5| ดูแล
“คุณยอมแบบนี้ตลอดเลยเหรอ”
ฉันนั่งเงียบไม่พูดไม่จา เอาแต่โทษตัวเองว่าทำไมไม่สู้มากกว่านี้ ถึงจะเป็นแม่แต่ก็ควรมีขีดจำกัด แต่ว่าทำไมฉันถึงเป็นแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับแม่ “โอเค ไม่เป็นไร ถ้าอย่างนั้นต่อไปนี้ผมขอสั่งห้ามคุณกลับไปที่ห้องพักอีกเด็ดขาด”
“แต่ว่าของฉัน.”
“ผมจะให้คนของผมไปจัดการให้เอง ไม่ต้องห่วงคนของผมไว้ใจได้” คนอื่นน่าไว้ใจมากกว่าคนในบ้าน ตลกดีเหมือนกัน
“ขอบคุณนะคะ ถ้าไม่ได้คุณฉันคง..” ฉันไม่อยากนึกถึงสภาพตัวเอง โดนกระทำซ้ำๆ จนเกิดเป็นบาดแผลในใจ เมื่อไหร่แม่จะเห็นความดีที่ฉันทำบ้างหรือจริงๆ แล้วเขาไม่ได้รักฉันเลย
“บางครั้งพ่อแม่ก็มาในรูปแบบของเจ้ากรรมนายเวร”
“ฉันไม่ชอบที่แม่เอาเรื่องบุญคุณมาอ้าง ฉันรู้หน้าที่ลูกดี แต่เขาเลือกเอาคำนี้มาบีบฉันจนฉันแทบไม่เหลือชีวิตเป็นของตัวเองแล้ว”
“ผมคิดว่าคุณควรพักผ่อน” ฉันคงพักได้ไม่เต็มที่เพราะเงินที่เก็บเอาไว้จ่ายค่าบ้านถูกแม่ยึดไปหมดแล้ว
แล้วฉันจะหาเงินจากที่ไหนมาจ่ายให้ทันตรงกำหนด
คุณคีรินพาฉันมาที่บ้านหลังใหญ่ของเขา ระหว่างทางขึ้นห้องก็มีแม่บ้านและคนใช้ยืนรอต้อนรับหลายคน พวกเขามองฉันด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย
“ขอชาร้อนที่นึง”
“ได้ค่ะคุณ” เขาหันไปสั่งชาร้อนแล้วเดินตามฉันขึ้นมาด้านบนติดๆ
“ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้ค่ะ” ฉันหันไปท้วงเพราะรู้สึกอึดอัด
“อะไรที่ว่าขนาดนี้”
“คุณไม่ต้องกลัวฉันตกบันไดขนาดนั้นหรอกค่ะ”
“ถ้าคุณตกลงไปมันจะเป็นเรื่องใหญ่ เป็นงานให้ผมต้องพาคุณไปโรงพยาบาลอีก กันไว้ดีกว่าแก้ไม่ใช่เหรอ”
.
.
“ดื่มหน่อยสิ จะได้รู้สึกดีขึ้น”
“ฉันโอเคค่ะ คุณกลับไปพักเถอะ”
“ผมไม่ใช่หมอแต่ก็พอจะประเมินอาการของคุณได้ มีอะไรก็ระบายกับผมได้ ผมไม่ถือ” ชาร้อนที่เขาเตรียมมาให้เมื่อดื่มเข้าไปแล้วรู้สึกดีขึ้นมากจริงๆ แต่ก็ยังไม่หายเป็นปลิดทิ้ง เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก มันนับครั้งไม่ถ้วนแต่ฉันก็ไม่สามารถรับมือกับมันได้สักที
“มันเป็นปัญหาของฉันค่ะ”
“แต่คุณกำลังจะเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกสาวของผม”
“ฉันสัญญาว่าจะไม่ให้ปัญหาของตัวเองกระทบกับงานค่ะ” ฉันคิดว่าตัวเองทำได้และทำได้ดีมาตลอด
“แล้วเมื่อกี้ใครกันที่บอกว่าตัวเองไม่ไหว”
“คุณกลับไปเถอะค่ะ คนอื่นจะมองคุณไม่ดี” แค่นี้ฉันก็รู้สึกเกรงใจเขามากพอแล้ว
“คุณไล่ผมกี่ครั้งแล้ว ผมไปก็ได้แต่หลังจากที่คุณหลับ ผมจะยอมไป ถ้าคุณยังดื้อผมจะให้หมอมาประเมินอาการของคุณว่าพร้อมรับงานพี่เลี้ยงเด็กหรือเปล่า”
“คุณ” ถ้าเป็นแบบนั้นชีวิตฉันก็จบหน่ะสิเพราะตอนนี้ฉันรู้สึกแย่มากๆ ถ้ามีหมอมาประเมินอาการรับรองว่าจบแน่นอ
“จะดื้อก็เอาสิ ผมคนจริงอยู่แล้ว”
“ก็ได้ค่ะ แต่คุณต้องออกไปก่อนนะคะเพราะฉันอยากอาบน้ำ”
“ตกลง”
.
.
