีกครั้ง มันก็จริงอย่างที่เขาว่านั่นแหละ ส่วนมากเงินที่หาได้ก็เอาไปใช้หนี้หมดแทบไม่เหลือใช้ส่วนตัวเลย
“ค่าเสื้อผ้าหักจากเงินเดือนฉันก็ได้นะคะ”
“เป็นสวัสดิการจากผม”
“ขออนุญาตเสิร์ฟอาหารครับ”
เซ็ทมื้อเช้าที่เขาสั่งน่ากินมาก มีขนม ไส้กรอกและไข่ดาว มีทั้งเนยเกรดพรีเมี่ยมและแยมรสส้มให้เลือก เครื่องดื่มก็จะมีทั้งนมและน้ำผลไม้
“อาหารที่นี่เฟรชมาก กินให้หมดนะ”
“ค่ะ”
และฉันก็กินทุกอย่างในเซ็ทจนหมดเป็นเพราะเสียดายหวนให้นึกถึงวันที่ไม่มีกิน
ครืดดด ครืดดด
ระหว่างที่กำลังรอพนักงานนำบัตรไปรูด มือถือคุณคีรินที่อยู่บนโต๊ะก็สั่นครืดขึ้นมา
“ครับแม่” ฉันหันหน้าไปทางอื่น ทำเหมือนไร้ตัวตนเพื่อให้เขาสะดวกที่จะคุย
“ผมไม่แต่งแล้วฤกษ์ยามก็ไม่ต้องหามาด้วย จะวันนี้พรุ่งนี้ผมก็ไม่แต่ง” เขาเริ่มเสียงดัง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เสียงปลายสายก็หลุดออกมาเป็นระยะให้ได้ยิน เดือดพอๆ กันจนฉันเริ่มนั่งไม่ติดแล้ว
“ถ้าแม่อยากได้คืนผมก็จะคืนให้แล้วก็อย่าคิดมายุ่งส่วนของผม”
เขากดวางสายแล้วกระแทกมือถือลงบนโต๊ะเสียงดังจนคนรอบข้างหันมามอง
“เราต้องไปเก็บของ”
“คะ”
“ผมจะพาคุณกับลูกไปอยู่คอนโด” ถึงขั้นย้ายที่อยู่แบบนี้ไม่ธรรมดาแล้ว
----------------