คีรินยอมถอยออกมาเพื่อให้เวลาส่วนตัวกับเธอ เขาตรงไปที่ห้องทำงานส่วนตัวเพราะมีหลายอย่างที่ต้องจัดการ
หลายอย่างที่ว่ามีเธออยู่ในนั้นด้วย
“ว่ามา” มือขวามารออยู่ก่อนหน้าแล้ว ข้อมูลในหัวเพียบพร้อมรายงานเมื่อนายออกคำสั่ง
“แม่ของคุณหนูตะวัน ทำงานอยู่กับเสี่ยกนกครับ”
“ไม่ใช่เรื่องนั้น” เทพชะงักแล้วทำหน้างงแต่สักพักก็ร้องอ๋อในใจแล้วเตรียมรายงานเรื่องใหม่ในทันที
“เรื่องคุณใบเตยใช่มั้ยครับ”
“อืม”
เหตุการณ์หลายๆ อย่างทำให้เขาต้องสืบประวัติผู้หญิงคนนี้ให้มากยิ่งขึ้น ละเอียดมากเท่าไหร่ยิ่งดี
“คุณใบเตยคือน้องสาวของคุณฟ้าครับ แต่ว่าข้อมูลใหม่ที่ผมได้มานั้น”
“อะไร”
“ไม่ได้เกิดจากแม่เดียวกันครับ”
“กูว่าละ”
“แล้วก็ไม่ได้เกิดจากพ่อเดียวกันด้วยครับ” คีรินไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนแม้เคยคบหาและอยู่กินกับฟ้ามาก่อน
ตอนนั้นฟ้าถูกไล่ออกจากบ้านจนได้มาเจอกับเขา ทั้งคู่ตกลงคบกันและเลือกอยู่ด้วยกันโดยไม่มีงานแต่งงานเพราะครอบครัวของคีรินไม่ยอมรับฟ้าเป็นสะใภ้จนกระทั่งมีพราวตะวันออกมาทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
“นายจะทำยังไงต่อครับ”
“จัดทีมดูแลใบเตยด้วยอย่าให้ใครเข้ามายุ่ง โดยเฉพาะ คนเป็นแม่” ถ้านั่นไม่ใช่แม่ของเธอเขาก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ
“นายดูเป็นห่วงเธอจังเลยนะครับ”
“เพราะเขาต้องเลี้ยงลูกกู”
“แล้วนายไม่กลัวว่าวันนึง แม่ของคุณหนูจะกลับมาเหรอครับ”
“ไม่มีค่าให้ต้องคิดด้วยซ้ำ” เรื่องมันจบตั้งคืนนั้นแล้ว ตอนนี้เขามีแค่ลูกสาวก็เพียงพอแล้ว
“เรื่องลูกค้าที่นายให้ผมไปติดต่อ”
“พอก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาต่อ โทรบอกคุณแจนด้วยพรุ่งนี้เตรียมเอกสารมาให้พร้อม เน้นด้วยว่า ห้ามสาย”
“ครับนาย”
“ไปพักได้แล้ว”
.
.
เมื่อลูกน้องกลับไปเขาก็เดินกลับมาที่ห้องพักของพี่เลี้ยงลูกสาว
“ตะวัน”
“คุณพ่อ” เมื่อมาถึงก็เห็นลูกสาวนั่งอยู่บนเตียงที่มีเจ้าของห้องนอนหลับอยู่
“ทำไมยังไม่นอน ดึกแล้วนะ”
“ตะวันเป็นห่วงครูเตยค่ะ พอคุณพ่ออกไปตะวันก็แอบได้ยินเสียงครูเตยร้องไห้ค่ะ ครูเตยเป็นอะไรคะ”
“แอบนอนดึกเหรอเรา” เขาเดินเข้าไปใกล้แล้วย่อตัวลงคุยกับลูกสาวเพื่อไม่ให้เสียงรบกวนคนที่นอนหลับอยู่บนเตียง
“ครูเตยเป็นอะไรคะ” พราวตะวันถามย้ำ
“สัญญาว่าถ้าพ่อตอบแล้วจะยอมกลับไปนอน”
“ก็ได้ค่ะ แต่คุณพ่อต้องอยู่ดูแลครูเตยนะคะ”
“แน่นอน”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตอบมาค่ะว่าครูเตยเป็นอะไร ทำไมถึงร้องไห้น่าสงสารขนาดนั้น” พราวตะวันอยากเข้าไปปลอบ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนเพราะเธอเองก็ยังเด็กมากเกินกว่าจะรับรู้ปัญหาของผู้ใหญ่
“ครูเตยมีปัญหากับที่บ้านครับ พ่อขอไม่ลงรายละเอียดเรื่องนี้ได้มั้ย”
“ตะวันเข้าใจค่ะ น่าสงสารครูเตยจังเลยนะคะ”
“ตะวันต้องไม่ดื้อกับครูเตยนะลูก” ปัญหาของเธอกับเขาไม่แตกต่างกัน
“เข้าใจแล้วค่ะ ตะวันง่วงแล้วขอตัวไปนอนก่อนนะคะ คุณพ่อดูแลครูเตยดีๆ นะคะ”
“รับทราบครับ” เขารับปากพร้อมกับเดินไปส่งลูกสาวถึงห้อง
“ฝันดีค่ะพ่อ”
“ฝันดีครับ” คีรินกลับมาที่ห้องของใบเตย เขายืนมองเธออยู่พักใหญ่ก่อนที่จะตัดสินใจเดินไปที่โซฟาและหย่อนตัวลงนั่งเพื่อขบคิดบางอย่าง
เรื่องการแต่งงานของเขากับทายาทนักธุรกิจที่ผู้เป็นแม่จัดหาเอาไว้ให้นั้นมันจะต้องไม่มีทางเกิดขึ้น หากจะเกิดขึ้นจริงก็ต้องเป็นผู้หญิงที่เขาเลือกเองไม่ใช่ถูกคนอื่นจับยื่นให้
----------------
